My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 5 วันที่ 17 มิ.ย.61

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 5 วันที่ 17 มิ.ย.61

จันทิมาถูกกุ๊งกิ๊งกับฉัตรชัยคาดคั้นถามว่าคนเมื่อคืนนี้เป็นใคร แล้วเธอมาช่วยมันทำไม

จันทิมาบอกว่าเพราะตนรักฉัตรชัยจึงให้เด็กที่เรียนเต้นตามมาดูว่าเขาไปไหนทำอะไรกับใคร แล้วหลอกล่อถามจนรู้ว่าที่โกดังนั้นเป็นโรงเรียนสอนเต้นของฉัตรชัย ถามยั่วกุ๊งกิ๊งว่าทำยังไงตนถึงจะได้ยืนอยู่ตรงนั้นบ้าง ตนยอมทำทุกอย่าง กุ๊งกิ๊งบอกว่าถ้ารักฉัตรชัยก็เอาตัวไปแต่โรงเรียนไม่ให้เพราะตนต้องเป็นเจ้าของที่นี่

กุ๊งกิ๊งยอมรับว่าในเมื่อความหวังที่จะทำโรงเรียนหงส์เหินกับพัสกรพังพินาศไปตั้งแต่ขวัญกมลเข้ามายุ่งกับพัสกร ตนก็ต้องหาทางอื่นที่จะทำให้ตนไปถึงความฝันได้ ตนจะไม่ยอมอยู่ใต้เงาครูสอนเต้นผู้ชายอีกต่อไป



พูดอย่างเจ็บใจว่า

“ถ้านังขวัญกมลมันตายๆไปซะตั้งแต่ตอนเกิดระเบิดที่โรงเรียนหงส์เหิน พัสกับพวกเราก็คงกลับไป เหมือนเดิม ฉันก็คงไม่ต้องมาทำแบบนี้ แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีก...เธอก็อย่ามาขวางฉันละกันจันทิมา...เพราะฉันหยุดไม่ได้แล้วจริงๆ”

คืนนี้จันทิมาเล่าข้อมูลที่ได้มาให้นิรุตต์กับหมวดนะฟังที่ร้านกาแฟ ถามว่าทีมตนแตกเป็นเสี่ยงๆเพราะขวัญกมลจริงหรือ นิรุตต์บอกว่าเธอไม่ต้องยุ่งกับเรื่องนี้อีกแล้วเพราะคดีนี้ซับซ้อนสับสน ยิ่งเธอไปพัวพันก็ยิ่งไม่ปลอดภัย ให้ถอนตัวออกมาเสีย

“พอ หยุด ถอยออกมาเสีย ไม่ต้องไปแกล้งชอบแกล้งรักนายฉัตรชัย ไม่ต้องเอาตัวไปสืบเรื่องนี้แล้ว พูดจริงๆ...ผมเป็นห่วง”

นิรุตต์พูดจนจันทิมาไปต่อไม่ถูก เขินจนต้องยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มแก้เขิน

ooooooo

เมื่อพัสกรเปิดสอนเต้นอีกครั้ง จ่อยได้มาเข้าโรงเรียน จ่อยเรียนอย่างตั้งใจและมีความสุข แต่พ่อของจ่อยถูกขวัญกมลที่ไม่ต้องการให้พัสกรกลับมาเต้นอีก เป่าหูจนพ่อไม่ยอมให้มาเรียน กักขังขู่ว่า ถ้าเอ็งเต้นข้าเตะ เพราะไม่เชื่อว่าจ่อยจะไปถึงฝันได้ พอผิดหวังเสียใจครูก็ไม่มาดูดำดูดีหรอก ตนเห็นมานักต่อนักแล้ว

วันนี้สายมากแล้ว จ่อยยังไม่มาเรียน พัสกรจึงถามบ้านจ่อยและไปตาม จ่อยบอกว่าพ่อไม่ยอมให้ตนเรียนเต้น พอพ่อเห็นพัสกรก็ด่าว่าเป็นพวกสิบแปดมงกุฎหลอกเด็กไปล่าฝัน แล้วลากจ่อยเข้าบ้าน

ขณะนั้นเอง โขงโผล่มา โชว์บัตรแนะนำตัวเองว่า

“ผมโขง ธรรมดี เจ้าหน้าที่แผนกพัฒนาครอบครัวครับ” เมื่อรู้ว่าพ่อไม่อยากให้จ่อยไปเต้นเพราะกลัวผิดหวัง โขงเข้าไปคุยกับพ่อว่า “อะไรที่เราว่ามันอันตราย ไม่ดี ไม่น่าไว้ใจ เราก็ไม่อยากให้ลูกเราเข้าไปยุ่งเกี่ยว”

ปู่กระซิบบอกพัสกรว่าระหว่างทางโขงซักประวัติพ่อไว้แล้ว กวงถามว่าโขงเป็นเพื่อนพัสกรหรือ แหวนพลอยถามว่าแล้วทำไมไปเข้าข้างพ่อจ่อยล่ะ

“อยู่ข้างเดียวกัน โน้มน้าวอะไรมันก็ง่ายกว่า” พัสกรกระซิบบอกทั้งสอง

แล้วโขงก็โน้มน้าวจูงใจพ่อจ่อยให้เห็นถึงประโยชน์ของเด็กที่มาสนใจการเต้นว่าจากบทเรียนของตนที่เคยเป็นเด็กเกเรแต่พอมาเรียนเต้นก็เปลี่ยนไป นอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังห่างไกลจากการมั่วสุมเกเรและติดยาด้วย แล้วบอกให้จ่อยเต้นให้พ่อดู

พอจ่อยเริ่มเต้น เด็กที่เรียนเต้นด้วยกันก็เข้ามาร่วมเต้น เลยกลายเป็นวงใหญ่เต้นกันอย่างสนุกสนาน โขงป่าวร้องให้ชาวบ้านมาดูลูกหลานเต้นกัน ชาวบ้านต่างทึ่งที่เห็นลูกหลานตนเต้นได้อย่างเท่ สง่า สนุก

จู่ๆเต้ก็โผล่มา แหวนพลอยตะโกนดีใจสุดๆ “พี่เต้มา...พี่เต้มา วู้ๆเย้ๆ แก๊งบอยมาเต็มจ้า”

“เพื่อนจะทิ้งเพื่อนได้ไง” เต้บอก พัสกรยิ้มดีใจ แล้วก็ลงไปร่วมเต้นกับเด็กๆอย่างสนุกสุดเหวี่ยง

แหวนพลอยถ่ายไลฟ์สดลงเฟซบุ๊กทันที

“สดๆตอนนี้เลยจ้า ม่วนอีหลี คุณพัสกรรีเทิร์นแล้ว คืนฟอร์มอย่างดงาม ติ่งเตรียมรอติดตามเต็มๆ Young blood dance contest ปีนี้ หงส์เหินพร้อมกางปีก มาแน่ มาเต็ม มาชัวร์”

 แต่พอเต้นไปได้ครู่เดียวพัสกรก็มีอาการเจ็บเข่า แต่เขาก็พยายามทำเหมือนไม่เจ็บเต้นต่อไป

ชาวบ้านที่มาดูต่างกรี๊ดและอัดคลิปไลฟ์กันสนั่น มีแต่กวงที่มองอย่างเบื่อหน่าย เดินบ่นออกไปว่า

“เท่ตรงไหนวะ งั้นๆอะ ชิ”

ooooooo

พัสกรขอบใจโขงที่มา บอกว่าพ่อจ่อยเห็นความสามารถของจ่อยแล้วอาจใจอ่อนก็ได้ พ่อจ่อยยังใจแข็งแต่ชาวบ้านเชียร์กันเต็มที่ ถามว่าลูกเก่งอย่างนี้ไม่ได้ติดยาไม่ได้ติดการพนันจะห้ามไปทำไม

ด้วยการพิสูจน์ตัวเองของจ่อยและเสียงชาวบ้านที่สนับสนุน พ่อจ่อยใจอ่อนแต่ยังถามว่าถ้าจ่อยผิดหวังเสียใจกลับมาใครจะรับผิดชอบ โขงบอกว่าความพ่ายแพ้ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวแต่เป็นบทเรียนของชีวิต คนเราต้องรู้จักแพ้รู้จักชนะ รู้จักขอโทษรู้จักให้อภัย โลกความจริงมันโหดร้ายมาก จ่อยต้องมีภูมิคุ้มกันและต้องให้เขาสร้างมันด้วยตัวเองเขาจึงจะอยู่ในสังคมนี้ได้อย่างมีความสุข พัสกรคุกเข่าขอร้องพ่อจ่อย ให้โอกาสจ่อยได้ทำตามความฝันสักครั้งและขอให้ตนได้มีโอกาสได้สอนจ่อยด้วย

ในที่สุดพ่อจ่อยก็ใจอ่อนบอกว่าอยากเต้นก็เต้นไปข้าไม่ห้ามแล้ว ทุกคนโดยเฉพาะจ่อยดีใจมาก พัสกรไหว้ขอบคุณแต่พอลุกขึ้นก็เจ็บเข่าจนทรุด ทุกคนช่วยประคบ– ประหงม ขวัญกมลได้ทีตัดพ้อว่าในที่สุดมันก็เป็นอย่างที่ตนกลัว โทษว่าตนพยายามปกป้องพัสกรแต่แหวนพลอยกลับยุยงให้เขาเต้นจนเจ็บเข่าอีก

พัสกรบอกขวัญกมลว่าพอแล้วตนเจ็บเข่าเพียงเล็กน้อย อุปสรรคแค่นี้ตนจัดการได้ไม่ต้องฟูมฟาย

ไม่ต้องร้องไห้ ขวัญกมลงอนที่ถูกหาว่าฟูมฟาย ขอโทษประชดแล้วผละไป โขงบอกให้รีบตามไปเคลียร์ พัสกรฝากโขงช่วยก็แล้วกัน เชื่อว่าโขงน่าจะพูดได้ดีกว่าตน

แหวนพลอยเสียใจที่ตัวเองทำให้พัสกรเจ็บตัว เต้ปลอบว่าไม่ต้องคิดมากเดี๋ยวตนจัดการให้

คืนนี้เต้ไปหาขวัญกมลที่นั่งเหม่อลอยอยู่ในสวน เต้เข้าไปปลอบ ขวัญกมลขอบใจที่เต้มาไม่อย่างนั้นตนคงต้องนั่งร้องไห้คนเดียว แต่ตนก็ชินชากับความเสียใจแล้ว ทนๆไปเดี๋ยวก็ผ่านไปเอง เต้กุมมือเธอไว้บอกว่าเธอไม่จำเป็นต้องทนเลย ขวัญกมลยกมือเต้ขึ้นแนบแก้มตัวเองอ้อนทั้งน้ำตาว่า

“เต้อย่าทิ้งขวัญนะ อย่าทำร้ายขวัญเหมือนที่คนอื่นทำนะเต้”

ขณะนั้นเอง โขงเดินผ่านมาเห็นเข้าอย่างจังจึงถอยไป ขวัญกมลเห็นโขงก็ขอตัวจากเต้ไปพักผ่อน แต่ที่แท้ตามโขงไปในห้องครัว ถามว่าพัสกรหลับแล้วหรือ โขงบอกว่ากินยาแก้ปวดหลับไปแล้ว ขวัญกมลบอกว่าตนนอนไม่ค่อยหลับ ตั้งแต่เกิดเรื่องทุกครั้งที่เห็นพัสกรเต้นตนก็ยังผวา กลัวจะมีเรื่องร้ายๆอีก

โขงแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์อย่าปล่อยทิ้งไว้ ขวัญกมลซาบซึ้งใจขอบคุณที่โขงเป็นห่วงตน อ้อนอ่อยว่าบางทีตนก็ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร เผชิญปัญหาอยู่คนเดียว ได้ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาครอบครัวอย่างเขามาให้คำปรึกษาก็รู้สึกดีขึ้น ตนอยากกลับมามีความสุขเหมือนเดิมแต่ตอนนี้ตนเหนื่อยเหลือเกิน ร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้วเอาหน้าซบกับอกโขงเหมือนต้องการที่พึ่ง โขงแตะหลังเธอเบาๆอย่างรู้สึกอึดอัด

เต้สอนพวกเด็กๆรวมทั้งจ่อย เคี่ยวให้จ่อยทำให้ได้ดังใจ จับกระชากกระแทกจนจ่อยล้ม ถามจ่อยว่าอยากชนะหรือเปล่า อยากชนะก็ต้องเต้นให้ได้

พัสกรเห็นดังนั้นบอกเต้ว่าเดี๋ยวตนซ้อมให้จ่อยเองแล้วสอนจ่อยให้จับจังหวะและท่าเต้นจนจ่อยทำได้

พัสกรชมว่าดีมาก แต่เข่าเขาก็มีปัญหาอีก แหวนพลอยจึงเอาน้ำมันเลียงผาพ่อปู่เขียวให้จ่อยช่วยนวดให้

ครู่หนึ่งโขงมาบอกว่าตนจะกลับแล้ว โขงเตือนพัสกรเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเต้กับขวัญกมลที่เขาเห็นแต่พัสกรเชื่อว่าไม่มีอะไร ซ้ำยังรู้สึกผิดที่ตนทำให้เธอเป็นแบบนี้ ยังไงตนก็ต้องรับผิดชอบเธอ

ooooooo

ขณะกุ๊งกิ๊งสอนเต้นอยู่ที่โรงเรียนฉัตรชัย เจบีเอาคลิปที่พัสกรกำลังเต้นกับโขง เต้ และจ่อยที่แหวนพลอยถ่ายอัปลงเฟซบุ๊กไปให้ดู กุ๊งกิ๊งดูแล้วตกใจถามฉัตรชัยว่าทำไงดี พัสกรกำลังฟอร์มทีมเด็กเข้าประกวดปีนี้

ฉัตรชัยบอกว่าอย่าตื่นตูม ยังไงตนก็ไม่มีทางแพ้มันได้ พอกุ๊งกิ๊งไปเรียกเด็กมาซ้อมอีก ฉัตรชัยดูคลิปในมือแล้วทุบโต๊ะปัง “ไอ้พัส มึงยังกล้ากลับมาเต้นอีกเหรอวะ ไม่เข็ดนะมึง คราวนี้ต้องจัดให้หนักกว่าเดิม”

แหวนพลอยอ่านเจอกติกาการประกวดพบว่าเขาระบุว่าต้องมีสมาชิก 5 คนขึ้นไปแต่เรามีแค่สอง พอบอกพัสกรเขาให้หาเพิ่ม จ่อยบอกว่าตนรู้จักนักเต้นขั้นเทพคนหนึ่งพาไปหามาร์คที่กำลังกวาดใบไม้ในป่าช้า จ่อยให้มาร์คเต้นให้ดู มาร์คเรียกเพลงละพัน พอมาร์คเต้นทั้งแหวนพลอยและจุ๊บต่างยอมรับว่าเทพจริงๆ

แต่พอเจรจาให้มาร์คไปเต้น มาร์คอ้างว่าตนต้องบวชเพื่อเรียนหนังสือถึงขั้นมหาวิทยาลัยตามความฝัน ทันใดนั้นกวงขี่มอเตอร์ไซค์มาบอกว่าเห็นฉัตรชัยกำลังมาหาเด็กเต้นที่ตลาด

ตกเย็นพวกพัสกรไปที่ตลาดเจอฉัตรชัยกำลังตัดสินการคัดเลือกเด็กประกาศชื่อมาร์คเป็นเด็กที่เข้ารอบ พอเห็นมาร์คทุกคนก็อึ้งเพราะเป็นมาร์คเดียวกับที่เพิ่งปฏิเสธทีมพัสกรไปอ้างว่ากำลังจะบวชเพื่อเรียน

ฉัตรชัยไปโอบไหล่มาร์คอย่างรักใคร่ชวนไปอยู่ด้วยกันตนจะดันให้เป็นที่หนึ่งในเอเชีย ให้เรียนให้เต้นพัฒนาจนเป็นท็อปสตาร์ ถามว่าเย็นนี้จะกินอะไร เบอร์เกอร์...พิซซ่า...หรือว่าขาหมูเยอรมัน

ขณะพวกพัสกรกำลังมึนงง กุ๊งกิ๊งก็มาเยาะเย้ยพัสกรว่าให้พักผ่อนเถอะอย่ามาแข่งกับฉัตรชัยเลย จ่อย จุ๊บและกวงต่างถอดใจว่าฉัตรชัยได้มาร์คไปต้องชนะเราแน่ นอกจากเต้นเก่งแล้วพวกเขายังมีเสื้อทีมด้วย

“อย่าเพิ่งกลัวสิ แพ้ชนะไม่ได้อยู่ที่เสื้อทีม ไม่ได้อยู่ที่มาร์คหรือใครคนใดคนหนึ่ง แต่อยู่ที่ทีมเวิร์ก อยู่ที่ความสามัคคี ถ้าเราตั้งใจ ขยันหมั่นซ้อม ยังไงเราก็ไม่มีทางแพ้...เราต้องสู้สิ...สู้!”

ทุกคนฮึกเหิมขึ้นมา จ่อยชวนไปซ้อมกันเลย พอพวกเด็กไปซ้อม พัสกรบอกกับแหวนพลอยว่า

“จริงๆฉันก็คิดเรื่องทุนการศึกษาให้มาร์คเหมือนกัน เสียดายที่ช้าไป หวังว่านายฉัตรชัยกับกุ๊งกิ๊งจะดูแลมาร์คดีอย่างที่พูดนะ”

แต่พอถึงเวลากินจริงๆ พวกเด็กๆมีแต่ข้าวเปล่ากับผัดผักถูกๆ เด็กบางคนพกไข่เค็มและน้ำพริกนรกมาด้วย ประกาศห้ามใครแย่งเด็ดขาด เจบีเอาหมูหย็องติดก้นถุงมาให้ มาร์คถามว่ามีแค่นี้หรือ

“แค่นี้แหละ มึงอย่าเยอะไอ้มาร์ค ครูฉัตรชัยเขาจ่ายเงินให้ตายายมึงไปแล้วตั้งห้าพัน”

แล้วเจบีก็กลับไปนั่งโต๊ะกับฉัตรชัยและกุ๊งกิ๊งซึ่งมีอาหารเต็มโต๊ะเครื่องดื่มเพียบกินกันเปรมปรีดิ์

ooooooo

ฉัตรชัยเช่าโรงแรมจิ้งหรีดให้เด็กๆนอนเรียงกันเป็นปลากระป๋อง ผ้าห่มก็มีไม่ครบ จัดให้เด็กๆ นอนแล้ว ฉัตรชัยชวนกุ๊งกิ๊งกลับโรงแรมที่ตนเช่าอยู่กันสองคนแล้วกอดกันออกไป

มาร์คเดินไปจนถึงโรงแรมหรูเห็นฉัตรชัยกับกุ๊งกิ๊งนั่งกันอยู่ที่เคาน์เตอร์เบียร์จึงไปแอบหลังกระถางต้นไม้ฟังทั้งสองคุยกัน

กุ๊งกิ๊งถามว่าเราต้องเปลี่ยนท่าเต้นใหม่ใช่ไหมเพราะท่าเดิมวางมาแค่ห้าคนนี่เพิ่มมาร์คมาอีกกลายเป็นหก

“คุณคงไม่คิดว่าผมจะให้เด็กบ้านๆอย่างไอ้มาร์คมาขึ้นเวทีในนามของแชมเปียนแดนซ์นะ ผมแค่อยากแย่งเด็กที่ไอ้พัสต้องการเพื่อปาดหน้าไอ้พัส อยากแกล้งมันให้มันเจ็บใจ”

“นั่นสิ กุ๊งกิ๊งก็ว่าเด็กอยู่ป่าเกรดต่ำระดับนี้ แต่ละคนไม่เห็นจะวิเศษตรงไหน เสียเวลาจัง”

“เด็กพวกนี้ผมจะส่งไปเรียนเพิ่มที่โรงเรียนสาขาของเราที่โคราช มันก็เต้นได้ระดับแสดงโชว์ขายสินค้าตามงานอีเวนต์ในงานภูมิภาคนี่แหละ สำหรับไอ้พัสกร ไม่ว่ามันจะอยากได้ใคร ผมก็จะแย่งมันมาให้หมด ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหน สุดท้ายมันก็จะไม่มีทางหาทีมมาเต้นทัน งานประกวดยังบลัดเราก็หมดคู่แข่ง”

“I like it” กุ๊งกิ๊งคล้องแขนชนแก้วกับฉัตรชัยอย่างชื่นมื่น

มาร์คได้ยินทั้งหมด คิดหนักว่าตนจะเอายังไงดี

วันต่อมามาร์คเดินมาเจอจ่อยกับจุ๊บอยู่แถวสะพานข้ามคลอง ทั้งสองมาช่วยกันทบทวนท่าเต้นที่พัสกรสอนให้ จุ๊บถามมาร์คว่ามาทำไม มาลาหรือจะมาชวนไปอยู่ด้วย

จ่อยบอกว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ไป พูดพร้อมกันว่า เราจะอยู่กับทีมครูพัสกร

มาร์คมองทั้งสองนิ่งคิด ขณะเดินมาด้วยกันจุ๊บบอกว่า

“ครูพัสกรกับพี่โขงไม่เหมือนคนอื่น พี่โขงไม่เคยด่าเรา มีแต่มาช่วย ส่วนครูพัสกรก็สอนดี สอนสนุก พวกเราทำตามก็มีแต่คำชม ครูพัสกรเป็นครูที่ทำให้เราอยากเรียนทุกวัน”

“ครูพัสกรเคยคุกเข่าต่อหน้าพ่อเรา ขอร้องจนพ่อเราใจอ่อนยอมให้เรามาเต้น จะมีใครทำเพื่อเราขนาดนี้...ไม่มี ตอนที่ครูเจ็บเข่า เขาก็ยังสอนเรา สอนจนเราทำได้ ครูใจๆแบบนี้หายากจะตาย”

มาร์คยิ่งฟังทั้งสองพูดก็ยิ่งคิด...

ooooooo

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 5 วันที่ 17 มิ.ย.61

มนตราลายหงส์ บทประพันธ์โดย ศตรัศมิ์
มนตราลายหงส์ บทโทรทัศน์โดย ปลายสี
มนตราลายหงส์ กำกับการแสดงโดย ฉัตรชัย นาคสุริยะ,นัฐพงศ์ วงษ์กวีไพโรจน์
มนตราลายหงส์ ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี บราเธอร์ จำกัด
มนตราลายหงส์ ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ