My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 2 วันที่ 11 มิ.ย.61

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 2 วันที่ 11 มิ.ย.61

แหวนพลอยพาพัสกรไปถึงศาลาสวดศพ เห็นโลงของพ่อ แม่ และน้องบุญธรรมวางเรียงอยู่ พัสกรยิ่งเสียใจโทษว่าเพราะตนทำให้พ่อแม่และน้องต้องมาตาย

ขณะนั้นเองมนตรีซึ่งเป็นหลานของวิทยาก็พรวดเข้ามาตวาดว่าคนที่ควรตายคือเขา ด่าว่าเป็นกาฝากที่ลุงกับป้าเก็บมาเลี้ยง แต่กลับถูกเขาตอบแทนด้วยความตาย พัสกรบอกว่าตนไม่รู้ ทนายวิโรจน์ก็เตือนมนตรีให้ระวังหน่อยเพราะพัสกรคือลูกของคุณวิทยากับคุณอุษา ถูกมนตรีหันมาด่าว่า

“มึงนั่นแหละไอ้ทนายตัวดี ลุงกะป้ากูมีความสุขกันอยู่ดีๆมึงก็ไปหาตัวไอ้สถุลนี่เข้ามาร่วมวงศ์สกุล มันคือไอ้ตัวซวย พ่อมันยังตายเลย คนอย่างมันเข้าบ้านไหนบ้านนั้นหายนะ มึงไสหัวไปเลยนะ เอาพวกมึงออกไปด้วยก่อนที่กูจะฆ่ามึง”



มนตรีด่าและไล่พัสกรออกไป แหวนพลอยเข้าปกป้องพัสกรถูกกวงดึงไว้ บอกว่าอย่าไปยุ่งกับเขา แหวนพลอยเกาะเอวมนตรีไว้ไม่ให้เข้าทำร้ายพัสกร ทนายวิโรจน์บอกให้พัสกรรีบเข้าไปกราบศพพ่อแม่และน้องเสีย

พัสกรเข้าไปกราบศพสัญญาว่า ตนจะต้องหาตัวคนที่มาทำให้พ่อแม่กับพิณตายให้ได้ ต้องเอาตัวมันมารับโทษให้ได้

กราบศพเสร็จพัสกรออกมา มนตรียังอาละวาดอยู่กับแหวนพลอยและกวง พัสกรขอร้องอย่าทำอะไรเด็กสองคนนั้นตนจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว คำด่าของมนตรีทำให้พัสกรเครียดซึมและปฏิเสธทุกคนที่เข้ามา ไม่ว่าทนายวิโรจน์หรือแหวนพลอยกับกวงบอกว่าอย่ามายุ่งกับตัวซวยอย่างตนไม่งั้นทุกคนจะพลอยซวยไปด้วย แล้วพยายามช่วยตัวเองปั่นล้อรถเข็นพาตัวเองออกไป

เมื่อแหวนพลอยตามไปด้วยความเป็นห่วง พัสกรก็ด่าว่าเจ็บๆเพื่อให้แหวนพลอยโกรธและเลิกตาม

แต่แหวนพลอยไม่โกรธซ้ำยังจะพาพัสกรกลับโรงพยาบาลเพราะตนเป็นคนพามา เมื่อพัสกรไม่ยอมกลับแหวนพลอยบอกว่าตนก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น

สารวัตรนิรุตต์ขอบคุณเต้กับกุ๊งกิ๊งที่ให้ความร่วมมือ ขณะเดินมาส่ง เต้จึงบอกเรื่องศัตรูของพัสกรว่า มีคนประกาศว่าจะปาระเบิดโรงเรียนพัสกร กุ๊งกิ๊งฟังแล้วตกใจเพราะรู้ว่าเต้หมายถึงฉัตรชัยแต่ก็เก็บอาการไว้

ไม่นานสารวัตรนิรุตต์กับหมวดนะก็ไปหาฉัตรชัยที่โรงเรียน ถามเรื่องที่เขาเคยพูดว่าจะปาระเบิดโรงเรียนของพัสกร ฉัตรชัยหัวเราะบอกว่าตนก็แค่ล้อเล่นขำๆ มันเป็นประโยคชิลล์ๆเหมือนทักทายกัน สารวัตรกับหมวดนะบอกว่านี่เข้าข่ายข่มขู่นะ

ฉัตรชัยทำเป็นตกใจถามว่าตนต้องตั้งทนายไปสู้ไหม ตนไม่อยากสู้กับใคร ครั้นสารวัตรบอกว่าถ้าเขาบริสุทธิ์ก็ขอความร่วมมือกับตำรวจ ฉัตรชัยบอกว่างานตนยุ่งมากไม่มีเวลาเลย

ฉัตรชัยอ้างว่าวันเกิดเหตุตนกำลังรับสมัครครูคนใหม่ มีพยานยืนยันได้ หมวดบอกว่าพยานที่เกี่ยวพันกับผู้ต้องสงสัยน้ำหนักเบามาก ครูเจบีบอกว่าตนไม่เกี่ยว ฉัตรชัยก็ยืนยันว่าไม่ใช่เจบี พอเหลือบเห็นจันทิมาเดินเข้ามา ฉัตรชัยบอกว่า

“ครูสอนเต้นรำคนใหม่ของผม”

“คุณจันทิมา...เพื่อนสนิทคุณพัสกร” หมวดนะพึมพำหลังจากเปิดดูแฟ้มในมือ

ooooooo

พัสกรกลับมายืนมองโรงเรียนที่ปรักหักพังอย่างเจ็บปวด แต่เมื่อคุยโทรศัพท์กับครูจันทราเขาพยายามทำใจเข้มแข็งบอกครูว่า ตนไม่อยากอยู่โรงพยาบาลแล้ว ตนอยู่ได้ไม่เป็นไรจริงๆ

แหวนพลอยกับกวงยืนดูพัสกรอยู่ห่างๆ พอเขาเห็นก็ทำเสียงดุว่ายังไม่กลับไปอีกหรือไง แล้วไม่สนใจเดินเขยกๆเข้าไปในโรงเรียนก็เห็นทนายวิโรจน์ยืนอยู่แล้ว พัสกรถามว่ามาทำไมอีก

ทนายวิโรจน์บอกว่าเขาเจ็บยังไงตนก็เจ็บอย่างนั้น เจ้านายตนตายทั้งครอบครัวเหลือเขาที่เป็นทายาทคนเดียวตนต้องทำหน้าที่ของตนต่อ ต้องดูแลคนที่พวกท่านรัก ตนทิ้งไปไม่ได้ บอกว่าตนเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดมาด้วยแล้ว บอกพัสกรว่าเขาควรกลับบ้านได้แล้ว

“ผมไม่มีบ้านแล้วล่ะ ผมอยู่ที่นี่ได้”

“อยู่ได้ไง” เสียงแหวนพลอยถามขึ้น พอพัสกรหันมองก็รีบแก้ตัวว่าตนลืมของไว้เลยกลับมาเอา ทนายวิโรจน์มองแหวนพลอยถามว่าเธอเป็นใคร ชมว่าเด็กคนนี้เก่งมาก พัสกรไม่ตอบแต่ตัดบทว่าตนไม่มีอะไรจะรบกวนแล้ว วิโรจน์เป็นห่วงบอกว่ามีอะไรก็ให้โทร.

หาตน แต่พอจะกลับเขาบอกพัสกรว่า

“จะมีการเปิดพินัยกรรมวันอาทิตย์นี้นะครับ คุณพ่อคุณระบุไว้ทุกคนที่มีส่วนร่วมต้องอยู่พร้อมหน้าไม่อย่างนั้นก็เปิดพินัยกรรมไม่ได้” พัสกรบอกว่าตน

ไม่เอาอะไรจากครอบครัวนั้นอีกแล้ว และขอสละสิทธิ์ ทนายวิโรจน์บอกว่า “แต่มีบางอย่างที่คุณควรจะได้รับนะครับ...อย่าลืมไปนะครับ”

พอทนายวิโรจน์ไปพัสกรก็หันถามแหวนพลอยดุๆว่าจะหาของอีกนานไหม ทำไมไม่กลับไปเสียที

แหวนพลอยขอร้องเขาอย่าไล่ตนเลยเพราะเมื่อเขาไม่ไปไหนตนก็ไม่ไป ตนทิ้งเขาไปไม่ได้ อ้อนวอนขอตนทำงานที่นี่เถิด จะเก็บขยะล้างจานซ่อมแซมอะไรก็ได้ เขาทำคนเดียวไม่ไหวหรอก เมื่อพัสกรไม่ยอม แหวนพลอยพรรณนาว่า ปู่ตนเป็นหนี้เขาตั้งห้าแสน เอาเงินเขามาแล้วไม่คืนได้ยังไง

พัสกรบอกว่าเงินพวกนั้นทั้งพ่อและตนให้ตอบแทนที่ปู่ช่วยดูแลบ้าน  เธอไม่ได้ติดหนี้อะไร พูดเสียงอ่อนลงว่า กลับบ้านไปเสียป่านนี้ปู่เป็นห่วงแย่แล้ว

“ปู่ไม่ห่วงแหวนพลอยหรอก ปู่เป็นห่วงคุณพัสกรนั่นแหละ”

แหวนพลอยออดอ้อนจนในที่สุดพัสกรอ่อนใจแต่ยังแกล้งขู่พร้อมกับเดินเขยกเข้าหาว่า

“แล้วไม่กลัวหรือไง...เป็นผู้หญิงมาอยู่กับผู้ชายตามลำพัง...สองคน”

ทำเอาแหวนพลอยอึ้ง ตกใจ ร้องห้ามเสียงหลงพลางถอยไปชนโซฟาจนล้มคว่ำลงที่พื้น ถูกเศษกระจกบาดเป็นรอยเล็กๆ เลือดออกซิบๆ พอแหวนพลอยเห็นเลือดก็ทำท่าจะเป็นลม

พัสกรตกใจรีบเข้ามาปิดตาแหวนพลอยปลอบว่า “ไม่เห็นไร เธอไม่เห็นไรหรอกไม่ต้องมอง ไม่กลัวนะ”

พอเจอท่าทีอ่อนโยนห่วงใยของพัสกรแหวนพลอยก็อึ้ง ไม่นึกว่าเขายังจะใจดีกับตนอยู่

ooooooo

สารวัตรนิรุตต์กับหมวดนะดูฉัตรชัยที่เข้าไปโอบจันทิมาอย่างประเมินความสัมพันธ์ จันทิมามองทั้งสองอย่างไม่พอใจ นิรุตต์ถามว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทกับพัสกรและยังเป็นนักเต้นคู่บุญกันด้วย แล้วทำไม?

ฉัตรชัยบอกจันทิมาว่าเธอมีสิทธิ์ไม่พูด ไม่ต้องกลัวตนจัดการเอง แต่พอนิรุตต์ถามว่า พัสกรรู้หรือเปล่าว่าเธอมาทำงานที่นี่ ฉัตรชัยก็โวยวายว่าถามจัง ตนขอตั้งทนายแป๊บ แล้วพาจันทิมาเดินไปเลย

หมวดบ่นว่าไม่ได้ยินจันทิมาพูดอะไรเลย สารวัตรนิรุตต์บอกว่ายอมให้พูดแทนกันได้ขนาดนี้คงไม่ใช่เพื่อนร่วมงานธรรมดา...

พอออกมาแล้วจันทิมาติงฉัตรชัยว่าทำไมเขาพูดแบบนั้นมันทำให้เราดูน่าสงสัยมากนะ ฉัตรชัยบอกว่าให้เธอเชื่อมั่นตน ตนไม่ทำให้เธอเดือดร้อนแน่ เราไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ใช่เหรอ แล้วหยอกว่า หรือคุณทำ?

ฉัตรชัยหัวเราะร่าสบายใจเพราะเขาไม่ได้ทำผิดอะไรจริงๆ แต่จันทิมานิ่งไปอย่างไม่สบายใจที่สารวัตรนิรุตต์รู้ว่าตนมาทำงานกับฉัตรชัย

ooooooo

ที่โรงเรียนหงส์เหิน พัสกรยังหัวเสียกับแหวนพลอยที่ไม่ยอมกลับไปเสียที ดุก็แล้ว หว่านล้อมก็แล้วเธอก็ยังดื้ออยู่จนได้ จนเมื่อแหวนพลอยถูกกระจกบาดเขาทำแผลให้ แหวนพลอยยิ่งเห็นถึงความเป็นตัวตนของเขาก็ยิ่งซึ้งใจ

เมื่อคุยกันถึงอดีตตอนที่แหวนพลอยเพิ่ง 10 ขวบ และพัสกรในวัย 17-18 ปี ทั้งสองนั่งดูทีวีด้วยกัน แหวนพลอยชอบดูละคร พัสกรชอบดูบอล แต่เขาก็ตามใจน้อง กระทั่งแหวนพลอยถักงานฝีมือค้างอยู่ก็เอาไปช่วยถักจนตัวเองหลับไป แหวนพลอยยิ่งซาบซึ้งในความใจดีของเขาและประทับใจมาตราบทุกวันนี้

แต่จนแล้วจนรอดพัสกรก็ยืนยันจะให้แหวนพลอยกลับบ้าน แม้เธอจะอ้างความยากลำบากมากมายในการเดินทางเขาก็ไม่สนใจ จนแหวนพลอยบอกว่าไปก็ได้ ฝนจะตกก็ถือร่มออกไป แต่พอแหวนพลอยถือร่มลุยฝนออกไปเขาก็ไปดึงกลับ ปั้นหน้าเย็นชาบอกว่าคืนเดียวนะพรุ่งนี้เช้าจะต้องไม่เห็นเธอ แหวนพลอยยิ้มดีใจ

“คุณพัสกรก็คือคุณพัสกรคนเดิม คนใจดีของแหวนพลอย”

ฝ่ายนิรุตต์กลับถึงโรงพักก็เอาวิดีโอที่พิณถ่ายตลอดเวลาการเปิดโรงเรียนวันนั้นมาดู หมวดนะบอกว่าทีมพิสูจน์หลักฐานดูไปหลายรอบแล้วไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ

“มีสิ มันต้องอยู่ในนี้แหละ ผมมั่นใจ มันมีบางอย่างที่เรามองข้ามไป ผมรู้สึกได้”

“เอาอีกแล้ว สารวัตรครับ สารวัตรจะใช้ความรู้สึกสืบคดีไม่ได้นะครับ”

“ผิดแล้วหมวดนะ ความรู้สึกกับสัญชาตญาณนี่แหละที่ทำให้พวกเราค้นพบคนร้ายมานักต่อนัก”

หมวดนะจึงช่วย ถามว่าสารวัตรกำลังมองหาอะไร นิรุตต์บอกว่า “ผู้หญิง” แล้วจ้องจอคอมพ์ไม่วางตา

ooooooo

คืนนี้แหวนพลอยอยู่ที่โรงเรียน เธอไม่รู้ว่ามีคนมาแอบดูอยู่ข้างนอก ส่วนพัสกรก็ฝันเห็นพ่อเต้นบัลเล่ต์ ในฝันเขาเข้าไปหาพ่อ แต่พ่อก็ถูกรถชนกระเด็นไปต่อหน้าต่อตา  แล้วพ่อแม่บุญธรรมก็มาโอบอุ้มเขาอย่างอบอุ่น

แต่ในฝันยังเห็นพิณบาดเจ็บและร้องขอให้เขาช่วย พอสะดุ้งตื่น พัสกรเหงื่อเต็มหน้า พึมพำกับตัวเอง

“ถ้าเป็นแค่ฝันก็คงดี...แต่นี่มันไม่ใช่ฝัน...” เขาพยายามเข้มแข็งกับความจริงที่โหดร้ายแล้วลุกขึ้น

พอออกไปนอกห้อง พัสกรเห็นว่าบริเวณโรงเรียนสะอาดเรียบร้อยขึ้น เห็นโพสต์อิตแปะอยู่ที่ตู้เดินไปดูเป็นลายมือแหวนพลอยเขียนบอกว่า “แหวนพลอยไปแล้วนะคะ” พัสกรพึมพำว่าทำไมยอมไปง่าย มองไปเห็นอีกแผ่นติดอยู่ เขียนราวกับตอบคำถามเขาว่า “ก็เพราะแหวนพลอยเป็นเด็กดีไง...แหวนพลอยไม่อยากให้คุณพัสกรต้องเหนื่อยไล่ซ้ำๆ”

“เออ...ไปซะได้ก็ดี” พัสกรพึมพำทั้งที่ใจไม่ค่อยดี แต่พอไปถึงห้องครัว เขาอึ้งเมื่อเห็นมีอาหารเตรียมไว้

พร้อมครอบฝาชีไว้เรียบร้อย เขาพึมพำ “ขอบใจนะแหวนพลอย...แต่ก็ดีแล้วที่เธอไป” แล้วนั่งลงที่โต๊ะ

จันทิมาใส่หมวกอำพรางใบหน้าไปแอบดูเห็นพัสกร

อยู่คนเดียวก็ย่องเข้าไป พอถึงตัวจะเอามือสะกิดก็ถูกสารวัตรนิรุตต์จับดึงออกไปอย่างแรงจนเธอร้องโอ๊ย สารวัตรถามว่า “คุณจะทำอะไรคุณพัสกร”

พัสกรถามสารวัตรว่าเล่นอะไร แล้วนี่ใคร สารวัตรบอกว่าผู้ต้องสงสัยแล้วดึงหมวกออก พัสกรเห็นเป็นจันทิมาบอกสารวัตรว่าเธอเป็นเพื่อนตน แล้วถามจันทิมาอย่างเป็นห่วงว่าเป็นอย่างไรบ้าง

พัสกรบอกว่า ถ้าสารวัตรสงสัยจันทิมาเรื่องระเบิดก็ตัดออกไปได้เลยเพราะเธอไม่มีวันทำร้ายตนแน่

สารวัตรจะบอกเรื่องจันทิมาไปเป็นครูสอนเต้นให้กับแชมเปี้ยนแดนซ์ จันทิมาขัดขึ้นทันทีว่าเรื่องนั้นตนจะบอกเอง รวมทั้งเรื่องการให้ปากคำที่โรงพักด้วย สารวัตรถามว่าแล้วถ้าครูพัสกรอยากรู้ด้วยล่ะ ถามพัสกรว่า

“ครูพัสกรพร้อมไหมครับ”

สารวัตรเปิดแผ่นซีดีให้พัสกรกับจันทิมาดู

ในห้องประชุมโรงเรียน เป็นเหตุการณ์ที่พิณถ่ายตอนที่กำลังนับถอยหลังจะเปิดงาน และรถเข็นอาหารกำลังไหลช้าๆไปยังกลุ่มคนดู พิณกับพ่อแม่วิ่งมาพยายามจะหยุดรถ  แต่เสียงนับถอยหลังถึง 2 และ 1 ก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นทันที

พัสกรดูแล้วเครียด ถามว่าทุกคนวิ่งไปตรงนั้นทำไม

สารวัตรบอกว่า โรงเรียนไม่มีกล้องวงจรปิด ที่น่าจะให้คำตอบเราได้ คงเป็นคุณขวัญกมล คุณขวัญกมลวิ่งไปตรงนั้นเหมือนกัน เขาเป็นคนเดียวที่รอดชีวิต

หมวดนะเสริมว่า ระเบิดนั้นเป็นระเบิดทำเองตั้งเวลาไว้ 9 โมง 29 นาที ซึ่งเป็นฤกษ์เปิดโรงเรียน

ทั้งสารวัตรนิรุตต์และหมวดนะช่วยกันวิเคราะห์ให้ฟังว่า จุดที่วางระเบิดคือรถเข็นอาหาร แปลว่าคนร้ายอาจลอบเข้ามาพร้อมกับทีมงานหรือไม่ก็เป็นคนในที่เข้าออกงานได้โดยไม่มีใครสังเกต จันทิมาโพล่งทันทีว่าใครจะทำแบบนั้น

สารวัตรชี้ให้ดูว่า นอกจากเรื่องรถเข็นยังมีอีกจุดที่อยากให้ดู แล้วเปิดให้ดูอีกครั้ง ชี้จุดที่น่าสนใจว่าเห็นผู้หญิงที่ใส่ชุดสีชมพูเดินปะปนกับแขกไหม ชี้ให้ดูวินาทีต่อวินาทีว่า ตอนนั้นยืนตรงนี้ อีก 10 วิต่อมาก็เดินผ่านรถเข็นซึ่งเป็นจุดที่วางระเบิด

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 2 วันที่ 11 มิ.ย.61

มนตราลายหงส์ บทประพันธ์โดย ศตรัศมิ์
มนตราลายหงส์ บทโทรทัศน์โดย ปลายสี
มนตราลายหงส์ กำกับการแสดงโดย ฉัตรชัย นาคสุริยะ,นัฐพงศ์ วงษ์กวีไพโรจน์
มนตราลายหงส์ ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี บราเธอร์ จำกัด
มนตราลายหงส์ ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ