อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 8 วันที่ 1 มิ.ย. 56


อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 8 วันที่ 1 มิ.ย. 56

คุณหญิงมณีเก็บซ่อนอารมณ์และความรู้สึกไม่พอใจที่โดนสามีตำหนิต่อหน้าคนอื่นๆ แต่มาพูดกับเขาตามลำพังด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เรามีเรื่องจะต้องคุยกันค่ะ”

“ถ้าจะคุยเรื่องบุปผา ผมจะพูดอีกครั้งเดียวว่าผมกับเขาไม่ได้มีอะไรกัน และผมขอบอกก่อนนะว่าคุณอย่าได้คิดไล่บุปผาออกอย่างเด็ดขาด เพราะบุปผาไม่ได้ทำอะไรผิด”

“ฉันเป็นคนผิดงั้นสิคะ”

“ใช่! ก็คุณหึงบ้าหึงบออะไรก็ไม่รู้ หึงผมกระทั่งกับเด็กรับใช้ในบ้านเนี่ยนะ”

“ถึงมันจะเป็นแค่เด็กรับใช้ในบ้านแต่มันก็เป็นผู้หญิง และคุณเองก็เคยมีประวัติเคยนอกใจฉัน ไปคว้าเอาอีนัง...”


“หยุดเลยนะคุณหญิง! เขาตายไปนานแล้ว เลิกพูดถึงเรื่องเก่าๆเสียที”

“แต่คุณกล้ายอมรับไหมล่ะคะ ว่าครั้งหนึ่งคุณเคยนอกใจฉัน”

“แต่ตอนนี้ผมไม่มีใครแล้วนอกจากคุณกับลูก แล้วถ้าคุณไม่เชื่อในคำพูดผมละก็ ผมกับคุณก็คงจะอยู่กันไม่ได้อีกต่อไป”

คุณหญิงมณีตกใจมาก ในขณะที่นายพลเทพพูดแล้วก็หันหลังให้เธออย่างตัดรำคาญ...เวลาเดียวกันนั้น มัทนากำลังทายาให้บุปผาอย่างเบามือที่สุด

“เจ็บมากไหมจ๊ะบุปผา”

“เจ็บไม่เท่ากลัวค่ะคุณหนู คุณหญิงท่านเข้าใจบุปผาผิดอย่างนี้ ท่านต้องไล่บุปผาออกจากบ้านแน่ๆเลย แล้วถ้าบุปผาถูกไล่ออกจากที่นี่ บุปผาก็คงจะถูกพ่อแม่พาไปขายซ่องแน่ๆ”

“ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะบุปผา ฉันจะไม่ยอมให้คุณแม่ไล่เธอออกจากบ้านนี้แน่ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน เดี๋ยวพอพูดจาเข้าใจกันแล้ว คุณแม่ก็คงจะหายโกรธเธอไปเอง”

“คุณหนูต้องช่วยบุปผาจริงๆนะคะ”

“จ้ะ ฉันรับปากว่าจะช่วยบุปผาอย่างเต็มที่จ้ะ”

บุปผาแสร้งซาบซึ้ง เอ่ยปากขอบคุณแต่ในใจเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ คิดทำร้ายมัทนาด้วยยาของตาเถา... ด้านไอศูรย์ที่มัววุ่นวายอยู่โรงพยาบาลจนทำให้กลับบ้านมืดค่ำ เขาเล่าให้มารดาฟังเรื่องเพชรพาเด็กคนหนึ่งมารักษา

“ผมสงสัยว่าเด็กจะถูกมอมยามาครับแม่ ผมเลยรับตัวไว้รักษาและดูอาการอยู่ครับ”

“ตายจริง ใครนะกล้าทำเรื่องเลวร้ายอย่างนั้นกับเด็ก ตายไปต้องตกนรกหมกไหม้ไม่ได้ผุดได้เกิดกันเลย”

“เพชรเขาก็ว่าจะตามหาตัวคนที่ทำอย่างนี้กับเด็กมาลงโทษให้ได้ครับ”

“เอ้อ...แล้วต้นนัดหมายกับหนูมัทเรื่องจะไปใส่บาตรด้วยกันรึยังลูก ต้นอย่าช้านะ แม่อยากให้ใส่บาตรด้วยกันให้ครบ 9 ครั้งตามที่คุณชไมบอกอย่างเร็วที่สุดนะลูกนะ”

ไอศูรย์บอกว่าตนนัดมัทนาไว้แล้วว่าจะไปใส่บาตรด้วยพรุ่งนี้เช้า คุณหญิงแจ่มจันทร์ยิ้มพอใจและตั้งใจไปกับลูกชายด้วย...

ขณะนั้นเพชรก็เพิ่งกลับถึงบ้าน ปรากฏว่าพลอยรอเขาอยู่เพื่อบอกให้พี่ชายรู้ว่า

“วันนี้พลอยเจอยายมัทที่สมาคมด้วยค่ะพี่เพชร เขาตามแม่เขาไปช่วยงานฉลองกึ่งพุทธกาลน่ะค่ะ พลอยว่าวันไหนพี่เพชรว่างก็ไปช่วยงานที่สมาคมกับพลอยสิคะ จะได้เจอยายมัท”

“อืม...ก็ดีเหมือนกันนะ ว่าแต่วันนี้พี่ก็เจอพี่ต้นเหมือนกัน”

“มีเรื่องกันอีกรึเปล่าคะ”

“เปล่า พอดีพี่ไปเจอเด็กเมายาหลงทางมาน่ะก็เลยเอาตัวไปส่งที่โรงพยาบาล พี่ต้นอยู่พอดีก็เลยเป็นคนรับเด็กไว้รักษาตัว”

“งั้นพรุ่งนี้พลอยว่าง...พลอยไปเยี่ยมเด็กคนนี้กับพี่เพชรด้วยดีไหมคะ”

เพชรยิ้มกริ่ม รู้ดีว่าน้องสาวคิดอะไรยังไง...

ooooooo

หลังจากตามหาไอ้หลงตลอดวันแล้วไม่เจอตัว แต่ได้ยินคนที่ตลาดพูดกันว่ามีตำรวจพามันไปโรงพยาบาล สองพี่น้องจึงตามไปด้อมๆ มองๆในคืนนั้น

“ถ้าเดินเข้าไปถามหามันตอนนี้ มีหวังเราได้เข้าปิ้งกันทั้งสองคนแน่”

“แต่ข้าจะปล่อยให้ไอ้หลงอยู่ในมือตำรวจไม่ได้ เพราะถ้ามันหายเมายาแล้วมันบอกตำรวจว่าข้าเอามันเป็นตัวทดลองยาของข้า คราวนี้ละ...ทั้งข้าทั้งเอ็งก็มีหวังได้เข้าปิ้งเหมือนกันแหละวะไอ้ถิ่น”

“อ้าว...แล้วจะเอายังไงกันดีล่ะพี่”

ตาเถายังคิดไม่ออก จึงกลับไปตั้งหลักก่อนว่าจะทำประการใด...

ด้านคุณหญิงมณี หลังจากทะเลาะกับนายพลเทพ คืนนั้นเธอกลุ้มใจจนนอนไม่หลับ แต่เช้าขึ้นก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้บ้าง เมื่อคุณหญิงแจ่มจันทร์กับไอศูรย์มาใส่บาตรด้วยกัน ครั้นใส่บาตรเสร็จ พระก็ให้น้ำมนต์

“นี่น้ำมนต์ที่เจ้าขอไว้ แต่จำไว้นะ น้ำมนต์จะมีค่าไม่ต่างอะไรกับน้ำเปล่าหากผู้ใช้ไม่รู้จักรักษาศีล และคนเราควรลด ละ เลิก ต่อกิเลสในใจ ลงเสียบ้าง มิฉะนั้นกิเลสนั้นจะเผาผลาญตนเอง”

หลังจากได้น้ำมนต์มาแล้ว คุณหญิงมณีมอบให้มัทนาเอาไว้อาบ แล้วชวนคุณหญิงแจ่มจันทร์กับไอศูรย์อยู่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนค่อยกลับ บุปผาแอบมองทุกคนไม่วางตา โดยเฉพาะไอศูรย์ผู้ชายที่เธอหมายปองหวังได้ครอบครอง

ขณะกินข้าวพร้อมหน้า ไอศูรย์เล่าเรื่องเด็กถูกมอมยาที่เพชรพามารักษา ทุกคนตกใจไม่นึกว่าจะมีคนใจร้ายกับเด็กได้ขนาดนี้...แต่เวลานั้นเอง สองพี่น้องตัวแสบกำลังไปตามหาไอ้หลงที่โรงพยาบาล พอเจอตัวนอนในห้องผู้ป่วยก็จัดแจงจะเอาตัวกลับไป เป็นเวลาที่เพชรกับพลอยตั้งใจมาเยี่ยมเด็กพอดี

เถากับถิ่นช่วยกันลากไอ้หลงหลบซ่อน เมื่อเพชรกับพลอยมาถึงจึงไม่พบเด็ก เพชรเลยให้พลอยคอยอยู่ในห้อง ส่วนตัวเองกลับไปสอบถามพยาบาล ระหว่างนี้เองสองพี่น้องก็จัดการพลอยด้วยการเอาผ้าคลุมตัวแล้วผลักเธอล้มหัวกระแทกเตียง ก่อนจะพาไอ้หลงหลบหนีไป

ทางด้านไอศูรย์ที่เป็นห่วงงาน พอกินข้าวเสร็จ เขาก็ขอตัว แต่คุณหญิงแจ่มจันทร์ยังอยากอยู่คุยกับคุณหญิงมณีต่อ เธอจึงให้ลูกชายกลับไปคนเดียว บุปผาสบโอกาสทองทันที เธอถอยออกจากที่ซ่อนแล้วไปดักรอคุณหมอรูปหล่อที่หน้าบ้าน เพื่อขอติดรถไปเยี่ยมนายสินด้วย

ไอศูรย์ไม่ขัดข้อง พอบุปผาขึ้นนั่งคู่เบาะหน้า เขาสังเกตเห็นรอยฟกช้ำบนใบหน้าเธอ พอเอ่ยถามว่าโดนอะไรมา บุปผาก็บีบน้ำตาทันที ทำเหมือนไม่อยากเล่า แต่สุดท้ายก็พูดออกมาเมื่อเขาถามย้ำอีกครั้งว่าใครทำอะไรเธอ

“คุณหญิงค่ะ”

“อะไรนะ คุณอาน่ะเหรอ”

“คุณหญิงเข้าใจบุปผาผิดน่ะค่ะคุณหมอ ท่านคิดว่าบุปผาพยายามให้ท่าท่านนายพล ทั้งๆที่ความจริงบุปผาไม่เคยคิดที่จะทำอะไรอย่างนั้นเลยค่ะ”

“ไม่น่าเชื่อว่าคุณอาจะทำอะไรรุนแรงอย่างนี้”

“ช่างเถอะค่ะคุณหมอ บุปผาเป็นแค่คนในบ้าน แค่คุณหญิงท่านให้ที่กินที่อยู่แก่บุปผากับพี่สิน ไม่ต้องออกไปเร่ร่อนกันที่ไหน แค่นี้ท่านก็มีพระคุณต่อบุปผาและพี่สินล้นหัวแล้ว เรื่องแค่นี้บุปผาทนได้ค่ะ”

พูดจบบุปผาก็ปิดหน้าร้องไห้ ไอศูรย์หลงกลสงสารจับใจ ตบหลังมือเธอเบาๆเป็นเชิงปลอบใจ บุปผาได้ทีแกล้งร้องไห้โฮแล้วโผเข้าซบอกอุ่นๆของเขา...

ooooooo

ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล ไอศูรย์ได้รับรายงานจากพยาบาลว่าเด็กที่เมายาหายไปและพลอยน้องของเพชรถูกทำร้ายจนหน้าผากแตก...

ไอศูรย์ตกใจมากรีบไปดูอาการพลอย บุปผาเดินตามมาด้วยแต่พอเห็นเพชรก็รีบถอยหนี...พลอยเจ็บตัวนิดหน่อยแต่ตระหนกตกใจมากกว่า เธอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างขวัญเสีย

“คนร้ายมันเข้ามาข้างหลังพลอยค่ะพี่ต้น แล้วมันก็เอาผ้าคลุมหัวพลอย แล้วก็เหวี่ยงพลอยล้ม หัวพลอยกระแทกอะไรเข้าก็ไม่ทราบค่ะ พลอยเลยหมดสติไป”

“ผมไม่ได้อยู่กับยายพลอยด้วยตอนที่เกิดเรื่อง เพราะมัวแต่ไปตามพยาบาล เรื่องที่เด็กคนนั้นหายไปน่ะครับ ผมคิดว่าคนที่มอมยาเด็กมันคงกลับมาลักเอาตัวเด็กไป เพื่อไม่ให้เด็กมีโอกาสเปิดโปงว่าใครเป็นคนมอมยามัน”

“เป็นไปได้มากเลยเพชร”

“ถ้าผมจับตัวมันได้ละก็ นอกจากมันจะเจอข้อหามอมยาเด็กแล้ว มันต้องเจอข้อหาทำร้ายร่างกายด้วย เพราะผมจะไม่ยอมให้ยายพลอยต้องเจ็บตัวเปล่าแน่”

ขณะที่เพชรโมโหอยู่นั้น...สองพี่น้องตัวการพาไอ้หลงกลับมาถึงบ้านแล้ว ถิ่นโยนร่างเด็กหนุ่มที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ลงบนพื้นบ้านอย่างไม่ปรานี ปราศรัย ส่วนตาเถาสั่งการด้วยน้ำเสียงสั่นๆเพราะเหนื่อยหอบ

“ต่อไปเราต้องระวังไม่ให้ไอ้เด็กเวรนี่มันเตลิดหนีออกจากบ้านไปไหนได้อีก ไม่อย่างนั้นเอ็งกับข้าได้ไปกินข้าวแดงกันในคุกแน่...ไอ้ถิ่น ลากตัวมันไปล่ามโซ่ที่หลังบ้าน ไม่ต้องให้ข้าวมันกิน 3 วัน ให้มันกินแต่น้ำ”

ฝ่ายบุปผาที่หลบลี้หนีหน้าเพชรออกมาก็ตรงไปห้องนายสินด้วยท่าทีหงุดหงิด บ่นพึมพำว่าทำไมไอ้ตำรวจบ้านั่นต้องมาที่นี่ด้วย ว่าแล้วก็พาลพาโลระบายอารมณ์กับนายสินทุบตีตามเนื้อตัวเขาก่อนชี้รอยฟกช้ำที่หน้าตัวเองให้ดู

“ไอ้สิน แกเห็นแผลที่หน้าฉันนี่มั้ย แกรู้ไหมว่าใครทำ ก็อีนังคุณหญิงคนโปรดของแกนั่นไง มันหึงฉัน มันคิดว่าฉันให้ท่าท่านนายพล มันเลยตบฉันไม่เลี้ยงเลย เวลานี้เป็นทีของมัน แต่ต่อไปจะเป็นทีของฉันบ้างละ”

นายสินสีหน้าแววตาตกใจ ส่งเสียงอืออาอยากจะห้าม แต่บุปผากลับแสยะยิ้มใส่

“ไม่...ฉันไม่ฆ่ามันหรอก ถ้ามันตาย...ก็เท่านั้นแหละ แต่ฉันต้องการเห็นมันเจ็บปวด หัวใจของคนเป็นแม่จะเจ็บปวดด้วยเรื่องอะไร ก็ไม่มากเท่าเจ็บปวดที่ได้เห็นความหายนะของลูก”

บุปผาสะบัดพรืดออกไป ทิ้งนายสินนอนตัวเกร็งด้วยความหวาดหวั่น พยายามเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก แต่ก็จับใจความได้ว่าอย่าทำ...

อิ่มออกจากห้องพักเพื่อไปพบหมอไอศูรย์ ระหว่างทางเดินเธอเหลือบเห็นบุปผาจึงทำท่าจะเข้าไปทัก แต่ไม่ทันเพราะบุปผาเดินเร็วมากคอย ระแวดระวังกลัวเพชรเห็น

ไอศูรย์ตรวจอาการพลอยอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยมีเพชรยืนอยู่ในห้องด้วย เพชรจับตามองทั้งคู่แล้วนึกอะไรได้ เอ่ยขึ้นว่า

“พี่ต้นครับ ผมคงต้องไปทำงานแล้ว ทีแรกนึกว่าจะพายายพลอยมาเยี่ยมเจ้าเด็กนั่นเดี๋ยวเดียวก็จะกลับบ้านกัน แต่ไม่นึกว่าจะมาเกิดเรื่องอย่างนี้เสียก่อน ถ้ายังไงผมฝากพี่ต้นไปส่งยายพลอยที่บ้านทีได้ไหมครับ”

“ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปส่งน้องพลอยให้เอง”

“ขอบคุณครับ” พูดจบเพชรหันไปสบตาน้องสาวอย่างรู้กันว่าตนกำลังเปิดโอกาสให้เธอได้ใกล้ชิดไอศูรย์

เมื่อเพชรออกมาแล้ว อิ่มเดินสวนมาเมียงมองเข้าไปในห้อง พอดีพยาบาลเดินผ่าน ถามแกว่ามาพบคุณหมอใช่ไหม อิ่มตอบรับพลางหันมองไปยังพลอยพร้อมกับถามพยาบาลว่าผู้หญิงคนนั้นคู่รักคุณหมอเหรอ

“อ๋อ...ไม่ใช่หรอกค่ะ คู่รักของคุณหมอน่ะอีกคนหนึ่งค่ะ ชื่อคุณมัทนา เทพบริบาล”

อิ่มตะลึง นึกสงสัยว่ามัทนาเป็นอะไรกับท่านนายพลเทพ เทพบริบาล...พร้อมกันนี้อิ่มก็รู้สึกมีความหวังว่าการตามหาท่านนายพลอาจจะไม่ยากอย่างที่คิดแล้ว

ooooooo

วันเดียวกัน นายพลเทพนัดพบดำเกิงอีกครั้งที่หลังกรมทหาร ดำเกิงรายงานข่าวคืบหน้าว่าตนให้คนออกสืบทุกสถานบริการในพระนครหมดแล้ว แต่ไม่พบผกาเลยสักแห่ง

“แม่ผกาอาจจะเลิกอาชีพนั้นเสียแล้ว”

“ยังครับ มีคนยืนยันว่าแม่ผกายังอยู่ที่หอโคมแดงนั่นจริงๆครับ”

“อ้าว แล้วทำไมแม่ราตรีคนที่เราไปพบที่นั่นถึงได้บอกว่าแม่ผกาออกจากหอโคมแดงไปแล้วล่ะ”

“เป็นไปได้ไหมครับท่าน ว่าแม่ราตรีนั่นก็คือแม่ผกา แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าถ้าแม่ราตรีคือแม่ผกา แล้วทำไมเธอถึงไม่ยอมบอกท่านล่ะครับ ทำไมจะต้องโกหก”

“ที่คนเราโกหก...ก็เพราะมีความลับที่ต้องปิดบังไงล่ะ”

จริงอย่างที่นายพลเทพพูดไม่มีผิด...ผกาปกปิดความลับของบุปผาไม่ให้ใครรู้แม้แต่คนเดียวว่าเธอออกไปอยู่ที่ไหนกับใคร มุกคอยจับสังเกตก็ยังไม่ได้ความคืบหน้าอะไร นอกจากแน่ใจว่าบุปผายังอยู่ในพระนคร...

พลอยดีใจที่ไอศูรย์พามาเลี้ยงข้าวกลางวันก่อนกลับบ้าน ท่าทางเธอมีความสุขมากที่ได้อยู่ตามลำพังกับหมอหนุ่มที่ตัวเองหลงใหลได้ปลื้มแต่แรกเห็น แต่คนที่เห็นแล้วไม่สบายใจก็คือเพื่อนสองคนของมัทนา ทั้งคู่ยืนมองจากนอกร้านจนกระทั่งพลอยรู้สึกตัว เดินออกมาทักแล้วพูดอวดอย่างไม่ขัดเขิน ทำนองว่าเธอกับหมอนัดกินข้าวกันสองต่อสอง

ผละจากพลอยมาแล้ว สองสาวเป็นเดือดเป็นแค้นแทนมัทนา จึงมุ่งไปส่งข่าวเธอถึงบ้าน...บุปผาได้ยินพวกในครัวพูดกันว่ามัทนามีเพื่อนมาหาและเตรียมทำของว่างเอาไว้ให้ ก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาทันที

บุปผารีบร้อนกลับมาที่ห้องพัก เปิดตู้หยิบขวดยาของตาเถาออกมาซ่อนไว้ที่เอวแล้วเดินกลับไปทางเดิม ทำทีเข้ามาช่วยแม่ครัวจัดอาหารใส่จานสำหรับสามที่ เสร็จแล้วอาสายกไปเอง

“แต่มีคำสั่งไม่ให้แกขึ้นไปบนตึกนี่” สวิงทักท้วง

“พี่หวิงไม่ได้ยินเหรอ เมื่อกี้พี่สร้อยบอกว่าคุณหนูอยู่ในสวน ไม่ได้อยู่บนตึกเสียหน่อย อีกอย่าง... ฉันก็อยากจะรับใช้ปรนนิบัติคุณหนูบ้างน่ะ เมื่อวานตอนที่เกิดเรื่อง ถ้าไม่ได้คุณหนู ฉันก็คงจะเจ็บตัวมากกว่านี้”

สวิงพยักหน้าเข้าใจ ยอมให้บุปผายกถาดใส่จานอาหารว่างออกไปให้มัทนา...เมื่อพ้นสายตาผู้คนในครัวมาแล้ว บุปผาก็จัดแจงหยดยาลงในจานใบหนึ่งไปครึ่งขวด ไม่ใช่แค่หยดสองหยดอย่างที่ตาเถากำชับมา

“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ฉันจะได้เห็นนังคุณหญิงมันเสียใจเจียนตาย แล้วฉันก็ได้กำจัดนังคุณหนูไปให้พ้นจากหมอไอศูรย์ด้วยเลย”

บุปผายิ้มเหี้ยม เดินต่อไปทางสวนที่มัทนากับเพื่อนสองคนนั่งคุยกันอยู่

“จะมาหาก็ไม่บอกล่วงหน้าเลยนะ ดีนะเนี่ยที่ฉันอยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน”

อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 8 วันที่ 1 มิ.ย. 56

ละครเรื่อง ไฟหวน บทประพันธ์โดย ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
ละครเรื่อง ไฟหวน บทโทรทัศน์โดย ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
ละครเรื่อง ไฟหวน กำกับการแสดงโดย มารุต สาโรวาท
ละครเรื่อง ไฟหวน ผลิตโดย บริษัท มาสเคอเรด จำกัด โดย มารุต สาโรวาท
ละครเรื่อง ไฟหวน เป็นละครแนว ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟหวน ออกอากาศทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ