อ่านอ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 16/4 วันที่ 8 พ.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 16/4 วันที่ 8 พ.ค. 56

“หายไปไหนก็ช่าง ไปหาซื้อเอาใหม่ รีบไปก่อนที่เทิดศักดิ์จะมาเห็น”
ท่านขุนควักเงิน ยัดใส่มือเนียนแล้วดันออกไป
“เนียนไปก่อนนะคะ”
เนียนรีบวิ่งไปตรงท่าน้ำ ถมจอดเรือรออยู่แล้ว เนียน รีบลงเรือไปทันที
เทิดศักดิ์โผล่มาพร้อมปืนเล็งไปที่เรือ ไม่ทันเห็นท่านขุน
“เสือหนักหยุดนะ ไม่งั้นยิงเรือทะลุ”
เทิดศักดิ์กำลังจะยิง ท่านขุนถลาออกมาฉุดแขนไว้
“อย่ายิง”

เทิดศักดิ์หันมาเจอขุนภักดีก็แปลกใจ
“คุณพ่อ”
“นั่นไม่ใช่เสือหนักดอก”
“ถ้าเช่นนั้นใครครับ”
“คนขับเรือผ่านมาน่ะ”
“คุณพ่อมาทำอะไรที่นี่ครับ นี่แค่ตีสี่เท่านั้นเองนะครับ”
“เอ้อ เอ้อ คือพ่อ พ่อ มีราชการที่บางกอก ราชการสำคัญพ่อเลยนอนไม่หลับ พ่อขอตัวก่อน จะรีบไปปลุกไอ้เอก ให้ตื่นมาขับรถ”
ขุนภักดีพูดจบก็เดินไปเร็วมาก แถมผิวปาก เทิดศักดิ์มองตามงงๆ
“คุณพ่อท่านครึ้มอกครึ้มใจอะไรนักหนา”


ตอนสายของวันต่อมา แพรและโพล้งชะเง้อดูเรือที่แล่นมาเทียบท่าน้ำ
“เรือเศรษฐีที่ไหนจะมาเทียบท่า”
“ดูท่าคุ้นๆ แฮะ”
เนียนโผล่ออกมาหน้าตาเนียนอิ่มเอิบเปลี่ยนเป็นคนละคน
“ชั้นเองจะ พี่แพร พี่โพล้ง”
แพรกะโพล้งร้อง “เฮ้ย”
“ก็เพิ่งจะไปเมื่อคืน” แพรงง
“แล้วจู่ก็กลับมา หน้าตาสดชื่น” โพล้งอึ้ง
“ลงเรือมาสิจ้ะ พี่แพร พี่โพล้ง”
สองคนร้อง “อุเหม่”
“คือว่าท่านขุน ท่านสั่งให้กระผม มาส่งมาดูแลเนียนเอ้อ คุณเนียน”
แพรกะโพล้ง ตาเหลือก “คุณเนียน”
“เมื่อตอนไป ยังเป็นเนียนอยู่แท้ๆ” แพรว่า
“ขากลับมากลายเป็นคุณเนียนเสียแล้ว”
สองคนมองหน้าเนียน แต่เนียนทำนิ่งเฉย
“นายถมจ้ะ รีบไปกันเถิด เสร็จงานศพ เราต้องรีบไปบ้านแพนกันต่อ”
“โอ้โฮ” สองคนร้อง
“ไปด้วยเรือนี่น่ะหรือ” โพล้งอึ้ง
“ขอรับ” ถมบอก
สองคนมองหน้ากันอึ้งๆ เนียนไม่อยากตอบคำถามมาก รีบนั่งนิ่ง

สนตีหน้าเซ่อใส่ทองจันทร์ขณะแวะมาหาถึงเรือน และเป็นฝ่ายถูกถาม กบกะแมว นั่งอยู่ไม่ไกลนัก
“เมื่อวันก่อนนางช้อยมาหาแม่สนรึ”
“เอ้อ ค่ะ มีอะไรหรือคะ”
“มันมาทำไม”
“มาขอเงินตามนิสัยเห็นแก่ได้น่ะคะ”
“แม่สนโกหก มันมาบอกชั้นเรื่องพ่อเทิด”
สนหัวใจหล่นวูบ ตกใจมาก แต่รีบเก็บอาการ “มันมาโกหกว่ากระไรหรือคะ”
“เปล๊า มันยังไม่ได้บอกว่ากระไร แต่มันบอกว่าจะมาบอกวันสองวันนี่แหละย่ะ แต่เท่าที่ชั้นคาดคะเน มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ยะ”
“นางช้อยโกหกตลบตะแลง มันจะมาขู่ให้คุณแม่ช่วยเรื่องให้ประกันตัวลูกมันน่ะสิคะ"
"วุ๊ย ..แม่สนละก้อช่างพูดจาอะไรให้เข้าตัวเอง นางช้อยมันก็โกหกตลบตะแลงเหมือนแม่สนนั่นแหละย่ะ ใครหลงจับพลัดจับผลูเชื่อพวกหล่อน ก็เท่ากับโง่เชื่อว่าหมูออกลูกเป็นลิงได้ย่ะ" ทองจันทร์ว่า
"คุณแม่ขาที่ผ่านมาสนขอโทษ สนผิดไปแล้วคะ ที่สนโง่ไปเชื่อฟังคำพูดนางช้อยมัน แต่ถ้ามันมาอีก สนจะเค้นเอาความจริงจากมันว่ามาโกหกคุณแม่ทำไม กะอีแค่อยากให้ลูกมันได้ประกันตัว สนลานะคะ"
สนถอดตัวถอย ก่อนจะลุกเดินออกไป ทองจันทร์พูดต่อ
"แม่สนยะ ที่นางช้อยมันพูดออกมาเรื่องเทิดศักดิ์น่ะ ฟังแล้วคาดเดาได้ว่าเทิดศักดิ์อาจไม่ใช่ลูกพ่อเทพดอกย่ะ"
สนสะดุ้งสุดตัว คิดคำรามในใจ
"อีแก่มึงวอนตาย"
"แต่ชั้นจะไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดที่ไหนดอกย่ะ จนกว่านางช้อยจะมาเปิดปากบอกว่าตาเทิดศักดิ์เป็นลูกใคร ไปได้แล้วย่ะ ไปคิดดูนะยะเผื่อหล่อนจะนึกออก แล้วมาบอกเอง ว่าตาเทิดศักดิ์เป็นลูกใคร คนอะไรท้องได้ตั้งสิบสองเดือน"
สนหน้าซีดขาว แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแดง ขณะหันไปมองหน้าทองจันทร์ดวงตาวาวโรจน์

แต่ทองจันทร์ก้มหน้าบ้วนน้ำหมากพอดีจึงไม่เห็นสายตาอาฆาตอันโหดเหี้ยมของสน
ทั้งสี่คนอยู่ในท้องนาที่นาของเนียนที่บ้านแพน ยายอ่อนยิ้มย่อง พออกพอใจมาก

“ดีใจแท้ๆ ที่ได้เจอกับเนียน” ยายอ่อนแอบกระซิบถาม “ลูกแฝดเป็นอย่างไรล่ะ”
“ยายอ่อนจ๋า อย่าพูดจาไม่ระวังปากสิ ชั้นไม่ต้องการให้ใครมาขุดคุ้ยเรื่องนี้” เนียนตำหนิหญิงชรา “มาพูดเรื่องที่นานี่ก่อนเถิด ชั้นเซ็นมอบอำนาจให้เรียบร้อย พี่เอกเขาบอกว่าเซ็นแค่นี้ก็ได้ ไม่ต้องไปแสดงตัวดอกจ้ะ”
“ไอ้พี่เอกเขาหัวหมอ เขาไม่ได้ทำงานก็เหมือนทำ เพราะเขาอยู่ที่ศาลากลางกับท่านขุนมาตั้งแต่กะท่านเป็นปลัดจังหวัดจนเป็นข้าหลวงอย่างทุกวันนี้” โพล้งว่า
“ถ้าไม่มีการเลิกศักดินาไปก่อนละก็ ท่านไม่ใช่แค่ท่านขุนดอกนะ ท่านน่ะ ได้เป็นพระยานาหมื่นเลยย่ะ” แพรบอก
“เขาเรียกสั้นๆง่ายๆ ว่าท่านเจ้าคุณ” โพล้งเสริม
“แม่แพร พ่อโพล้งยะ ชั้นมาซื้อที่นา ไม่ได้มาลำดับยศถาบรรดาศักดิ์นะยะ เอ...แต่ว่าทำไมเนียนไม่อยากไปที่ทำการที่ดินล่ะ”
“คือชั้นไม่อยากแสดงตัวว่าชั้นเป็นเจ้าของที่นานี้จ้ะ”
ทุกคนพยักหน้า โพล้งแพรเข้าใจ แต่ยายอ่อนไม่เข้าใจ

สนเดินหน้าตาเหี้ยมโหดออกแนวบ้านิดๆ ออกมาทางท่าน้ำแล้ว
“อีช้อย ไหนมึงว่าจะมา มาสิ มาเลย กูรอมึงอยู่ มึงรักลูกมึง กูก็รักลูกกู แต่ลูกมึงมันลูกโจร ไม่เหมือนลูกกูน่ะ”
สนชะงัก เพราะเดินสะดุดเอารองเท้าแตะของเนียนคู่เดิมที่เหลือข้างเดียว
“อีรองเท้าบัดซบ”
สนกระทืบๆ แล้วนึกได้ มองรองเท้าของเนียน
“จริงสิ ถ้าอีช้อยตาย แต่กลายเป็นอีเนียนฆ่า กำจัดหมาทีเดียวสองตัว”
สนก้มลงเอาเท้าตวัดรองเท้าเนียนขึ้นมา แล้วหันไปหาอีกข้าง ตวัดขึ้นมาอีก ยินเสียงสวบสาบดังมาใกล้ๆ สนหันไปยิ้มแสยะ
“คุณสน”
“นังช้อย แกช่างมาได้เหมาะเจาะแท้ๆ”
สนทักทายยิ้มแย้มแจ่มใส ช้อยเริ่มงง
“เหมาะเจาะอย่างไรหรือเจ้าคะ”
“ข่าวดี ของแกกับของไอ้แช่ม ชั้นพูดกับลูกเทิดศักดิ์แล้ว”
“แล้วคุณเทิดศักดิ์ว่าอย่างไรเจ้าคะ ถ้าคุณสนบอกว่าข่าวดี ก็แปลว่า…”
“แปลว่า...”
ขาดคำสนชักมีดออกจ้วงแทง ใส่ช้อยทันที
“อีคุณสน อีสารเลว มึง มึงกล้าฆ่ากู”
ช้อยนึกว่าตัวเองยังไม่โดนมากนัก ผวามาทั้งที่โดนแทงที่อกไปแล้ว
“กูกล้าฆ่าทุกคนที่จะเปิดโปงกู มึงเอาอะไรไปบอกอีแก่ทองจันทร์”
ช้อยฮึดสู้ สองคนสู้กันไปสู้มา สนโดนแทงเข้าไปนิดหนึ่ง แต่ไม่เข้าที่ฉกรรจ์เพราะช้อยโดนไปแล้วที่จุดสำคัญ
ร่างช้อยล้มลง “เออ กูเปิดโปงมึงแล้ว กูบอกอีแก่ทองจันทร์ไปแล้ว ว่าไอ้เทิดศักดิ์เป็นลูกไอ้เสือหนัก”
สนโกรธจัด กระโดดคร่อมร่างช้อย กระชากมีดออกมา ช้อยสั่นไปหมดเจ็บปวดมากแต่ไม่เกรงกลัว
“อีช้อย กูจะเฉือนปากมึงให้ขาดกระจุย โทษฐานที่มึงทำกูพินาศย่อยยับ”
ช้อยเจ็บปวดไปทั่วกาย อาการสาหัสมาก
“อีสน ความตายของกูวันนี้ไม่ตายฟรีดอก มึงต้องโดนจับ กูสั่งลูกเอาไว้ ให้เปิดโปงมึงให้หมด ลูกกูจะได้ลดโทษ เพราะเป็นพยานกล่าวโทษความผิดของมึง กูกับมึงก็เลวพอกัน ดังนั้น กูตาย มึงก็ตาย”
“กูจะแทงปากมึง” สนยิ่งแค้นเงื้อมีดขึ้นหมายจะแทง
ช้อยจ้องตาสนอย่างดุดัน ขอสู้ตาย มีเสียงดังลอดจากปากขมุบขมิบได้ยินกระท่อนกระแท่น
“หน้าอย่างมึง ไม่มีวันชนะอีเนียนได้ อีกไม่ช้า ท่านขุนจะรู้ว่ามึงคือนางร้าย อีเนียนคือนางเอก”
จังหวะนี้เสียงกบแมวเรียกหากัน
“นังแมว เห็นนางช้อยหรือยัง”
“ยังเลย คุณท่านให้มารอ ท่านกลัวว่ามันจะโดนคนใจดำทำเอา”
สนหยุด แล้วจ้วงแทงลงไปที่อกของช้อย แทงกระหน่ำซ้ำๆ ช้อยตายสนิท ตาเหลือกโพลงมองมาที่สน
“มึงไม่ต้องมามองกูอีนรก”
สนพยายามปิดตาช้อย แต่ปิดไม่ได้ สนจึงลากช้อยเข้าไปในพง เอากิ่งไม้ ใบไม้แถวนั้นมาปิดตาช้อยและตัวช้อย
แล้วเดินมาเตะรองเท้าเนียนไปใกล้ๆ พุ่มไม้อีกพุ่ม ทำทีว่าเนียนเอาไปซ่อน
“รองเท้าอีเนียนนี่แหละหลักฐานสำคัญ”
จากนั้นสนวิ่งหลบไปจากที่นั่นอย่างว่องไว

ฟากกบกับแมวพากันส่ายหน้านินทาช้อย
“นางช้อยมันไม่แน่จริง มันจึงไม่กล้ามาหาคุณท่าน”
“คุณท่านก็ช่างกระไรไปเชื่อน้ำมนต์คนอย่างนางช้อย”
กบมองไปแล้วรีบสะกิดแมว ดึงแมวแอบหลบชี้ไป
“คุณสน”
สองคนแลเห็นสนเดินขาเจ็บกระเผลกๆ มา สองคนอ้าปากหวอ
“ไปฟัดกับอะไรมา”
“โดนหมามันกัดเอา จนเลือดสาดทะลุซิ่นออกมา”
“ขาเขยกไปข้างหนึ่ง”
กบกระซิบแมว พยักหน้ากัน สองคนพรวดไปหาสน
“คุณสนเจ้าขา”
สนตกใจ “ว๊าย นังบ้า ใครใช้แกมาดักหน้าข้า หลีกไป”
“หามิได้เจ้าค่ะ เราสองคนมิได้มาดักหน้า เจ้าค่ะ”
“แต่จะมาช่วยพยุงคุณสนเจ้าค่ะ เพราะว่าคุณสนขาเขยกราวกับจะเดินไม่ไหวเจ้าคะ”
“นางขี้ข้า อย่าสาระแน ไปให้พ้นหน้ากูเดี๋ยวนี้”
สนเข้นเขี้ยวทำท่าราวกับจะฆ่าแกง สองคนถอยกรูด
“ไปแล้วเจ้าค่ะ”

กบและแมวถอยไป สนกระเผลกไปต่อ
ทองจันทร์ฟังที่กบและแมวรายงานอย่างประหลาดใจ

“แกว่ากระไรนะ แม่สนไปฟัดกับหมา โดนหมากัดเอาเลือดสาดเดินขาลาก ขากระเผลก”
“เจ้าค่ะ” สองสาวประสานเสียง
“แล้วมันไปฟัดกับหมาที่ไหนมายะ บ้านเราไม่ได้เลี้ยงหมา” ทองจันทร์ฉงน
“นั่นสิเจ้าคะ” กบว่า
“ผ่านเรื่องแม่สนกัดกับหมาไปก่อน เอาเรื่องนางช้อยสิ”
“ไม่ได้เห็นแม้แต่เงาเจ้าค่ะ” แมวบอก
“ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเจ้าค่ะ” กบว่า
ทองจันทร์ผิดหวังมากบ่นพึมพำ
“แปลกจริง หรือที่แม่สนว่านางช้อยโกหกตลบตะแลง นั่นคือความจริงเสียแล้ว มันแค่มาหยั่งเชิง ให้เราช่วยมัน ช่างหัวมันมันไม่ใช่เรื่องจริง”
ทองจันทร์ละความสนใจแล้ว คิดได้ขึ้นมาอีก
“เอ แต่เรื่องแม่สนตั้งท้องสิบสองเดือนนี่มันประหลาดแท้”
หญิงชราคิดแล้ว แต่คิดไม่ตก

ฝ่ายสนกลับถึงเรือนจัดแจงเช็ดคราบเลือดที่กระเด็นใส่ตัว เอาเสื้อผ้าไปยัดซ่อนอีก
“อีช้อย มึงทำกูป่นปี้ โชคดีที่กูไหวทัน จัดการมึงไปหาไอ้เหิมในนรกซะทีนี้ก็เหลือแต่อีแก่ทองจันทร์”
สีหน้าสนเหี้ยมเกรียมยิ่งนัก จู่ๆ ทานตะวันก็โผล่เข้ามา
“แม่สนจ๋า”
“ว๊าย ทำไมมาเงียบเชียบจริงๆ” สนไม่พอใจ
“ก็แหมหนูคิดถึงแม่สน อยากให้แปลกใจ นี่คะ มาๆ ไปกับหนู ไปทำผมทรงใหม่ที่หนูดูมาจากแคตตาล็อคฝรั่ง”
สนไม่มีแก่ใจจะไปไหน “หนูอี๊ดขา วันนี้แม่สนไม่ค่อยสบายค่ะ”
“เป็นอะไรคะ เอ๊ะ ขากระเผลก ไปโดนอะไรมาคะ”
“โดน เอ้อ...ช่างมันเถิดค่ะ แม่สนถึงไม่อยากจะไปไหน”
“แหม หนูอุตส่าห์มารับ ไม่ได้คุยกันมาหลายวันแล้วนะคะ หนูอยากคุยเรื่องเอ้อ น้า เอ๊ยยัยเนียน”
สนทำเสียงเนือยๆ “มันทำอะไรหนูอี๊ดอีกคะ”
“ช่วยชีวิตหนูไงคะ ตายจริง นี่แม่สนไม่รู้เรื่องนี้บ้างเลยหรือคะ ว่าฟ้ามันผ่าใส่หนูแต่ น้า เอ้อ ยัยเนียน กระโดดมาลากหนูหลบไปทัน ฟ้าผ่าโดนต้นไม้โค่นมาล้มใส่ตรงที่หนูยืนอยู่ ไม่งั้นตายหนูตายแน่ค่ะ”
“อ้อ แปลว่าตอนนี้หนูอี๊ด เลิกเกลียดมันแล้ว” สนค่อนขอดเอา
“หนูบอกไม่ถูกดอกค่ะ หนูอายค่ะ หนูทำตัวไม่ถูก หนูเลยจะมาปรึกษาแม่สน ว่าหนูควรทำตัวอย่างไรกับเขาดีคะ”
“อยากทำอย่างไรก็ทำไปเถิดค่ะ แม่สนไม่อยากจะไปสนมันแล้วค่ะ”
“ถ้าหนูจะญาติดีกับเขา หนูควรไปขอโทษเขาก่อนดีไหมคะ”
“อยากจะลดตัวลงไป เกลือกกลั้วกับขี้ข้าก็ตามใจเถิดค่ะ แม่สนคนหนึ่งละ ไม่ทำดอก มันเป็นคนใช้ เรามีสิทธิ์ที่จะทำอย่างไรก็ได้ ไม่เห็นต้อง ขอโทษมัน”
“แล้วเรื่องขอบคุณเล่าค่ะ”
“แม่สนไม่ทำแน่ แต่ถ้าหนูอี๊ด อยากทำก็ทำเถิดค่ะ”
ทานตะวันพยักหน้า
“เอ๊ะ แม่สนขา ยัยช้อยมันมาหาแม่สนแล้วมันหายไปไหนคะ ไม่เห็นมาเสนอหน้าเหมือนแต่ก่อน”
สนสะอึก
“ใครว่ามันมาหาแม่สนคะ ไม่มี้ไม่มี ไม่ได้มา”
“ยัยช้อยโกหก หนูเจอมันจังๆ แถวร้านเสริมสวยของหนู ถามว่ามันจะไปไหน มันบอกว่ากำลังจะไปหาแม่สน นัดกันไว้”
“วุ๊ย มันเพ้อเจ้อค่ะ”
“งั้นหนูไปก่อนนะคะ อุตส่าห์มารับ”
ทานตะวันจะออกไป สนเกิดหวาดกลัวเรื่องช้อยขึ้นมา
“แม่สนไปด้วยคนค่ะ”

สนเดินกระเผลกไปหาทานตะวัน
ขณะเดียวกันเนื้อทองเดินกางร่มลงจากเรือที่ท่าหน้าบ้าน พอขึ้นมากำลังจะหุบร่ม แต่ลมพัดแรงขึ้นมาดื้อๆ พัดเอาร่มปลิวไป

“อุ๊ยตาย” เนื้อทองตามไปดูร่ม

ส่วนทานตะวันประคองสนลงมาถึงหน้าเรือน เจอหน้าแมว และกบที่ยิ้มให้สนท่าทีเยาะเย้ย
“แกสองคนยิ้มอะไร”
“มันยิ้มเยาะแม่สนค่ะ หนูอี๊ด มันถือตัวว่า เป็นคนสนิทของคุณย่าค่ะ” สนโมโห
“อย่ามาทะลึ่งกับแม่สนนะ” ทานตะวันเอ็ด
“มิบังอาจดอกเจ้าค่ะ” สองคนจ๋อย
“แต่คือว่า คุณท่านให้เราสองคน ไปตามหาหมาที่มันกัดกับเอ๊ย กัดคุณสนเจ้าค่ะ” แมวบอก
“คือคุณท่านห่วงว่าหมามันจะเป็นบ้า แล้วพาลพาพวกเราบ้าเหมือนหมาตัวนั้นกันทั้งบ้านเจ้าค่ะ” กบเสริม
“ที่แท้แม่สนโดนหมากัดนี่เอง” ทานตะวันว่า
“อี....”
สนด่าไม่ทันจบ มีเสียงกรีดร้องดังมาจากแถวท่าน้ำ
“อร๊ายย...”
“เปรตอะไรมากรีดร้องขอส่วนบุญแถวท่าน้ำ” ทานตะวันเหลียวไปมอง
“คนนะเจ้าคะ เสียงคนกำลังตกใจกลัวอะไรสักอย่าง” กบบอก
“หรือว่าบ้านเรามีผีมาหลอกหลอนตอนกลางวัน” แมวว่า
“พวกแกอย่ามาพูดจาบ้าบอเพ้อเจ้อ ไปดูกันค่ะ แม่สน”
สนส่ายหน้ากลัวว่าจะไปเจอเอาศพช้อย
“อย่าไปสนใจมันเลยค่ะ”
ส่วนแมวกับกบวิ่งโกยแน่บ
“หนูอยากรู้ว่ามันเสียงใคร หรือว่าเสียงยัยช้อย มันมาตามนัดกับแม่สนแล้วโดนหมากัดหรือเปล่า”
สนสั่นไปหมด ทานตะวันดึงสนไป ด้วยความอยากรู้

เวลาเดียวกันตรงบริเวณจุดเกิดเหตุ เนื้อทองยังยืนสั่นพับๆ ร่มตกอยู่แทบเท้าของช้อยที่มีกิ่งไม้ปิดส่วนหน้าตาอยู่
“อร๊ายย” เนื้อทองกรี๊ด
กบกะแมวมาถึง
“หนูติ๋ว”
เนื้อทองชี้ให้ดู
“น่ากลัวเหลือเกินค่ะ”
“คนโดนทำร้ายเลือดท่วมตัว” กบว่า
แมวบอก “เขาตายแล้ว”
สองคนตกใจ ร้องลั่น “ช่วยด้วย ช่วยด้วย มีคนโดนฆ่าตาย”
กบกะแมวร้องโหวกเหวก เนื้อทองกลัวมากไม่กล้าแม้แต่จะหยิบร่ม
สนกับทานตะวันเดินมาใกล้จะถึง สองคนได้ยินเสียงแมว และกบถนัด สนหยุดกึก
“มีคนโดนฆ่าตาย ใครกันมาฆ่าคนตายในบ้านเรา บังอาจ หนูจะไปดู”
“อย่าไปดูเลยค่ะ”
“แต่หนูอยากไปดูค่ะ แม่สนกลัวอะไรหรือคะ”
สนส่ายหน้า
“แม่สนไม่เคยกลัวอะไรค่ะ”
“ไปดูเผื่อคนฆ่ามันจะทิ้งหลักฐานอะไรไว้นะคะ”
สนคิดในใจ “ในเมื่อทุกคนต้องเจอรองเท้าอีเนียนใกล้ที่เกิดเหตุ ทำไมกูต้องกลัว”
ทุกคนในบ้านต่างพากันวิ่งไปทางเสียงกบกะแมว
“ไปค่ะ หนูอี๊ด” สนฮึดขึ้นมา

ทุกคนมาถึง ต่างจดๆ จ้องๆ ไม่มีใครกล้าหยิบกิ่งไม้ที่ปิดหน้าออกมาดูว่าเป็นใคร
“ใครกัน” ทุกคนถามกันงึมงำ
“ให้ใครไปบอกพี่เทิดศักดิ์ที่โรงพัก บอกพี่แดงน้อยที่ศาลากลางมาดูเถิดคะ” เนื้อทองบอก
“แต่ฉันอยากเห็นหน้าคนตาย ตอนนี้” ทานตะวันบอก
“จะดีหรือคะ ให้ตำรวจมาก่อน ถ้าไปแตะต้องจะเป็นการทำลายหลักฐานนะคะ” เนื้อทองท้วง
“ทำลายหลักฐานรึ” สนคิดในใจ
“เอ๊ะ ทำไมแกต้องมาหักล้างคำพูดชั้น อยากแสดงว่าฉลาดกว่าชั้นรึ” ทานตะวันหมั่นไส้
“มิได้ดอกค่ะ แต่ชั้นเกรงว่าหลักฐานจะโดนทำลาย จะทำให้จับคนร้ายได้ลำบากมากขึ้นค่ะ” เนื้อทองว่า
“จริงของมัน” สนคิดแล้วให้นึกได้ เลยพูดออกมา “อ้อ นึกว่าไปเรียนครูมา ที่นั่นเขาสอนวิชาตำรวจด้วยรึ พวกแกได้ยินคุณหนูอี๊ดสั่งไหม เปิดหน้ามันออกมาดูเดี๋ยวนี้”
จังหวะที่ทานตะวันจะเดินหนีออกไปจากที่นั่นด้วยท่าทางฉุนเฉียว คนงานคนหนึ่งดึงกิ่งไม้ออกมาจากหน้าและตัวศพ จนเห็นเป็นใบหน้าของช้อยที่บิดเบี้ยวตาเบิกโพลง ทุกคนผงะ ยกเว้นสน
“ยัยช้อย” ทุกคนตะลึงร้องประสานเสียง
สนมอง แอบยิ้มร้าย
“นังช้อยนอนตายตาไม่หลับ” กบว่า
“มันคงจ้องมองคนที่ฆ่ามันก่อนตาย” แมวเสริม
พวกคนในบ้านแอบซุบซิบเซ็งแซ่
“โถ นางช้อยเวรกรรมของเอ็งแท้ๆ ที่ผ่านมาเอ็งทำบ้าๆ กับข้าไว้แยะ ข้าอโหสิกรรมให้เอ็งทั้งหมดนะช้อยนะ”
กบแมวหันมามองสนงงๆ ไม่อยากเชื่อว่าสนเป็นคนพูดจริงๆ
สองคนกระซิบกัน “โอ้โฮ”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 16/4 วันที่ 8 พ.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager