คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 15 วันที่ 30 พ.ค. 56


อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 15 วันที่ 30 พ.ค. 56

ภูวนัยหาทางให้ไผ่พญาไปอเมริกากับตะวันฉายเพื่อให้พ้นจากอันตรายที่จะได้รับจากการกลับมาในวงการอีกครั้งของสมสุข จึงส่งข้อความหลอกนัดไผ่ไปพบข้างนอก

แต่พอไผ่ออกไป ภูวนัยก็ไปหาตะวันฉายที่บ้าน บอกให้เขาพาไผ่ไปอเมริกาด้วยให้ได้ ไปได้ยิ่งเร็วยิ่งดี ให้เหตุผลว่า

“คุณตะวันรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่เธอเข้ามาเกี่ยวข้องมันอันตรายแค่ไหน แล้วสิ่งที่ผมทำอยู่ก็ใกล้สำเร็จแล้ว ผมอยากให้เธอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่ดูแลเธอได้”

ไผ่ไปรอภูวนัยตามนัด รอจนถึงกลางคืนก็ยังไม่มา เธอน้อยใจ เสียใจพึมพำน้ำตาคลอ “เห็นฉันเป็นอะไร” แล้วตัดสินใจกลับ พอกลับมาถึงตะวันฉายบอกว่าภูวนัยมาหาตนและบอกให้เธอไปอเมริกากับตน ไผ่ที่กำลังโมโหที่ภูวนัยผิดนัดรับปากทันทีว่าจะไปอเมริกากับเขา


วันรุ่งขึ้น ตะวันฉายจะออกไปเคลียร์งานเพื่อเตรียมตัวก่อนเดินทางไปอเมริกา ไผ่ถามว่าแล้วตนต้องทำอะไรบ้าง

“ยังไม่ต้องทำอะไรครับ เดี๋ยวผมกลับมาแล้วค่อยไปจัดการเดินเรื่องด้วยกัน เอ่อ...คุณไผ่อยู่คนเดียวได้นะครับ”

“สบายค่ะ” ไผ่พยักหน้าอย่างมั่นใจ

“ผมคงจะไปสักอาทิตย์นึง แล้วผมจะรีบกลับมา นะครับ”

“ค่ะ...” ไผ่ยิ้มเศร้าๆ เมื่อนึกถึงวันที่จะต้องเดินทางไปอเมริกากับตะวันฉายที่ใกล้เข้ามาทุกที...

ooooooo

เกิดการฆ่าตายกันเป็นเบือ ศพถูกทิ้งไว้ใต้ทางด่วน เป็นประเด็นร้อนที่อภิวัฒน์กับภูวนัยต้องค้นหาสาเหตุกันอย่างตึงเครียด จากรูปที่ได้มา ศพเหล่านั้นเป็นลูกน้องของพายัพทั้งสิ้น

“ท่านคิดว่าใครเป็นคนทำอย่างนี้ครับ” ภูวนัยถาม อภิวัฒน์เดาว่าเขาคงคิดเหมือนตน “สมสุขเหรอครับ...แว่บแรกผมก็คิดว่าเป็นฝีมือของมัน แต่พอคิดอีกที สมสุขมันน่าจะทำให้เรื่องเงียบกว่านี้ได้”

“ถ้าเงียบ...แล้วใครจะได้ยินล่ะ ผมคิดว่าที่สมสุขมันทำอย่างนี้ ก็เพื่อประกาศให้คนในวงการรู้...ว่ามันกำลังกลับมาแล้วไง” ภูวนัยถามว่า แล้วตำรวจว่ายังไง “นี่แหละที่ผมหนักใจ พรรคพวกผมบอกว่า ชาติกล้าขอทำคดีนี้เอง”

“ท่านคิดว่า...ไอ้ชาติกำลังจะทำให้เรื่องนี้หายเข้ากลีบเมฆเหรอครับ...” อภิวัฒน์พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นแสดงว่า ไอ้สมสุขมันย้ายฝั่งไปอยู่กับพวกมันแล้ว”

การสนทนาหารือยุติลง เมื่อมีตำรวจเข้ามารายงานว่า มีตำรวจจาก ป.ป.ส.มา

ออกจากห้อง ภูวนัยมองไปที่ประตูเห็นชาติกล้ายืนอยู่ เขาสะอึกจะออกไป อภิวัฒน์รั้งไว้ถามว่าจะทำอะไร

“มันรุกเราจะสุดกระดานแล้วนะครับ ถ้าไม่สู้ เราก็ตาย”

“ใจเย็นหมวด ที่หมวดชาติมาอย่างนี้มีอยู่สองอย่าง หนึ่งมาหาหลักฐานเพื่อทำลายหน่วยงานของเรา สองเขาต้องการตัดหมวด จำที่ผมให้คนของเราเอาเอกสารไปไว้ที่อื่นได้ใช่ไหม ตอนนี้ต่อให้ผมถูกจับไป เขาก็ไม่มีหลักฐานอะไร แต่ถ้าเขาเจอหมวด ทุกอย่างจะจบลงทันที หมวดหนีไปซะ ผมจะถ่วงเวลาพวกนั้นเอาไว้”

ภูวนัยลังเล อภิวัฒน์เร่งให้หนี แล้วเราค่อยพบกันอีก เมื่อภูวนัยวิ่งออกไป อภิวัฒน์จึงเดินไปรับหน้าชาติกล้ากับวีระ และราชัยที่ประตูรั้ว ถามว่ามีอะไรให้ช่วยหรือ

ชาติกล้าเอาหมายค้นกับหมายเรียกให้อภิวัฒน์ดู อภิวัฒน์ถามว่าตนทำอะไรผิดหรือ ชาติกล้าพูดอย่างผยองว่า

“ท่านเป็นผู้ต้องสงสัยที่ให้การสนับสนุนผู้มีอิทธิพล ผมอยากเชิญท่านไปให้ปากคำ” แล้วถามอย่างจับพิรุธ “หมวดภูวนัยอยู่ไหนครับ”

อภิวัฒน์บอกว่า ตนได้ข่าวว่าภูวนัยเป็นตำรวจฝีมือดีที่โดนคนกลั่นแกล้ง และเขาก็ไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว ทำไมถึงคิดว่าเขาจะอยู่ที่นี่ ชาติกล้าไม่สนใจ หันไปสั่งวีระกับราชัยให้แบ่งกำลังกันปฏิบัติการ หน่วยเอให้เอาเอกสารทุกแผ่นกลับไปให้หมด ส่วนหน่วยบี นำทุกคนที่นี่กลับไปที่หน่วย ตนจะสอบปากคำทุกคน แล้วบอกอภิวัฒน์ว่า

“ตอนนี้กำลังของผมปิดล้อมที่นี่หมดแล้ว ต่อให้ไอ้ภูมันมีปีก มันก็หนีไม่พ้น”

แต่ชาติกล้าประเมินภูวนัยผิด เพราะเมื่อภูวนัยเห็นตำรวจออกันอยู่เต็มบ้าน จึงหลบเข้าไปในห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องเก็บยุทโธปกรณ์ เขาหยิบปืนขึ้นมาพร้อมปะทะทันที

ooooooo

ไผ่พญาอยู่ที่เซฟเฮาส์ ซึ่งเวลานี้เธออยู่คนเดียว มีตำรวจนอกเครื่องแบบไปตะโกนเรียกให้เปิดประตู ไผ่วิ่งออกมานึกว่าเป็นพวกอภิวัฒน์ พลั้งปากถามไปว่า “ท่านอภิวัฒน์ให้มาทำอะไรหรือ”

พวกตำรวจได้ยินก็พยักหน้าให้กัน ไผ่รู้ทันทีว่า พวกนี้ไม่ใช่คนของอภิวัฒน์ ทำทีว่ากำลังต้มน้ำขอไปปิดเตาแก๊สก่อน แล้ววิ่งอ้าวกลับเข้าบ้านปิดประตูเลื่อนโต๊ะเก้าอี้มาดันประตูไว้ ใจเต้นไม่เป็นส่ำไม่รู้จะแก้สถาน– การณ์อย่างไร พลันก็นึกได้รีบโทรศัพท์โทร.ถึงภูวนัย

เป็นเวลาที่ภูวนัยหลบอยู่ในห้องยุทโธปกรณ์ เสียงโทรศัพท์ทำให้วีระกับราชัยมาทุบประตูเรียกให้เปิด ภูวนัยหันรีหันขวาง เหลือบเห็นแก๊สน้ำตาอยู่บนชั้น เป็นจังหวะที่วีระกับราชัยกำลังระดมกันทุบประตูจะพังเข้ามาให้ได้ พริบตานั้นประตูเปิดออก พวกตำรวจกรูกันเข้ามา ท่ามกลางควันหนาทึบ จังหวะนั้นภูวนัยแทรกตัวออก จากห้องไปอย่างเร็ว

พวกตำรวจเจอแก๊สน้ำตาก็วิ่งออกจากห้องน้ำตาไหลพราก ภูวนัยวิ่งสวนกับตำรวจที่วิ่งมาจากหลังบ้าน เขาเอา มือปิดหน้าปิดตาบอกว่ามีคนขัดขืนการจับกุมอยู่ด้านใน ให้รีบไปช่วย ตำรวจพวกนั้นวิ่งอ้าวไป ส่วนภูวนัยวิ่งไปทาง ประตูหลัง

ชาติกล้ามาถึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น พอฟังวีระเล่าเขา เอะใจมองไปรอบๆเห็นตำรวจกระจายอยู่แถวนั้น เขารู้ทันที ว่านั่นเป็นทางเดียวที่ภูวนัยจะหนีไปได้ เขาวิ่งไปทางนั้นทันที แต่พอไปถึงไม่เห็นแม้แต่เงาของภูวนัย หันกลับไปอย่าง หัวเสีย

ที่แท้ภูวนัยหลบอยู่ในพุ่มไม้ใต้จมูกมันนั่นเอง!

ooooooo

ส่วนไผ่พญาถูกตำรวจนอกเครื่องแบบพวกนั้นปีนรั้วและพังประตูเข้าไป ไผ่หลบอยู่ใต้เตียงแทบไม่กล้าหายใจ พอพวกมันบอกกันว่าหาไม่เจอและเดินออกไป ไผ่ถอนใจอย่างโล่งอก

พริบตาเดียว ไผ่ก็ถูกลากออกจากใต้เตียงแล้วพวกมันก็พาไปที่หน้าบ้าน ไผ่พยายามใช้วาทศิลป์หว่านล้อมว่าเราเป็นพวกเดียวกัน ไม่เชื่อลองโทร.ไปคุยกับท่านอภิวัฒน์หน่อยไหม

“บอกให้เงียบ! ก็เพราะว่าแกทำงานให้มันไง ถึงได้โดนจับ ตอนนี้ลูกพี่เธอเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ เพราะหมวดชาติเอาคนไปจับลูกพี่เธอที่เซฟเฮาส์แล้ว”

ไผ่อึ้งสนิท เป็นเวลาที่ภูวนัยวิ่งหนีออกมาได้แล้ว มือถือเขาดังขึ้นหยิบดูเห็นเป็นไผ่โทร.มา เขารับสายบอกว่า...

“ผมกำลังจะโทร.หาคุณพอดี” นิ่งไปนิดหนึ่งก่อนอุทานออกมาอย่างเจ็บใจ “ไอ้ชาติ!!”

ที่แท้ชาติกล้าบังคับให้ไผ่โทร.หาภูวนัย เยาะเย้ยภูวนัยว่า คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่า ตอนนี้ใครอยู่กับตน ไผ่ตะโกนออกไปว่า “ไม่ต้องห่วงฉัน...ฉันไม่เป็นไร” เลยถูกชาติกล้าตบฉาดใหญ่ ตวาดให้หุบปาก

ภูวนัยตะโกนบอกว่าอย่าทำอะไรเธอ ชาติกล้าสั่งเขาให้มาหาตนภายในครึ่งชั่วโมง ไม่อย่างนั้นเขาคงจะรู้ว่าตนจะทำอย่างไรกับผู้หญิงของเขา

“แกมันไอ้เพื่อนชั่ว ไอ้เพื่อนเลว เพื่อนทรยศ”

“ด่าไปเถอะ...ถ้าคิดว่าฉันจะรู้สึกกับคำด่าพวกนั้นละก็ ฉันคงยืนอยู่ในจุดที่ฉันอยู่ไม่ได้” พูดแล้วหันไปจิกหัวไผ่ขึ้นมา “ปกป้องมันไปก็ไม่มีประโยชน์ จะช้าจะเร็วมันก็ต้องตายอยู่ดี”

ภูวนัยเป็นห่วงไผ่มาก หาทางที่จะช่วยเธอให้ได้

ooooooo

วศินกำลังผยองเต็มที่ ไปหาสมสุขที่บ้านเอาหนังสือไปให้เล่มหนึ่งบอกว่าอาทิตย์หน้าจะมีงานเปิดตัวหนังสือ เชื่อว่าสมสุขคงไม่ได้ไป เลยเอามาให้อ่านเป็นคนแรก

ปกหนังสือชื่อ “เขาคือวีรบุรุษ” สมสุขพลิกอ่านคำโปรย “มือปราบที่ได้ชื่อว่า เป็นตำรวจผู้ซื่อสัตย์แห่งทศวรรษ ผู้ที่จะนำพาเรารอดพ้นจากยุคมืดของผู้มีอิทธิพล” สมสุขขำพรืดออกมาถามว่า ท่านเอาจริงหรือ

“ทำไม ไหนๆไอ้พวกห้าเสือก็ตายไปแล้ว พวกมันคงดีใจที่อย่างน้อยความตายของพวกมันก็ยังทำประโยชน์ให้กับอั๊ว” วศินพูดหน้าตาเฉย สมสุขยกนิ้วให้ว่า นับถือจริงๆ “แล้วลื้อล่ะ เมื่อไหร่จะทำประโยชน์ให้อั๊ว”

สมสุขถามแบบหมาหยอกไก่ว่า กลัวเงินเดือนจะไม่ออกหรือ? ถูกวศินชักสีหน้าใส่ปรามว่า

“พูดดีๆอั๊วไม่ใช่ลูกจ้างลื้อ แล้วเรื่องเงินอั๊วก็ไม่สน เพราะไม่ว่าจะยังไงลื้อก็ต้องจ่าย!”

สมสุขหยุดหน้าเป็น บอกว่าตนเพิ่งกลับมาอยู่บ้าน ขอเวลาเตรียมตัวเตรียมใจสักสองสามวันก่อน

ระหว่างนั้น ลูกน้องสมสุขมารายงานว่า ได้รับแจ้งว่ารถของวศินที่จอดอยู่ ป.ป.ส.ถูกไฟไหม้ วศินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟถามว่ามีใครรู้บ้างว่าเพราะอะไร ลูกน้องบอกว่ากำลังตรวจสอบอยู่ ก็พอดีมีสายเข้ามือถือวศิน เขารับสาย ตาลุก สั่งเข้ม

“จับตัวมันไว้ก่อน เดี๋ยวอั๊วจะเป็นคนรีดนังนั่นเอง”

สมสุขหูผึ่ง ถามว่า “นังนั่นที่ท่านว่า คงจะเป็นผู้หญิงที่อยู่ในทีมของท่านอภิวัฒน์ใช่ไหมครับ”

“ลื้อไม่ต้องรู้หรอก ไปทำในสิ่งที่ลื้อต้องทำเถอะ”

“ไม่มีอะไร...ผมก็แค่อยากเตือนท่านเอาไว้ เวลาที่หมามันจนตรอกน่ะ น่ากลัวที่สุด”

“ก็ดูแล้วกันว่ามันจะสู้ลูกปืนได้ไหม” วศินเดินออกจากบ้านสมสุขอย่างหัวเสีย แต่ไม่ทันพ้นบ้านก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่บ้านที่บ้านว่า ไฟไหม้บ้าน ให้รีบกลับมาดู วศินถึงกับปากคอสั่นแทบจะคลั่ง

ที่แท้ภูวนัยเอาปืนจี้ให้แม่บ้านโทร.หลอกวศินให้กลับบ้านนั่นเอง...

เมื่อวศินกลับบ้าน ไม่เห็นไฟไหม้บ้าน เห็นแต่ภูวนัยรออยู่ ภูวนัยจัดการจับวศินมัดไว้ในรถแล้วให้โทร.ไปหาชาติกล้า ชาติกล้าเห็นเป็นเบอร์โทร.ของวศินจึงรับ พอฟังปลายสายจบก็คำราม “ไอ้ภู!” ไผ่พญาถูกคุมตัวอยู่ได้ยินก็หันขวับ

ภูวนัยยื่นหมูยื่นแมวกับชาติกล้าให้เขาปล่อยไผ่-พญาและตนก็จะปล่อยวศิน ชาติกล้าไม่มีทางเลือกบอกให้ภูวนัยนัดสถานที่มา

ooooooo

ภูวนัยนัดให้ไปแลกตัวกันที่ห้างสรรพสินค้า ภูวนัยเป็นต่อในสนามนี้ เขาจึงสั่งชาติกล้าได้ตามต้องการ สั่งทีละขั้นประเมินสถานการณ์ทีละจังหวะ พร้อมกับสังเกตการณ์ไปด้วย

เมื่อถึงจุดหมายหนึ่งแล้ว ภูวนัยให้วศินคุยกับชาติกล้าที่ถูกมัดอยู่ในรถ วศินเร่งชาติกล้าให้รีบทำตามภูวนัย เมื่อพาไผ่ไปถึงหน้าลิฟต์ ภูวนัยสั่งให้ปล่อยไผ่เข้าลิฟต์ไปคนเดียว ชาติกล้าจำต้องผลักไผ่เข้าไป แล้วเดินมามองที่ลานจอดรถ รีบส่งสัญญาณทางวิทยุให้คนของตนที่ซุ่มอยู่

“มันอยู่ที่ลานจอดรถ ปิดลานจอดรถเอาไว้” เห็นตัวเลขที่หน้าลิฟต์หยุดที่ชั้นสาม ชาติกล้ารีบบอก “ชั้นสาม...มันอยู่ชั้นสาม”

ไผ่ยืนใจคอไม่ดีอยู่ในลิฟต์ แต่พอถึงชั้นสามลิฟต์เปิดออก ไผ่ดีใจสุดชีวิตเมื่อเห็นภูวนัยยืนรออยู่หน้าลิฟต์ ต่างโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ ไผ่เร่งให้รีบไปจากที่นี่เพราะตนได้ยินว่าชาติกล้านำกำลังมาด้วย ทั้งสองพากันวิ่งออกไปทันที

ระหว่างนั้นไผ่ถามว่าเขาเอาตัววศินไว้ที่ไหน ภูวนัยบอกว่าอยู่ในรถ ไผ่ถามอีกว่า เขาจะคืนวศินให้พวกมันใช่ไหม ภูวนัยพยักหน้า แล้วเร่งให้รีบไปกันดีกว่า

ขณะภูวนัยกับไผ่พญาจะวิ่งไปที่รถนั่นเอง ถูกคนของชาติกล้ายิงสกัด ภูวนัยดึงไผ่หลบ ส่วนชาติกล้าวิ่งไปที่รถของวศิน เข้าไปช่วยแก้เชือกที่มัดไว้อย่างเร็ว

“ไปล่ามัน! ฆ่ามันให้ได้!!” วศินสั่งเหี้ยม ชาติกล้า วิ่งออกไปทันที เห็นภูวนัยกับไผ่พญาวิ่งลงบันไดไปชั้นสองก็วิทยุให้สกัด ตัวเองก็วิ่งตามไป ไล่ดักภูวนัยกับไผ่พญาไปจนมุม ชาติกล้าประกาศกร้าว

“ยอมให้จับเถอะไอ้ภู”

ภูวนัยจับมือไผ่ไว้แน่น รู้ตัวว่าจนแต้มแล้ว แต่พริบตานั้นมีรถตู้สีดำคันหนึ่งพุ่งเข้ามาจะชนพวกชาติกล้า จนพวกนั้นแตกกันกระเจิง แล้วชายชุดดำในรถตู้ก็เปิดประตูตะโกนให้ภูวนัยกับไผ่พญาขึ้นรถ

พอภูวนัยกับไผ่พญาขึ้นรถ รถตู้คันนั้นก็พุ่งฝ่าแนวพวกชาติกล้าออกไปอย่างเร็ว

ooooooo

ในรถตู้สีดำ เมื่อคิดว่าปลอดภัยแล้ว ภูวนัยถามชายชุดดำที่นั่งในรถว่า ท่านอภิวัฒน์ส่งมาช่วยพวกตนใช่ไหม

“พวกเราไม่ได้มาช่วยแกสองคน” หนึ่งในชุดดำบอก ไผ่ผวาเฮือกถามว่าพวกเขาเป็นใคร ชายชุดดำสองคนเอากุญแจมือใส่ทั้งสองทันที

“ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง” หนึ่งในนั้นบอก แล้วอีกคนก็เอาถุงดำคลุมหัวทั้งสองไว้ที่แท้เป็นฝีมือของสมสุข!

เมื่อไปถึงบ้านสมสุข ภูวนัยถามว่าช่วยพวกตนทำไม สมสุขยียวนตามเคยว่า

“ช่วยเหรอ...? ใครช่วยแก...ฉันช่วยน้องไผ่ของฉันต่างหาก”

“ไอ้สมสุข...ไอ้ทรยศ!”

“ทรยศเหรอ...ไม่ใช่มั้ง เพราะฉันไม่เคยคิดว่าฉันเป็นพวกเดียวกับแกเลย ถ้าให้ฉันเดา ตอนนี้พวกเธอคงกำลังหาตัวฉันอยู่ใช่ไหม” ไผ่ถามว่ารู้ได้ไง “ทำไมจะไม่รู้ ตอนนี้พวกเธอกำลังถูกวศินมันรุกหนัก ทางเดียวที่จะพลิกกลับมาชนะได้ก็คือ คลิปฉาวโฉ่ของมันที่อยู่กับฉัน...ถูกต้องไหมหมวดภู”

“สมสุข ฉันจะฆ่าแก!” ภูวนัยฮึดฮัด สมสุขหัวเราะเยาะ เสนอว่า ถ้าให้ไผ่พญาขึ้นไปอยู่กับตนสักชั่วโมง ตนจะปล่อยเขาไป ไผ่หูผึ่งถามว่าจริงหรือ ถูกภูวนัยด่าไผ่ “จะบ้าหรือไง”! แล้วหันไปทางภูวนัย “ไม่มีทาง ยังไงพวกเราก็ไม่ทำตามข้อเรียกร้องของแก แกมันไอ้โรคจิต!”

“ก็แล้วแต่...ฉันจะบอกอะไรให้อย่างแล้วกัน ตอนนี้ไอ้วศินมันกำลังจะเปิดตัวหนังสืออัตชีวประวัติวีรกรรมห่าเหวอะไรของมัน ถ้ามันขายหนังสือได้ ไอ้คลิปที่พวกเธออยากได้ ก็อาจจะไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่” พูดแล้วเห็นทั้งสองอึ้ง สมสุขตัดบท “เอาล่ะ...ฉันจะให้เวลาพวกเธอตัดสินใจ แต่รีบหน่อยนะ เพราะยิ่งช้า ไอ้คลิปนั่นมันก็ยิ่งหมดประโยชน์”

สมสุขเดินหัวเราะร่าออกไปอย่างผู้เหนือกว่า ภูวนัยกับไผ่พญามองหน้ากันกังวล

ooooooo

เมื่ออยู่กันตามลำพัง ไผ่ถามภูวนัยว่าสมสุขจะฆ่าพวกเราไหม ภูวนัยมั่นใจว่าไม่เพราะถ้าจะทำมันทำไปนานแล้ว

ไผ่นิ่งไปอึดใจก่อนโพล่งออกมาว่าตนจะยอมทำตามที่สมสุขต้องการ เพราะมันเป็นทางทางเดียวของเรา

“คุณเคยบอกไม่ใช่เหรอ ว่าเรารอดมาได้ทุกครั้งเพราะเราอยู่ด้วยกัน...” ไผ่พญานิ่งไป ภูวนัยพูดความรู้สึกของตนให้เธอฟังด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดว่า “หลังจากที่ผมเสียคนรักที่อยู่รอบข้างผมไป ผมเหมือนคนที่ตาย

ทั้งเป็น มันเลยทำให้ผมรู้ว่า การเสียคนที่เรารักไป มันคือความเจ็บปวดที่สุดในชีวิต...เพราะฉะนั้น ผมเลยไม่อยากเสียคุณไปอีก...คุณสัญญากับผมเรื่องนึงได้ไหม”

ไผ่ที่กำลังอึ้งกับความรู้สึกที่เขาระบายออกมา ถามว่า “เรื่องอะไร”

“ไม่ว่ายังไง คุณจะต้องมีชีวิตออกไปให้ได้”

“ฉันไม่สัญญาหรอก ก็นายบอกให้ฉันมีชีวิตกลับไป แล้วนายล่ะ ฉันไม่ยอมกลับไปคนเดียวหรอก”

ภูวนัยมองหน้าเธอนิ่ง ถามว่าห่วงตนหรือ เห็นเธอเขินๆ เขาถามอีก “คุณรักคุณตะวันหรือเปล่า” ไผ่บอกว่าตะวันฉายรักตน ภูวนัยติงว่า “คุณตอบไม่ตรงคำถาม”

“คุณตะวันเขาเป็นคนดีแล้วก็รักฉันมาก...แต่ฉันไม่ได้รักเขา เพราะฉันมีคนที่ฉันรักอยู่ในใจแล้ว” ภูวนัยจ้องหน้าเมื่อเธอเฉย เขาถามว่าแล้วคนที่เธอรักล่ะ “ฉัน...ฉัน...” ไผ่ตอบไม่ออก

ทันใดนั้น ลูกน้องสมสุขเข้ามาตวาดว่าคุยอะไรกัน ไผ่ตอบไปทันทีว่า “คนที่ฉันรักคือ...เสี่ยสมสุข!”

ขณะที่ภูวนัยตะลึงอึ้งอยู่นั้น ไผ่พญาบอกลูกน้องสมสุขว่า “ช่วยพาฉันไปหาเสี่ยที”

ภูวนัยพยายามเตือนสติทักท้วงกระทั่งคัดค้าน แต่ไผ่พญาพยักหน้าให้ลูกน้องสมสุข มันปลดเธอจากพันธนาการ แล้วพาออกไปท่ามกลางเสียงร้องห้ามอย่างแทบคลั่งของภูวนัย!

ooooooo

อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 15 วันที่ 30 พ.ค. 56

คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะโดย บทประพันธ์ เล่าเต็ง
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ บทละคร โดย อภิวัฒน์ เล่าสกุล
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะผลิตโดย : บริษัท กำกับการดี จำกัด
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะนำแสดงโดย : ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ - ไปรยา สวนดอกไม้
ติดตามชมคุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ