อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 15 วันที่ 2 พ.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 15 วันที่ 2 พ.ค. 56

“นี่ขอรับนายอำเภอสำเนาที่ดินของนางเนียนจำนวนสิบไร่ที่บ้านแพน”
“โอนให้ใครไปหรือยัง”
“ยังขอรับ”
“จะทราบได้ไหมว่าแกยกให้ใคร”
“ไม่ทราบหรอกขอรับ คนที่ทราบก็คือคนที่แกจะโอนให้นั่นแหละขอรับอ้อ ก่อนที่นายอำเภอจะมาประจำการที่นี่ เคยมีคนแก่ครับ มาสอบถามเรื่องที่นาของนางเนียนคนนี้แหละครับ ว่าโอนให้ใครไปหรือยัง”
“อืม แกถามไปทำไมกันรึ”

“แกว่ารอจะซื้อนั่นแหละครับ อีกไม่นานแกคงมาอีกแหละครับ”
“อืม...”
เสมียนถอยออกไปแล้ว แดงน้อยคาใจไม่หายทำไมน้าเนียนถึงไม่ยอมบอกให้ใครรู้ว่าโอนให้ใคร น้าเนียนช่างลึกลับเหลือเกิน”
แดงน้อยพยายามคิด แต่คิดไม่ตก


เวลาเดียวกัน ที่บริเวณบ้านริมคลองละแวกบ้านภักดีภูบาล ชายชาวบ้านคนต้มเหล้าเถื่อน กำลังสาธยายให้คนมาซื้อฟัง ท่าทางเมาแปร้ไปแล้ว
“ต้มเหล้าเถื่อนใกล้บ้านขุนภักดีนี่ไม่กลัวโดนจับรึ” คนซื้อถาม
“กลัวกะผีอะไร กูน่ะสนิทคุณนายสน” คนขายคุย
“ฮ้า...โม้น่า”
“ไม่ได้โม้ สนิทขนาดมีเรื่องไม่ชอบมาพากล ที่รู้กันจำเพาะกูกันคุณนายทีเดียวนะมึงเอ๊ย” คนขายยังคุยฟุ้ง
“โอ้โฮ”
ทันใดนั้นขุนภักดี ก็เข้ามาพร้อมด้วยเอก และตำรวจหนึ่งนาย
“แกถูกจับฐานต้มเหล้าเถื่อนขาย”
“เฮ้ย....ใครวะบังอาจ”
“แกนั่นแหละบังอาจ นี่ท่านขุนภักดีภูบาลนะ” เอกบอก
“อ๊าย...นี่หรือท่านขุน ภักดีภูบาล ท่านขุน อย่าจับกันเลยนะ” คนขายไม่สลดสักนิด เพราะคิดว่าตนซี้กับสน
“ทำผิดกฎหมายไม่มีใครยกเว้นให้ได้ทั้งนั้น ยึดของกลางพาตัวไปโรงพัก ปรับสินไหม”
“เหวยๆ ท่านขุนผู้น่าสงสาร เก่งแต่จับชาวบ้าน แต่ไม่กล้าจับคนในบ้าน”
“แกพูดอะไร”
ขุนภักดีกำลังจะเดินหนี แต่แล้วกลับชะงักฟัง เอกทำท่าจะปราดไปเล่นงาน
“มันปากเสีย”
“ปล่อยมันพูด”
“หลายปีมาแล้ว คุณนายสนเช่าเรือชั้น ไปให้อีหนูฝาแฝดสองคนพาย นัยว่าว่ายน้ำไม่เป็น ไม่รู้ว่าจะหวังให้เรือล่มจมน้ำตายทั้งคู่ไหม แต่เดชะบุญมันสองคนไม่ตาย น่าอายไหมล่ะ เหวยๆๆๆ” คนต้มเหล้าบอกพร้อมกับหัวเราะหยัน
ขุนภักดีหน้าซีดจนเปลี่ยนเป็นเขียวและเริ่มแดงด่ำด้วยความโมโห เอกเงียบกริบไปเลย
ท่านขุนพึมพำเสียงดุดัน “สน”
เอกพึมพำอย่างสะใจ

“เวรตะไลตามทันกันจนได้”
ตกตอนเย็นกลับมาถึงบ้านพัก แดงน้อยต้องแปลกใจมาก เห็นสนกับทานตะวันมาหาถึงบ้าน แดงน้อยไหว้สน

“สวัสดีครับ คุณแม่สน น้องอี๊ด เอ้อ เชิญข้างในครับ”
“ขอโทษนะคะ ที่มาไม่ได้บอกล่วงหน้า มาแบบจู่โจม” ทานตะวันบอก
“เอ้อ ไม่เป็นไรครับ”
“แม่มาทำผมร้านหนูอี๊ด ก็เลยชวนกันแวะมาเยี่ยม แม่มีขนมมาฝากด้วย”
“ขอบพระคุณมากครับ เกรงใจเหลือเกินครับ”
ทานตะวันสบตาแดงน้อย ก่อนจะมองกราดไปรอบบริเวณ
“น่าอยู่เหลือเกินค่ะ อยู่คนเดียว เหงาแย่นะคะ”
“หาแม่บ้านสักคนสักทีได้แล้วค่ะ นายอำเภอ” สนบอกพลางปรายตามาสบตาทานตะวัน
“ผมรอเทิดศักดิ์เขามีไปก่อนน่ะครับ”
สนหน้างอหงิก มีเสียงรถแล่นมาจอดหน้าบ้าน ทุกคนหันไปมอง แดงน้อยยิ้มดีใจ
“เทิดศักดิ์”
“มากับยัยติ๋ว”
ทานตะวันหน้าตึงขึ้นมาทันควัน เมื่อแลเห็นว่าเนื้อทองนั่งรถมากับเทิดศักดิ์

รถเทิดศักดิ์มาจอดหน้าบ้าน เทิดศักดิ์เดินมาเปิดให้เนื้อทองลงมา เนื้อทองนั้นมีสีหน้าสงบ แต่เทิดศักดิ์ยิ้มย่อง
“หนูคงอยู่นานไม่ได้ดอกนะคะ หนูต้องรีบกลับไปดูแลคุณย่า”
“พี่ทราบว่าทำไม พี่เองก็จะรีบกลับไปคุยกับคุณแม่เรื่องยัยช้อย งั้นทักทายแดงน้อย แล้วเรากลับกัน”
“ไม่ดีเลยค่ะ คุณแม่ของพี่เทิดศักดิ์อยู่ที่นี่ มันคงดูไม่ดีไม่มีมารยาทมากๆ นะคะถ้าเราจะกลับไปพร้อมกัน”
เทิดศักดิ์หันไปมองตามที่เนื้อทองพูด จึงเห็นสองคน
“คุณแม่ น้องอี๊ด”
“ค่ะ”
“แดงน้อยไม่เห็นบอกว่า สองคนนี่จะมาด้วย”
“เข้าไปในบ้านกันเถิดค่ะ”
สองคนพากันเดินเข้าไป

เทิดศักดิ์กับเนื้อทองพากันเดินเข้ามา เนื้อทองไหว้สน ทว่าสนทำเป็นไม่เห็นแต่โดนเทิดศักดิ์มองจ้องหน้าจึงทำท่ารับไหว้ แกนๆ แดงน้อยรับไหว้เนื้อทองด้วย
ทานตะวันมองเนื้อทองท่าทางไม่พอใจมาก แต่โดนสนสะกิดห้ามไว้ ทานตะวันกระซิบถาม
“มันหน้าไม่อาย เพิ่งมีเรื่องไปเมื่อคืน วันนี้มันมาเกาะพี่เทิดศักดิ์หนึบ ยังกับหอยทาก แม่สนทนดูได้อย่างไงคะ”
สนกระซิบตอบ “ตอนนี้มีแต่จำต้องทนค่ะ”
“หนูไม่เข้าใจ”
สนแอบถอนใจพูดไม่ออก
“เชิญนั่งทุกคนครับ ผมไม่มีคนรับใช้ รอสักครู่ผมจะหาน้ำมาให้รับประทาน”
“ยัยติ๋วไงยะ เกาะติดพี่เทิดศักดิ์มาทั้งที ทำตัวให้มีประโยชน์สิยะ” ทานตะวันจิกหัวใช้
“น้องติ๋วกำลังจะกลับ” เทิดศักดิ์บอก
“แล้วมาทำไมยะ ทำตัวเป็นหอยทากหรือยะ” ทานตะวันแดกดัน
“หอยทากไม่ตามเกาะคน ถ้าจะคิดว่าใครคือหอยทากก็น่าจะคือพี่เอง น้องติ๋วครับ พี่เปลี่ยนใจอยากกลับตอนนี้ ไปด้วยกันนะครับ”
“หนูกลับเองได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงหนู คุณสนคะ คุณหนูอี๊ดคะ ขอตัวกลับก่อนค่ะ” เนื้อทองส่งสายตาวิงวอนเป็นเชิงบอกเทิดศักดิ์ว่าอย่าทำอย่างนี้
ทานตะวันเดินมาหา กระซิบบอก “รู้ตัวว่าควรกลับก่อนก็ดีแล้วย่ะ อย่าได้ให้พี่เทิดศักดิ์ไปส่งทีเดียวนะยะ แม่สนเขารังเกียจแกจะเป็นจะตาย”
เนื้อทองไหว้ทุกคนแล้วเดินกลับออกไป เทิดศักดิ์ขยับจะตาม สนเอ่ยขึ้น ไล่ให้กลับ
“ถ้าคนรถมันอยู่ก็จะขอให้มันไปส่งให้ แต่ไล่มันกลับเพราะหนูอี๊ดจะขอให้นายอำเภอไปส่ง ยัยติ๋วจะกลับก็รีบกลับอย่ามัวรีรอสิยะ”
เนื้อทองเดินไปทันที แดงน้อยรีบขยับตาม
“พี่แดงน้อย จะทำอะไรคะ” ทานตะวันถามทันที
“ไปส่งน้องติ๋วขึ้นสามล้อ เทิดศักดิ์ ฝากบ้านสักครู่นะ”
แดงน้อยเดินลิ่วตามเนื้อทองไปทันที สนหันมาต่อว่าเทิดศักดิ์
“นี่ลูกจะฉีกหน้าแม่ด้วยการหันไปแต่งงานกับมันจริงๆ หรือ”
“ครับ การแต่งงานของผมไม่ได้แปลว่าจะฉีกหน้าใคร ผมขอรอให้โรงเรียนน้องติ๋วเปิด ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ผมจะไปสู่ขอน้องติ๋ว”
“บาดหูบาดหัวใจ จำไว้นะ แม่ไม่ไปสู่ขอมันให้ดอก”
“ไม่เป็นไร ผมตกลงกับคุณย่าไว้แล้วครับ ไม่รบกวนคุณแม่ให้ยุ่งยากดอกครับ” เทิดศักดิ์บอก
“นี่จะหักหน้ากันรึ เสียแรงเมื่อคืนบอกว่ารักแม่ หลงดีใจจะเป็นจะตาย”
“หนูไม่ต้องการมีพี่สะใภ้อย่างมัน”
“แต่นี่คือชีวิตของพี่ คนที่จะอยู่กับพี่ไปจนตายจากคือน้องติ๋ว ขอเสียทีอย่ามาวุ่นวายกับชีวิตของพี่ จัดการชีวิตของตัวเองให้ดีเถิด”
“ทุกคนเป็นบ้ากันไปหมด เห่อนังติ๋วราวกับมันคือคุณหนูบ้านภักดีภูบาล”
“เขาเห่อความดีของน้องติ๋วไงล่ะ ไม่น่านัดกันมาบ้านแดงน้อยวันนี้เลย พับผ่า”
“แล้วมาทำไมคะ”
“เรานั่นแหละมาทำไม เขาไม่ได้เชิญให้มาสักหน่อย ไร้มารยาท”
“นี่แกว่าแม่ไร้มารยาท” สนฉุน
“คุณแม่น่ะช่วยให้มารยาทของน้องอี๊ดดูดีขึ้นมาได้บ้างครับ เพราะไม่ได้เสนอหน้ามาหาผู้ชายถึงบ้านตามลำพัง”
ทานตะวันกรี๊ด “ต๊าย ปากร้าย ด่าน้องตัวเอง แล้วที ตัวเองไปหานังติ๋ว ทำไมไม่ด่านังติ๋ว มันไม่ไร้มารยาทบ้าง มันก็มาเหมือนกัน”
“เพราะพี่เป็นฝ่ายไปหาเขา ไม่ใช่เขามาไล่ตามพี่ เขามาเพราะว่าแดงน้อยอยากเจอ มีเรื่องราวจากแม่เขามาบอกน้าเนียน”

เทิดศักดิ์หน้าตึง สนก็หน้างอ ทานตะวันเดินสะบัดตัวลงเรือนไป
ด้านแดงน้อยหาสามล้อให้เนื้อทองได้แล้ว

“ฝากด้วยนะสามล้อ ขี่ดีๆ นะ”
“ขอรับท่านนายอำเภอ” สามล้อบอก
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ หนูจะบอกแม่ตามที่พี่แดงน้อยฝากความไปค่ะ”
แดงน้อยยืนมองติ๋วนั่งสามล้อไปจนลับตาถอนใจ
“น้องติ๋วจ๋า ถ้าเทิดศักดิ์ไม่ใช่คนดีงาม ไม่ใช่เพื่อนรักของพี่ พี่คงไม่ยอมเจ็บปวดขนาดนี้ดอก”
ทานตะวันมาแอบมองแดงน้อยที่มองตามเนื้อทองจนลับตา พร้อมกับถอนอกถอนใจ
“พี่แดงน้อยก็หลงรักอีติ๋ว แต่ยอมหลีกทางให้พี่เทิดศักดิ์ โอย...รักๆ มัน กันเข้าไป”
ทานตะวันทั้งเจ็บใจทั้งน้อยใจ

เนื้อทองรายงานเนียนเรื่องที่แดงน้อยฝากมาบอก เนียนออกอาการตื่นเต้น
“พี่แพรกับพี่โพล้งกลับไปอยู่บ้านแพนแล้ว แม่ดีใจจริงๆ”
“พี่แดงน้อยฝากถามว่า แม่อยากไปหาป้าแพรกับลุงโพล้งที่บ้านแพนไหม เขาจะพาไปค่ะ”
เนียนส่ายหน้า “แม่อยากไปแต่คงไม่ได้ไป”
“ทำไมคะ แม่จากบ้านมานานมากแล้ว ทำไมแม่ไม่อยากกลับไปบ้านเลยหรือคะ”
“หนูไปดูแลคุณท่านเถิดลูก ตอนนี้คุณท่านดูชราลงมากแม่อยากให้หนูดูแลใกล้ชิดท่านไว้ให้ดีๆ นะลูก”
เนียนตัดบท เนื้อทองตัดใจ เลิกถาม

ฝ่ายแดงน้อยอยู่ในบ้านพักนายอำเภอ ครุ่นคิดเรื่องราวของชีวิตตัวเองที่ดูแปลกๆ
“น้าเนียนเป็นคนบ้านแพน คนที่น้าเนียนโอนที่ให้ น่าจะเป็นลูกของน้าเนียนที่พลัดพรากจากกันไป แต่ที่ยังโอนไม่ได้ เพราะอาจยังหาไม่พบ เราน่าจะช่วยน้าเนียนหาลูกให้พบ แถมบางทีน้าเนียนอาจรู้จักกับแม่ของเรา ทำไมเราไม่เคยถามเรื่องนี้กับน้าเนียนดูสักครั้ง บ้าจัง”
แดงน้อยเริ่มยิ้มมีความหวังจะรู้เรื่องราวของแม่จากเนียน

เทิดศักดิ์หงุดหงิดเพราะหลังกลับมาจากบ้านแดงน้อย ถามหาช้อยปรากฏว่าไม่มีใครพบเห็น เลยมาถามแม่
“ยัยช้อยหนีไปแล้ว บ้าจริง มันหนีไปตอนไหน คุณแม่ไม่เห็นหรือครับ”
“แม่ไม่รู้ไม่เห็นตอนมันไป นี่ถ้าลูกไม่มาถามหา แม่ก็ยังคิดว่ามันอยู่ข้างล่าง มันคงกลัวความผิดที่มันก่อไว้”
“ใช่ครับ ยัยช้อยโกหก ยัยช้อยไม่ได้ไปหาแม่ชีที่วัด แต่ยัยช้อยไปหานายแช่ม มันไม่ได้โดนปล้น คนที่มาส่งมันคือญาติของนายเหิม นักโทษประหารที่โดนวางยาพิษปิดปาก ขณะกำลังจะสาบานและสารภาพว่าใคร สั่งให้มันฆ่านายหวานคนบ้านเรา คุณแม่ทราบเรื่องนี้บ้างไหมครับ”
สนอึกอักแล้วทำมึนเฉไฉ
“โฮ้ย..แม่จำไม่ได้หรอก ยิ่งเรื่องราวมันนานมากแล้ว”
“หมู่เติมแกคนเก่าแก่นะครับ แกเล่าว่าคนที่ฆ่านั่นมันอำมหิตมาก มันฆ่าปิดปากหมด ถ้าใครรู้ความลับของมัน และตอนนี้มันก็ยังลอยนวล”
“คนที่อำมหิตและเก่งกล้าปานนั้นก็มีแต่เสือหนักเท่านั้น แหละลูกและมันก็ยังลอยนวล” สนใส่ไฟ
“ผมไม่เชื่อว่าเสือหนักจะฆ่าคนเล่นเป็นผักปลา ส่วนยัยช้อยหนีไปหาลูกชายแน่ๆ”
เทิดศักดิ์พูดจบก็เดินจากไป สนนั่งกุมขมับ
“อีช้อยนะอีช้อย ไปไหนทิ้งร่องรอยไว้หมด เทิดศักดิ์นะเทิดศักดิ์ทำไมต้องอยากเป็นตำรวจด้วย”
สนอ่อนอกอ่อนใจมาก

ขุนภักดีนอนไม่หลับ ครุ่นคิดเรื่องคนต้มเหล้าเถื่อนตะโกนไล่หลังเรื่องสน ภาพเหตุการณ์ที่คนต้มเหล้าบอกเรื่องสนมาเช่าเรือผุดขึ้นมาหลอน พอคิดแล้วท่านขุนถอนใจ จนเรียมแปลกใจ
“พี่เทพนอนไม่หลับ โมโหใครอีกรึ”
“เปล่า แต่พี่ พี่โมโหตัวเองที่ไม่เคยรับรู้เรื่องราวในบ้านเราอีกมากมาย”
“พี่เทพจึงไม่สบายใจหรือคะ”
“ใช่”
“บอกเรียมได้ไหมคะ เรียมยินดีรับฟัง”
“พี่ไม่แน่ใจว่าอะไรมันจริงหรือเท็จ พี่ไม่รู้ว่าเรื่องเสือหนักกับเนียนความจริงเป็นอย่างไร พี่ไม่รู้ว่ายัยติ๋วเป็นลูกพี่หรือลูกใคร พี่ไม่รู้ว่าสนคิดอย่างไร ที่ไปบอกให้เนียนสวดมนต์แก้กรรม พี่อึดอัดมากนะเรียม”
“เรียมเข้าใจค่ะ เรียมเห็นใจพี่เทพ อีกไม่นานเรียมคิดว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย ให้พี่เทพรับรู้ความจริง ขอเพียงฟังเรียมบ้าง”
ขุนภักดีกอดเรียมไว้แนบอก
“จ้ะ ชีวิตนี้ถ้าไม่มีเมียแก้วอย่างเรียม พี่คงย่ำแย่ เพราะความวู่วามบุ่มบ่ามของพี่ไม่ยอมถดถอยไปสักที พี่สัญญาว่าต่อไปนี้พี่จะสงบลงให้มากที่สุด”
“ค่ะ...สงบเถิด ก่อนที่มันอาจสายเกินไปในหลายๆ เรื่อง”
ท่านขุนพยักหน้า เรียมกอดท่านขุนไว้เหมือนกอดเด็กๆ

วันต่อมาช้อยตกใจมาก พอรู้จากแม่ชีผู้เป็นมารดา
“มีคนมาตามหาชั้นที่นี่หรือแม่ ตำรวจหรือเปล่า”
“ไม่รู้ นางช้อยแม่ชักสงสัยแล้วว่าเอ็งไปทำผิดคิดร้ายอะไรมา”
“ไม่มีอะไรดอกจ้ะแม่ แต่..แต่ ไอ้แช่มนั่นสิ มันกำลังหนีตำรวจอยู่”
“มันหนีทำไม”
“มันปล้นเขาจ้ะแม่”
“นรกเรียกหาแล้วไง”
มีเสียงปืนดังขึ้นมาแถวนั้น แม่ชีกับช้อยตกใจ
“เสียงปืน”
“หลบแม่ หลบปืน”
ช้อยรีบบอกแม่ชี

หมวดเทิดศักดิ์กับหมู่เติมวิ่งมาถึงหน้าวัดถือปืนในมือ

“หยุดยิง ที่นี่วัด มันหนีเข้าไปในนั้น ตามไป”
“หมวดจะจับเสือมือเปล่าหรือครับ”
“ปืนมีไว้ป้องกันตัว ไม่ใช่มีไว้ยิงแม้ว่ามันจะเป็นคนร้าย”
“มันมีปืนนะครับ และคนอย่างมันไม่คิดมีไว้ป้องกันตนเอง”
“มีไว้เล่นงานคนอื่นเท่านั้น”
“เราต้องระวังตัวก่อน เข้าไปได้แล้ว”
สองคนพากันเข้าไปในวัด

ช้อยกับแม่ชีแอบหลบอยู่มุมหนึ่งในวัดเห็นแช่มวิ่งหน้าตั้งมา
สองคนตาเหลือก “ไอ้แช่ม”
“แม่...ยายชี”
“เอ็งหนีใครมาไอ้แช่ม” แม่ชีถาม
“อย่าบอกนะว่าหนี...” ช้อยพูดไม่ทันจบแช่มสวนออกมา
“ตำรวจ ช่วยด้วย ขอชั้นหนีไปซ่อนในห้องยายชีนะยาย”
“ไม่ได้ หนีไปที่อื่นสิ นี่เอ็งยิงสู้กับตำรวจ” แม่ชีหวาดผวา
“คุณเทิดศักดิ์น่ะยาย... แม่”
สองคนร้อง “หา”
“ทิ้งปืน ไอ้แช่มรีบขว้างปืนทิ้ง”
แช่มเงอะงะ ช้อยคว้าปืนจากมือแช่ม ขว้างทิ้งน้ำไปทันที
“หนีไปไอ้แช่มหนี”
ไม่ทันที่แช่มจะหนี เทิดศักดิ์กับหมู่เติมก็พากันออกมา
“นายแช่ม แกถูกจับแล้ว”
“นึกแล้วว่าต้องหนีมาที่นี่” หมู่เติมว่า
“คุณเทิดศักดิ์ขา ไอ้แช่มมันทำอะไรผิดเจ้าคะ ถึงต้องตามจับมัน” ช้อยร้องถาม
“ยายช้อยจะแกล้งไม่รู้ก็ตามใจ นายแช่มหย่อนปืนแกลงพื้นเดี๋ยวนี้”
“มะ ...ไม่มีปืนครับ” แช่มโกหก
“มันไม่มีปืนดอกเจ้าค่ะ” ช้อยรีบแก้ตัวแทนลูก

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 15 วันที่ 2 พ.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager