อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 16/3 วันที่ 8 พ.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 16/3 วันที่ 8 พ.ค. 56

“ไม่ได้บอกขอรับ แต่เท่าที่กระผมทราบน่าจะหลังจากเผาญาตินั่นแหละขอรับ”
“กี่วันรึ”
“ไม่เกินสามวันดอกขอรับ”
ขุนภักดีพึมพำเบาๆ กับตัวเอง “นานเกินไป รอไม่ไหวดอก แกเอาจดหมายจากข้าไปให้เขา”
“ขอรับ”
ขุนภักดีหันไปหาปากกากระดาษและซองมาเขียนจดหมาย

ฟากสนตัดสินใจเปรยกับเทิดศักดิ์เรื่องคดีแช่ม
“คดีอย่างนายแช่ม ไม่มีใครกล้าให้ประกันตัวดอกครับ คุณแม่”
“นั่นสิ แม่ก็ว่าอย่างนั้น”
“คุณแม่ถามทำไมครับ หรือว่า ยัยช้อยแล่นมาหาคุณแม่ขอให้ช่วย”
สนส่ายหน้า “เปล่า เปล่านะลูก แม่แค่อยากรู้เท่านั้น เอ้อ แล้วถ้ามีใครรับรองมันเล่า ประกันได้ไหม”


“ได้อยู่ครับ แต่...”
“อะไรรึลูก”
“ใครเล่าครับ ที่มีอำนาจนอกจากคุณพ่อ หรือผม”
“เอ้อ...”
“คุณแม่อยากให้ผมหรือคุณพ่อช่วยประกันตัวมันออกมา หรือครับ”
“เปล่าจ้ะ แม่บอกแล้วไงว่าแค่อยากรู้”
“มันอยู่ในตะรางน่ะดีกว่า อยู่ข้างนอกนะครับตายเอาง่ายๆ คนร้ายยังลอยนวลนะครับ”
สนพยักหน้า ไม่กล้าจะซักถามอะไรต่อ ยิ่งเทิดศักดิ์พูดเรื่องคนร้าย ทำให้สนยิ่งหุบปาก แต่ทุรนทุราย
มากขึ้นทุกที
“ผมต้องรีบไปเข้าเวร”
เทิดศัดิ์เดินออกไป สนเครียดจัด
“ต้องกำจัดอีช้อย แต่จะหาโอกาสได้อย่างไร”

นางสนคนชั่ว พยายามคิดหาหนทางที่จะกำจัดช้อยให้ได้
ด้านเนียนกลับมาจากงานศพที่วัดบ้านแพน มาถึงท่าน้ำบ้านเนิบแล้ว แพรและโพล้งมาถึงเช่นกัน

“เนียน”
เนียนก้าวขึ้นมาตื่นเต้นดีใจ
“พี่แพร พี่โพล้ง”
เนียนกับแพรแล่นเข้ามากอดกันดีใจจนน้ำตาร่วงทั้งสองฝ่าย โพล้งมองยิ้มอยากไปกอดดีใจบ้าง ติดที่แพรกำลังดีใจ
“คิดถึงเหลือเกิน จากกันนานมากเท่าอายุแดงน้อย”
“เกือบเท่าตะหาก ขาดไปสองเดือน” โพล้งท้วง
“ไอ้โพล้งแกจะขัดคอไปหาอะไร เนียน ๆ พี่รับรู้ความทุกข์ ของเนียนมาจากยัยอ่อน สงสารเนียนเหลือเกิน” แพรบอก
“ข้าก็รับรู้มาจากไอ้แดงน้อย เอ็งเกิดมามีกรรมเหลือเกินนะเนียน” โพล้งว่า
“ชั้นชินแล้วจ้ะพี่แพร พี่โพล้ง เพิ่งมาถึงกันหรือจ๊ะ”
“เพิ่งมาน่ะสิ กะแล้วว่าต้องเจอเนียน มีเรื่องสำคัญจะบอกให้ไปจัดการเสียให้จบ” แพรว่า
“เรื่องที่นาที่เอ็งยกให้แดงน้อยมันน่ะ เอ็งเขียนมาว่าให้พวกข้าจัดการ ยายอ่อนแกฝากเงินมัดจำมาแล้ว แต่ว่าเอ็งต้องไปปรากฏตัวเซ็นโอนให้เป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นมันจัดการอะไรไม่ได้” โพล้งบอก
“แต่เนียนจะให้แดงน้อยรู้ตัวตอนนี้ไม่ได้นี่จ๊ะ” เนียนว่า
“ก็ไปโอนไปเซ็นตามที่หลวงท่านว่าก่อนเถิด เรื่องแดงน้อยนั่นเอาไว้ว่ากันทีหลัง เสร็จงานศพนี่ไปเลยนะเนียน” โพล้งสรุป
“จ้ะ” เนียนเห็นด้วย
ยินเสียงเรือติดเครื่องดังแว่วมา ทุกคนมองหน้ากัน
“ใครมา”
“หรือว่าพี่หนัก” โพล้งโพล่งขึ้น
เนียนจุ๊ปาก เรือโผล่เข้ามา เป็นถมนั่นเอง
“เนียน อยู่ไหม”
“อ้าว นายถม”
“รีบขึ้นเรือไปไวๆ ท่านขุนให้มารับกลับไปเดี๋ยวนี้”
เนียนตกใจมากหน้าเสีย ซีดเป็นกระดาษขาว นึกว่ามีเรื่องร้ายอีก
“มีใครกล่าวหาว่าเนียนไปทำอะไรผิดอีกรึ พ่อคุณ” แพรสงสัย
“ไม่รู้ ชั้นไม่รู้ รู้แต่ว่าท่านขุนท่านผิวปากมาตั้งแต่กลับมาจากศาลากลางแล้ว ไว ๆ ให้ไวเลยเนียน ประเดี๋ยวท่านจะเคือง เพราะท่านมีราชการด่วนเข้ากรุงเทพฯ พรุ่งนี้แต่เช้ามืด นี่จดหมายอ่านเสีย”
ถมยื่นจดหมายให้ เนียนรับจดหมายหันมาอาลัยอาวรณ์แพรกับโพล้ง สองคนรีบผลักไสเนียนลงเรือ
“ให้ไว เลยเนียน”
“แล้วรีบกลับมาเผาศพ จะได้รีบไปจัดการธุระให้เสร็จ”
เนียนลงเรือไป แพรกับโพล้งมองตามด้วยสายตาเป็นห่วงเนียน

เนียนแปลกใจและฉงนสนเท่ห์นัก เนียนชะเง้อมองไปเบื้องหน้าใจจดใจจ่อ เนื้อความในจดหมายราวกับเสียงท่านขุนมาอ่านให้ฟัง ทำให้เนียนมีสีหน้าอิ่มเอิบมาก

“เนียน พี่ต้องการพบเนียน ด้วยมีเรื่องซักถามเนียนมากมายนักล้วนแต่สำคัญต่อชีวิตของเรา รีบมาพบพี่ด่วน รอพี่ที่ท่าน้ำพูดธุระเสร็จ จะให้ไอ้ถมไปส่ง เรื่องนี้ขอให้เก็บเป็นความลับไว้ก่อน
ภักดีภูบาล”

เนียนยิ้มนิดหนึ่งถอนอกถอนใจ
“ท่านเรียกแทนตัวเองว่าพี่กับเรา นี่ เกิดอะไรขึ้น”

ฟากขุนภักดีผุดลุกผุดนั่ง พลอยทำให้เรียมผุดลุกตามไปด้วย
“พี่เทพ ผุดลุกผุดนั่ง ทุกเสี้ยวยาม มีอะไรหรือคะ”
“พรุ่งนี้พี่ต้องไปราชการกรุงเทพฯ แต่เช้าจ้ะ”
“แล้วกระไรมิรีบหลับนอน มาผุดลุกผุดนั่งอย่างนี้ทำไมหรือคะ”
“พี่ เอ้อ เอ้อ เนียน...” ขุนภักดีจะบอกว่าตนนั้นใจจดใจจ่อกับเนียนแล้วรีบค้างคำ
“ว่ากระไรนะคะ” เรียมยิ่งแปลกใจ
“เอ้อ เรียมจัดเสื้อผ้าให้พี่แล้วใช่ไหมจ๊ะ”
“ค่ะ พี่เทพห่วงอะไรกันแน่คะ ห่วงเสื้อผ้า ห่วงกลัวไปราชการไม่ทัน หรือว่ามีเรื่องอื่นให้ห่วง เช่นอย่างที่คุณแม่ท่านเอ่ยมานั่น”
“นี่เรียมคิดว่าพี่จะมีเมียน้อยเหมือนคุณแม่อีกคนแล้วรึ”
เรียมส่ายหน้า
“ก็พี่เทพดูไม่ปกตินี่คะ”
เสียงระฆังโบสถ์ตีบอกเวลา สี่นาฬิกา ขุนภักดีลุกพรวด
“พี่จะออกไปเดินดูรอบๆ บ้าน”
ว่าแล้วท่านขุนก็ออกไปโดยไม่หันมาทางเรียม เรียมได้แต่มองตาม
“พี่เทพ ต้องกังวลเรื่องอะไรแน่ๆ แต่เรื่องอะไรรึ”
เรียมคิดไม่ตก

ขณะเดียวกันสนนอนไม่หลับ ทอดสายตามองออกไปครุ่นคิดเรื่องช้อย
“เราต้องกำจัดอีช้อย ปากปลาหมอ เราต้องรู้ให้ได้ว่าอีช้อยไปคุยอะไรกับอีแก่ เราต้องเอ๊ะ นั่น นั่น”
สนชะโงกยื่นหน้าไปเขม้นมองดู เห็นรูปร่างคนที่เดินมาเป็นผู้หญิง
“ผู้หญิง หรือว่าอีช้อย”
สนฉวยมีดปลายแหลมกำไว้ในมือแน่น

“ดีละ ขอให้เป็นมึงจริงๆ เถิดอีช้อย”
สนเดินมาเจอเอารองเท้าสองข้างวางอยู่ขอบศาลาท่าน้ำด้านใน

“รองเท้าแตะ”
สนมองเลยไปเห็นเป็นเนียน กำลังนั่งใจลอยเหม่อ
“ของอีเนียน ไม่ใช่อีช้อย แต่อีเนียนมันมานั่งลอยหน้าทำอะไรตอนใกล้จะเช้า”
สนเตะรองเท้าของเนียนกระเด็นไปคนละทิศคนละทางแล้วเดินไปหาทันที
“เนียน แกมานั่งลอยหน้ารอใคร รึ”
“เอ้อ...”
สนจ้องหน้าเนียนเขม็ง

เวลานั้นขุนภักดี เดินมากับถมที่มารายงาน
“มาแล้วขอรับ ท่านขุน”
“อยู่ที่ท่าน้ำรึ”
“ขอรับ”
“แกห้ามบอกใครทีเดียวว่าแกไปทำอะไรมาในคืนนี้”
“ขอรับ”
“แกหลบอยู่แถวนี้ เสร็จธุระแล้วข้าจะเรียกแกให้รีบไปส่งเขา”
“ขอรับ”
ถมหลบไป ท่านขุนขยับจะเดินต่อชะงัก
“สน สนมาทำไม บ้าแท้ๆ”
ขุนภักดีทำอะไรไม่ถูก กระซิบเรียกถมให้มาหา
“ถม” ท่านขุนสั่งการให้ถมทำอะไรซักอย่าง
“ได้ขอรับ”
ถมย่องไปอีกทาง เพื่อทำตามที่ท่านขุนสั่ง

ฝ่ายสนยังคาดคั้นเนียนไม่เลิกรา
“ข้าถามเอ็งว่า มานั่งลอยหน้าหาใคร ทำไมไม่รีบตอบ นังเนียน”
“ชั้นตอบไม่ได้ค่ะ”
“นี่เอ็งจงใจฝืนคำสั่งข้า เอ็งกล้าอวดดีกับข้า นังคนตกกระป๋องจะบอกหรือไม่บอก ว่าเอ็งรอใคร”
“ไม่บอกค่ะ”
สนโกรธ ชักมีดออกมาขู่
“เอ็งจะบอกหรือไม่บอก”
เนียนส่ายหน้า

ท่านขุนแอบมองอยู่ ทั้งตกใจ ตื่นตะลึงกับการกระทำของสน
“สนใจร้ายแท้ๆ”
ขุนภักดีทึ่งในความเชื่อฟังของเนียนที่ตนขอร้องห้ามบอกใคร
“เนียน ช่างเชื่อฟังเราเหลือเกิน ไม่ได้การละ ปล่อยไว้สนจะไม่ใช่แค่ขู่เนียน ทำไมไอ้ถมยังไม่รีบทำตามที่สั่ง”
ขุนภักดีพรวดจะออกไป เสียงถมตะโกนขึ้นพอดี
“ไอ้เสือมา เสือหนักมาแล้ว”

สนกำลังขยุ้มหัวเนียนจิกไว้ เงื้อมีดขึ้นแต่ได้ยินเสียงถมตะโกนแถมเรียกชื่อเสือหนัก สนเข่าอ่อนทันที
“เสือหนัก”
สนปล่อยมือจากเนียน ถือมีดวิ่งพรวดกลับไปทางเรือน
“ไม่นะ ไม่นะ กลัวแล้ว”
สนวิ่งหายไป แต่เนียนกลับยืนนิ่ง ไม่ขยับ ได้แต่อุทานเบาๆ
“พี่หนัก แย่แล้ว ถ้าเกิดท่านขุนมาเจอพี่หนัก”
เนียนละล้าละลัง รอจะบอกให้หนักหนี
ขุนภักดีแอบมองสนที่วิ่งตัวสั่นงันงกปากก็พร่ำคำว่ากลัวแล้ว กลัวแล้ว ท่านขุนยิ้ม
“ได้ผล สนกลัวจนตัวสั่น”
สนวิ่งผ่านหน้าท่านขุน วิ่งไปหันไปดูเบื้องหลัง
“กลัวแล้ว ชั้นไม่ได้ทำอะไร ชั้นเปล่าทำอะไรเนียนนะ ชั้นแค่มาพูดคุยกับเนียน”
สนผ่านไป ท่านขุนแปลกใจมาก
“สนกลัวจนเสียสติ ทำไมต้องบอกเสือหนักว่าไม่ได้ทำอะไรเนียน แปลกแท้ๆ แต่ทำไมเนียนกลับไม่กลัว กลับยืนนิ่ง ราวกับจะส่ายตาหาเสือหนัก หรือว่า...”

ไวเท่าความคิด ขุนภักดีสาวเท้าออกไปทันที
ด้านเนียนกำลังชะเง้อชะแง้มองหาแต่หนัก

“พี่หนักโธ่ ทำไมจะพาพวกมาปล้นบ้านท่านขุน พี่หนักวิปลาสไปแล้วรึ”
ท่านขุนมาถึงตัวเนียน
“เนียน”
เนียนสะดุ้งวาบตกใจ โผนมาเอาตัวบังกางมือบังท่านขุนเอาไว้
“อย่านะอย่าทำอะไรท่านนะ อยากทำอะไร มาทำชั้นสิ”
ขุนภักดีซาบซึ้งในน้ำใจของเนียน จนอดโอบกอดเนียนไว้ไม่ได้
“นี่เนียนห่วงใยพี่ ถึงกับยอมตายแทนพี่เลยรึ”
“เจ้าคะ หลบไปเจ้าค่ะ เนียนไม่ยอมให้เขาทำร้ายท่านดอกเจ้าค่ะ”
นั่นทำให้ขุนภักดีนึกสนุกขึ้นมา แกล้งเนียนต่อ
“พี่มีปืน ลองมายิงพี่สิ พี่จะยิงมันกลับเช่นกัน”
ว่าแล้วท่านขุนชักปืนออกมา
เนียนตกใจ “โอ๊ย ตายแล้ว”
ขุนภักดีเอามือปิดปากเนียนที่ตกใจ จนจะเป็นลม
“ไม่มีเสือสางที่ไหนดอก พี่เย้าเนียนเล่น เสียงไอ้ถมมันทำอุบายให้สนตกใจแล้วหนีไปต่างหาก”
“โธ่”
เนียนเบี่ยงตัวออกจากวงแขนท่านขุนทรุดตัวลงไปนั่ง กับพื้นก้มหน้างุด ขุนภักดีดึงเนียนขึ้นมาโอบไว้
“ขอบใจมากนะเนียน ที่เชื่อฟังคำขอของพี่ และยอมตายเพื่อพี่”
“เอ้อ...”
“ไปนั่งตรงนั้นแล้วมาคุยกันนะคนดี”
เนียนฟังแล้วสับสนชีวิตที่กลับตาลปัตรในชั่วไม่ทันข้ามคืน ขุนภักดีพาเนียนไปนั่งที่ม้านั่งยาวตรงมุมหนึ่ง จับมือเนียน มองหน้าเนียน เนียนหลบตา ท่านขุนเชยคางเนียนให้มองหน้า
“อย่าก้มหน้า อย่าหลบตาพี่ จงสบตาพี่ แล้วมองหน้าพี่ เพื่อที่เนียนจะได้ รับรู้ถึงความรู้สึกของใจ พี่เสียใจ และขอโทษ”
เนียนอึ้ง “ท่านขุน”
“พี่ขุน ต่อไปนี้ไม่มีคำว่าท่านขุน มีแต่คำว่าพี่ขุน เนียนจ๋า”
“เจ้าค่ะ”
“ทำไมใช้คำพูดกับผัวว่าเจ้าค่ะ คะ ขาเท่านั้นมันก็เพียงพอแล้วคนดีของพี่”
“เนียน เอ้อ...”
ขุนภักดีดึงเนียนมาโอบกอด เนียนทำอะไรไม่ถูก ตัวสั่นไปหมด

ฟากสนนอนสั่นคลุมโปงด้วยความ ร้องไห้กระซิกๆ
“ชั้นไม่ได้ทำอะไรมันนะ ไม่ได้ทำ อย่ามาทำร้ายชั้นเลย ชั้นกลัว ชั้นกลัว”
จังหวะนี้เทิดศักดิ์กลับมาจากเข้าเวร จะกลับห้อง เดินผ่านห้องนอนสนได้ยินเสียงแม่ร้องไห้กระซิกๆ
“คุณแม่ร้องไห้ทำไม”

ส่วนที่ท่าน้ำเนียนน้ำตาไหล ขุนภักดีจับมือเนียนไว้มือหนึ่ง อีกมือเช็ดน้ำตา
“อย่าร้องไห้คนดีของพี่ ต่อไปนี้จะมีแต่เรื่องๆดีทั้งสิ้น พี่ขอบคุณที่ช่วยชีวิตหนูอี๊ด”
“ค่ะ อย่าว่าแต่ช่วยชีวิตเลยค่ะ แม้แต่ชีวิตของเนียนก็ยกให้ได้ค่ะ”
“พี่รู้แล้ว รู้ซึ้งไปถึงก้นบึ้งหัวใจของพี่ พี่ขอบคุณที่เนียนไม่โกรธตอบ ไม่อาฆาตแค้นทุกคนที่ทำร้ายเนียน ทั้งที่เจตนาและเข้าใจผิด”
“เอ้อ ค่ะ ทุกอย่างผ่านไปหมดแล้วค่ะ ช่างเถิดค่ะ”
“ในขณะที่เนียนเอาแต่บอกช่างเถิดๆ แต่บางคนยังเอาเรื่องเอาราวอยู่ เมื่อสักครู่พี่เห็นนะว่าสนกำลังจะทำอะไรเนียน”
เนียนเข้าใจเรื่องราว “เนียนเข้าใจแล้วว่าทำไมนายถมจึงตะโกนเช่นนั้น ขอบพระคุณค่ะ แต่...”
“อะไรรึ”
“คุณสนคงจะตกใจมาก”
“สนควรรู้จักตกใจมากบ่อยๆ จะได้ระงับจิตใจในเรื่องริษยาไว้บ้างสุดท้าย สำคัญที่สุดที่พี่จะพูดกับเนียน แต่พี่อายมาก กระดากปากมากเลวร้ายกับเนียนตีเนียนผิดๆ ตีหนูติ๋ว เรื่องพาหนูอี๊ดไปแกล้งทำเรือล่ม พี่รู้ความจริงหมดแล้ว”
“ท่านขุน เอ้อ... พี่ขุน”
ขุนภักดีมองหน้าเนียน สองคนสบตากัน

ส่วนสนนอนคลุมโปง สั่นไปหมดทั้งร่าง กลัวจับจิต
“อย่าทำชั้นเสือหนัก อย่าทำร้ายชั้น ชั้นไม่ทำร้ายเนียนอีกแล้ว”
เทิดศักดิ์เอื้อมมือไปแตะแม่ สนร้องกรี๊ดดด
“คุณแม่ นี่ผมเองครับ”
สนตวัดผ้าห่มออกมา โผเข้ากอดเทิดศักดิ์แน่น
“ช่วยแม่ด้วย ช่วยแม่นะ เสือหนักมันจะมาฆ่าแม่”
“คุณแม่ฝันไปหรือเปล่าครับ ผมกลับมาบ้านเราก็ปกติดี แล้วเรื่องอะไรเสือหนักจะมาปล้นบ้านเรา ในเมื่อเสือหนักกำลังหนีผม หนีแดงน้อย หนีคุณพ่อ เขาเก็บตัว เขาไม่มาดอก”
“มันมาจริงๆ มันตะโกน ไอ้เสือมา เสือหนักมาแล้ว”
“อาจมีใครสวมรอยมาแกล้งว่าเป็นเสือหนัก ผมก็เคยเจอมาแล้วนะครับ”
สนค่อยคลายตกใจลง แต่ไม่ทั้งหมด
“แต่แม่ก็ยังกลัว”
“ถ้าเช่นนั้นผมจะลงไปดูลาดเลาเผื่อจะพบเจออะไรผิดปกติ”
เทิดศักดิ์ลุกขึ้น สนดึงไว้พลางส่ายหน้า
“อย่า อย่าไปลูก อย่าไปเจอมัน มันจะฆ่าลูกนะ”
เทิดศักดิ์ส่ายหน้า “ผมไม่กลัว”
เทิดศักดิ์ห่มผ้าให้แม่แล้วลุกออกไป สนมองตามยิ่งผวาหนัก
“นี่กูทำอะไรลงไป เกิดเทิดศักดิ์ไปเจอไอ้หนักแล้วมันพูดความจริงออกมา นี่กูกำลังจะเป็นบ้าแล้ว ฮือๆๆๆ”

สนคิดไม่ตก เอาแต่ตีอกชกหัวไปมา
ฝ่ายขุนภักดียังพูดคุยเปิดใจกับเนียนต่อ จนมาถึงเรื่องสุดท้าย

“เรื่องสุดท้ายที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตพวกเรา คือเรื่องของ หนูติ๋ว”
จังหวะนี้ยินเสียงเทิดศักดิ์ตะโกนถามมา
“ใครอยู่ที่ท่าน้ำ”
“เทิดศักดิ์มา”
เนียนหันไปหารองเท้า “หายไปไหน”
“หาอะไรรึเนียน”
“รองเท้าค่ะ หายไปไหนแล้ว”
“หายไปไหนก็ช่าง ไปหาซื้อเอาใหม่ รีบไปก่อนที่เทิดศักดิ์จะมาเห็น”
ท่านขุนควักเงิน ยัดใส่มือเนียนแล้วดันออกไป
“เนียนไปก่อนนะคะ”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 16/3 วันที่ 8 พ.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager