อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 21/2 วันที่ 11 พ.ค. 56
คืนนั้นคีรินทร์นอนก่ายหน้าผากคิดหนักเรื่องวัฒนาอย่างกังวล ไข่มุกเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ ใบหน้านิ่ง นั่งลงปลายเตียง คีรินทร์ลุกขึ้นเอาผ้าในมือช่วยเช็ดให้แล้วกอดแน่น“เกือบจะไม่ได้กลับมากอดเมียแล้ว ขอชื่นใจทีนึงนะ” คีรินทร์จะหอม ไข่มุกนิ่งให้หอมแต่สีหน้าเฉยเมย คีรินทร์หอมค้าง แล้วมองสงสัย “อ้าว งอนอะไรอีกล่ะ” ไข่มุกนิ่งเฉยไม่ตอบ “คุณคร้าบบ คุณภรรยา ไม่พูดอย่างงี้จะรู้ได้ไง หันมาเร็ว ให้จุ๊บทีนึงแก้งอน” ไข่มุกไม่ตอบ หันมามองหน้าแล้วเมิน คีรินทร์มองอย่างฉุนๆ “อะไรอีกเนี่ย น่า หันมาเร็วๆ”
คีรินทร์แกล้งเอามือลูบไหล่ไข่มุก ไข่มุกปัดมือออกทันที คีรินทร์ทำหน้าบึ้ง “เออ งอนไปเลย ชั้นจะถูกฆ่าอยู่แล้ว เครียดจะตาย ยังงอนอยู่ได้ เบื่อ ปวดหัว เซ็ง ทำไมไม่เข้าใจบ้าง”
?“จบยัง จบแล้วใช่มั้ย งั้นตาชั้นบ้าง” ไข่มุกเอาผ้าในมือฟาดไปพูดไป “ชั้นก็เบื่อ เซ็ง เครียดจะตายเหมือนกัน ผู้หญิงคุณมีเป็นร้อย ตามราวีกวนชั้นกับลูกไม่ได้หยุด ไหนว่าจะจัดการ ไม่เห็นทำอะไรสักอย่าง เดี๋ยวก็กอดคนนู้น ซบคนนี้”
คีรินทร์ปัดป้องผ้าที่ฟาดมา
“เฮ้ย อย่า เจ็บ ไข่มุก เจ็บ บอกว่าเจ็บ”
“เจ็บสิดี ชั้นสุดจะทนแล้ว ชั้นเหนื่อย เบื่อมากๆ เบื่อ”
คีรินทร์แย่งผ้าเช็ดตัวมาได้ก็โยนทิ้ง ไข่มุกมองตาเขียวแล้วล้มตัวนอนหันหลังให้คีรินทร์ คีรินทร์มองอย่างโมโห ทำท่าอยากขย้ำ แต่ห้ามใจไว้?
“ได้ เอาแบบนี้ใช่มั้ย ไม่ต้องพูดกันแล้ว งอนไปเลย”
คีรินทร์นอนหันหลังให้เหมือนกัน สีหน้าโมโหไม่หาย พอจะดึงผ้ามาห่มก็ถูกไข่มุกดึงไปห่อตัว คีรินทร์หันมองแล้วฟึดฟัดหันกลับ นอนหลับตาทั้งๆ ที่ไม่มีผ้าห่ม
วันต่อมานุชนารถนัดเจอกับวัฒนาที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง วัฒนายืนรออยู่ใต้ต้นไม้ในสวนสาธารณะ นุชนารถเดินมาจากข้างหลัง ท่าทางโมโห พอถึงตัววัฒนาก็ทุบไม่ยั้ง วัฒนาตกใจ จับข้อมือไว้ให้หยุด
“เป็นบ้าอะไร”
นุชนารถสะบัดมือออก
“ไหนว่าจะทำนังมุก ไม่ยุ่งกับรินทร์ไง แล้วเมื่อวานน่ะอะไร” วัฒนานิ่งไม่ตอบ นุชนารถมองอย่างโมโหจัด “ชั้นจะไม่ช่วยคุณแล้ว ไม่ต้องติดต่อมาด้วย อย่ามายุ่งกับชั้นอีก”
“ก็ได้ๆ โอเค ผมสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับไอ้รินทร์แล้ว พอใจยัง” วัฒนามองหน้าไข่มุก “แต่คุณช่วยผมเรื่องสุดท้ายได้มั้ย ถ้าสำเร็จ ผมไปแน่”
นุชนารถมองอย่างระมัดระวัง
“อะไร”
“ผมอยากได้ในสิ่งที่ควรจะได้”
วัฒนาพูดแล้วยิ้มร้าย นุชนารถมองอย่างไม่ไว้ใจ
ไข่มุกเดินขึ้นบันไดในบ้านไปถึงกลางบันไดเจอกับภัททิมาเดินสวนลงมา ไข่มุกจะหลบแต่ภัททิมากลับปิดทาง ไข่มุกขยับไปอีกด้านก็ตามไปปิดอีก
“หลบหน่อยค่ะ คุณลูกไก่”
“ไม่หลบ จะทำไมยะ”
ไข่มุกถอนใจจะเดินสวนขึ้น ภัททิมารีบเบียดไหล่อย่างแรง
?“ว้าย”
ไข่มุกเซเกือบจะตกบันได แต่มือเหนี่ยวราวบันไดไว้ได้ทัน ภัททิมาเบียดอีกแต่เหยียบพื้นลื่นหล่นลงไปสองสามขั้นกองอยู่ตรงชั้นพัก?
“ว้ายย โอ้ยย เจ็บ”
ไข่มุกกำลังจะเหนี่ยวตัว นุชนารถเดินลงมาจากบันไดชั้นบนมองไข่มุกอย่างเย็นชาแล้วเดินเลยไปถึงภัททิมาที่นอนกองเจ็บขาอยู่ นุชนารถมองอย่างสมน้ำหน้าทั้งคู่แล้วเดินลงไป ภัททิมากรี๊ดลั่น
“อ๊ายยย นังบ้า ไม่ช่วยยังเยาะเย้ยอีก”
ชลลดาโผล่มาจากชั้นบนหน้าตาตื่น วิ่งลงมาประคองภัททิมา
?“ลูกไก่ โธ่ เจ็บตรงไหนลูกขา” ชลลดามองหน้าไข่มุก “เดินอีท่าไหนยะ ทำลูกชั้นกลิ้งขนาดนี้ ดีนะไม่ตกลงไปคอหัก”
“แผนคุณแม่ทำลูกไก่เกือบตาย ดีนะมือเหนียว” ภัททิมากระซิบบอกแล้วพูดเสียงดังปนร้องโอดโอย “หัดระวังมั่งสิยะ ฮือออ เจ็บไปทั้งตัวกระดูกร้าวมั้ยเนี่ย”
ภัททิมาทำร้องสะอื้นสำออย
“ลูกคุณต่างหากที่ชนชั้นแล้วตกลงไปเอง” ไข่มุกบอก
“นี่แกว่าลูกชั้นซุ่มซ่ามเหรอ” ไข่มุกมองแล้วหันหลังเดินขึ้นชั้นบนไปอย่างไม่สนใจปนเบื่อหน่าย ชลลดามองตามอย่างนึกแค้น “หนอย หนังเหนียวนักนะ คราวหน้าแม่จะเล่นให้เดี้ยงเลย”
“ก่อนมันจะเดี้ยง ลูกไก่ได้ตายก่อนแหง โอยย”
ภัททิมาพูดไปร้องไห้ไป
วันเดียวกันนั้นที่หน้าโกดังร้าง นุชนารถยื่นคีย์การ์ดให้วัฒนา วัฒนายื่นมือรับด้วยใบหน้ายิ้มๆ อย่างมีแผนการ
“ขอบใจนะ”
นุชนารถมองอย่างระแวง
“คุณเอาคีย์การ์ดชั้นห้องผู้บริหารไปทำไม”
วัฒนานิ่ง ยิ้มนิดๆ
“อาทิตย์หน้าจะมีประชุมกรรมการผู้ถือหุ้นใช่มั้ย”
นุชนารถยิ่งงงเข้าไปใหญ่ วัฒนายิ้มร้าย
คืนนั้นเขมทัตยังอยู่ที่ห้องทำงานกำลังเซ็นเอกสารปึกใหญ่ เสียงวัฒนาที่บอกนุชนารถถึงแผนการดังแทรกเข้ามา
“ก่อนการประชุมกรรมการผู้ถือหุ้น คุณเขมทัตมักจะอยู่อ่านรายงาน และเคลียร์เอกสารจนดึก”
เลขาเคาะประตู เดินเอาแฟ้มงานมาวางบนโต๊ะ
“แต่เลขาของเขาจะกลับบ้านตอนสี่ทุ่ม เวลานั้นแหละที่ผมต้องการ”
นาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่มนิดๆ
“ท่านประธานคะ ดิชั้นขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“อ้าว สี่ทุ่มแล้วเหรอ โทษทีๆ กลับก่อนได้เลย เดี๋ยวผมดูเอกสารนี่อีกแป๊บนึง”
เลขาไหว้ขอบคุณ เขมทัตพยักหน้าแล้วก้มลงอ่านเอกสารต่อ
เลขาเดินหิ้วของออกมานอกห้องแล้วกดลิฟต์ เข้าไปในลิฟต์ ประตูลิฟต์ปิดลง วัฒนาที่ซุ่มอยู่เดินออกมา หยิบคีย์การ์ดแล้วยิ้มร้าย รูดคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าห้อง
เขมทัตนั่งทำงานอยู่ในห้อง เสียงเปิดประตูกับฝีเท้าเดินเข้ามา เขมทัตถามทั้งๆ ก้มหน้าอ่านเอกสาร
“ลืมอะไรเหรอ ทำไมยังไม่กลับอีก” วัฒนาเงียบ เขมทัตเซ็นเอกสารอยู่ก็ชักเอะใจเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเป็นวัฒนาก็ตกใจ พยายามคุมสติ “วัฒนา”
วัฒนาหยิบปืนออกมาขู่ เล็งที่เขมทัต?
“ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งครับ ท่านประธาน”
“มาทำไม จะเอาอะไรอีก”
เขมทัตพูดนิ่งๆ เลื่อนมือจะกดปุ่มเรียกรปภ. วัฒนาเห็นก่อนปัดมือเขมทัตแล้วเลื่อนปืนเข้าไปใกล้ เขมทัตรีบยกสองมือ
“อย่าดีกว่า ไม่งั้นผมอาจจะทำปืนลั่นขึ้นมาก็ได้”
วัฒนาหยิบโทรศัพท์ของเขมทัต
“ตามมันออกมา”
เขมทัตนิ่ง ไม่ยอมรับโทรศัพท์มา
“ชั้นไม่โทร”
วัฒนาแค่นยิ้มร้าย ยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้ามองสบตาเขมทัต
“จะโทรหรือจะเป็นศพตอนนี้ เลือกเอาแล้วกัน”
วัฒนามองสบตาเขมทัตอย่างเป็นต่อ เขมทัตมองโทรศัพท์สลับกับวัฒนาอย่างตัดสินใจไม่ถูก
ไข่มุกเดินอยู่ในห้องโถงกำลังจะเดินไปห้องครัว โทรศัพท์ดังขึ้น ไข่มุกกดรับ
“ค่ะคุณพ่อ ให้ไปคนเดียวห้ามบอกใครเหรอค่ะ ค่ะ หนูจะรีบไป”
ไข่มุกกดปิด สีหน้ากังวลใจปนสงสัยนิดๆ แล้วรีบร้อนเดินผ่านห้องโถงออกไปด้านนอกสวนกับชลลดาและภัททิมาที่เข้ามาด้านใน
“จะไปไหนยะ ดึกๆดื่นๆ รีบหูตั้งเชียว” ไข่มุกไม่ตอบ เดินเลยออกไป?“เอ๊ะ เดี๋ยวนี้ทำหยิ่งเหรอ”
“สงสัยแอบไปหากิ๊กแน่ๆ เลยค่ะ คุณแม่ขา”
ชลลดามองภัททิมาอย่างอ่อนใจ
“กิ๊กแก๊กอะไร ท้องอย่างงี้กิ๊กกระเจิงหมดแล้วแหละ แม่ว่าท่าทางอย่างงี้ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ”
ชลลดามองตามอย่างสงสัย สีหน้าอยากรู้อยากเห็นมาก
รถของคีรินทร์แล่นมาเกือบถึงหน้าบ้าน ไข่มุกโบกแท็กซี่ที่กำลังจะจอด คีรินทร์ลดกระจกจะเรียก??“ไข่มุก ไข่มุก จะไปไหน” ไข่มุกไม่ได้ยิน ขึ้นแท็กซี่แล้วออกรถไป คีรินทร์มองตามอย่างสงสัย “ดึกป่านนี้จะไปไหนอีกหรือว่าไปหาผู้ชาย”
คีรินทร์มองตาม แล้วขับรถตามไปอย่างใจร้อนปนสงสัย
เขมทัตยืนอยู่หน้าเซฟในห้องทำงาน เขมทัตยืนนิ่ง ทำท่าคิด วัฒนามองอย่างหงุดหงิด
“เร็วๆ สิ”
เขมทัตถอนใจ หันกลับมามอง
“เดี๋ยวก่อน ขอเวลานึกแป๊บ” เขมทัตทำยืนงงๆ จับตู้เซฟทำท่าจะหมุนอย่างนึกไม่ออก “เอ...อันไหนหว่า หมุนก่อนใส่รหัส หรือใส่รหัสก่อนหมุนสองรอบ”
“อย่ามาลูกเล่น เปิดไวๆ ผมไม่มีเวลาแล้ว”
“ใจเย็นๆ สิ คนแก่ จำอะไรไม่ค่อยได้ ตาก็ไม่ดี ยิ่งเร่งยิ่งทำผิด” วัฒนาเอาปืนจี้เอว
“จำได้หรือยัง เปิดซะ จะยอมเสียแค่ของหรือจะทิ้งชีวิตไว้ที่นี่”
เขมทัตชะงัก มองตู้เซฟแล้วกดรหัส
“ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ชั้นเสียดายเธอจริงๆ”
เขมทัตพึมพำแต่วัฒนาไม่ฟัง เซฟส่งสัญญาณรหัสถูกต้อง ประตูเซฟเปิดออก เห็นเงินเป็นฟ่อนและทองคำเต็มตู้ เครื่องเพชรอีกมากมาย วัฒนามองของในเซฟตาโตอย่างโลภมาก เขมทัตมองวัฒนาอย่างเสียดายในความสามารถและความโลภของวัฒนา
แท็กซี่จอดลงที่ริมถนนใหญ่ ไข่มุกลงจากรถมายืนรอ คีรินทร์แล่นรถตามมาห่างๆแล้วจอดไกลออกไปแอบซุ่มดู
ไข่มุกยืนหันซ้ายขวา รถของเขมทัตแล่นมาจอดเทียบ ไข่มุกเปิดประตู
“คุณพ่อ...วัฒนา”
ไข่มุกชะงักอย่างตกใจ วัฒนาถือปืนเล็งมาที่ไข่มุก
?“ขึ้นมา”
ไข่มุกส่ายหน้า ทำท่าจะถอย
“ไม่ แกทำอะไรคุณพ่อ เขาอยู่ที่ไหน”
คีรินทร์ที่จอดรถซุ่มดูอยู่ไกลๆ มองอย่างสงสัย เห็นไข่มุกทำท่าละล้าละลัง
“พ่อนัดไข่มุกออกมาทำไม”
วัฒนาดึงมือไข่มุก
“ขึ้นมาเดี๋ยวนี้”
“ไม่ ตอบมาก่อน คุณพ่ออยู่ไหน ปลอดภัยมั้ย”
วัฒนาเอามือฉุดไข่มุกดึงขึ้นรถทันที ไข่มุกทำท่าจะร้องแต่ประตูรถปิดลงก่อน คีรินทร์มองอย่างตกใจปนงงมาก
“เฮ้ย มีฉุดขึ้นรถด้วย เล่นอะไรของเขาเนี่ย”
คีรินทร์มองรถเขมทัตที่แล่นห่างออกไป แล้วรีบขับตามไปอย่างงงๆ
มณีถือถุงช็อปปิ้งเดินบ่นๆ จิ้มโทรศัพท์อยู่ตรงทางเดินหน้าห้องทำงานเขมทัต
“ฮึ่ม โทรไม่รับ จะทำงานอะไรดึกดื่นนักหนา” มณีเดินมาถึงหน้าห้องทำงานที่เปิดไฟก็เปิดเข้าไปทั้งที่ไม่ได้มอง
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์คะคุณ ชั้นช็อปจนห้างปิดแล้ว” มณีมองเขมทัตแล้วร้องออกมาอย่างตกใจ “ว้ายยย”
เขมทัตโดนมัดกับเก้าอี้ล้อเลื่อน โดนปิดปากแววตาพยายามขอความช่วยเหลือ มณีกรี๊ดลั่น มือไม้อ่อน ถุงช็อปปิ้งหล่นกระจาย?
“คุณคะ ใครทำคุณ” มณีเขย่าเขมทัตให้ตอบ เหลือบไปมองตู้เซฟที่ว่างเปล่าก็กรี๊ดลั่น “ว้ายยย ทองชั้นหายไปไหนหมด คุณเขม ใครเอาไป ตอบเร็วๆ สิ”
มณีเขย่าให้ตอบ เขมทัตตาเหลือกเพราะแรงเขย่า ส่งเสียงอู้อี้ๆ ส่ายหน้า
“แอ้อั๊ดอ่อน (แก้มัดก่อน)”
“พูดอะไรไม่รู้เรื่อง เอาดีๆ สิ”
เขมทัตส่ายหน้า ยื่นหน้าให้มณี มณีทำท่านึกได้ รีบดึงเทปที่ปิดปากออกอย่างแรง เขมทัตร้องโอ๊ย
?“อูย เบาๆ เดี๋ยวปากหลุดติดเทปหรอก เขย่าซะหัวแทบหลุด ช่วยแก้มัดที่มือด้วยสิคุณ”
มณีรีบแก้มัดให้ พร้อมถามสงสัย
“ใครมันทำแบบนี้ ใครเอาทองเอาเงินเราไปหมด”
“ไม่ใช่แค่ของ แต่วัฒนาเอาตัวไข่มุกไปด้วย”
มณีหน้าซีดอย่างตกใจมาก ทำท่าจะเป็นลม
คีรินทร์ขับรถตามหลังรถเขมทัตอยู่ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คีรินทร์มองเห็นเป็นเบอร์เขมทัตเรียกเข้าก็กดรับ
“ฮัลโหล รินทร์อยู่ที่ไหน ยังปลอดภัยดีมั้ย”
คีรินทร์หัวเราะขำ
“เล่นอะไรอีกแล้วครับ ผมก็ขับตามรถพ่ออยู่นี่ไง แล้วนัดลูกสะใภ้ไปไหนทำไมต้องฉุดขึ้นรถด้วย” เขมทัตเงียบไป คีรินทร์นึกสงสัย “พ่อ มีอะไรรึเปล่า”
“รินทร์ ฟังดีๆ คนในรถไม่ใช่พ่อ แต่เป็นวัฒนา”
“หา ไอ้วัฒ”
คีรินทร์ถือโทรศัพท์ค้าง มองไปข้างหน้ารถเขมทัตที่ตามอยู่ห่างๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและกังวลมาก
รถเขมทัตเลี้ยวเข้าซอย คีรินทร์ขับตามไปห่างๆ จนกระทั่งรถจอดลงที่หน้าโกดังร้าง ลูกน้องวัฒนาที่เป็นคนขับลงจากรถ เดินหายเข้าไปในโกดังร้าง วัฒนาลงจากรถพร้อมกับดึงไข่มุกลงมาด้วย ไข่มุกดิ้นรนเต็มที่
“ปล่อย ปล่อยชั้น”
“อย่าดิ้น ตามมาดีๆ”
ไข่มุกขัดขืนสะบัดมือวัฒนาออก
“ปล่อยชั้นไปเถอะ ขอร้องล่ะ ชั้นจะไม่แจ้งความ ไม่บอกใครทั้งนั้น”
วัฒนามองหน้าไข่มุก
“ไป”
วัฒนาฉุดไข่มุกหายเข้าไปในโกดัง ลูกน้องที่ยืนอยู่หน้าโกดังมองไปรอบๆ แล้วปิดประตูโกดัง คีรินทร์เลื่อนรถออกมาจากที่ซ่อน จอดเลยโกดังไป มองเข้าไปข้างในอย่างเป็นห่วงไข่มุกมากในมือถือโทรศัพท์คุยกับสารวัตร??“ผมเจอตัวไอ้วัฒแล้วครับสารวัตร”
วัฒนาลากไข่มุกเข้ามาในโกดัง ?
“ได้ตัวมาแล้ว”
ไข่มุกมองเห็นเป็นข้างหลังผู้หญิง ผู้หญิงหันมาเป็นนุชนารถที่ยิ้มมองไข่มุกอย่างสาแก่ใจ
?“คุณนุช” นุชนารถมองเยาะ
“ตกใจมาก”
“ทำไมคุณทำแบบนี้ ไหนคุณบอกว่าจะกลับตัว จะไม่ทำร้ายคุณรินทร์”
วัฒนาผลักไข่มุกลงกับพื้น นุชนารถเดินเข้ามาใกล้ก้มตัวลงมองอย่างสมเพช ตวัดมือตบหน้าไข่มุก
“ชั้นบอกว่าไม่ทำรินทร์ แต่ไม่ได้แปลว่าจะไม่ทำแก นังตัวมารคอยขัดขวางความสุขทุกอย่าง รินทร์เปลี่ยนไปก็เพราะแก รินทร์ทิ้งชั้นเพราะแก”
ไข่มุกยืนขึ้นสบตานิ่ง แล้วตบกลับ?
“ถ้าเขาจะเปลี่ยนก็เพราะตัวคุณ ไม่ใช่ชั้น ถามตัวเองสิ ว่าทำอะไรลงไปบ้าง ทำไมเขาถึงไม่รักคุณเหมือนเดิม”
นุชนารถเงื้อมือขึ้นจะตบ แต่ไข่มุกจ้องตาสู้อย่างไม่ยอมแพ้ นุชนารถลดมือลง?
อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 21/2 วันที่ 11 พ.ค. 56
ละคร มายาสีมุกบทประพันธ์ : ทวิตาละคร มายาสีมุกบทโทรทัศน์ : เอื้องอรุณ สมิตสุวรรณ, เทอดโชค เกียรติสุขเกษม, จุฑามาศ สาคร
ละคร มายาสีมุกกำกับการแสดง : ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ละคร มายาสีมุกแนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละคร มายาสีมุกผลิต : บริษัท กันตนา
ติดตามชมละคร มายาสีมุก ได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ