อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 15/3 วันที่ 3 พ.ค. 56
“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ ผมมีหน้าที่ต้องตอบแทนพระคุณแม่แพรกับลุงโพล้ง แกสองคนดูแลผมมานานมากแล้ว สมควรพักผ่อนสักที”“ใช่ค่ะ..พวกเขาสองคนสมควรพักผ่อนได้แล้วค่ะ”
“ยังมีอีกคนที่สมควรพักผ่อนและสมควรให้ผมได้ดูแล ตอบแทนพระคุณที่ท่านส่งเสียผมเรียนจนจบมหาวิทยาลัย แต่ท่านปฏิเสธ คุณลุงน่ะครับ”
“คุณลุงนายอำเภอหรือคะ” เนียนเริ่มตื่นเต้น
“ครับ..คุณลุงสิน ท่านเป็นพี่ชายแท้ๆ ของแม่ผม”
“พี่ชายแท้ๆ ของแม่นายอำเภอ โธ่” เนียนสะเทือนใจทำท่าจะร้องไห้ “โถ..แล้วตอนนี้แกไปอยู่ที่ไหนคะ”
“โธ่...แกคงมีเหตุผลของแกน่ะค่ะ นายอำเภออย่าน้อยใจแกเลยนะคะ” เนียนเข้าใจพี่ชายดี
“ครับ...เหตุผลของลุงคือท่านอยากไปสงบจิตใจครับ”
“เป็นเหตุผลที่ดีออกค่ะ”
“ลุงสินยังเกี่ยวดองเป็นญาติกับคุณแม่สน คุณแม่ของเทิดศักดิ์ด้วย” แดงน้อยบอก
เนียนตกใจมาก “อะไรกันนี่ จริงหรือคะ”
“จริงสิครับ เทิดศักดิ์ยังเคยพบลุงสินที่บ้านคุณแม่สนด้วย”
“ตายจริง”
เนียนตื่นตระหนกจนขันน้ำหล่นจากมือ
ขุนภักดีแปลกใจมาก
“สนมีญาติชื่อสินมาหารึ ทำไมสนไม่เคยเอ่ยปากบอก ทั้งที่สนเป็นคนช่างบอกช่างเล่า”
ท่านขุนยิ่งงุนงงเพิ่มไปเรื่อยๆ
“เทิดศักดิ์เคยพบนายสินคนนี้ด้วย นายสินเป็นลุงแดงน้อย ทำไมมันอีรุงตุงนังอย่างนี้”
ขุนภักดีคาใจมาก ตั้งใจจะไปถามเอาความจริงจากเทิดศักดิ์
สองคนพูดคุยกันต่อ
“แม่แพรกับลุงโพล้งกับน้าเนียนคงอยากพบกันมาก ผมอาสาพาไปพบกันได้นะครับ”
เนียนน้ำตาไหลพรากอาบสองแก้ม ส่ายหน้าไปมา
“น้าอยากพบพวกเขามาก แต่น้า..คงไปไม่ได้ดอกค่ะ”
“มีปัญหาอะไรหรือครับน้าเนียน”
“ไม่มีดอกค่ะ แต่น้ารับปากใครบางคนเอาไว้ ว่าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าเขาไม่ได้อนุญาต”
แดงน้อยแปลกใจ เนียนสีหน้ามุ่งมั่นในคำสั่งของขุนภักดี
พอได้ฟังท่านขุนเผลอยิ้มออกมานิดหนึ่ง
“ใครบางคนคือเรา นี่เนียนเชื่อฟังคำสั่งเราเคร่งครัดปานนี้เชียวหรือ”
ขุนภักดีมีสีหน้าสดชื่นขึ้นมาทันที
เนียนกับแดงน้อยพูดคุยกันต่อ
“น้าเนียนรู้จักลุงสินไหมครับ”
เนียนสะดุ้ง “ไม่รู้จักดอกค่ะ ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเพิ่งเคยได้ยินจากนายอำเภอนี่แหละค่ะ”
“นั่นสิครับ ลุงสินเป็นคนสวนแตง น้าเนียนเป็นเพื่อนกับแม่แพร น้าเนียนรู้จักแม่ผมไหมครับ”
จากนั้นเนียนสะอื้นฮักๆๆ จนแดงน้อยตกใจ
ขุนภักดีเห็นเนียนร้องไห้พลอยตกใจไปด้วย
“ทำไมเนียนถึงร้องไห้มากมายขนาดนั้น เพียงแค่แดงน้อยถามว่ารู้จักแม่ไหมเท่านั้น”
แดงน้อยตกใจมากเช่นเดียวกับท่านขุน
“น้าเนียนครับ ผม...ผมขอโทษ ผมพูดอะไรให้น้าเนียนไม่สบายใจใช่ไหมครับ”
“นายอำเภอไม่ได้พูดอะไรให้น้าเสียใจ แต่น้าเสียใจ น้าสงสารนายอำเภอเหลือเกินค่ะ คือ น้า น้าคิดถึงหัวอกตัวเองที่พลัดพรากจากลูกน่ะคะ”
“ครับ เราหัวอกอันเดียวกัน เพราะผมกำพร้าแม่ น้าเนียนพลัดพรากจากลูก”
แดงน้อยพลอยซึมไปด้วย
ส่วนท่านขุนได้ยินเนียนพูดถึงลูกก็เอะใจ
“เนียนเอ่ยถึงลูกที่พลัดพราก ลูกคนไหนรึ ใช่แล้ว ลูกกับผู้ชายที่เนียน ให้สร้อยให้แหวนของเราไปนั่นเอง ถ้ามันเป็นเสือหนักมันจะมาเอาของจากเนียนไปทำไม ในเมื่อมันปล้นเขากินได้อยู่แล้ว นังช้อยใส่ร้ายเนียนเรื่องเสือหนักจริงๆด้วย ความยากจนทำให้เนียนต้องทิ้งลูกผัว มาขัดดอกให้พ่อ นี่เราเองที่แย่งเมียชาวบ้าน พรากลูกพรากแม่คนอื่นรึ”
ขุนภักดีใคร่ครวญครุ่นคิดด้วยสติ เริ่มเข้าใจเนียน
ฟากแดงน้อยกับเนียนยังพูดคุยกันต่อ
“ผมแค่อยากให้มีใครสักคนที่จำแม่ผมได้ แล้วบรรยายภาพของแม่ให้ผมฟัง ผมจะได้วาดภาพของแม่ออก เพื่อจดจำภาพแม่เอาไว้ในจิตใจของผม”
เนียนดึงแดงน้อยมากอดไว้ แดงน้อยยอมให้เนียนกอด รู้สึกอบอุ่นใจมาก เนียนลูบหลังแดงน้อยอย่างรักใคร่
“นายอำเภอคนดีของน้า โถ..เอ้อ แม่แพรของนายอำเภอไม่เคย บรรยายภาพแม่ให้ฟังบ้างหรือคะ”
“ตอนเล็กๆ ผมถามแม่แพรไม่ยอมบอก แต่ตอนโตมานี่ แม่แพรบอกผมว่าให้ดูน้าเนียนเป็นแบบอย่างแม่ผมก็ได้ครับ ผมจึงมาถามเผื่อว่าน้าจะเคยเจอแม่ผม”
จังหวะนี้ ทานตะวันปราดมาจากไหนไม่รู้ เข้ามากระชากเนียนออกโดยแรง
“ตำหูตำตา ดูดู๋ นางไก่แก่แม่ปลาช่อน คิดจะรวบหัวรวบหางพี่แดงน้อย
“คุณหนูอี๊ด” / “น้องอี๊ด” สองคนตกใจ
“พี่แดงน้อยกำลังถูกมันหลอก ให้หลงกล”
“น้องอี๊ดอย่าลบหลู่น้าเนียนสิครับ” แดงน้อยไม่พอใจ
“มันสมควรยิ่งกว่าต้องลบหลู่อีกค่ะ แก่คราวแม่พี่แดงน้อย แต่พยายามจะกินหญ้าอ่อนจะไปฟ้องคุณพ่อให้เฉดหัวไปจากบ้าน เดี๋ยวนี้”
ขุนภักดีแสดงตัว เดินออกมาจากที่กำบัง
“หยุดเถิดหนูอี๊ด”
“คุณพ่อ” แดงน้อยตกใจ
“ท่านขุน” เนียนเองก็ตกใจ
ทานตะวันผวาไปหา ชี้หน้าเนียน
“คุณพ่อขา มันกำลังโอ้โลมพี่แดงน้อย”
“ผมมีวุฒิภาวะพอที่จะไม่โดนใครโอ้โลมดอกครับ การแสดงความรักมีหลายแบบ ใช่มีเพียงความรักแบบชู้สาวเท่านั้น ผมรักเคารพน้าเนียนแบบแม่ น้าเนียนรักเมตตาผมเหมือนลูก” แดงน้อยอธิบาย
“พี่แดงน้อยแก้ตัวให้มัน ไล่มันไปสิคะ” ทานตะวันโวยลั่น
“ไม่มีการไล่ใครไปไหนอีกหนูอี๊ด พ่อเชื่อคำพูดของแดงน้อย” ขุนภักดีบอก
“คุณพ่อจะไปรู้เห็นอะไรคะ ในเมื่อคุณพ่อเพิ่งมา” ทานตะวันโมโห
“พ่อมานานแล้ว นานก่อนที่แดงน้อยจะมา” ขุนภักดีสารภาพ
“นี่...นี่คุณพ่อมาแอบดูยัยเนียน คุณพ่อยังรักมัน ลืมมันไม่ลง” ทานตะวันโวยวายไม่หยุด
“อย่าดูแคลนพ่อนะ” ขุนภักดีขึ้นเสียง
“คุณพ่อ...”
“ที่ผ่านมา พ่อฟังความข้างเดียวมาตลอด วันนี้พี่เห็นและรับรู้ความสองข้างด้วยหูตาของตัวเอง เรื่องนี้ พ่อตัดสินใจเองโดยไม่ต้องฟังคนอื่น จำไว้ว่าอย่าล่วงเกินเขาอีก”
พูดจบขุนภักดีปรายตามองมายังเนียน แล้วเดินจากไป
“คุณพ่อ” ทานตะวันฮึดฮัด
“น้าเนียนครับ ผมขอตัวก่อน ขอโทษด้วยที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย น้องอี๊ดครับ แม่แพรผมน้าเนียนเป็นเพื่อนกัน ถ้าน้าเนียนจะรักใคร่เอ็นดูผมเหมือนลูกสักคน และถ้าผมอยากมีแม่อย่างน้าเนียนสักคนผิดมากนักหรือครับ มีคนรักดีกว่ามีแต่คนชังนะครับ”
“แก...ทำให้คุณพ่อกับพี่แดงน้อยด่าชั้น” ทานตะวันหันมาเอาเรื่องเนียน
“ชั้นขอโทษค่ะ คุณหนู ชั้น...ชั้น...”
“ชั้นเกลียดแก”
ทานตะวันจ้องหน้าเนียนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แล้วกระแทกเท้าเดินหนีไป
มืดค่ำลงแล้ว ข้างเรือนเล็กของสน สองคนหลบมุมคุยกันอยู่ สนตกใจมากพอได้ฟังที่สายมารายงาน
“มันว่าอย่างนี้จริงนะขอรับ กระผมฟังแล้วสะดุ้งกลัวใครได้ยิน” สายบอก
“ไอ้คนเลวมันบังอาจใส่ร้ายชั้น ว่ามันกำความลับชั้น” สนแค้นมาก
“ไอ้คนต้มเหล้าเถื่อนคนเดียวยังไม่พอครับ ยังมีไอ้คนชื่อแช่มลูกยัยช้อยอวดอ้างทำนองเดียวกับไอ้คนต้มเหล้าเถื่อนด้วย พวกมันว่า…”
“พวกมันว่ากระไร”
“พวกมันต้องการให้คุณนายสนช่วยให้มันหลุดพ้น จากตะราง หาไม่มันจะปากเปราะ ปากเบา เล่าเรื่องมิบังควรของคุณนายสนขอรับ”
สนตาขุ่นเขียวโกรธจนตัวสั่น หวาดกลัวผสมปนด้วย สนคำราม
“มึงท้าทายกู ไอ้สายพรุ่งนี้เช้า ตีห้าแกไปรอชั้นที่ริมน้ำ ด้านจะไปทางวัด”
“ไปรอทำไมขอรับ”
“รอเอาอาหารเอาของกินจากชั้น เอาข้อความจากชั้นไปบอกไอ้สองคนนั่น”
“คุณนายสน จะช่วยพวกมันหรือครับ” สายแปลกใจ
“ช่วยพวกมัน และช่วยแกด้วยจะให้เงินแกไปตั้งตัวสักห้าชั่ง”
“ห้าชั่ง” สายตาเหลือก
“แกรีบไปซะ ทำตัวปกติ อย่าให้ใครรู้ว่าแกกำลังจะร่ำรวย”
“ครับ”
สายดีใจรีบหลบหายตัวไป มีเสียงเรียกสนดังเข้ามา
“สน...สน...สน” เป็นขุนภักดีนั่นเอง
“พี่ขุนมาทำไมอีก ปัดโธ่โว๊ยกู”
สนหงุดหงิด แต่รีบออกไปรับหน้าท่านขุน
ขุนภักดี ยืนรอมองสนที่กระหืดกระหอบออกมาสีหน้าไม่ดี
“พี่ขุน”
“กระหืดกระหอบลอบไปพบใครมารึสน”
สนสะดุ้ง “เปล่าค่ะ สน สน ไปเดินดูต้นไม้ นังช้อยมันไปแล้ว ไม่มีใครดูแลสนต้องไปดูแลเอง เอ้อ...พี่ขุน เอ้อ...”
“ไม่ได้จะมากินข้าวดอกนะ แต่จะมาถามว่า สนมีญาติชื่อสินใช่ไหม”
สนใจหายวับ
“สน เอ้อ... สน”
“นายสินคนนี้เป็นลุงของแดงน้อยด้วย”
“เออ..สนสับสน สนญาติแยะ สนขอนึกก่อนค่ะ พี่ขุน”
“เอาเถิดสน ช่วยนึกให้ออกด้วย พี่มาถามแค่นี้”
สนใจคอไม่ดี ขุนภักดีหันตัวกลับเดินหน้าตายออกไป สนเอามือทาบอก
“ลางร้าย หรือว่าอย่างไร นี่มันอะไรกัน เรื่องของไอ้หนักใกล้ตัวเข้ามาทุกทีแล้ว”
จังหวะเดียวกันนั้น ก็มีเสียงกระซิบเรียกสนเบาๆ
“คุณสนขา คุณสนขา”
สนตกใจร้องลั่น “ว๊าย”
สนตกใจมาก ก่อนจะเพ่งมองไปด้านหลัง เห็นหน้าช้อยโผล่ออกมาจากที่ซ่อน
“ช้อยเองค่ะ”
ฟากเทิดศักดิ์เดินยิ้มย่องขึ้นเรือนใหญ่ มาพบขุนภักดี
“คุณพ่อเรียกผมมาหา จะให้ผมทำอะไรหรือครับ”
“พ่ออยากถามอะไรบางอย่าง”
“ครับ เชิญครับ”
“แม่แกมีญาติชื่อสินด้วยเหรอ”
“ครับ คุณแม่บอกอย่างนั้น”
“แกเคยเจอญาติคนนั้นที่บ้านไหม”
“ครั้งเดียวเท่านั้นครับ แต่นอกนั้นเจอที่อื่นกับที่บ้านของแดงน้อยก็น้อยครั้งเหมือนกันครับ ลุงสินเก็บตัวมากครับ”
“เขาเป็นคนที่ไหน”
“สวนแตงครับแต่ผมไปตรวจสอบแล้วไม่มีครับ คุณพ่อสงสัยอะไรลุงสินหรือครับ”
ขุนภักดีส่ายหน้า
“ไปเถิดลูก”
เทิดศักดิ์ไม่ยอมไป แต่กลับมานั่งนวดแขนท่านขุนอย่างเอาใจ
“คุณพ่อครับ ผมอยากแต่งงานแล้ว”
“ไฮ้...แกจะแต่งกับใคร”
“ผมรักน้องติ๋ว” เทิดศักดิ์บอกเสียงหนักแน่น
“นี่ นี่” ขุนภักดีตกใจ
“คุณพ่อรังเกียจน้องติ๋วไหมครับ”
“เมื่อก่อนอาจใช่ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว”
“คุณพ่อไม่ขัดข้อง”
ท่านขุนพยักหน้า เทิดศักดิ์ดีใจมากยกมือไหว้พ่อ
เวลาเดียวกันสนด่าช้อย โทษฐานมาเงียบๆ
“อีบ้า มาเงียบๆ ทำชั้นตกใจหมด เพิ่งจะไปกลับมาทำไม”
“กลับมาตามที่คุณสนเคยให้สัญญาไว้เจ้าค่ะ”
“รีบบอกมาแล้วรีบกลับไป อย่าให้ใครเห็นแกนะ”
ช้อยเริ่มคุกคามนิดๆ “ช้อยไม่อยากให้ใครเห็นดอกเจ้าค่ะ ช้อยแค่มาทวงสัญญา”
“เอ๊ะ อีช้อยอย่ามาข่มชั้นนะ”
สนโมโห มองไปที่หน้าบ้านมองไปมองมา กลัวใครเห็น รีบลากช้อยผลุบหายไปทางหลังบ้าน
วงอาหารเย็นบนเรือนทองจันทร์วันนี้วงใหญ่ ทองจันทร์มองหน้าเทิดศักดิ์ เทิดศักดิ์มองตอบ สองคนพากันมองหน้าเนื้อทอง สลับกับมองหน้าเนียน จนในที่สุดเทิดศักดิ์กระแอมขึ้น
“อะไรติดคอรึ ตาเทิด” ทองจันทร์สัพยอก
“สัญญาครับ สัญญา ว่าจะทำให้ ติดคอผม”
กบกะแมวหัวเราะกันคิกคัก ทองจันทร์หันไปมอง ทำตาเขียวใส่
“แกสองคนไปห่างๆ นางช่างสอดรู้”
“ห่างสักแค่ไหนเจ้าคะ” กบถาม
“สามวาพอไหมเจ้าคะ” แมวว่า
“โน่น สามโยชน์โคนต้นมะขามใหญ่โน่น”
“แหม...” สองคนครวญ
“ไปนะ”
สองคนถอยไปกระซิบกระซาบ เทิดศักดิ์ยิ้มหน้าบานมองหน้าทองจันทร์อย่างรู้กัน
“เอ้อ รอให้กินข้าวเสร็จก่อนก็ได้ครับคุณย่า ผมกลัวว่าคุณย่าจะสำลักไปพูดไป”
“ทะเล้นนัก ประเดี๋ยวเถิด จะหยิกตำรวจให้เนื้อเขียว”
เทิดศักดิ์หัวเราะร่าเริง เนียนกับเนื้อทองพลอยอมยิ้มตามไปด้วย
ขณะเดียวกันขุนภักดี เรียม และทานตะวันนั่งกินอาหารอยู่ ทานตะวันหน้าหงิกงอ สาวใช้นั่งห่างคอยดูแล
“หนูอี๊ดจ๊ะ ร้านของหนูกิจการดีมากใช่ไหม ใครๆ ก็อยากไปทำผมร้านหนู”
“ค่ะ ใครๆ ก็อยากไป ยกเว้นแต่คุณแม่นี่แหละค่ะ ที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง”
“แม่แก่แล้ว พอใจที่เป็นอยู่ คุ้นกับทรงผมของแม่แล้ว เปลี่ยนไปกลัวเดี๋ยวจำหน้าตัวเองไม่ได้” เรียมบอก
“ทีแม่สนเขายังยอมเปลี่ยนทรงผมใหม่จนสวยเช้งกระเด๊ะ”
“แม่สนเขาสาวกว่าแม่นี่จ๊ะ”
“หรืออาจมีใครมันคงอยากไป แต่หนูไม่มีวันยอมให้มันเข้าไปเหยียบร้านหนูหรอกค่ะ”
“พูดถึงใครกันจ๊ะ” เรียมย้อนถาม
“นังติ๋วค่ะ”
“ไม่เอาน่า เราได้ดีของเราแล้วก็พอ”
“พอได้ยังไงในเมื่อมันได้ดีกว่าหนู”
“ฟังลูกสาวเราสิคะพี่เทพ ขี้อิจฉาตั้งแต่เล็กจนโต”
ทานตะวันทำหมางเมินใส่ท่านขุนจนเรียมสังเกตเห็น ขุนภักดีก็ตีหน้าขรึมผิดปกติ
“สองคนพ่อลูกวันนี้มาแปลก ไม่คุยกันสักคำ หนูอี๊ดงอนอะไรคุณพ่อรึ”
“หนูไม่กล้าไปเผยอหน้างอนอะไรกับคุณพ่อท่านดอกค่ะ คุณพ่อท่านไม่เห็นหนูเป็นลูกเท่ายัยติ๋วของคุณแม่ ของคุณย่าดอกค่ะ” ทานตะวันประชด
“เอาอะไรมาพูด เหลวไหลจริง เป็นลูกอะไรมาประชดคุณพ่อ”
ขุนภักดีกระแทกช้อนปัง อิ่มอาหาร
“นั่นไงคะ คุณพ่ออิ่มข้าวประชดหนู เคืองหนู ที่หนูหวังดีกับคุณพ่อเรื่องยัยเนียนพยายามเล่นชู้กับพี่แดงน้อย หนูผิดมากนักหรือคะ”
“หนูอี๊ด” เรียมตกใจ
“เด็กคนนี้ต้องโดนสั่งสอนบ้างแล้ว”
ขุนภักดีเงื้อมือจะตบหน้าทานตะวัน เรียมดึงไว้ ห้ามเสียงหลง
“อย่านะคะพี่เทพ”
“ตบเลยค่ะ” ทานตะวันท้า
“เรียม ลูกเราขาดการอบรม ได้รับการตามใจจนนิสัยเสีย เห็นทีต่อไปนี้ต้องตีกรอบระเบียบให้เดินกันเสียที”
ทานตะวันลุกพรวด
“ไอ้ที่วันก่อนที่หนูบอกว่าจะไปเป็นลูกแม่สนนั่นหนูประชด แต่วันนี้ หนูพูดจริงทำจริง ไปจริงค่ะ”
ทานตะวันจองหอง กระแทกส้นจะออกไป
“อย่าไปนะลูก กลับมาขอโทษคุณพ่อเดี๋ยวนี้”
“ไปแล้วก็ไปเลย อย่ากลับมาบ้านนี้อีก เคยได้ยินมานักต่อนักเรื่องเด็กเหลือขอ ก็เพิ่งจะประจักษ์วันนี้ว่าที่แท้ชั้นเองก็มีลูกเหลือขอ” ขุนภักดีไล่ส่ง
“หนูอี๊ด แม่บอกให้กลับมากราบขอโทษคุณพ่อ”
เรียมลุกไปดึงแขนลูกฉุดรั้งไว้ ทานตะวันสะบัดผลักไส
“อย่ามายุ่งกับหนู”
เรียมโดนสะบัดผลักไส จนล้มลง
“ว๊าย”
ทานตะวันไม่หันกลับมามอง ขุนภักดีปราดไปกระชากทานตะวันแล้วตบหน้าสุดแรงเกิด
“แกมันลูกอกตัญญู ไม่รู้คุณพ่อแม่”
ทานตะวันเสียใจร้องไห้โฮๆๆๆ ท่านขุนปราดไปหาเรียมประคองไว้ เรียมก็ร้องไห้เช่นกัน
“เรียมผิดเอง เรียมผิดทั้งนั้น”
“เรียมไม่ผิดดอก พี่นี่แหละที่ผิดมหันต์ สอนให้ลูกเสียคน”
สองคนผัวเมียกลุ้มใจกันทั้งคู่
ด้านทองจันทร์โพล่งขึ้นมากลางวง เนียนกับเนื้อทองกำลังทำท่าจะเก็บสำรับ
“เอาละมาเริ่มกันได้ ยัยติ๋ว เนียน ไม่ต้องเก็บอาหาร แล้วเขยิบไปตั้งวงกันตรงนั้น”
“คุณท่านจะตั้งวงไพ่รึเจ้าคะ” เนียนแปลกใจ
“วุ๊ย...แกจะซื่อมากไปถึงไหนยัยเนียน ชั้นจะตั้งวงสู่ขอลูกสาวเราแหละ”
เนียนตกตะลึง ขณะที่เนื้อทองอึ้งไป
“คุณท่าน” / “คุณย่า”
เนื้อทองหันมามองเทิดศักดิ์ อีกฝ่ายพยักหน้า
อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 15/3 วันที่ 3 พ.ค. 56
ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager