อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 20/3 วันที่ 22 พ.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 20/3 วันที่ 22 พ.ค. 56

“ลูกแดงน้อยของแม่ แม่ ๆ แม่มีความสุข จนสุดที่จะเอ่ยออกมาได้ ลูกรักทูนหัวของแม่”
สองแม่ลูกโผกอดกัน แดงน้อยน้ำตาซึม เนียนน้ำตาไหล
“ทูนหัวของลูก ต่อไปนี้ ลูกจะดูแล จะทดแทนพระคุณไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
“แม่ขอโทษที่ปิดบังความจริง แม่เสียใจที่ไม่ได้ดูแลลูก อภัยให้แม่นะทูนหัวของแม่”
“แต่ลูกรู้ด้วยสำนึกว่าแม่ห่วงใย รักใคร่ติดตามเรื่องราวของลูกเสมอมา”

สองแม่ลูกโอบกอดกันราวกับกลัวว่าจะพรากจากกันอีก
ทานตะวันยังคงนั่งคิดไม่ตกต่อไป

“เราจะเอ่ยปากเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าแม่ออกมาได้อย่างไร ทำไม่ได้เราทำไม่ได้”
“ลูกที่อับอายแม่ตัวเอง นี่มันน่าเอาขี้เถ้ายัดปากตั้งแต่ตอนที่เพิ่งเกิดมา ลูกแบบนี้มันไม่น่ามีแม่แสนดี อย่างเนียนดอก มันน่าให้ไปมีแม่เป็นนางคนใจร้าย ใจดำอำมหิต แม่จะไปบอกเนียนมันว่าให้ตัดใจเสีย คิดเสียว่า ไม่เคยมีลูกคนนี้”


ว่าแล้วทองจันทร์ก็ขยิบตาให้เป็นนัยกับท่านขุนและเรียม
“คุณแม่ครับ พูดมันง่ายแต่ทำมันยากนะครับ เนียนเขารักลูกมากมายถึงขั้นเอาตัวไปบังฟ้าผ่าก็ทำมาแล้ว” ขุนภักดีทำทีเป็นทักท้วง
“แม่นึกออกแล้ว เราช่วยกันผลักไสให้มันไปเป็นลูกแม่สน” ทองจันทร์ว่าซะเสียงดัง
จากนั้นสามคนต่างก็ยิ้มๆ ให้กัน

คำพูดของผู้เป็นย่ากระแทกหน้าอี๊ด
“จริงสิ ผู้หญิงคนนั้นช่วยชีวิตเรา เมื่อไม่นานมานี้เอง”
เหคุการณ์ตอนคืนฟ้าผ่า เนียนกระชากเนื้อทองแล้วกระโดดคร่อมตัวเอาไว้ปกป้องสุดชีวิตผุดขึ้นมา
“เขายอมตายเพื่อเรา”
ทานตะวันรำพึง
พร้อมๆ กันนั้นภาพเหตการณ์ที่สนด่าทอใส่ทานตะวัน ล้วนแล้วแต่เป็นคำพูดที่แรงๆ ก็ผุดขึ้นตามมาติดๆ
ทานตะวันใคร่ครวญครุ่นคิด
“แต่แม่สน ทั้งที่เราเรียกว่าแม่ แต่ไม่เคยแสดงความป็นแม่กับเราสักครั้ง”
เสียงเรียมดังเข้ามาอีก “สนมีแต่ยุแหย่ให้หนูอี๊ดเกลียดชังเนียน เพราะตัวเองเกลียดเนียน”
ตามมาด้วยเสียงท่านขุน “สนเอาหนูอี๊ดเป็นเครื่องมือทำลายเนียนมาตลอด ลูกเราก็ช่างโง่เง่า ไม่เคารพยังไม่พอ ร่วมมือกับคนอื่นทำร้ายแม่ตัวเอง นรกแท้ๆ”
ทองจันทร์เสริมต่อ “จะมาถือยศถือเกียรติอะไรกันหนักหนา คำนำหน้าว่าขุนว่าหลวงก็แค่หัวโขน ต้นตระกูลชาวนากันทั้งนั้น แม่นี่แหละ ลูกชาวสวนชาวนา แต่พี่จมื่นพ่อของพ่อเทพ ก็ดั้นด้นไปกราบไหว้ขอแม่มาจากพ่อแม่ของแม่ ถ้าเช่นนั้นสักวัน ยัยอี๊ดมันรู้เข้า มันมิเลิกยอมรับว่าแม่คือย่าของมันรึ”
ขุนภักดีฮึ่มฮ่ำทำเป็นโกรธ “ลามปามมาถึงผม เพราะผมก็เป็นหลานชาวนา ช่างน่าขำ”
ถึงตอนนี้ทานตะวันเอามือปิดหูไม่อยากรับรู้อีกแล้ว
เสียงเรียมดังเข้ามาอีก “ต้นตระกูลเรียมก็เป็นเจ๊กจีน หอบเสื่อผืนหมอนใบล่องทะเลมา ปู่เรียมเป็นจับกังแบกข้าวสารที่ท่าเรือ ส่งคุณพ่อเรียนจนได้ดิบได้ดีในวงราชการ เรียมน่ะหลานจับกังแบกข้าวสารแท้ๆ ที่นาเท่ากระแบะมือก็ไม่มี แต่เนียนนี่สิยังมีตั้งสิบไร่”
ทานตะวันลุกพรวดขึ้นเปิดประตูห้องออกไปทันที

สามคนที่นั่งสลอนอยู่ในโถง เห็นทานตะวันเดินออกมาหน้าตาอิดโรย
“หนูอี๊ด”
“เลิกกระแหนะ กระแหนทำร้ายจิตใจหนูกันสักทีได้ไหมคะคุณย่าคุณพ่อ คุณแม่ หนูรู้ตัวว่าหนูเป็นเด็กเลวร้ายเอาแต่ใจตัวเองดูถูกคนอื่น หนูเคยตัวมานานมาก ทำไมไม่ให้โอกาสให้เวลา ให้หนูเกิดความเต็มใจที่จะยอมรับอะไรๆ เองสักพัก เหมือนอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นเขาบอกกับคุณพ่อคุณแม่เล่าคะ” ทานตะวันบอก
สามคนมองหน้ากัน ทองจันทร์พยักหน้าปลงๆ
“พ่อเทพ แม่เรียม เด็กเคยตัวมานานอย่างนี้ ออกมาแสดงให้เห็นดังที่เขาพูดมาได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าดีโขแล้ว”
“จำไว้นะหนูอี๊ด ไม่มีใครหวังดี ไม่มีใครเสียสละให้หนูเท่าแม่ที่แท้จริงอีกแล้ว” เรียมสำทับ
“แม้แต่คุณแม่หรือคะ” ทานตะวันย้อนถาม
“อาจจะใช่ เพราะแม่มีความสุขสบาย แต่ถ้าแม่เป็นอย่างแม่เนียนแม่คงทำไม่ได้ดีเท่ากับเขาดอก แม่ดีใจที่ลูกออกมาพูดเช่นนี้” เรียมบอก
“พ่อก็ดีใจ เราจะไม่บังคับจิตใจลูก เราจะปล่อยให้เป็นไปตามการตัดสินใจของลูก”
“จำไว้นะหนูอี๊ด ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังรอคอยความหวังลมๆ แล้งๆ จากลูกสาวของตนเองว่าจะยอมรับว่าเขาเป็นแม่ไหม แม่จะกลับเรือนเสียทีพ่อเทพ แม่เรียม” ทองจันทร์จ้องหน้าหลานสาว
เรียมพาทองจันทร์เดินลงเรือนไป ท่านขุนเดินมาโอบกอดลูกสาว ซึ่งยังคาใจบางประการอยู่
“แล้วผู้ชายคนที่มาพบกับเขาที่แม่สนบอกว่าเป็นชู้ของเขาเล่าคะ”
“ลุงของหนู พี่ชายแท้ๆ ของเขาต่างหาก แม่สนหาความเขา และพ่อก็หูเบามานานมากจนเกือบจะสายเกินไปแล้ว”

ทานตะวันพยักหน้าเงียบๆ ครุ่นคิดไปเรื่อยๆ อีก ท่านขุนยิ้มพึงพอใจ
ฟากแดงน้อยนอนหนุนตักแม่สีหน้าแช่มชื่น เนียนเอาขนมป้อนใส่ปาก สองคนแม่ลูกดูมีความสุขกันมากๆ

“ผมอยากมีตักของแม่เอาไว้นอนหนุนมานานแล้ว วันนี้ผมสมใจสักที”
“แม่ก็อยากให้ลูกมานอนตรงนี้ที่ตักของแม่มานานมากเช่นกัน”
“เทิดศักดิ์รู้ เขาคงดีใจกับผมมาก ผมจะไปบอกเขาเป็นคนแรก”
“คุณเทิดศักดิ์ คงกำลังเหนื่อยมาก น่าสงสารแท้ๆ”
เนียนพูดด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
“ทำไมแม่เนียนต้องเศร้ามากเมื่อพูดถึงเทิดศักดิ์ครับ”
“เขาเป็นคนดีเหลือเกิน ดีจนแม่ไม่อยากเห็นเขาต้องมาทุกข์ร้อนใจ” เนียนบอก
“แม่เนียนหวังดีห่วงใยใครๆ ไปเสียทุกคน เอ้อ แม่เนียนครับ น้องติ๋วทราบเรื่องของผมหรือยังครับ”
“ยังเลยลูกรัก น้องยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาเป็นลูกพี่ขุน พี่ขุนกำลังหาโอกาสจะบอกน้องอยู่ แต่ติดขัดตรงที่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นทุกวัน แม่เองก็ต้องบอกน้องเรื่องของลูก”
“น้องคงดีใจมากนะครับ แม่เนียน” แดงน้อยยิ้มชื่น
“จ้ะ คงดีใจมาก”
จังหวะนี้ทองจันทร์เดินเข้ามาพร้อมกับเรียม
“อ้าวนั่นอะไรกัน ใครมานอนหนุนตักกันป้อนขนมให้กันกิน ไม่กลัวว่าใครเขาจะอิจฉาเลยรึ แดงน้อยอายุยี่สิบกว่า ไม่ใช่สองขวบกว่านา” ทองจันทร์เย้า
เนียนกับแดงน้อยตกใจนิดหนึ่ง
“คุณท่าน เอ้อ คุณแม่ คุณพี่เรียม เอ้อ…”
“ดีใจด้วยนะแดงน้อย แม่เนียนของแดงน้อยน่ะ ทั้งดีทั้งน่ารักและเก่งสารพัด”
ทองจันทร์เหน็บ “ไม่เก่งเรื่องเดียว ไม่ยอมสู้คน เก่งที่สุดคือร้องไห้ มันน่าส่งไปเป็นนางเอกยี่เกนัก ที่ผ่านมาก็ยิ้มไม่เป็น แต่นับจากนี้ คงยิ้มจนพร่ำเพรื่อ จริงไหมเนียน”
เนียนยอมรับ “เอ้อ ค่ะ”
“ย่าดีใจมาก นี่ก็รอแม่ตัวร้ายให้เขาใช้เวลาไตร่ตรองเติมสติ แล้วเราจะฉลองกันอีกครั้ง”
“คุณย่าหมายถึงหนูอี๊ดน่ะจ้ะ” เรียมอธิบาย
ทุกคนยิ้มย่องเบิกบาน และสบายใจ

หลายวันต่อมาที่แหล่งกบดานของเสือหนัก
เวลานั้นหนักได้รับรายงานจากเสน่ห์ เรื่องเนียน เรื่องสน หนักโกรธมาก
“จริงรึนั่น อีสนมันใส่ร้ายน้องกูอีกแล้วรึ มันต้องได้รับโทษสาสมกับสิ่งที่มันกระทำต่อน้องกู”
“พวกชาวบ้านเขาลือกันว่า โชคดีที่ท่านขุนประกันตัวเนียนออกมาแล้วนัยว่ามีพยานปากเอกยืนยันว่าเนียนอยู่กับเขา ตอนที่นางช้อยโดนฆ่าตาย”
“เนียนยังโชคดี ที่ท่านขุนนั่นเกิดกลับใจมาช่วยเนียน หาไม่ เนียนคงตายคาคุกหรือก็โดนประหาร อีสนมึงตายแน่”
“ยิ่งกว่านั้นอีก ชาวบ้านเขาเล่าลือว่า แถวท่าน้ำบ้านท่านขุน เฮี้ยนมาก มีคนโดนฆ่าตายไม่เว้นแต่ละวัน ล้วนเกี่ยวข้องกับบ้านท่านขุนทั้งสิ้น”
“อีสนมันยังลอยนวล” หนักคำราม
“รายสุดท้าย เมื่อวานนี้ชื่อยายอ่อน พยานอีกรายของเนียน เคยเป็นหมอตำแยทำคลอดลูกท่านขุน”
คราวนี้หนักลุกพรวด
“กูกบดานต่อไปไม่ได้แล้ว กูจะเข้าเมืองสุพรรณ”
เสน่ห์ตกใจ ร้องห้าม “อันตรายมากนะลูกพี่ หมวดเทิดศักดิ์ นายอำเภอแดงน้อย ข้าหลวงล้วนหมายหัวพี่ไว้ทั้งสิ้น พวกเขาจะรวมกันจับตายลูกพี่”
“ชีวิตกูวันนี้แม้ยังมีลมหายใจ ก็หยั่งกับตายทั้งเป็น มึงจงดูตัวอย่างกู ทำเลว แม้เก่งกล้าแค่ไหนสุดท้ายก็ตายอย่างหมา กูขอทำดีครั้งสุดท้ายตายเป็นตายเพื่อปกป้องน้องกู หลานกู” พูดถึงตรงนี้หนักถอนใจพึมพำคนเดียว “และลูกกู”
“ชั้นไปด้วย จะไปเปิดโปงอีสน”
“แยกย้ายกันไป มึงไปของมึง กูไปของกู อย่าให้ใครรู้ว่ากูอยู่กับมึง มึงจะได้ใช้ชีวิตของมึงต่อไป เหมือนผู้คนปกติ เลิกหลบซ่อน”
เสน่ห์อิดออด “แต่ชั้น...อยากตอบแทนพี่”
“กูให้ใครไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน ทำตามที่กูบอก”

หนักฉวยปืน หยิบหมวกหยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยน นัยน์ตาแข็งกร้าว
สองหนุ่มปรึกษาหารือกันอยู่บนโรงพัก

“นายแช่มมันรู้มาจากญาติผู้ต้องหาที่มาเยี่ยม ว่าบ้านกันมีการฆ่ากันตาย คนที่ตายมียัยช้อยแม่มันรวมอยู่ด้วย มันร้องไห้โฮๆ มาทั้งคืน ตอนนี้มันก็ยังร้องอยู่”
“ได้ยินสารวัตรพูดว่ามันขอให้ปากคำ ที่เป็นประโยชน์ มันรู้ว่าใครฆ่าแม่มัน แกจะเอาอย่างไรกับนายแช่ม จะฟังมันหรือไม่นำพา”
เทิดศักดิ์มองหน้าแดงน้อยครุ่นคิด
“เราควรฟังมันแล้วนำเอาคำพูดมันมาไตร่ตรอง เพียงแต่ว่า กันกลัว…”
“กลัวอะไรรึ”
“ความจริงอันโหดร้าย” เทิดศักดิ์หน้าเศร้า
“แล้วแต่แกเถิด กันคือเพื่อนตายของแก ถ้าแกไม่อยากพูดกับมันก็จบกันไป”
“แล้วแกจะไม่ประณามว่ากันเห็นแก่ตัวดอกรึ”
“กันเคารพการตัดสินใจของแก เราสองคนเป็นมากกว่าเพื่อนแท้ของกันและกัน”
แดงน้อยตบบ่าเพื่อน เทิดศักดิ์ดูลำบากใจมาก นึกภาพตอนเห็นสนมีสายสิญจน์ มีเครื่องรางของขลัง รอบที่นอน
เทิดศักดิ์ตัดสินใจเด็ดขาด
“เกิดมาเป็นข้าแผ่นดิน ต้องเสียสละ ต้องแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานให้เด็ดขาด หาไม่จะกลายเป็นเนรคุณแผ่นดิน ผิดคำสาบานที่เคยให้ไว้ว่าจะไม่รับอามิสสินจ้าง ไม่เห็นแก่พวกพ้อง แม้ว่าพวกพ้องคนนั้นจะเป็น เอ้อ..ใครก็ตามที่สำคัญต่อชีวิตเรา”
“พอเถิด กันรู้แล้วว่าแกตัดสินให้นายแช่มมาพบเพื่อสอบปากคำ”
เทิดศักดิ์พยักหน้าน้ำตาคลอๆ

ฝ่ายทานตะวันแอบมานั่งอยู่แถวริมน้ำข้างเรือนสน ตระหนักเรื่องราวที่ผ่านมา
“ใครๆ เขาก็ถือว่า คนที่สำคัญที่สุดในชีวิต คือแม่ คือพ่อคือลูก แล้วเราล่ะ ตอนนี้คนที่เราอยากให้เห็นเราสำคัญไม่มีสักคน” ทานตะวันพึมพำ
เนียนมาแอบมองทานตะวัน แต่แอบอยู่ในมุมที่มิดชิดมาก
“แม่อย่างไรเล่าลูก แม่เห็นลูกสำคัญกว่าชีวิตของแม่เสียอีก”
เนียนแอบมองลูกใจจดใจจ่อ จังหวะนี้เองสนก้าวออกมาจากที่หนึ่ง อยู่ด้านหลังทานตะวัน
“อีเด็กอี๊ด แกเป็นดวงตาดวงใจของพี่ขุนกับอีเรียมและอีเนียน นับวันแกจะสำคัญกับคนพวกนั้นมากกว่าลูกของข้า สักวันถ้าพวกมันรู้ความจริง มันจะเย้ยหยันลูกข้า ข้าทนไม่ได้ ในเมื่อลูกข้าพินาศแกก็ต้องพินาศไปด้วย ดีละแกว่ายน้ำไม่แข็ง”
สนบอกตัวเองในใจ ขณะหยุดมองทานตะวัน คิดแล้วคิดอีก ในขณะที่อีกมุมของเนียนแอบมองรอดูสนนิ่ง

ส่วนที่โรงพัก แช่มให้ปากคำเสร็จแล้ว กำลังยกมือไหว้สองคน นัยน์ตาของแช่มแดงก่ำ โดนใส่กุญแจมือไว้แล้วยกมือท่วมหัว
“ไอ้แช่มขอสาบานว่าสิ่งที่บอกนายอำเภอกับคุณเทิดศักดิ์คือความจริง ผมขอโทษที่ต้องพูดความจริง แต่มันก็คือความจริง จะให้ประกันตัวผมได้หรือยัง”
“รอให้ท่านผู้กำกับ ท่านข้าหลวงท่านตัดสินใจ แต่มิได้หมายความว่าแกพ้นผิด ผิดของแก ยังคงต้องได้รับโทษ ซึ่งอาจจะน้อยลงถ้าแกพูดความจริง” แดงน้อยว่า
“ไปได้แล้ว” เทิดศักดิ์บอก
แช่มถูกนำตัวออกไป เทิดศักดิ์น้ำตาซึม แดงน้อยตบบ่าเพื่อน
“พิจารณาไตร่ตรองปากคำของมันให้ถ้วนถี่ก่อน มันอาจมดเท็จเพื่อเอาตัวรอด”
“มันพูดจริงหลายอย่าง เอาเถิด สิ่งใดจะต้องเกิดก็ให้มันเกิด สิ่งใดจะต้องเป็นไปก็ต้องเป็นเช่นนั้น กฎหมายคือกฎหมาย”
แดงน้อยมองเพื่อนอย่างเห็นใจมาก

ขณะที่ทานตะวันนั่งน้ำตาซึมอยู่นั้น สนยื่นมือมาแตะจากด้านหลัง เนียนซึ่งแอบมองอยู่นิ่ง และระวังตัวเต็มที่ ทานตะวันสะดุ้งตกใจหันมามองเห็นเป็นสนก็ไม่พอใจ
“ไปให้พ้น” ทานตะวันไม่เรียกสนว่าแม่อีกต่อไปแล้ว
“อย่าเพิ่งไล่สิคะ ฟังแม่สนก่อน แม่สนมาขอโทษ แม่สนผิดไปแล้ว แม่สนฟุ้งซ่านมาก เพราะเกิดเหตุร้ายในบ้านเราบ่อยๆ ยกโทษให้แม่สนนะคะ ที่แม่สนบังอาจพูดจาไม่ดีกับหนูอี๊ด”
“แล้วทำไมถึงเพิ่งมาคิดได้เอาตอนนี้”
สนแอบทำหน้าไม่พอใจ แต่พอหันไปหาก็ยิ้มหวานให้
“แหม จะให้แม่สนก้มลงกราบหรือคะ ถึงจะหายโกรธ มองหน้าก็รู้แล้วว่าหนูอี๊ดมีเรื่องขุ่นเคืองใจ มีอะไรบอกแม่สน แม่สนพร้อมให้คำแนะนำปรึกษาค่ะ”
อี๊ดมองหน้าสนอย่างชั่งใจ
“ไม่อยากได้คำปรึกษาจากใครทั้งนั้น ไปเสีย ชั้นอยากอยู่คนเดียว”
“อยู่คนเดียว เดี๋ยวคนร้ายมันบุกมาฆ่าเอาตายนะคะ” สนขู่
ทานตะวันเริ่มตกใจ กระเถิบมาใกล้สน
“ว๊าย อย่าพูดสิ ชั้นกลัว เอ้อ ถามจริงๆ เกลียดม.. เอ้อ ยัยเนียนมากใช่ไหม”
“วุ๊ย แม่สนก็เกลียดมันมากพอๆกับที่คุณหนูเกลียดนั่นแหละค่ะ
“ยัยเนียนทำอะไรก็ผิด หายใจก็ยังผิด ใช่ไหม” ทานตะวันถาม
“ใช่ค่ะ มันไม่ผิด เราก็ต้องบอกว่ามันผิดค่ะ”
“ผิดจนอยากฆ่าให้ตายใช่ไหม”
“หนูอี๊ดอยากไหมเล่าคะ”
“ถ้าชั้นอยาก...”
เนียนที่แอบมองอยู่สะท้อนใจจนน้ำตาไหลริน
“ลูกรัก หนูอยากให้แม่ตาย”
“ก็ให้มันตายไปสิคะ” สนว่า
“ทำอย่างไรรึ”
“ไปนั่งเรือเล่นกัน แล้วแม่สนจะแจงแผนการให้ฟังค่ะ”
เนียนฟังแล้วตกใจ พึมพำเบาๆ “ไม่นะคะ ไม่นะลูก อย่าไปกับเขา”
ทานตะวันทำหน้ายิ้มๆ
“ตกลง ชั้นจะไป”
สนยิ้มดีใจ แต่เนียนตกใจมาก

“หนูอี๊ดลูกแม่”
ในเวลาเดียวกัน เรียมยืนอยู่กลางห้องนอนของทานตะวัน ร้องเรียกหา

“หนูอี๊ดขา มากินข้าวลูก เอ๊ะ ไม่อยู่ในห้อง นี่หนูอี๊ดออกไปไหนรึว่าไปที่ร้าน แปลว่าอารมณ์ดีมากแล้ว ถ้าเช่นนั้นก็ค่อยยังชั่ว”
เรียมโล่งอกสบายใจหันมาเจอกบ

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 20/3 วันที่ 22 พ.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manage