อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 19/2 วันที่ 17 พ.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 19/2 วันที่ 17 พ.ค. 56

“ตกลงว่าเนียนได้ประกันตัวไปแล้ว แต่ยายก็ยังต้องมาเป็นพยานอีกปากว่าเขาไปบ้านแพน รวมทั้งนายโพล้งกับนางแพรด้วย”
“ไม่ใช่แค่มาเป็นพยานเท่านั้นดอกเจ้าค่ะ คุณนายเรียม อิชั้นต้องมาจัดการ เรื่องที่นาที่ซื้อจากเนียนเขาด้วยเจ้าคะ เรื่องมันวุ่นวายขายปลาช่อนมากเจ้าค่ะ”
“วุ่นวายอย่างไรรึ”
“ก็แหม ไม่อยากจะพูดเพราะเนียนเขาไม่อยากให้พูด”
“ยายอ่อนนี่ละก็ ตัวเองมีความลับกับคุณนายกับเนียนมากมาย ดูแต่เรื่องลูกสิ” เอกเอ็ด
สนหูผึ่งพลอยตื่นเต้นไปด้วย

“พวกมันมีความลับอะไรกันมากมายนะ
เรียม เอก และยายอ่อน คุยกันต่อ
“ก็จริงนะ เรื่องลูกของคุณนายกับเนียน มันก็พัวพันกันไปหมด” ยายอ่อนว่า


“ก็ต้องขอบใจยายอ่อนมากนะ ที่ช่วยกันปิดบังเรื่องลูกของชั้นที่ตาย”
สนตาโต ตื่นเต้นมาก
“ลูกอีเรียมมันตาย แล้วอีเด็กอี๊ดมาจากไหน”
“ลูกเนียนมันเป็นฝาแฝด น่ารักน่าชังแข็งแรงทั้งสองคน อิชั้นอยากเห็นเหลือเกินเจ้าค่ะ” ยายอ่อนว่า
“ก็สบายดีกันทั้งสองคน” เรียมบอก
“คนพี่ก็ยกให้คุณนายเรียม คนน้องก็ต้องเป็นลูกของเนียนน่ะสิ” เอกเสริม
สนตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเก่า
“ที่แท้มันคือฝาแฝดกัน มันร้ายกาจมาก มิน่าอีเรียมถึงได้เอาใจทั้งอีเนียนกับอีเด็กติ๋วหนักหนา”
เรียมไถ่ถามอีก “ทีนี้ยายอ่อนบอกมาสิ ว่าที่นาของเนียนมันวุ่นวายอย่างไร”
“ก็เนียนเขากลัวว่าใครจะรู้ว่าเขาโอนที่นาให้นายอำเภอแดงน้อย”
“อะไรกันนี่” เรียมประหลาดใจ
“นี่...อย่าบอกนะยาย” เอกพอนึกออกแล้ว
“บอกตอนนี้แหละ นายอำเภอแดงน้อยน่ะลูกของเนียนกับผัวคนแรกชื่อแดงมันถูกรถชนตายไป เมื่อวันที่นายอำเภอแดงน้อยเกิดนั่นแหละ”
สนตกตะลึงอีกครั้ง
“นายอำเภอแดงน้อย เป็นลูกอีเนียน”

ฟากเนียนมาแอบเจอโพล้งกับแพร สองคนคนดีใจกับเนียนหลังรู้เรื่องท่านขุนแล้ว
“พี่ดีใจมากนะที่เนียน รอดพ้นบ่วงกรรมของนางสนมาจนได้”
“แล้วเนียนจะเอายังไง สมควรต้องให้นางคุณนายสนมัน โดนเสียบ้าง” แพรว่า
เนียนส่ายหน้า
“เนียนไม่จองเวรใคร และประการสำคัญ ยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นใครอย่าเที่ยวไปพูดว่าเป็นคุณสน มันไม่สมควรจ้ะ”
สองคนระอา “เอาอีกแล้วเนียน”
“แกจะดีไปถึงไหน” แพรบ่น
เนียนได้แต่ยิ้ม

ฝ่ายยายอ่อนพูดจนหยุดไม่ได้แล้ว เรียมก็อยากรู้ต่อไปเช่นกัน
“มาว่าเรื่องที่นาของเนียนกันต่อเจ้าค่ะ”
“ชั้นอยากรู้ยายอ่อนไปรวบรวมเงินมาจากไหนรึ ถึงไปซื้อที่นาของเนียนได้น่ะ แค่เงินของชั้นมันก็คงไม่พอดอก”
“เกือบจะพอเจ้าค่ะ แต่พอดีคุณสนให้เงินอิชั้นมาสมทบมาอีกมากโข”
เอกกะเรียมร้อง “ฮ้า”
“แม่สนเขาให้เงินยายอ่อนค่าอะไรรึ ในเมื่อค่าทำคลอด พี่เทพก็ให้ชั้นให้ยายแล้วนี่นา”
“คือคุณนายสนให้เงินอิชั้นเป็นค่าปิดปาก” ยายอ่อนบอก
“ค่าปิดปาก” เรียมไม่เข้าใจ

“เจ้าค่ะ ปิดปากเรื่อง...”
มาถึงตรงนี้ สนทนให้ยายอ่อนแฉตัวเองต่อไม่ได้แล้ว จึงฉวยเอาก้อนหิน เขวี้ยงโยนไปใส่ในวงสนทนาทันที

“อีอ่อน มึงจะพูดต่อไม่ได้”
"ว้าย" พวกเรียม ตกใจ
“ท่าจะไม่ดีแล้ว มีคนเห็นเรามาแอบคุยกันแน่ๆ” เรียมว่า
“ใช่ขอรับ ทำท่าจะไม่ปลอดภัยเสียแล้ว คุณนายเรียมขอรับผมจะรีบพากลับไปเรือนก่อนนะขอรับ ยายอ่อนรออยู่นี่นะ เดี๋ยวจะไปส่ง”
“ไม่ต้องดอกพ่อเอก ก็เห็นว่ายายมากับนายโพล้งนางแพรมัน มันนัดเจอกันที่คุ้งน้ำใกล้ๆนี่แหละ ป่านนี้มันคงมารอแล้ว ยายไปเองได้ พ่อคุณ”
“ขอบใจยายอ่อนมาก รับรองว่าเรื่องที่รู้ในวันนี้จะไม่แพร่งพรายให้ใครรู้ต่อไปอีก”
“ขอบคุณมากเจ้าคะ อิชั้นก็จะไม่แพร่งพรายต่ออีก แหมเสียดายยังเล่าต่อไม่จบ” ยายอ่อนเปรี้ยวปากอยากเล่าต่อ
“เดี๋ยวมึงได้เล่าต่อจนจบแน่อีแก่ปากลำโพง” สนคำราม
เรียมออกไปกับเอก ยายอ่อนเดินกระย่องกระแย่ง หลบไปที่เรือ

ขุนภักดียังคงอบรมลูกสาวต่ออยู่บนเรือนใหญ่
“คนเรามีเรื่องราวมากมาย ที่ต้องรับรู้รับฟัง ด้วยเหตุและผลไม่ใช่อารมณ์ มีทั้งเรื่องที่ดีและร้าย ลูกต้องรับมันให้ได้ทั้งสองแบบ”
“หนูไม่ชอบอดทน แม่สนสอนหนูมาตลอดว่าเกิดเป็นหนูไม่ต้องทนดอก”
“ฟังพ่อบอกเอาไว้ให้ดี แม่สนสอนหนูผิดมาตลอด คนที่ผิดมากที่สุดคือพ่อ ที่ช่วยส่งเสริมไม่ว่ากล่าว แม้คุณแม่จะคอยติติงก็ตาม การคิดก่อนพูดนั้นช่วยเราได้มากนะลูก”
“คุณพ่อกำลังพูดว่าหนูไม่มีความอดทนไม่ใช่คนดี”
เรียมเดินกลับมาถึงเรือนแล้ว
“ยังคุยกันไม่จบอีกรึ พ่อลูกคู่นี้”
“จบแล้วคะ หนูจะไปนอน ท่องคำดุว่าของทั้งคุณพ่อคุณแม่ให้มันชอกช้ำใจให้มากๆ ค่ะ”
พูดประชดบุพการีจบ ทานตะวันก็พรวดออกไป เข้าห้องปิดประตูลงกลอน เรียมกับท่านขุนส่ายหน้า

ยายอ่อนพายเรือมา ตั้งจะไปจุดที่นัดหมายกับโพล้งและแพรไว้ ยายอ่อนได้ยินเสียงพายจ๋อมแจ๋มอยู่ด้านหลัง กระชั้นมาทุกทีราวกับว่าจะไล่จี้ตน
เรือที่พายไล่หลังยายอ่อนมีผ้าคลุมหน้าพาดมาที่ไหล่ ในที่สุด เรือของยายอ่อนก็โดนกระแทก
“อะไรกันรึนี่ ที่ให้เรือแล่นมีกว้างใหญ่ ทำไมต้องมาพายไล่จี้ก้นใส่กัน”
“กูอยากพายจี้ก้นใส่มึง มึงน่ะไฟลนก้นยังไม่รู้สึกตัวอีอ่อน”
ยายอ่อนงง “แกเป็นใครกันน่ะ”
“กูเอง มึงอยากจะพูดว่ามึงปิดปากสิ่งใดกับอีเรียมเรื่องลูกกู มึงพูดออกมาสิ”
ยายอ่อนตกตะลึง “คุณสน”
สนพายเรือแซงเข้ามาเทียบข้างเรือยายอ่อน แล้วสนก็เอาผ้าที่คลุมหน้ารัดคอยายอ่อนจนปวกเปียก
ยายอ่อนไม่ทันตาย
“มึงมันช่างพูดนัก เชิญมึงไปเล่าเรื่องของลูกกูต่อในนรกเถิด”
“อีสน อย่า”
“มึงทรยศกู กูให้เงินมึงแล้ว มึงยังคิดจะเอาความลับของกูมาเปิดเผย”
ว่าแล้วสนก็ผลักเรือยายอ่อนจนคว่ำ ลอยไปตามยถากรรม ยายอ่อนตะเกียกตะกายหนีตายด้วยว่ายน้ำไม่เป็น
“ชั้นว่ายน้ำไม่เป็น”
“เพราะมึงเป็น แต่เปิดโปงกู” สนด่า
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”

ยายอ่อนร้องอย่างน่าเวทนา พยายามตะเกียกตะกายมาเกาะเรือที่คว่ำจม สนใช้เท้าถีบเรือห่างออกไปทุกทีๆ
ขณะเดียวกันขุนภักดีและเรียมคุยกันอยู่ในห้องนอน

“เรียมไปพบยายอ่อนมาค่ะ”
“ยายอ่อนไหน”
“ยายอ่อนคนทำคลอดลูกเราค่ะ ทำคลอดเทิดศักดิ์ด้วย”
ท่านขุนนึกได้ ยิ้มอารมณ์ดี “ทำคลอดหนูติ๋วอีกคน ขอบใจเรียมมากนะ ที่ครั้งนั้นเรียมช่วยดูแลให้ยายอ่อนทำคลอดเนียน หาไม่เช่นนั้น บางทีหนูติ๋วอาจมีอันตราย”
“เอ้อ ค่ะ” เรียมพูดได้ไม่เต็มปาก
ท่านขุนโอบเรียม

ยายอ่อนตะเกียกตะกายจะจมน้ำให้ได้ พอยายอ่อนจะเกาะเรือได้ สนก็ถีบเรือออก
“ชะ ชะ ช่วยด้วย”
“ช่วยให้มึงตายอยู่แล้ว”
“อีสนคนชั่ว ใจดำ”
“อีอ่อนคนโง่ ใจง่าย มึงก็ต้องตายอย่างนี้แหละ”
สนเอาเท้าเหยียบหัวยายอ่อนกดลงไปใต้ผิวน้ำอย่างเหี้ยมโหด

สองผัวเมียพูดคุยกันต่อ
“ยายอ่อนแกมาทำอะไรรึ”
“แกมา เรื่องซื้อขายที่นาของเนียน”
“อ้อ ใช่สิ ที่นาของเนียน แดงน้อยกับพี่เพิ่งจะคุยกันเรื่องนี้”
“คุยว่าอย่างไรคะ”
“แดงน้อยแปลกใจมากที่เนียนมายกที่นาให้ตั้งแต่เขาสี่ขวบ แถมปิดบังไม่ยอมบอกใคร พี่น่ะให้สงสัยว่า...”
“พี่เทพสงสัยได้แม่นย่ำแล้วค่ะ”
“แม่นยำว่า แดงน้อยกับเนียน...”
เรียมต่อคำให้ “เป็นแม่ลูกกัน”
“พี่ว่าแล้ว ใจคิดตั้งแต่ตอนบ่าย แต่ไม่กล้าเอ่ย”
“ยายอ่อน แกว่า พ่อของแดงน้อยตายในวันที่แดงน้อยเกิดนั่นแหละค่ะ พอดีกับที่เกิดเรื่องที่นาตาน้อมเลยพาเนียนมาขัดดอก คนสนิทกันชื่อนายโพล้งกับนางแพร ช่วยดูแลแดงน้อยให้”
“ดูแลกันจนเรียนจบด้วยเงินค่าเช่านาจากยายอ่อนน่ะรึ ค่าเช่านั้นมันพอส่งเข้าเรียนวชิราวุธรึ มีร้านกาแฟ ใหญ่โต แถมตอนนี้มีรถออสตินขับ แล้วทำไมเนียนต้องมาขัดดอก”
“พี่เทพ สงสัยอะไรหรือคะ”
“สงสัยว่าแดงน้อยไปเอาเงินมาจากไหน ชีวิตใกล้เคียงกับเทิดศักดิ์ ที่พี่เอ่ยปากนี่มิใช่ดูถูกแดงน้อย เพียงแค่สงสัย”
“ได้ยินว่ามีลุงน่ะคะ หรือว่าลุงคนนี้จะให้ปันแดงน้อย”
“อืม อาจจะใช่”
ขุนภักดีพยายามคิด เพราะไม่เข้าใจเรื่องนี้

ด้านเนียนยังคงพูดจาพาทีกับโพล้งแพรต่อไป มีเอกอยู่ด้วย
“เวลานี้พี่ขุนก็ยอมรับแล้วว่าหนูติ๋วเป็นลูกของท่าน”
“แต่ได้ข่าวว่า หนูอี๊ดนั่นเหลือรับ ไม่น่ารักเอาเสียเลยตั้งแต่ เคยมาที่ร้านที่บางกอก นิสัยใจคอช่างต่างกันเสียเหลือเกิน” แพรบ่น
“แดงน้อยกับหนูติ๋วเอานิสัยแม่มา แต่หนูอี๊ดนี่สิ นิสัยคุณนายเรียมก็แสนดี แต่ไม่รู้ว่าไปเอานิสัยใครมา รึว่านิสัยพ่อ”
แพรบอก “ไอ้เอกมันว่าเอานิสัย ยัยคุณนายสนมาตะหาก แย่หน่อยนะเนียน”
“แล้วนี่จะปิดบังเรื่องนี้กันนานแค่ไหน” โพล้งว่า
“เรื่องหนูติ๋วพี่ขุนกำลังจะหาโอกาสพูดกับหนูติ๋วจ้ะ” เนียนว่า
“แล้วเรื่องของแดงน้อยเล่า”
“โอกาสยังไม่อำนวย แต่ก็คงไม่นานดอก เพราะต้องขายที่นาให้ยายอ่อนแกในเร็ววัน แต่สำหรับหนูอี๊ด ชั้นจนปัญญาจ้ะแกรังเกียจชั้นกับหนูติ๋วมาก” เนียนหน้าสลดลง
“แล้วถ้าหากเกิดมารู้ว่า ท่านขุนยอมรับหนูติ๋วเป็นลูก มิอาละวาดหนักรึ” โพล้งว่า
“ก็เพราะเหตุนี้ ชั้นจึงขอร้องให้พี่ขุนค่อยเป็นค่อยไป รักษาน้ำใจหนูอี๊ดเอาไว้ก่อน”
“เฮ้อ น้ำท่วมปาก”
แพรกะโพล้งมองหน้าเนียน
“เวลานี้เกรงแต่ว่าถ้าพี่หนักรู้ข่าวเนียน แกจะโผล่ออกมาเพ่นพ่านเดี๋ยวจะโดน เทิดศักดิ์กับแดงน้อยจับตัวเอาจนได้”
“นี่แหละที่พี่ก็ห่วงแกอยู่ หลบเงียบอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครรู้หายไปตั้งแต่ แดงน้อยกลับมาจากเมืองนอก เอารถมาให้แล้วเงียบไปเลย”
เนียนหน้าเสียห่วงพี่ชายมาก

สองคนยังคุยกันต่อ
“พี่ขุนคิดว่าหนูอี๊ด จะยอมรับหนูติ๋วง่ายๆ ไหมคะ”
“นี่แหละที่เนียนขอไว้ ไม่อยากหักด้ามพร้าด้วยเข่า”
“หนูอี๊ดช่างนิสัยไม่ดีเสียเหลือเกิน” เรียมสะท้อนใจ
“เป็นเพราะพี่ให้ท้าย แล้วยอมให้สน สนตะพายหนูอี๊ด”
“พี่เทพ”
“พี่ตามใจลูกเกินไป เพราะรักมาก เรียมเสียอีกที่คอยห้ามปราม”
ขุนภักดียังคิดต่อ แต่สายตามองไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นบางอย่าง
“เอ๊ะ”
“อะไรหรือคะ”
“มีคนกล้ามาล้วงคองูเห่า ดูนั่นสิเรียม
เรียมตกใจ “คนร้ายที่ลอยนวล”
ขุนภักดีปรี่ไปฉวยปืน จะออกไป เรียมวิ่งตาม
“อย่าตามมาเรียม”
“เรียมห่วงพี่เทพนะคะ”

เรียมไม่ฟังตามขุนภักดีไป
ส่วนสนยันหัวยายอ่อนไว้ มือของยายอ่อนที่พยายามไขว่คว้าหาที่ยึดตกลงในน้ำ สนมั่นใจว่ายายอ่อนตายแล้ว จึงปล่อยเท้าจากหัวยายอ่อน

“มึงไปปากโป้งในนรก เสียที อีอ่อน”
สนหยิบพายมาพายเรือกลับ หน้าตาเฉย

ฟากขุนภักดีกับเรียมย่องมาดูว่าใครมาบุกรุกบ้าน สองคนย่องมาตรงจุดที่รู้ว่ามีคนอยู่ตรงนั้น ได้ยินเสียงแว่วๆ
“มีหลายคนอยู่ตรงนั้น ไปดูสิว่าใครบังอาจ ไม่รู้รึว่านี่บ้านงูจงอางจะยิงมันเดี๋ยวนี้”
ขุนภักดีถือปืนตั้งท่าดิบดี พาเรียมย่องไปใกล้ๆ
เรียมกระซิบบอก “นั่นเสียงเนียนค่ะ”
“เนียน มาทำอะไรค่ำมืด หลบๆ ซ่อนๆ อีกแล้ว”
เรียมมองไป จำได้ “มาพบนายโพล้ง กับนางแพรค่ะ ยายอ่อนแกบอกว่ามากับสองคนนี่จะมาหาเนียน มาพร้อมกับนายเอกนี่แหละค่ะ”
“ใช่จริงๆ ด้วย”
สองคนแอบมอง ขณะที่สี่คนกำลังพูดคุยกันเบาๆ

เรียมเห็นเนียนมีเพื่อนอยู่ด้วยจึงวางใจ ทำท่าจะไป
“เนียนกับสองคนนั่นคงมาคุยกันตามประสาคนไม่พบหน้ากันมานานไปกันเถิดค่ะ ไม่มีอะไรน่ากลัวแล้ว”
“แต่พี่อยากฟังว่าเขาคุยอะไรกัน ไม่มาจับผิดดอก บางทีเราอาจได้รู้อะไรที่เนียนไม่ได้บอกพี่กับเรียมอีกก็ได้”
“จะจับผิดเนียนอีกแล้วหรือคะ”
“ไม่ใช่ดอก พี่มีความรู้สึกว่าพวกเขาน่าจะมาพูดกันถึงเรื่องสำคัญที่อาจเกี่ยวพันกับครอบครัวเรา มิใช่มาดักจับผิด เรื่องนี้ไม่มีอีกแล้วจ้ะ”
เรียมพยักหน้า สองคนยืนเบียดชิดกันแอบฟัง

จู่ๆ เนียนให้นึกห่วงยายอ่อน
“พี่เอกจ้ะ พี่โพล้งกับพี่แพร ยังคุยกันกับชั้นไม่จบ พี่เอกไปอยู่เป็นเพื่อนยายอ่อนแกก่อนเถิด ชั้นสังหรณ์ใจ ฉวยว่าใคร รู้แกวว่าแกอยู่คนเดียว แกอาจเคราะห์ร้ายจ้ะ”
“ครับ คุณนายเนียน” เอกว่า
เนียนเอ็ด “พี่เอกเอาอีกแล้ว พ่อเราเป็นเพื่อนกันนะ อย่าเรียกชั้นแบบนี้”
“เรียกเป็นทางการครับ หาไม่มันจะกลายเป็นเยี่ยงอย่างให้นางกบนางแมวมันลามปามคุณนายเนียนเอาได้”
“รีบไปสิจ้ะ คนร้ายยังลอยนวลอยู่นะ”
เอกรีบออกไปดูยายอ่อน สามคนหันมาพูดคุยกันต่อ
“พี่โพล้งพี่แพร ชั้นฝากบอกลูกน้าเนิบที่สามชุกด้วย ว่าไม่ต้องห่วงชั้น” เนียนบอกสองคน
“เวรแท้ๆ นะเนียน ไอ้แดงน้อยมันหารู้ไม่ มันจับแม่มันเข้าตะราง” โพล้งเอ่ยขึ้น
“เขาทำตามหน้าที่ ชั้นดูแววตาเขาออก รวมทั้งแววตาคุณเทิดศักดิ์ด้วยพวกเขาเสียใจที่ใส่กุญแจมือชั้น”
“นี่ขนาดมันยังไม่รู้นะว่าแม่มัน มันยังรักห่วงใยขนาดนั้น นี่ถ้ามันรู้”
“เขาน่ารักเสมอ ตั้งแต่ที่พบกันวันแรก ชั้นสงสัยว่ามันจะมีสายสัมพันธ์พิเศษระหว่างเราจ้ะ” เนียนยิ้ม
“แล้วกับเด็กอี๊ดเล่า เขาเรียกว่าสายอะไรรึ” โพล้งประชด
เนียนหน้าจ๋อยไปสนิท

สองคนฟังถึงตรงนี้ เรียมหน้าซีดมาก แต่ขุนภักดีฟังแล้วเอะใจ
“นายโพล้งมันพูดเช่นนั้นหมายความว่ากระไรของมัน เรียมเข้าใจไหม”
เรียมนิ่งอึ้งเงียบงันไป
“มันคงรู้ว่าหนูอี๊ดร้ายกาจกับเนียนมาก เฮ้อ หนูอี๊ดนะหนูอี๊ด ขอเพียงร้ายแต่ปาก อย่าเป็นพวกเคียวเจ็ดเล่มเข็มเจ็ดอันเหมือนสนเลย”
“ตั้งแต่กลับมาจากบางกอก ทำไมพี่เทพจึงเฉยเมยกับสนนักคะ” เรียมถามเรื่องคาใจ
“เพราะพี่เห็นเนื้อแท้ของสนถนัดชัดเจนมาก วันที่พี่ให้เนียนมาพบเนียนมารอพี่ แต่กลับเจอสนก่อน สนกำลังจะแทงเนียนให้บอกว่ามาทำไม เนียนไม่บอก สนตั้งท่าจะทำร้ายเนียนพี่จึงออกอุบายให้ไอ้ถมมันตะโกนว่าเสือหนักมา สนเลยละมือจากเนียน” ขุนภักดีเล่า
“ตายจริง ตายแน่ ถ้าไม่ทำเช่นนั้นสนแทงเนียนดับดิ้นตรงนั้นแล้ว”
“พี่คงต้องออกแสดงตัว การตายคงไม่เกิดขึ้นกับนางช้อย และไอ้ถม”

สองคนได้แต่ถอนใจ
ฝ่ายสามคน เนียน และแพร ฟัง โพล้ง เล่าเรื่องต่อ

“เวรที่มันก่อกับเนียน คงถึงตัวมันบ้างสักวัน และอาจในไม่ช้านี้” โพล้งบอก
“ลูกชายมันคงได้จับแม่ตัวเองเข้าตะรางกันบ้าง น่าสงสารเด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่” แพรว่า
“เวรของแม่ แต่มาตกถึงลูก มันใจร้ายนัก ฆ่าได้กระทั่งอีนางช้อย แม้มันจะเลว มันก็จงรักภักดีกับอีนางคุณนายสนจะเป็นจะตาย” โพล้งว่า
“พี่โพล้ง พี่แพร เอาอีกแล้วบอกตามตรง ชั้นไม่เชื่อว่า คุณสนจะฆ่าช้อยได้ เขาคู่หูกัน สนิทกัน ตายแทนกันได้”
“ก็นี่แหละมันให้นางช้อยตายแทนมัน ก่อนที่จะเปิดปากเปิดโปงความชั่วของมัน”
แพรกะเนียนแปลกใจไม่รู้มาก่อน “เปิดโปงว่ากระไร”
“ข้าน่ะผัวนางช้อยทีเดียวนะ” โพล้งบอก
สองคนร้อง “ไฮ้”
ขุนภักดีกับเรียมก็ตะลึงไปด้วยเช่นกัน สองคนหันมามองหน้ากัน
“นี่มันเป็นไปได้ถึงเพียงนี้เลยรึ”
เสียงโพล้งเล่าเรื่องดังมา “ก่อนที่ท่านขุนจะยกย่องเนียนน่ะ นางสนมันอิจฉาเนียนจนคิดทำลายเนียนให้ป่นปี้”
“โธ่ เนียน” เรียมครวญ
“เนียนจำได้ไหม วันที่มันหลอกเนียนให้ไปวัดกับมันแล้วมันบอกเนียนว่ามันจะไปทุ่ง เพราะท้องเสีย แต่ที่จริงมันหลอกทิ้งเนียนเพื่อจะให้ไอ้เหิมผัวชั่วคราวของมันมาปล้ำขืนใจเนียน”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 19/2 วันที่ 17 พ.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager