อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 15/4 วันที่ 4 พ.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 15/4 วันที่ 4 พ.ค. 56

“วุ๊ย...แกจะซื่อมากไปถึงไหนยัยเนียน ชั้นจะตั้งวงสู่ขอลูกสาวเราแหละ”
เนียนตกตะลึง ขณะที่เนื้อทองอึ้งไป
“คุณท่าน” / “คุณย่า”
เนื้อทองหันมามองเทิดศักดิ์ อีกฝ่ายพยักหน้า
“เนียน แกอย่ามาปฎิเสธทีเดียวนะ ตาเทิดของชั้นกับยัยติ๋วของแก เป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุดของเมืองนี้ แกอย่ามามัวตกอกตกใจอยู่ ยิ้มยินดีสิ”
“เอ้อ…”

“รึแกว่าตาเทิดของชั้นไม่ดี”
“เอ้อ ดีเจ้าค่ะ ดีที่สุดเจ้าคะ”
“แล้วทำไมแก ทำหน้าเหมือนโดนผีหลอกตกใจมากมาย” ทองจันทร์แปลกใจ
“มิได้เจ้าค่ะ แต่เนียนเกรงว่า หนูติ๋วจะไม่เหมาะกับคุณเทิดศักดิ์เนียนเป็นแค่...”
“น้าเนียนอย่าพูดต่อนะครับ น้าเนียนคือคนที่ผมเคารพรักเหมือนน้าของผม หรือว่าน้าเนียนรังเกียจผม”



“ไม่ดอกค่ะ ไม่มีวันเป็นเช่นนั้นค่ะ”
“ถามแม่แกแล้ว ทีนี้มาถามแกบ้าง ยัยติ๋ว แกว่ายังไง” ทองจันทร์หันมาทางเนื้อทอง
เนื้อทองมองหน้าแม่ “เอ้อหนู หนู..แล้วแต่แม่ค่ะ”
“นั่นปะไร ไม่มีปัญหา เป็นว่า เรียบร้อย ย่าจะบอกพ่อเทพเขา แม่เรียมไม่มีปัญหา ว่าแต่แม่เราเถิดพ่อเทพ ดูท่าว่าน่าจะมีปัญหานะ”
“ผมบอกคุณแม่แล้วครับ ว่าชีวิตผม ผมจัดการเอง”
“เก่งมาก เด็ดขาดดีมาก ย่าดีใจ ชั้นดีใจนะเนียน ที่เด็กๆ ของเราที่นี่ลงเอยกันด้วยดี”
สองคนทองจันทร์กับเทิดศักดิ์มัวดีใจ จนไม่ทันสังเกตหน้าอันขาวซีดของเนียน และท่าทางเกรงๆ แม่ของเนื้อทอง

ส่วนสนกับช้อยโต้กันอย่างดุเดือด
“ลูกแกมันเลว มันชั่วเอง ใช่ว่าชั้นไม่เคยช่วยมัน ช่วยมันจนมันมาก่อเหตุร้ายในบ้าน ลูกแกเป็นโจร ลูกชั้นเป็นตำรวจ ขืนให้ปล่อยลูกแกไปลูกชั้นก็ทำผิดกฎหมายสิยะ”
ช้อยร้องไห้ไปด้วย “ช้อยขอแค่อนุญาตให้ประกันตัว ปล่อยตัวชั่วคราวไปสู้คดี”
“ลูกแกก็หนีสิ แกมีปัญญาก็ไปจัดการเองสิ” สนไม่แยแส
“คุณสนสัญญากับช้อยไว้แล้วนะเจ้าคะ จะคืนคำง่ายๆ หรือเจ้าคะ” ช้อยเสียงชักเข้มใส่
“แกอย่าทำเสียงแข็งใส่ชั้นอีช้อย เวรกรรมของลูกแกเอง ชั้นไม่เกี่ยว”
“แต่เวรกรรมของช้อยที่มากมายจนต้องระเห็จไปจากที่นี่ ล้วนมีคุณสนเกี่ยวเป็นตัวตั้งตัวตีทั้งสิ้น” ช้อยบอก
“อีช้อย มึงลำเลิกกูเรอะ”
“ช้อยพูดความจริงเจ้าค่ะ ไอ้แช่มเองก็เคยรับใช้คุณสน ถ้ามันกลัวมากๆ มันอาจ...”
“อาจอะไร...”
“ช้อยไม่ได้อยากให้มันอาจหรอกนะเจ้าคะ ช้อยกลับก่อน แล้วช้อยจะมาเอาคำตอบเจ้าค่ะ”
ช้อยหันกลับไม่ไหว้ลา สนมองตามไม่พอใจ คำรามในคอ
“อีช้อยมึงวอนเองนะ”
จังหวะนี้เสียงร้องไห้ของอี๊ดดังระงม มาที่หน้าเรือน
“แม่สนจ๋า แม่สนขา ช่วยหนูด้วย ฮือๆๆๆ”
สนจะบ้าตาย
“อีเด็กบ้าเวรตะไลนี่มีเรื่องมาอีกแล้ว วันนั้นทำไมมันไม่โดนไอ้แช่มเอาเป็นเมียซะ จะได้หยุดวางอำนาจ”
“แม่สน แม่สนๆๆๆ อยู่ที่ไหน ทำไมไม่ออกมาหาหนู ฮือๆๆๆ”

สนเดินลงเรือนไปหา ทานตะวันผวามากอดสนร้องไห้โฮๆ
“หนูโดนคุณพ่อตบหน้ามาค่ะ”
สนแอบทำหน้าหัวเราะเยาะลับหลัง พูดไม่มีเสียง “สาแก่ใจ” แต่พูดออกไปอีกคำ “ไหนคะขอดูหน้าหน่อยค่ะ โดนสั่งสอนไปกี่ทีคะนี่ ต๊ายบวมเป็นกะโล่แล้ว นี่ไม่ใช่ตบสั่งสอนหรอกค่ะ แต่ตบตัดขาดพ่อลูกเลยนะคะ พี่ขุนนี่มือหนักไม่น้อย นี่ลูกแท้ๆ ช่างทำได้”
สนแอบยิ้ม ทานตะวันยังร้องครวญคร่ำเสียงโหยหวนต่อ

ฝ่ายขุนภักดียังคงขุ่นเคืองแต่ก็ไม่สบายใจที่ตบหน้าอี๊ดไป เรียมเองก็เครียดมาก
“พี่ขุนไม่ควรไปตบหน้าลูกนะคะ”
“ใครจะไปทนได้ เด็กอะไรหยาบคายกล้าว่าพ่อว่าแม่ ไม่เคารพยำเกรงมันผลักเรียมจนล้ม มันทำได้อย่างไร ขืนปล่อยนานไปจะเอาไม่อยู่ ไม้แก่เกินดัดซะแล้ว”
“ไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยาก แต่เราต้องค่อยตะล่อมเอาแกให้อยู่ให้ได้ ชั่วดีถี่ห่างก็ลูกของเรานะคะ”
“ลูกของเรา ตระกูลสูงส่ง มีทุกอย่างพร้อม เสียอย่างเดียวนิสัยเสียแต่ดูลูกน..เอ้อ ลูกคนอื่นเขาสิ อ่อนน้อมถ่อมตนขยันขันแข็งทำงานทำการ ทำไมมันแตกต่างกันอย่างนี้ หน้าตาเหมือนกันแต่นิสัยต่างกันราวฟ้ากับดิน ลูกคนใช้นิสัยเหมือนนางฟ้าลูกเทวดา นิสัยเหมือนกุ๊ย”

เรียมดึงมือขุนภักดีมาจับไว้ เป็นเชิงปลอบใจ แต่เรียมเองก็น้ำตาไหลไปด้วย รู้อยู่แก่ใจ
ขณะที่เทิดศักดิ์เดินผิวปากใบหน้ายิ้มระรื่นขึ้นเรือนมา เจอสนกับอี๊ดตรงนอกชานนั่งวางสีหน้าไม่สบายใจกันทั้งคู่ เทิดศักดิ์เลยชะงัก

“น้องอี๊ด มานั่งอยู่ที่นี่ทำไมมืดค่ำแล้ว ฝนฟ้าทำท่าจะตก บ้านช่องตัวเองมีไม่ไปอยู่”
“หนูโดนคุณพ่อไล่ออกจากบ้าน ห้ามกลับไปเหยียบฮือๆๆ”
“ไม่ใช่แค่นั้นนะเทิดศักดิ์ หนูอี๊ดโดนคุณพ่อตบหน้ามาด้วย” สนว่า
“อะไรกัน”
“เพราะหนูบังอาจไปบอกคุณพ่อ เรื่องชู้สาวของยัยเนียนกับพี่แดงน้อยค่ะ”
“นั่นปะไร รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่จริง แล้วไปพูดให้ร้ายป้ายสีเขา ดีนะที่ตอนนี้คุณพ่อท่าน ไม่หุนหันพลันแล่นเชื่อ เรื่องเหลวไหลพวกนี้ น้องอี๊ดพี่ขอเตือนกลับบ้านไปขอโทษคุณพ่อเดี๋ยวนี้”
“ไม่ หนูไม่ผิด ยัยเนียนต่างหากที่ผิด”
“อย่างนี้ไง ถึงได้โดนคุณพ่อท่านหมดความอดทน ตามใจนะ น้องอี๊ดไม่ฟังใครบ้างอีกหน่อยจะเสียใจ เพราะมันสายเกินแก้ อย่ามานอนที่นี่เลย กลับไปนอนที่บ้านนะ” เทิดศักดิ์ต่อว่า
“ใช่ค่ะ กลับไปนอนที่บ้านนะคะ”
“นี่ทุกคนไล่หนู ดี หนูไม่ง้อใครทั้งนั้น”
ทานตะวันวึดวือ กระแทกเท้าน้ำตาไหลลงเรือนสนไป สนมองตามส่ายหน้า ไม่มีอารมณ์ปลอบโยน
“แม่เหนื่อยกับหนูอี๊ดจริงๆ นะลูก แม่อดทนมากเวลาที่แกมาโวยวายด่าทอคนอื่น”
“อดทนด้วยการช่วยด่าคนอื่นกระหน่ำไปเลยน่ะสิครับ วันนี้เป็นวันแรกที่ผมเห็นคุณแม่ไม่ได้ให้ท้ายน้องอี๊ด ดีแล้วครับ ขอบคุณ คุณแม่มาก”
สนส่ายหน้าวันนี้เจอมาหลายเรื่อง
“อ้อ มีอีกเรื่องครับ ถ้ายัยช้อยมาขอให้คุณแม่ช่วยเรื่องนายแช่ม ปฎิเสธไปนะครับ”
“จ้ะ”
“เอ๊ะ หรือว่ามันมาแล้ว”
เทิดศักดิ์ดักคอ สนรีบส่ายหน้า

ฝ่ายทองจันทร์กับเนื้อทองกำลังจะเตรียมตัวเข้านอน
“ยัยติ๋ว ย่าอยากนอนแล้ว ย่าจะไปนอนฝันถึงงานหมั้นของหนู”
กบแมวหัวเราะคิกคัก
“หัวร่ออะไรนังคนไม่มีปัญญาหาผัว นังสาวเทื้อ นังคนขึ้นคาน นังสาวทึนทึก กลับไปเรือนแกซะ”
กบกับแมวก็ยังขำกันต่อ
ทานตะวันเดินขึ้นเรือนทองจันทร์มา และได้ยินประโยคนี้พอดี
“เมื่อกี้คุณย่าพูดเรื่องงานหมั้นนังติ๋ว นี่นี่”
ทานตะวันมองไปด้วยแววตาอิจฉา ระคนเจ็บใจและน้อยใจมาก
“คุณย่า จะจัดงานหมั้นให้มัน คุณย่ารักมันมากกว่าเรา เกลียดมันจริงๆ”
ทานตะวันใจคอห่อเหี่ยว เพิ่มความเกลียดในตัวเนื้อทองเข้าไปอีก
ทานตะวันเห็นเนื้อทองเดินประคองทองจันทร์กำลังจะเข้าห้อง แล้วหายไปในห้องด้วยกัน ก็รู้สึกเสียใจว้าเหว่มาก
“คุณย่าสนิทสนมกับมัน มากกว่าเรา บ้านนี้ไม่มีใครยินดียินร้ายกับเรา ทุกคนแลกความรักกันและกัน แล้วเราเล่า”
กบกะแมวหัวเราะคิกคักลงมา เจอเอากับทานตะวัน ก็ตกใจ
“ว๊าย”
“สอพลอพอกัน นกสองหัว นกมีหูหนูมีปีก ชั้นเกลียดแกสองคนนัก”
สองคนค่อยๆ เดินตัวลีบ ก้มหน้าผ่านด้านข้างของทานตะวันลงเรือนไป
“เดี๋ยว”
“คะ” สองหันหงุดกึก
“คุณย่าพูดเรื่องหมั้นของนังติ๋ว มันจะหมั้นกับใคร”
กบกะแมวสบตากันเอง “คุณเทิดศักดิ์ค่ะ”
“นังลูกชู้” ทานตะวันรู้ทันที
สองคนรีบเผ่นหนี
ทานตะวันยืนนิ่งน้ำตาคลอ
“บ้านกว้างใหญ่ไพศาล แต่ไม่มีตรงไหนต้อนรับเรา ไม่มีที่ให้เรานอนทุกคนช่างใจร้ายกับเราเหลือเกิน”
ทานตะวันห่อไหล่หลังงอเดินคอตกกลับลงมาจากบันไดเรือนทองจันทร์ ทานตะวันน้อยใจน้ำตาไหลนองสองแก้ม ท่าทีสลดหดหู่จริงๆ

ขุนภักดียังคงโกรธขึ้งทานตะวันไม่เลิก เรียมเริ่มใจอ่อนห่วงลูกประสาแม่ ท่านขุนแม้จะโกรธแต่ก็ยังแอบห่วงบ้าง แต่มีทิฐิ
“พี่เทพขา เรียมว่าจะไปตามหนูอี๊ดกลับมานอนที่บ้านนะคะ”
“ไม่ต้องไป บ้านมีตั้งหลายหลัง นึกไม่พอใจคนหลังนี้ ก็หนีไปนอนหลังโน้น ขืนไปตาม เดี๋ยวจะเหลิงกันไปใหญ่”
“แต่เรียมก็ห่วงแกนะคะ”
“ใครว่าพี่ไม่ห่วงลูก หนูอี๊ดเป็นลูกสาวคนเดียว เป็นดวงตาดวงใจของพี่ พี่เสียใจมากนะที่ตบหน้าแกไป แต่ไม่มีใครหยุดหนูอี๊ดได้ ดังนั้นมันต้องมีใครสักคนที่แกเกรงกลัว นอนเถิดเรียม ลูกไม่นอนบ้านสนก็ไปนอนบ้านคุณแม่”
เรียมจำนน พยักหน้ารับ

ทานตะวันนั่งหงอยอยู่ตรงโคนต้นมะขามน้ำตาไหลพราก แค้นใจ น้อยใจที่กลายเป็นหมาหัวเน่า นึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้ ตั้งแต่ตอนเห็นแดงน้อยกอดกับเนียน มาถูกขุนภักดีผู้เป็นพ่อตบหน้า แถมเทิดศักดิ์กับสนไล่ให้กลับมานอนบ้าน กระทั่งมาเห็นทองจันทร์เดินเข้าห้องนอนมีเนื้อทองประคอง
ทานตะวันน้ำตาไหลพราก
“สุดแค้นจริง อยากรู้นักว่าเราตายไปจะมีใครเสียใจสักคนบ้างไหม”
เสียงฟ้าฝนทำท่าจะตกลงมา อี๊ดเงยหน้ามอง
“ไอ้ฝนบ้าเจตนาจะลงโทษชั้นเหมือนคนในบ้านนี้ใช่ไหม”
แล้วฝนก็สาดเทลงมา ทานตะวันขยับจะกลับบ้านแล้วฮึด
“จะมีใครสักคนคิดออกมาตามหาเราบ้างไหม หรือจะปล่อยให้เราตากฝนตะพ้านกินตายตรงนี้”
ทานตะวันร้องไห้สะอึกสะอื้น พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งใหม่ หนาวสั่นสะท้านไปหมดทั้งกาย
“ถ้าเราตาย จะมีใครสักคน ร้องไห้ให้เราไหม”

แล้วทานตะวันก็นั่งร้องไห้ฟูมฟาย อยู่ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำลงมานั้นเอง
ฟากเนียนนอนไม่หลับ วิตกกังวลว่าจะทำยังไงกับเรื่องการหมั้นของเนื้อทองกับเทิดศักดิ์

“ไม่ได้ หนูติ๋วกับคุณเทิดศักดิ์จะหมั้นกันไม่ได้ แล้วเราจะทำเช่นไร ความจริงก็เอ่ยไม่ได้ จะคัดค้านทัดทานก็ไม่มีเหตุอันใดมาหักล้างบุญคุณท่าน”
เนียนเครียดจัด เดินเหมือนเป็นหนูติดจั่น ท่ามกลางเสียงฟ้าฝนที่ตกลงมา เนียนนึกขึ้นมาได้
“คุณเรียม”
เนียนดีใจนัก เสียงฝนเทกระหน่ำ ลมพัดแรงอื้ออึงมาหน้าต่างห้องเปิดปิดดังปังๆ จนสายฝนสาดเข้ามา ในห้อง เนียนรีบรุดไปที่หน้าต่าง เพื่อจะปิดลง แต่หันไปมองเห็นบางอย่าง
“เอ๊ะ”

ทานตะวันหนาวสั่นพับๆ อยู่ที่โคนต้นมะขาม ตะโกนท้าฟ้าฝน
“เอาสิ เทลงมา สาดลงมา สาดมาใส่ให้ชั้นหนาวตาย แล้วดูสิว่าใครจะทำยังไงพรุ่งนี้เช้า จะหัวเราะเยาะ สมน้ำหน้า หรือว่าจะร้องไห้ใจจะขาด ที่เราตาย”
ทานตะวันร้องไห้ตัวสั่นพับๆๆ

เนียนถือร่ม ถือผ้าเช็ดตัวเดินลงบันไดมาปากก็บ่นไปด้วย
“ใครน่ะมานั่งตัวสั่นให้ตะพ้านกินอยู่ที่โคนต้มมะขาม แปลกแท้ๆ”
เนียนรีบร้อนลงเรือนไป

ขณะเดียวกันทานตะวันยังคงนั่งเอาชนะต่อไป แต่แย่มากแล้ว ทานตะวันนั่งเอาหน้าซุกเข่ากอดอกตัวเองไว้หนาวมาก
“เราต้องชนะ เราต้องอดทน เราต้องไม่แพ้”
ทานตะวันกำลังหนาวสั่นตะพ้านเริ่มกินจริงๆ เนียนถือร่ม ถือผ้าขนหนูมาที่โคนมะขาม
“ผู้หญิง ใครกันนะ”
เนียนรีบเข้าไปหาทันที แตะแขนถาม
“นี่...นี่ ทำไมมานั่งตากฝนอยู่ตรงนี้ นี่ นี่”
ทานตะวันขยับตัวเริ่มสติเลอะเลือน แต่ก็ผงกหัวดูว่าใครมา ดีใจนึกว่าเรียม
“คุณแม่” ทานตะวันคราง
เนียนตกใจเพราะกลายเป็นทานตะวัน
“คุณหนูอี๊ด”
ทานตะวันโกรธที่ไม่ใช่เรียม “ยัยเนียน ยัยบ้า อย่ามาถูกตัวชั้นนะ”
“คุณหนูมาตากฝน ทำไมคะ ตะพ้านจะกินเอานะคะ”
“เรื่องของชั้น ไปให้พ้นนะ”
เนียนบอกด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ไม่ไปค่ะ จนกว่าจะพาคุณหนูไปให้พ้นไอ้ฝนบ้านี่”
“อย่ามายุ่งกับชั้น”
“เป็นตายยังไงชั้นก็ต้องยุ่งให้ได้ค่ะ ไปเถิดค่ะ”
เนียนเริ่มฉุดทานตะวันที่ฝืนรั้งแถมทุบตีเนียน แต่เนียนไม่ย่อท้อ

ฝ่ายเรียมทนไม่ได้ ลุกเดินจะไปนอกห้อง
“เรียมจะไปไหน” ขุนภักดีเองก็ลุก
“พี่ขุนเล่าคะจะไปไหน”
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วประสานเสียงออกมา
“จะไปดูลูก”
สองคนพากันออกไปจากห้องนอน

ทางด้านเนียนพยายามออกแรงลากฉุดทานตะวันออกมาจากโคนมะขามมาได้พอสมควร ทานตะวันยังคงอาละวาดทุบตีดึงทึ้งเนียนไม่หยุด
“เอามือสกปรกของแกออกไปจากตัวชั้น”
“มือสกปรกสองมือนี้แหละค่ะ ที่ต้องปกป้องคุณหนูให้รอดพ้นจากฝนนี่ให้ได้”
“แกไม่ใช่แม่ชั้น อย่ามาปกป้องชั้น ไป ไปไสหัวไป แกก็แค่คนใช้ คนมีชู้ แก...”
“ด่าเถิดค่ะ ด่าว่าทุบตีชั้นแต่ได้โปรดกลับเรือนนะคะ”
“ไม่ๆๆๆๆไม่ไป ชั้นจะตายมันกลางสายฝนนี่แหละ อยากให้ฟ้าผ่าด้วยซ้ำ”
“อย่าค่ะ อย่าพูด”

เนียนออกแรงลาก ทานตะวันรั้งไว้ไม่ยอมไป สองคนถูลู่ถูกังกันไปมาท่ามกลางสายฝน ต่างร้องไห้ระงมทั้งคู่
สนกับเทิดศักดิ์ออกมารับหน้าเรียมกับขุนภักดีที่มาตามหาทานตะวันถึงเรือน

“ตายจริง” สนแสร้งตกใจ “หนูอี๊ดแกไม่ได้มานอนกับสนค่ะ ตายจริงโธ่”
เทิดศักดิ์บอกอีกคน
“หรือน้องอี๊ดจะงอนผมกับคุณแม่ หนีไปนอนเรือนคุณย่าครับ”
“ลูกคนนี้ช่างก่อเรื่องได้สารพัด พ่อเคืองมากแล้วนะ”
“เรื่องเคืองเอาไว้ก่อนค่ะ รีบไปตามหาลูก ฝนตกหนักอย่างนี้ น่าเป็นห่วง”
“ไปดูน้องที่เรือนคุณย่ากันเถิดครับ คุณพ่อ คุณแม่”
ทุกคนพากันออกไปตามหาต่อ ยกเว้นสน ที่มองตามตาวาววับ
“เจ้าประคู้น ขอให้มันไม่ได้ไปเรือนไหน ขอให้ฟ้าผ่ามันตายสมบัติจะได้เป็นของเทิดศักดิ์คนเดียว”

ฟากเนียนยังฉุดดึงลูกสาวต่อไป แต่ทานตะวันขัดขืนไม่เลิกรา ท่ามกลางฝนฟ้าคะนอง
“คุณหนู หยุดอาละวาดนะคะ ดูสิคะฟ้าฝนคะนองร้องดังมากขึ้นทุกที”
“ชั้นไม่สนใจ ชั้นขยะแขยงแก ไม่ต้องการให้แกมาถูกตัวชั้น แกไม่ใช่แม่ชั้น แกเป็นคนใช้ ชั้นต้องการคุณแม่เท่านั้น ปล่อยนะ ไม่ปล่อยใช่ไหม”
เนียนส่ายหน้า ทานตะวันก้มลงกัดแขนเนียนจนเลือดซึมออกมา แต่เนียนก็ไม่ปล่อยยังคงลากทานตะวันไปต่อ ที่สุดเนียนทนไม่ไหว ตบหน้าลูกสาวคนโตฉาดใหญ่ ตบสุดแรงเกิด
“ไม่มีทางเลือกแล้วค่ะ”
ทานตะวันตกใจปล่อยมือจากเนียน แล้วเปลี่ยนเป็นโกรธแค้นขึ้นมาอีก
“แกตบชั้น”
จังหวะนั้นเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา ประกายแสงวาบ เนียนกระชากร่างทานตะวันเข้าที่พุ่มไม้ แล้วเอาตัวเองทับคร่อมร่างลูกสาวไว้
ทานตะวันตกใจกลัวฟ้าผ่ากรี๊ดลั่นหมดสติไป “อ๊าย...ชั้นกลัว ชั้นกลัว”
“ลูกแม่”
เนียนกอดทานตะวันไว้แน่นโดยไม่คิดถึงชีวิตตัวเอง เสียงต้นไม้หัก เนียนแหงนหน้าไปมองเห็นต้นไม้โดนฟ้าผ่าหักโค่นลงมาตรงที่เนียนกับลูกฉุดรั้งกัน

ฝ่ายทองจันทร์กับเนื้อทองก็ตกใจมาก เมื่อถูกท่านขุนกับเรียมมาถามถึงเรือน สองคนผัวเมียตกใจในคำตอบของทองจันทร์
“ยัยอี๊ดไม่ได้มาเรือนแม่ดอกนะ”
“โธ่ หนูอี๊ดลูกแม่” เรียมใจจะขาดรอนๆ
“เกิดเหตุอะไรขึ้นรึ” ทองจันทร์ฉงน
“หนูอี๊ดอาละวาดใส่ผมแล้วผลักเรียมล้ม โดนผมตบหน้า แกเลยหนีออกไปว่าจะไปนอนเรือนสน”
“น้องอี๊ดไปจริงครับคุณย่า แต่ผมกับคุณแม่บอกให้กลับไปขอโทษคุณพ่อ” เทิดศักด์บอก
“ปลุกคนในบ้านลุกขึ้นมาให้หมด ออกตามหาลูกสาวข้า ค้นให้ทั่วบ้าน เดี๋ยวนี้” ขุนภักดีประกาศลั่น
“ค่ะ”
เนื้อทองรับคำ แล้ววิ่งออกไปเจอฝนสาดแต่ก็ไม่เกรงกลัว
“หนูติ๋ว เอาร่มก่อน” เรียมตะโกนบอก
“เทิดรีบตามไปสิ” ขุนภักดีบอก
เทิดศักดิ์ได้สติรีบตามเนื้อทองไปทันที
“น้องติ๋วพี่ไปด้วย”
“เรียมจะออกไปตามหาลูก”
“เรียมอยู่กับคุณแม่ พี่จะออกไปดูลูกเอง”
ภักดีขุนพูดจบก็วิ่งออกไปอีกคน เหลือเพียงทองจันทร์กับเรียมอยู่ด้วยกันสองคน
“เฮ้อ เพิ่งมีเรื่องอิ่มอกอิ่มใจไปตอนหัวค่ำ ไม่ทันข้ามคืน มีเรื่องร้อนใจเสียแล้ว”
“คุณแม่อิ่มใจเรื่องอะไรคะ” เรียมฉงน

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 15/4 วันที่ 4 พ.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager