อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 23 วันที่ 13 พ.ค. 56


อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 23 วันที่ 13 พ.ค. 56

“เราไม่เคยเริ่ม และไม่มีวันทำด้วย ผมมีเมียมีลูกแล้ว เมื่อไหร่คุณจะยอมเข้าใจสักที ผมมีครอบครัวแล้ว ได้ยินมั้ย”
ภัททิมาอึ้งอย่างช็อกมาก
“เชอะ ครอบครัวเหรอ ใช่ซี้ ตอนนี้มังมุกมันเป็นลูกดาราใหญ่ ไม่ใช่แม่ค้าส้มตำแล้วนี่ ทำเป็นจะยกเชิดชู” ชลลดาบอกอย่างไม่พอใจ

“เปล่าเลย ผมรักเขาตั้งแต่ยังเป็นลูกแม่ค้าส้มตำเป็นครูสอนฟิตเนส เป็นสตั๊นท์ จะเป็นอะไรก็รัก”
ภัททิมาหน้าแหย
“อ๋าย พูดงี้ได้ไง”
“นี่คิดจะแอ้มลูกสาวชั้นแล้วทิ้งหรือไง ลูกไก่รักคุณมากนะ”
“พวกคุณรักใครไม่เป็นหรอก ทำทุกอย่างเพื่อตัวเองทั้งนั้น ลูกไก่ไม่เคยรู้สึกอะไรกับผมหรอก อ้อ ไม่สิ รักเงินกับทุกอย่างที่ผมมีต่างหาก แต่ไม่ใช่ตัวผม”


“ไม่จริง ลูกไก่รักคุณนะคะ”
“ตกลงจะทิ้งเราสองคนแม่ลูกใช่มั้ย ชั้นไม่ยอม คอยดูแล้วกันว่าพี่เขมจะจัดการยังไง”
“ไม่ต้องรอพี่เขมหรอกย่ะ เดี๋ยวพี่มณีคนนี้จะจัดการยันออกจากบ้านทั้งแม่ทั้งลูกให้ดู”
“เอ๊ะ บอกว่าไม่ไปก็ไม่ไปไง”
คีรินทร์มองสบตาชลลดา
“ขอร้องนะคุณชลลดา คุณกับลูก ออกไปจากชีวิตผมสักที”
คีรินทร์เดินไป มณีอึ้งมองตามคีรินทร์ ภัททิมาหันไปร้องงอแงกับชลลดา
“ฮือ คุณแม่ขา ทำไงดี ลูกไก่ไม่ยอมนะ”

ชลลดาอึ้งอย่างไม่รู้จะทำยังไง
คีรินทร์นั่งเหม่ออยู่ในห้องนอน มณีเดินเข้ามามองสักพักแล้วถอนใจอย่างตัดใจ

“เรื่องเมียกับลูกเรา ตกลงจะเอาไงแน่” คีรินทร์หันมอง
“แม่พูดอย่างงี้ แสดงว่ายอมรับเรื่องไข่มุกกับหลานแล้วใช่มั้ยครับ”
“เมื่อกี้ตัวประกาศปาวๆ อยู่เอง ขนาดนี้แล้วไม่รับได้ไง เดี๋ยวคนจะหาว่าชั้นเป็นแม่ผัวตัวร้ายหมด จะทำอะไรก็รีบๆ ทำ ทางนี้แม่จัดการเอง คันไม้คันมือหมั่นไส้มานานแล้ว”
“ผมรักแม่ครับ”
มณีฟังดีใจ ยิ้มออกมา
“พูดแล้วจำไว้ด้วย ต่อไปถึงมีเมียมีลูกก็ห้ามลืมแม่ล่ะ จำไว้ด้วยว่าคนนี้ใหญ่สุดในบ้าน”
คีรินทร์ยิ้มนิดๆ สายตามองเหม่อไปไกล ใจไปถึงไข่มุกแล้ว

จินจูกับไข่มุกเดินอยู่ที่วัดวาวูจองซา จินจูสังเกตเห็นไข่มุกดูเศร้าๆ แต่ไม่พูดอะไร คีรินทร์โผล่ออกมา ไข่มุกอึ้ง จินจูเดินมายืนแทรกกลางปกป้องไข่มุกเต็มที่
“มาทำไม”
คีรินทร์มองสบตาไข่มุก
“ผมมารับเมียกับลูกกลับบ้าน” คีรินทร์พูดไม่ทันขาดคำ จินจูตบหน้าดังเพี๊ยะ ไข่มุกตกใจ คีรินทร์ก็อึ้งๆ แต่ก็นิ่งอย่างสำนึกผิด “คุณแม่จะตบอีกก็ได้ครับ”
จินจูซัดเข้าอีกเพี๊ยะ คีรินทร์หน้าเหวอ ไข่มุกก็หน้าเหวออย่างตกใจไม่แพ้กัน
“แม่คะ”
“เอาจริงเหรอเนี่ย”
“ไปให้พ้น ที่นี่ไม่มีใครอยากเห็นหน้าคุณ”
“ผมบอกแล้ว ว่ามารับลูกรับเมีย”
จินจูแค่นหัวเราะ
“ถ้าเธอเห็นยองแอเป็นเมีย คงไม่ทำร้ายเขาขนาดนี้หรอก กลับไปซะ อย่ามาให้เราเห็นหน้าอีก”

คีรินทร์มองสบตาไข่มุก ไข่มุกเมินหนีอย่างจงใจคีรินทร์ทำท่ากระอักกระอ่วนจะพูดก็ไม่พูด จินจูโอบไหล่ไข่มุกเดินหนีไปอีกทาง
จินจูพาไข่มุกเดินชมรอบๆ บริเวณวัด คีรินทร์เดินตามแต่จินจูกับไข่มุกทำไม่สนใจ

“นั่งพักหน่อยมั้ย”
คีรินทร์เสนอหน้า
“พักหน่อยนะไข่มุก เดี๋ยวชั้นไปหาน้ำให้”
“ไม่ต้องค่ะ ชั้นดูแลตัวเองได้”
“ชั้น...เอ่อ ยังโกรธชั้นอยู่เหรอ”
“กลับบ้านเถอะ อย่าไปยุ่งกับพวกพูดไม่รู้เรื่อง ถอยไป”
จินจูพาไข่มุกเดินหนี คีรินทร์ตาม
“เดี๋ยวสิ ไข่มุก ไข่มุก”
จินจูหันกลับมามองสายตาโกรธมาก คีรินทร์ถึงกับผงะไป

รถลีมูซีนของจินจูจอดลงหน้าบ้าน จินจูประคองไข่มุกลงจากรถ แท็กซี่ของคีรินทร์จอดใกล้ๆ คีรินทร์ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปหา
“เดี๋ยวก่อนสิ” การ์ดสูงใหญ่สามสี่คนเข้ามาคุ้มกัน กั้นคีรินทร์ไม่ให้เข้าใกล้ คีรินทร์ทั้งดันทั้งผลักการ์ด ตะโกนเรียกไข่มุก “ไข่มุก ฟังชั้นก่อน ไข่มุก เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”
“ไม่มีค่ะ เราไม่ต้องคุยกันอีกแล้ว”
ไข่มุกเดินไป คีรินทร์ทำท่าจะฉวยข้อมือ แต่จินจูขวางไว้ ปรายตามองหัวจรดเท้า พูดเสียงเย็นชา
“กลับไปเถอะ บ้านนี้ไม่ต้อนรับ”
จินจูเดินเข้าไปในบ้าน คีรินทร์ที่ถูกการ์ดกันอยู่อึ้ง ได้แต่มองตามไป

พอเข้ามาในบ้านไข่มุกยืนอยู่ข้างหน้าต่างเปิดม่านแอบมองคีรินทร์ ไข่มุกเห็นคีรินทร์ยืนมองเข้ามาจากที่ไกลๆ ไข่มุกทำหน้าเศร้า
“เป็นห่วงเขาเหรอลูก”
ไข่มุกรีบปิดม่าน หันกลับมา
“หนู หนูเปล่า”
จินจูโอบไข่มุกไว้กับตัว
“ลืมไข่มุกคนเก่าไปเถอะ ที่นี่จะมีแต่ยองแอ ลูกสาวจินจู หนูจะมีอนาคตดีๆ กับคนที่ดีกว่า ลืมผู้ชายคนนั้นซะ เขาไม่มีค่าพอให้เป็นห่วงหรอกนะ”
ไข่มุกนิ่ง คิดหนัก
“จะยองแอหรือไข่มุก ก็จะพยายามลืมเขาให้ได้ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูไม่ยอมเจ็บเป็นครั้งที่สอง”
จินจูจับมือ มองไข่มุกที่พยายามฝืนยิ้ม จินจูลูบใบหน้าไข่มุก
“แม่ดีใจ ที่ได้ยินลูกพูดแบบนี้ ก่อนจะรักใคร เราต้องหัดรักตัวเองก่อน”

ไข่มุกยิ้มรับฝืดๆ สายตายังคงมองม่านที่ปิดอยู่อย่างกังวล เป็นห่วงคีรินทร์
คีรินทร์นั่งอยู่ข้างนอกบรรยากาศทั้งมืดทั้งหนาว คีรินทร์นั่งอยู่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงท้องร้อง คีรินทร์ลูบท้องตัวเอง ชะเง้อคอมอง เห็นเงาคนเดินมา คีรินทร์ทำหน้าดีใจรีบลุกยืน

“ไข่มุก...อ้าว คุณจินจู” จินจูเดินมาหยุดยืนหน้าคีรินทร์ “เมื่อกี้ได้กลิ่นหอมๆ ลอยมา ทำอะไรทานกันครับ ขอเข้าไปกินด้วยคนได้มั้ย”
“ไม่ได้ กลับไปซะ อย่ามายุ่งกับลูกชั้น”
“แต่เขาเป็นเมียกับลูกผมนะ ให้ผมเข้าไปหน่อย คิดจะกีดกันเหรอ แม่ยายใจร้าย”
จินจูชักสีหน้าไม่พอใจ
“ชั้นไม่มีลูกเขย คนข้างในเป็นลูกกับหลานชั้น แล้วก็ไม่ต้องการสามีหรือพ่อแย่ๆ อะไรทั้งนั้น กลับไปได้แล้ว”
“ไม่กลับ ยังไงผมก็ไม่ไปแน่นอน ขอผมเข้าบ้านหน่อย ผมอยากเจอไข่มุก”
คีรินทร์ทำท่าจะบุกเข้าไป จินจูเอาตัวขวาง ยกโทรศัพท์ขึ้นขู่
“เอาสิ เข้ามาอีกก้าว ชั้นเรียกตำรวจแน่” คีรินทร์ผงะ
“เอางี้เลยเหรอ”
“ใช่ ที่นี่ไม่ใช่ประเทศไทย ที่คุณจะเอาอำนาจใหญ่โตมากดดันชั้นได้ ที่นี่มีกฎหมาย” คีรินทร์ทำท่าจะเดินเข้าไป “หยุด ห้ามเข้ามาเด็ดขาด ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน”
คีรินทร์ชะงัก ทำหน้าเซ็ง จินจูมองแล้วเดินเข้าบ้าน คีรินทร์มองตาม ทำชะโงกมองแล้วหันซ้ายขวา ย่องจะแอบเข้าตามแบบเนียนๆ การ์ดสองคนโผล่มาหิ้วปีกสองข้าง ออกมาโยนทิ้งหน้าบ้าน ไม่สนใจเสียงโวยวายของคีรินทร์

ชลลดานั่งเจ๊าะแจ๊ะกับเขมทัต มณีมองหน้าบึ้ง
“พี่เขมคะ ชลว่าเราจัดงานแต่งอีกรอบล้างอาถรรพ์กันดีกว่า รอคุณรินทร์กลับจากเกาหลีแล้วรีบจัดเลยเนอะ”
“ยังไม่สำนึกอีก คนเรา เฮ้อ ไม่รู้จะพูดยังไง”
เขมทัตลุกขึ้นยืน
“จะไม่มีงานแต่งของลูกไก่อีกแล้ว รินทร์เขาไปรับเมียกับลูกกลับมา ผมว่า บางทีเราต้องคุยกันใหม่นะคุณชล”
“แต่ลูกไก่เป็นเมียคุณรินทร์ จะมาคบซ้อนได้ยังไง”
“ชลไม่ยอม พี่เขมจะเอายังไงกันแน่ ลืมเรื่องเมื่อก่อนที่คุณยุทธเคยทำไว้แล้วใช่มั้ยคะ”
“ผมไม่ลืม เพราะอย่างนั้น เอาไปคนละสามล้าน แล้วออกไปอยู่บ้านคุณเหมือนเดิม เพราะถึงกลับมา รินทร์ก็ไม่แต่งอยู่ดี”
ชลลดากับภัททิมาอึ้ง มณียิ้มเยาะ
“นี่ยังใจดีนะยะ เป็นชั้นให้สามหมื่น ไม่ออกก็โยนทิ้งนอกบ้านจะเอาไง”
เขมทัตมองชลลดา
“ผมทำได้แค่นี้ ถ้าไม่ออกไปคงต้องใช้วิธีอื่น ถือว่าขอร้องแล้วกัน”

ชลลดากับภัททิมามองหน้ากันอย่างอึ้งๆ ทำอิดออดเล่นตัว เหมือนไม่ตัดสินใจ สองแม่ลูกสบตากันแต่สุดท้ายก็พยักหน้าอย่างไว้เชิง
จินจูกับไข่มุกกำลังเลือกเสื้อผ้าเด็ก จินจูหยิบมาพลิกดู ไข่มุกส่ายหน้า หยิบสีชมพูขึ้นมาชูพลิกมองอย่างพอใจ

“สีชมพูดีมั้ยคะแม่ สวย น่ารักดี”
คิรินทร์โผล่มาจากด้านหลัง
“ขอร้องเลย ไม่เอาสีชมพู แหววมาก ลูกเป็นผู้ชายสีฟ้าดีกว่า”
ไข่มุกทำเสื้อหลุดมือ มองคีรินทร์อย่างทั้งอึ้งทั้งตกใจ จินจูจับมือไข่มุกเดินหนีไปตรงราวเสื้อเด็กอีกที่
คีรินทร์เดินตาม จินจูหันไปแหวใส่
“ตามมาทำไม บอกว่าอย่ามายุ่ง ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง”
คีรินทร์ทำไม่รู้ไม่ชี้ หยิบเสื้อดู
“นี่ไงสีฟ้า น่ารักกว่า ผ้านิ่มดีด้วย เหมาะกับเด็กผู้ชาย”
“รู้ได้ไงว่าจะเป็นลูกชาย” ไข่มุกหลุดปากพูดออกมา
“อ้าว ลูกชั้น ไม่รู้ได้ไง”
ไข่มุกเดินห่างออกมา
“จะไปไหนก็ไป ไม่งั้นจะเรียกการ์ดแน่ เมื่อวานยังไม่เข็ดหรือไง”
“ผมไม่กลัว ถึงที่นี่คุณจะเป็นดาราใหญ่คับประเทศ แต่ความจริงเด็กในท้องไข่มุก คือลูกผม จะเอาใครมาขู่ก็ห้ามผมไม่ได้หรอก...ขอร้องล่ะ ขอให้ผมดูแลเมียกับลูกเถอะครับ”
จินจูอึ้ง มองคีรินทรด์ด้วยสายตาอ่อนลงนิดๆ ไข่มุกเดินไปดูเสื้อเด็กอีกที่ ทำเป็นไม่สนใจ เลือกเสื้อเด็กมาพาดบนแขนไว้ คีรินทร์ดึงมาถือเอง ไข่มุกมองหน้า
“คนกำลังท้องกำลังไส้ ห้ามถือของหนัก”
“เสื้อผ้าเด็กเนี่ยนะหนัก”
“เอาน่า อยากถือให้ นี่ไง เอาสีเหลืองไปด้วย ใส่ได้ทั้งชายทั้งหญิง แต่ขอเลยยกเว้นชมพู” คีรินทร์มองเสื้อแล้วยิ้ม “ลูกเราใส่แล้วต้องน่ารักที่สุดในโลกแน่เลย”
คีรินทร์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดูเสื้อเด็ก ไข่มุกหลุดยิ้มตามแต่รู้ตัวก็ทำเนียนหน้าบึ้ง จินจูมองอยู่ไกลๆ อย่างจับสังเกต

จินจูกับไข่มุกเดินเลือกของใช้เด็กอ่อน คีรินทร์เดินตามมีถุงพะรุงพะรัง ไข่มุกหยิบอะไรคีรินทร์ก็ฉวยไปจ่ายเงิน คอยวุ่นวายถือให้ ทำชวนคุย ไข่มุกไม่ตอบ จินจูมองส่ายหัว ไข่มุกก้มลงดูรถเข็นเด็ก คนขายเดินเข้ามาช่วยจับดู คีรินทร์มองยิ้มๆ
“เอาแข็งแรงๆ แบบสวยๆ นะครับ อีกไม่กี่เดือนจะได้เห็นหน้าลูกแล้ว ผมกำลังจะเป็นพ่อคน เชื่อมั้ยว่าลูกต้องหล่อเหมือนพ่อแน่นอน”

คนขายยืนยิ้มทำหน้างงใส่ ไข่มุกมองกึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง จินจูทำหน้านิ่ง ฉวยแขนไข่มุกแล้วเดินไป คีรินทร์ยืนอึ้งมองตามอย่างสำนึกผิด แววตาเสียใจ
จินจูเดินมาที่ประตูรั้ว หน้านิ่ง ค่อยๆ เปิดประตูออก สีหน้าเปลี่ยนเป็นตกใจคาดไม่ถึงเมื่อเห็นคีรินทร์คุกเข่าอยู่ที่พื้นแล้วหมอบคำนับจินจู จินจูอึ้ง คีรินทร์ยังคุกเข่าเงยหน้ามองจินจู

“ทำแบบนี้ทำไม คิดว่าจะใจอ่อนเหรอ”
“ผมอยากขอโทษคุณแม่ ในทุกๆ เรื่องที่ทำลงไป”
“คนที่คุณต้องขอโทษไม่ใช่ชั้น แต่เป็นไข่มุก”
“ไข่มุกก็ด้วย แต่อยากขอโทษ อยากให้คุณให้อภัยก่อน ผมรู้ว่าทำผิดมามาก แต่ขอโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ได้มั้ยครับ ขอร้องล่ะ”
คีรินทร์ก้มตัวคำนับนิ่ง จินจูนิ่งมองสักพักแล้วถอนหายใจ สายตาอ่อนลงอย่างรู้ว่าคีรินทร์ไม่ได้เลวร้ายอะไร
“ยืนขึ้นเถอะ”
คีรินทร์เงยหน้ามอง
“ผมขอร้อง ขอโอกาสอีกแค่ครั้งเดียว ครั้งสุดท้ายก็ได้”
“เรื่องนั้นต้องแล้วแต่ไข่มุก ชั้นบอกได้แค่นี้แหละ”
จินจูมองสบตาคีรินทร์ คีรินทร์ยิ้มนิดๆ อย่างดีใจที่จินจูยอมเข้าใจ คีรินทร์ยิ้มได้นิดๆ ก็ทำท่าจะอ้วก ผะอืดผะอมสุดๆ จินจูมองอย่างงงๆ

ไข่มุกนั่งโอ้กอ้าก ทำท่าผะอืดผะอมดมยาดมอยู่ในบ้านหน้าซีดเพราะแพ้ท้อง จินจูเดินเข้ามาก็ยิ้มจางๆ “แพ้ท้องเหรอ มิน่าล่ะแพ้แทนนี่เอง” ไข่มุกมองจินจูงงๆ จินจูนั่งลงใกล้ “คีรินทร์ยังอยู่หน้าบ้านอยู่เลย ยองแอ แม่ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่เลวร้ายมากหรอกนะลูก ตอนนี้เขาก็สำนึกได้แล้ว หนูจะ...”
“ไม่ค่ะ แม่บอกเองว่าจะไม่มีไข่มุกอีกต่อไปแล้ว ยองแอเป็นผู้หญิงเข้มแข็ง ไม่สนใจอดีต เป็นผู้หญิงที่มีคุณค่า ไม่ต้องมีผู้ชายก็อยู่ได้ ไม่ใช่เหรอคะ” จินจูอึ้ง
“แต่ยังไงเขาก็เป็นพ่อของลูก เขามาขอโทษ ทนรออยู่หน้าบ้านตั้งหลายวัน คนอย่างคีรินทร์ไม่เคยง้อใคร ไม่เคยขอร้องใครขนาดนี้ แต่วันนี้เขาถึงกับยอมคุกเข่าให้แม่เพื่อหนู จะไม่ลองให้โอกาสเขาอีกครั้งเหรอลูก”
“แม่พูดอย่างนี้ อยากไล่หนูกลับเมืองไทยใช่มั้ยคะ”
จินจูดึงไข่มุกมากอด
“ไม่ใช่ แต่แม่อยากให้หนูคิดให้ดีอีกครั้ง คนเรามีชีวิตเดียว ไม่อยากให้เสียใจทีหลังหรือต้องทรมานเหมือนพ่อกับแม่”
“หนูตัดสินใจแล้ว และจะไม่มีวันเสียใจค่ะ”
ไข่มุกนิ่ง เก็บความรู้สึก มือลูบท้องตัวเอง จินจูมองอย่างสงสารเห็นใจ

ไข่มุกเดินเล่นอยู่ที่เกาะนามิ แต่สีหน้าไข่มุกดูเศร้า ไข่มุกเหม่อมองออกไปไกลๆ มือลูบท้องนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่คีรินทร์ประกาศต่อหน้าทุกคนเรื่องภัททิมา
“เปล่า ผมตั้งใจ แล้วก็รู้ตัวดีด้วย”
กีกี้ช็อค ทุกคนอึ้งไป ภัททิมายิ้มเยาะใส่กีกี้กับไข่มุก ไข่มุกมองหน้าคีรินทร์อย่างเศร้าใจมาก คีรินทร์มองตอบไข่มุกอย่างเย็นชา
จากนั้นก็เป็นภาพงานหมั้นภัททิมาซึ่งมีแขกมาร่วมงานมากมาย ภัททิมาเดินออกมาในชุดไทยอย่างหรู มองไข่มุกเยาะเย้ยกะข่มเต็มที่

อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 23 วันที่ 13 พ.ค. 56

ละคร มายาสีมุกบทประพันธ์ : ทวิตา
ละคร มายาสีมุกบทโทรทัศน์ : เอื้องอรุณ สมิตสุวรรณ, เทอดโชค เกียรติสุขเกษม, จุฑามาศ สาคร
ละคร มายาสีมุกกำกับการแสดง : ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ละคร มายาสีมุกแนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละคร มายาสีมุกผลิต : บริษัท กันตนา
ติดตามชมละคร มายาสีมุก ได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ