คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 10-11 วันที่ 12 พ.ค. 56


อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 10

คุยแผนกับสมสุขเสร็จ ภูวนัยไปหาไผ่พญา ขิงและกระดังงา ขอให้ทั้งสามช่วยทำงานที่ตำรวจทำไม่ได้ ไผ่ถามอย่างกระตือรือร้นว่าจะให้พวกตนทำอะไร

ภูวนัยบอกงานที่จะให้ทำ แล้ว ไผ่กับกระดังงาก็แปลงร่างเป็นสาวสวยเปรี้ยวเซ็กซี่ พากันเดินทางไปยังผับแห่งหนึ่ง ภูวนัยเอารูปของเคนลูกชายเสี่ยแคนให้ดู บอกทั้งสองว่าทำอย่างไรก็ได้ให้พาเคนมาพบตนให้ได้ ตนมีเรื่องจะคุยด้วย

พอ ไผ่กับกระดังงาเข้าไป ภูวนัยกับขิงพูดผ่านวิทยุสื่อสารที่ติดให้ทั้งสอง ชี้เป้าว่าอยู่ตรงไหน ไผ่บอกว่า “ฉันเข้าประจำที่แล้ว” แต่เมื่อเห็นเคนถูกสองสาวหนีบขนาบอยู่ก็ปรารภกับกระดังงาว่า


“ฉันว่าถ้าเขายังอยู่กับสองชะนีนั่นพวกเราเข้าไปไม่ถึงตัวแน่ๆ”

กระดังงา ออกลีลายั่วยวนให้เข้าตาเคนเต็มที่ สองสาวที่นั่งขนาบอยู่ไม่พอใจชวนเคนไปที่อื่นกันดีกว่า พลางทำท่าจะลุกออกไป ไผ่เห็นท่าไม่ดี เลยวิทยุบอกภูวนัยให้รีบมาหาตนเดี๋ยวนี้เลย

พอภูวนัยเข้ามาหา ไผ่พูดผ่านไมค์ที่ติดอยู่ “ดึงมือฉันเอาไว้...เร็วซิ!”

ภูวนัยดึงมือไผ่งงๆพลันไผ่ก็เอะอะโวยวายสะบัดแล้ววิ่งไปหาเคนร้อง “พี่...ช่วยหนูด้วย! ช่วยหนูด้วย!!”

ไผ่ วิ่งไปซบอกเคน ความเซ็กซี่ร้อนแรงของไผ่ทำเอาเคนตาลุก ปกป้องไผ่เต็มที่ ปรี่เข้าหาภูวนัยจะเอาเรื่อง ถูกภูวนัยปราม “เฮ้ย! เรื่องของผัวเมีย อย่ายุ่ง” เคนกร่างเปิดเสื้อนอกให้เห็นปืนที่เหน็บอยู่ ภูวนัยแกล้งทำเป็นกลัวถอยไป

ไผ่ดำเนินแผนการขั้นต่อไป ทำเป็นหน้าซีดตัวสั่นกอดเคนไว้แน่น สองสาวที่เคนคั่วอยู่มาเร่งให้ไปกันเสียที เคนเปลี่ยนใจส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดลากสองสาวออกไป แล้วชวนไผ่ที่บอกว่าตนชื่อแอปเปิ้ลไปหาที่ปอกแอบเปิ้ลกันดีกว่า

เมื่อ ยั่วจนเคนกลัดมันหน้ามืดแล้ว ไผ่ทำเสียงกระเส่าว่าตนทนไม่ไหวแล้วลากเคนเข้าห้องน้ำ ที่ภูวนัย ขิง และกระดังงารออยู่แล้ว ภูวนัยบอกให้ไผ่กับกระดังงาไปรอที่รถ ส่วนเขากับขิง ช่วยกันจัดการเคนเสียสะบักสะบอม ก่อนที่เคนจะหมดสติ ภูวนัยกระหนาบเป็นภาษาใต้ว่า

“บอกพ่อมึงด้วย...ทีหลังอย่ามาแหยมกับนายหัว...

นี่ แค่สั่งสอน” แล้วทำเป็นโทรศัพท์รายงานว่า “เรียบร้อยแล้วครับนายหัว จะให้ตัดสักชิ้นส่งไปให้พ่อมันดูไหมครับ...ได้ครับนายหัว” พูดแล้วหันไปพยักหน้ากับขิง พากันเดินออกไป

กลับมาถึงเซฟเฮาส์ ภูวนัยขอบคุณทุกคน บอกว่าภารกิจวันนี้สำเร็จได้ก็เพราะพวกเขา กระดังงาขอให้เป็นความดีของไผ่ แต่ไผ่บอกว่าเพราะพวกเราทุกคนช่วยกันต่างหาก

ภูว นัยเพิ่งรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของไผ่ เขาจึงมอบโทรศัพท์ที่ซื้อไว้วันก่อนให้เมื่อรู้ว่าไผ่ทำมือถือเครื่องเก่า ที่ตะวันฉายให้หายไปตอนถูกพายัพจับไปทรมาน

ooooooo

เสี่ยแคนแค้นแทบกระอักเลือดเมื่อเคนถูกรุมอัดจนน่วม เมื่อพาเคนไปโรงพยาบาลแล้ว เคนที่เพิ่งได้สติพยายามบอกพ่อว่าใครทำตน

วัน นี้เป็นวันที่เสี่ยแคนนัดอีกสี่เสือมาพบกันที่ห้องอาหารส่วนตัวในโรงแรม เมื่อได้เวลาทุกคนมากันพร้อมแล้วแต่เสี่ยแคนยังไม่มา ทำให้ทุกคนไม่พอใจที่เสี่ยเป็นคนนัดแต่ผิดนัดเสียเอง

“รู้ไหมว่าเสี่ยแกอยากคุยกับพวกเราเรื่องอะไร” กำนันเต่าถาม

“เห็นว่าเมื่อคืน ลูกแกโดนซ้อม” พายัพบอก

นาย หัวคึกหัวเราะสะใจ ถูกรัญญาติงว่า ตอนซ่องนายหัวถูกจับเสี่ยแคนยังไม่ซ้ำเติมเลย นายหัวดักคอแม่เลี้ยงว่าเข้าข้างกันจัง จะหาขั้วใหม่รึไง แม่เลี้ยงมองขวับพูดใส่หน้าอย่างถือดีว่า

“คนอย่างฉันไม่จำเป็นต้องมีขั้ว ฉันแค่รู้สึกว่าพวกเราห้าเสือไม่ควรซ้ำเติมกัน”

พอดี เสี่ยแคนผลักประตูเข้ามา ทันทีที่เห็นนายหัวคึก เสี่ยปราดเข้าไปชกหน้าตะคอก “มึงทำลูกกู!” บรรดาเสือที่นั่งอยู่พากันลุกห้ามพัลวัน กำนันเต่าถามว่านี่มันเรื่องอะไรกัน เสี่ยหันจ้องหน้านายหัวบอกกำนันว่า

“แก ถามมันดีกว่า ว่าเมื่อคืนมันส่งคนไปซ้อมลูกกูทำไม” นายหัวถามว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกันตน เสี่ยแคนชี้หน้าด่า “ลูกฉันมันบอกว่า คนที่ซ้อมมันเมื่อคืน มันโทร.รายงานแกเป็นภาษาใต้...แกทำอะไรฉันไม่ได้เลยทำกับลูกฉัน ไอ้หมาลอบกัด!”

โดนด่าขนาดนี้ นายหัวฉุนขาดชักปืนออกมาจ่อเสี่ยแคน เสี่ยชักปืนออกมาเช่นกัน กลายเป็นต่างเอาปืนจ่อกันอย่างตึงเครียด พายัพก้าวออกไปยืนคั่นกลางระหว่างปืน หันมองทั้งสองถามเสียงแข็งว่า

“เป็น บ้าอะไรกันไปหมดหา! นายหัว...นายหัวส่งคนไปซ้อมลูกของเสี่ยเขารึเปล่า” นายหัวย้อนถามว่าถ้าตนบอกว่าไม่ได้ทำแล้วเสี่ยจะเชื่อหรือ พายัพหันไปทางเสี่ยแคน “เสี่ย...ครั้งนี้ผมขอแล้วกัน แล้วผมจะหาคนที่มันทำลูกเสี่ยเอง ถึงตอนนั้น จะรู้เองว่าเป็นฝีมือใคร” พูดแล้วหันสบตาทุกคนเป็นการยืนยัน

ooooooo

วันนี้ วศินให้สัมภาษณ์สื่อที่ห้องรับแขกบ้านตัวเอง พิธีกรสัมภาษณ์เสร็จก็สรุปยกย่องว่า

“เป็น ยังไงคะท่านผู้ชม วันนี้เราได้พบกับนายตำรวจ ตงฉินตัวจริงเสียงจริงที่เป็นความหวังของประชาชน พลตำรวจโทวศิน สหสกุล กันอย่างจุใจ...ท่านผู้ชมคงจะสงสัยว่า ท่านอุทิศตนให้กับประชาชนอย่างนี้ไม่เหนื่อยหรือกลัวอันตรายจากผู้มีอิทธิพล บ้างเหรอคะ”

ขณะนั้นเอง วศินเห็นชาติกล้าเดินเข้ามา วศินมองผ่านไปและหันตอบคำถามพิธีกรอย่างแสนประเสริฐว่า

“ถ้า ผมกลัว...แล้วใครจะปกป้องดูแลประชาชนล่ะครับ คุณไม่ต้องเป็นตำรวจที่ดีก็ได้ แต่ผมอยากให้คุณเป็นตำรวจที่รักประชาชนและความถูกต้องก็พอ”

“คมมากค่ะท่าน” พิธีกรชื่นชมหลังจากทีมงาน สั่งคัท

“เห รอ...ผมแค่พูดออกมาจากใจเท่านั้น เอาล่ะ... เดี๋ยวน้องๆพักทานข้าวทานนํ้ากันก่อน พี่ให้เด็กๆเตรียมอาหารไว้เยอะเลย ตามสบายนะ” พูดแล้ววศินเดินเลี่ยงไปหาชาติกล้าที่ยืนรออยู่ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “อั๊วบอกแล้วใช่ไหมว่าวันนี้อั๊วมีอัดรายการ!”

เมื่อ พากันไปนั่งในห้องทำงานของวศิน ชาติกล้าเล่าเรื่องความขัดแย้งของกลุ่มห้าเสือให้ฟัง วศินถามว่าเรื่องแค่นี้ก็ทะเลาะกันแล้ว พวกมันเป็นเด็กกันรึไง

“แล้ว เราต้องทำอะไรหรือเปล่าครับ รู้สึกช่วงนี้นายหัวคึกจะมีปัญหานะครับ คราวที่แล้วก็กับแม่เลี้ยง ตอนนี้ก็ยังมีปัญหากับเสี่ยแคนอีก” วศินย้อนถามว่าจะทำอะไร อยากให้ตนขาดรายได้รึไง “แต่ปล่อยไว้อย่างนี้ ท่านไม่กลัวกลุ่มห้าเสือแตกคอกันเหรอครับ”

วศินสั่งชาติกล้าให้ไปบอกพายัพให้ดูแลพวกนั้นดีๆ ยํ้าว่า “พวกมันจะเป็นยังไงอั๊วไม่สน อั๊วสนแค่พวกมันยังส่งเงินให้อั๊วทุกเดือนก็พอ”

รับคำสั่งจากวศินแล้ว ขณะชาติกล้าเดินออกไป ก็ได้รับโทรศัพท์จากปลายฟ้าถามว่าได้ข่าวภูวนัยบ้างรึเปล่า เพราะตอนนี้ม่านเมฆแพ้ยาอย่างรุนแรง อยากถามภูวนัยว่าม่านเมฆแพ้ยาเพนนิซิลินใช่ไหม

ชาติกล้าบอกว่าไม่ได้ข่าวภูวนัยเลย ปลายฟ้านิ่งไป ก่อนบอกว่า “ถ้าวันไหนชาติจับภูได้...ช่วยบอกเราได้ไหม”

“แค่นี้ก่อนนะฟ้า เรามีงานด่วน” ชาติกล้าตัดบทเซ็งๆ เมื่อรู้ว่าที่แท้ปลายฟ้าโทร.มาเพราะรักและเป็นห่วงภูวนัย

ปลายฟ้ากลับมาเล่าให้เผ่าพงศ์ฟังอย่างโล่งใจว่า อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าภูวนัยยังไม่ถูกตำรวจจับ พอดีตะวันฉายผลักประตูเข้ามาบอกว่าตนไปที่รีสอร์ต รู้จากพรรษาว่าทุกคนมาเฝ้าม่านเมฆที่โรงพยาบาลจึงรีบตามมา

ปลายฟ้าบอกว่าม่านเมฆแพ้ยา ปรารภอย่างกังวลว่า

“รักษาอาการแพ้ยาน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ฉันกลัวว่าเมฆเขาจะแพ้ยาตัวอื่นอีก เดี๋ยวจะยิ่งเป็นหนักกว่าเดิม”

“คนเดียวที่รู้คืออาภู...แต่ตอนนี้เราก็ติดต่ออาภูไม่ได้เลย” ม่านหมอกเอ่ยขึ้น

“เดี๋ยวก่อนครับ...บางทีผมอาจจะติดต่อคุณภูได้” ตะวันฉายบอกทุกคนให้คลายความกังวล

จากนั้นตะวันฉายโทร.เข้ามือถือของไผ่พญา เธอรับสายทักอย่างตื่นเต้นที่จู่ๆเขาก็โทร.มา แต่พอฟังปลายสาย หน้าก็กลายเป็นวิตกกังวลกระทั่งอุทานอย่างตกใจ

“อะไรนะคะ...ม่านเมฆไม่สบาย!”

ภูวนัยมองขวับอย่างตกใจยิ่งกว่า

ooooooo

อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 11


ที่ตึกร้าง...ชาติกล้าลอบพบปะกับพายัพเพื่อนำความที่วศิน สั่งมาบอก ฟังแล้วพายัพถามว่า ถ้าตอนนี้ตนจะสมัครเป็นตำรวจยังทันไหม เผื่อจะได้สบายอย่างเขาบ้าง

“พายัพ...ฉันรู้ว่าตอนนี้แกรู้สึกยังไง”

“รู้ เหรอ?? ถ้าตอนนั้นฉันเป็นฝ่ายเลือกที่จะเดินเข้าโรงเรียนนายร้อย ส่วนแกเข้ามาอยู่ในแก๊งมาเฟีย อย่างนั้น...แกถึงจะบอกได้ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกยังไง” พูดแล้วจ้องหน้าชาติกล้าเขม็ง พอรู้สึกตัวจึงเปลี่ยนเสียง “โทษที ฉันแค่อยากรำลึกความหลังเท่านั้นเอง”

“พวกเราไม่หยุดอยู่แค่นี้หรอก เพียงแต่ว่าตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาของเราเท่านั้นเอง...ฉันไปก่อนล่ะ” ชาติกล้าตบไหล่พายัพเยี่ยงเพื่อน เห็นพายัพขยับไหล่หนี เขาถามว่าเป็นอะไร

“ของฝากเล็กๆน้อยๆจากเพื่อนสุดรักของแกไง”

พูด แค่นั้นชาติกล้าก็รู้ว่าหมายถึงภูวนัย พายัพจึงเล่าเรื่องที่ตนจับสามคนไป แต่ไม่รู้ว่าภูวนัยมาจากไหน จู่ๆก็บุกมาชิงตัวไปได้ ชาติกล้าฟังแล้วจ้องหน้าถาม “ทำไมมันถึงได้รู้การเคลื่อนไหวของแก”

“บางทีมันอาจจะอยู่ใกล้แกจนคิดไม่ถึงก็ได้”

ฟังพายัพแล้วชาติกล้านึกถึงเรื่องม่านเมฆไม่สบายขึ้นมา เขาเชื่อว่าภูวนัยต้องรู้เรื่องนี้เป็นแน่

จริง อย่างที่ชาติกล้าฉุกคิด เพราะภูวนัยไม่เพียง แค่รู้ว่าม่านเมฆแพ้ยา แต่เขายังได้บอกรายละเอียดยาที่ม่านเมฆแพ้ให้ปลายฟ้าไปแล้วด้วย จากนั้นเขารอรับโทรศัพท์ด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ไม่มีใครโทร.มาบอกข่าวคืบหน้าอาการของม่านเมฆอีกเลย เขาร้อนใจจนจะลุยไปที่โรงพยาบาลเอง ไผ่พยายามห้ามปรามแต่ไม่ได้ผลเลยขอตามไปด้วย

เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ไผ่เข้าไปเยี่ยมม่านเมฆแทนภูวนัย บอกให้เขารอที่รถ แต่เขาทนไม่ได้ เมื่อเห็นพนักงานเข็นรถส่งอาหารก็ฉุกคิดอะไรได้

ooooooo

ปลาย ฟ้าได้เจอกับไผ่จึงพาเข้าไปเยี่ยมม่านเมฆ ทันทีที่เห็นหน้าไผ่ ม่านเมฆก็ถามถึงภูวนัย เธอบอกว่าไม่เจอกัน และแกล้งทำเป็นน้อยใจว่าตนมาเยี่ยมแท้ๆ กลับถามถึงแต่ภูวนัย

ระหว่าง นั้น มีพนักงานเข็นรถส่งอาหารเข้ามา ใส่หน้ากากอนามัยเห็นแค่ดวงตา ที่แท้คือภูวนัยนั่นเอง เขาทำเป็นง่วนกับการส่งอาหาร แต่ที่แท้เงี่ยหูฟังการสนทนาตลอดเวลา ได้ยินม่านเมฆถามไผ่ว่า

“อาภูไม่ได้มาด้วยเหรอครับ” เผ่าพงศ์ก็ถามว่า “ครูไม่ได้เจอเจ้าภูมันเหรอ?”

ไผ่บอกม่านเมฆว่าตอนนี้ภูวนัยมีงานสำคัญมากที่ต้องทำ เสร็จเมื่อไหร่จะรีบมาเยี่ยมทันที ส่วนที่

เผ่าพงศ์ถาม เธอบอกว่า แยกกันตั้งแต่ตอนที่หนีจากรีสอร์ตคราวที่แล้วยังไม่เจอกันอีกเลย

“อา ภูไม่ได้เป็นผู้ร้ายใช่ไหมครับ...เมฆได้ยินลุงเสกสรรกับลุงสมหมายคุยกัน เขาบอกว่าอาภูเป็นคนร้าย จะต้องถูกตำรวจยิงตาย” ม่านเมฆพูดอย่างเป็น ห่วง ไผ่เลยถามว่าแล้วม่านเมฆเองคิดยังไงล่ะ “เมฆ ไม่เชื่อ อาภูเป็นคนดี อาภูเป็นตำรวจไม่ใช่คนร้าย”

“มีอะไรจะบอกอาภูไหม เผื่อครูเจออาภูเขา จะได้บอกไง”

“จงดี ใจที่ทำดี” ม่านเมฆตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ พอทุกคนมองงงๆ จึงอธิบายว่า “เมฆเคยแข่งฟุตบอลที่โรงเรียนแล้วแพ้ เพราะพวกนั้นโกงเมฆ แต่อาภูบอกกับเมฆว่า ให้เมฆจำการแพ้ครั้งนี้ไว้ เพราะมีค่ามากกว่าชัยชนะที่ได้มาด้วยการโกง”

อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 10-11 วันที่ 12 พ.ค. 56

คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะโดย บทประพันธ์ เล่าเต็ง
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ บทละคร โดย อภิวัฒน์ เล่าสกุล
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะผลิตโดย : บริษัท กำกับการดี จำกัด
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะนำแสดงโดย : ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ - ไปรยา สวนดอกไม้
ติดตามชมคุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ