อ่านละคร อาญารัก ตอนอวสาน วันที่ 24 พ.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนอวสาน วันที่ 24 พ.ค. 56

“ไม่” สนหัวเราะคิกคัก “จับกูไปโรงพัก กูจะไปประจานมึงทั้งโคตรให้ขายหน้าคนทั้งเมืองสุพรรณ”
“สน...เห็นแก่เทิดศักดิ์เถิดนะ” ขุนภักดีพยายามเกลี้ยกล่อม
“กูไม่เห็นแก่ใครทั้งสิ้น กูชอบเห็นแก่ตัว ไอ้เทิดศักดิ์มันไม่ใช่ลูกกู มันแค่มาอาศัยท้องกูเกิด”

ขุนภักดีสุดทนฟัง ตบหน้าสนอีกฉาด สนหัวเราะอย่างบ้าดีเดือด เลือดไหลซึมออกกบมุมปาก
เทิดศักดิ์ได้ยินทุกคำพูด ยืนร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ

เสียงสนดังขึ้นอีก “ไปสิพากูไปโรงพัก พากูไปประจานไอ้เทิดศักดิ์ กูจะบอกทุกคนว่า มันเกิดจากการที่กูโดนไอ้เสือหนักฉุดกูไปข่มขืนเจ็ดวัน มันไม่ได้เกิดจากความรัก มันแค่ชิงหมาเกิด กูจะรักมันลงได้อย่างไร กูเกลียดมันด้วยซ้ำ”
“คุณแม่เกลียดผม คุณแม่ทำร้ายผมทำไม คุณแม่ไม่เคยรักผม”


สองคนอยู่ใต้ถุนด้านล่างเรือน ทุ่มเถียงกันต่อ สนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ยิ่งมาตอนนี้กูยิ่งเกลียดมันเข้าไส้ เข้ากระดูกดำ”
“ชั้นไหว้ละสน หยุดทำร้ายเทิดศักดิ์เสียที” ขุนภักดีไหว้จริงๆ
“กูไม่หยุด มึงจะทำไมกู”
ขุนภักดีเงื้อมือจะตบซ้ำ มีใครคนหนึ่งเข้ามาทางด้านหลัง กำมือท่านขุนรั้งไว้ สนผงะตกใจ
“อย่าขอรับ มือท่านสะอาดเกินไป เลวร้ายสามานย์อย่างมันต้องมือกระผม”
“ไอ้หนัก”

เทิดศักดิ์ตะลึง ได้ยินสนเรียกชื่อหนัก
“พ่อ พ่อของเรา เสือหนักมาทำไม”
เสียงท่านขุน ตะโกนบอกเทิดศักดิ์ “อย่าเพิ่งลงมานะ เทิดศักดิ์”
ขาเทิดศักดิ์ที่กำลังก้าวจึงชะงัก

ฝ่ายขุนภักดีเขม้นมองอย่างแปลกใจ กระซิบถามเสียงเบามาก
“นายสิน นี่นา”
“ขอรับ กระผมคือนายสิน นายสินคือเสือ...” หนักลดเสียงเบาลง “หนัก”
“เทิดศักดิ์อยู่ข้างบนบ้าน ยังไม่อยากให้เขาลงมาตอนนี้”
“ขอรับ”
สองคนพูดกันเบาๆ ได้ยินเพียงสองคนสนไม่ได้ยิน
“กูจะสาธยายความเป็นผัวเมียเจ็ดวันของกูกับมึง ให้ท่านขุนฟังอีนางคนชั่วนี่ มันจ้างไอ้เหิมผัวเก่าของมันไปฉุดเนียนมาข่มขืน”
“ชั้นทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว แต่ชั้นพยายามอดทนไม่ทำร้ายไม่ลงโทษไม่น่าปล่อยมันไว้ให้มาถึงแม่ตัวเองเลย”
“สมน้ำหน้า พวกแกมันโง่กันทั้งบ้าน” สนด่า
“ผมขออภัยที่ครั้งนั้นแสดงตัวว่าชื่อสิน”
“ไอ้โง่มาให้มันจับใส่ตะราง”
“เพื่อลูกกู กูยอมโง่ ยอมตาย ยอมอะไรก็ได้ ทั้งนั้น” หนักบอก
“ไอ้ขุนภักดียืนเซ่อฟังมันทำไม มันเป็นชู้กับเมียมึง มันข่มขืนเมียมึง”
ขุนภักดีส่ายหน้า แต่หนักกระชากสนมาแล้วตบลงไปกองกับพื้น
“อย่างมึงมันต้องน้ำมือกู กูไม่ยอมให้มึงประจานลูกกูในศาลดอก มึงรู้ใช่ไหม รสชาติมือกูมันต่างกับมือท่านขุนมากมายนักนังอมนุษย์ มึงมันถนัดสะสมความชั่ว ผลักไสความดี”

หนักฉุดกระชากลากสนออกไปจากบริเวณบ้าน
ขุนภักดีพยายามห้าม และเตือนหนักด้วยความหวังดี

“เดี๋ยว พ่อหนัก ขอเตือนในฐานะที่เป็นน้องเขย ที่นี่มีทั้งตำรวจ นายอำเภอก็กำลังมา ข้าหลวงก็ยืนอยู่ตรงนี้ ปลอดภัยไว้ก่อนมิดีกว่ารึ”
“ที่กระผมมาวันนี้ ไม่สนใจเรื่องใดทั้งสิ้น มาเพื่อลูก มาเพื่อยอมให้ถูกจับถูกฆ่าตายก็ยอม กระผมสร้างเวรสร้างกรรมมาทั้งชีวิต ขอทำกรรมดีสักครั้งในชีวิต กระผมยินดี”
“กูจะไปขึ้นศาล กูจะให้ศาลลงโทษมึง ไม่ใช่กู”
“กูไม่ให้มึงไปขึ้นศาล กูจะพิพากษามึงเอง นอกเสียจากว่ามึงจะพิพากษาตัวเองดังที่ท่านขุนขอร้องคือฆ่าตัวตาย”
“ไม่” สนปฏิเสธดังลั่น
หนักทั้งตบทั้งจิกหัว
“โอ๊ย เทิดศักดิ์ช่วยแม่ด้วย ไอ้หมาสารเลวมันจะฆ่าแม่”
“มึงร้องไป ร้องไปให้ลูกมาดูพ่อฆ่าแม่ ยังไงกูก็จะพิพากษามึง”
สนทรุดลงไปแล้ว ไม่ส่งเสียงแล้ว ขุนภักดีขยับบอก
“เสือหนักชั้นว่า…”
หนักชักปืนออกมา
“ท่านขุนอยู่ตรงนี้ อย่ามายุ่งกับเรื่องนี้ กระผมจะไปเล่นกีฬาฆ่าคนตายกับอีนางใจชั่วนี่ อีสน มึงวิ่งไป วิ่งไปให้กูนับหนึ่งถึงสิบ ถ้ามึงไปพ้น มึงก็รอด ถ้ามึงไปไม่พ้นมึงก็ตาย”
เสียงเทิดศักดิ์ดังเข้ามา “อย่านะ เสือหนัก”
“อย่าลงมา ขืนไม่ฟังกัน อีนางนี่ตายเดี๋ยวนี้”
สนมองหน้าหนัก กลัวจับจิต
“ชั้นกลัวแล้ว”
“ถ้ามึงไม่วิ่งไป กูจะยิงแสกหน้ามึงตายตรงนี้ บอกให้หนี บอกให้วิ่ง”
สนวิ่งตุปั๋ดตุเป๋ไปทันที หนักนับ
“หนึ่งสอง สาม...”
หนักเดินช้าๆ ท่านขุนได้แต่มองตาม

พวกผู้หญิงนั่งอกสั่นขวัญแขวนอยู่บนเรือน ได้ยินเสียงเอะอะแว่วมา เสียงร้องไห้ของสนผสมเสียงตะคอกของเสือหนัก เอกพาแดงน้อยเข้ามา
“นายอำเภอมาแล้วขอรับ”
“เกิดอะไรขึ้นอีกหรือครับ แม่เนียน คุณนายแม่ ถามนายเอกก็ไม่ได้เรื่อง” แดงน้อยงง
“เทิดศักดิ์กับคุณพ่อไปที่เรือนแม่สน เข้าใจว่าจะไปเอ้อ…” เรียมพูดไม่ทันจบ
“จับนางสนเข้าตะรางค่ะ” ทานตะวันบอกแทน
เสียงเอะอะดังแว่วมา
“คุณพ่อให้ไปตามแดงน้อยมา ไปสิลูก” เนียนบอก
“ครับ แม่เนียน ทุกคนระวังตัวนะครับ”
แดงน้อยเดินพรวดไปทันที
สนวิ่งเตลิดหนีเตลิดไป หนักวิ่งตามถือปืนยกไปข้างหน้า
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ไอ้เสือหนักมันจะฆ่ากู”
“ถ้ามึงหนีพ้น กูก็ฆ่ามึงไม่ได้ แต่ถ้ามึงหนีไม่พ้น”
“อย่า อย่ายิง เสือหนักอย่ายิง” ขุนภักดีร้องห้าม

ทั้งสามวิ่งตามกันไป
ขณะที่เทิดศักดิ์วิ่งลงมาจากเรือน แดงน้อยก็พรวดมาถึงพอดี ถามอย่างตกใจ

“เทิดศักดิ์ นี่มันอะไรกัน”
“โน่น คุณแม่กำลังวิ่งหนีเสือหนัก อยู่โน่น”
“รีบตามไป เร็วๆ เข้า”
สองคนรีบวิ่งตามไป
สนคนชั่ววิ่งหนีล้มลุกคลุกคลาน หนักตามติดใกล้เข้าไปแล้ว
“อย่ายิง อย่ายิง ยังไม่อยากตาย กูยังไม่อยากตาย”
“มึงยังไม่อยากตาย แล้วทำไมมึงเที่ยวฆ่าคนอื่นตายยังกับผักปลา”
“กูไม่ได้ฆ่า อีเนียนน้องมึงต่างหากที่ฆ่า”
“อีสนมึงทำให้กู ทนไม่ได้แล้ว หยุดพูดนะ มึงหยุดใส่ร้ายน้องกู”
“กูจะพูด น้องมึงใส่ร้ายกู กูจะไปศาลจะไปประจานลูกมึง”
“อีสน มึง…”
หนักโผนทะยานกระชากหัวสนยกปืนจ่อ ท่านขุนตามมาตะโกนห้าม
“อย่า”
เทิดศักดิ์กับแดงน้อยตามมาเห็นเหตุการณ์
“อย่า”
แต่หนักยิงเปรี้ยงทันที ร่างสนทรุดลงไป
“เสือหนักแก…” แดงน้อยโมโห
ขุนภักดีหันมา “อย่าแดงน้อย”
ขณะที่ร่างสนทรุดลงนั้น แดงน้อยยิงเปรี้ยงไปทันทีเช่นกัน ท่านขุนห้ามไม่ทัน
ท่านขุนและเทิดศักดิ์ตกตะลึง สนลงไปกองกับพื้น เทิดศักดิ์ผวาไปหาแม่ หนักยืนนิ่งหลังจากโดนยิง แล้วก้าวไปสามก้าว มองมายังสน
“จงไปนรกเสียเถิด อีสน”
จากนั้นหนักล้มลงนอนใกล้ๆ สน ขุนภักดียืนนิ่ง เทิดศักดิ์กับแดงน้อยเดินเข้าไปที่ทั้งสองคน
“สนตายสนิทแล้ว แต่...”
สองหนุ่มเห็นหนักนอนนิ่งยังไม่ตาย ครั้นมองชัดๆ แล้วต้องตะลึง
“ลุงสิน”
หนักเจ็บไปทั้งร่างรวบรวมแรงพยักหน้าให้สองคนมาหา สองคนเดินเข้ามาใกล้ทรุดตัวลงนั่ง
“ลุงสิน”
ทุกคนบนเรือนได้ยินเสียงปืน ต่างเป็นห่วงขุนภักดี เทิดศักดิ์ กับแดงน้อย พากันวิ่งมายังเสียงปืน
“แดงน้อย เทิดศักดิ์” เนียนร้องขึ้น
“พี่เทพ”
“นางสนแน่ๆ” ทานตะวันว่า
“โธ่...นั่นค่ะ อยู่ตรงนั้น” เนื้อทองชี้ไป

ทุกคนกรูไปที่เกิดเหตุ
เทิดศักดิ์เดินมาปิดตาให้สน แล้วก้มลงกราบ ขออโหสิกรรม

“คุณแม่ครับ ผมขอโทษ ที่ผมไม่สามารถช่วยคุณแม่ได้ อโหสิให้ผมด้วย”
ท่านขุน แดงน้อยอยู่กับเทิดศักดิ์ หนักมองแดงน้อย น้ำตาซึม
“แดงน้อยของลุง”
“ลุงสิน ทำไม ทำไม”
“นายสินคือเสือหนัก” ขุนภักดีบอก
“ไม่จริง” แดงน้อยรับไม่ได้ คาดไม่ถึง
“จริง จริงที่สุด” หนักบอกย้ำ
“เทิดศักดิ์มากราบพ่อสิ” ขุนภักดีเรียก
เทิดศักดิ์ผละจากสนมาทรุดลงที่หนักนอนหายใจรวยรินอยู่ หนักยกมือพยายามจับหน้าเทิดศักดิ์
“พ่อขอโทษ ที่ทำให้ลูกอับอาย มีพ่อเป็นไอ้เสือหนักคนเลว”
เทิดศักดิ์ผวาเข้าไปกราบเท้าหนักข้างหนึ่ง ส่วนแดงน้อยกราบอีกข้างหนึ่ง
“พ่อครับ”
“ลุงครับ โธ่ลุง นี่ผม ยิงลุง” แดงน้อยเศร้า
“ยิงตามหน้าที่ หลานมีหน้าที่จัดการคนทำผิด หลานทำในสิ่งที่ถูกต้อง” หนักปลอบ

จังหวะนี้พวกเนียนมาถึงพอดี เนียนเห็นหนักนอนจมกองเลือดอยู่ ก็ผวาตัวเข้าไปกอดพี่ชายแน่น ร้องครวญคร่ำ ใจจะขาดรอนๆ
“พี่หนัก พี่หนักของน้องโธ่”
“ผมกลายเป็นฆาตกรฆ่าลุงตัวเอง” แดงน้อยคร่ำครวญ
“พ่อครับ ผมภูมิใจที่ได้เป็นลูกพ่อ”
“แดงน้อย กราบขอขมาลุงหนักสิลูก” เนียนบอก
“ผมกราบขอขมาครับลุงหนัก”
“ขอบใจ ขอบใจมาก มานี่สิมาทั้งหมด ทุกคน”
ท่านขุนถอยห่างออกไป เนียนพยักหน้าเรียกลูกสาวแฝด เรียมช่วยดันสองสาวแฝดให้ไปหาหนัก
“หนูสองคนไปกราบลุงหนักสิ”
สองคนไปกราบหนัก รอบตัวหนักมีเนียน ทานตะวัน เนื้อสอง เทิดศักดิ์ และแดงน้อยรุมล้อมร้องไห้จับมือจับตัว หนักมองไปรอบตัวอย่างเต็มตื้น มีความสุข
“อย่าเสียใจกันเลย ควรภูมิใจที่เสือหนักคนนี้ได้ตายอย่างมีประโยชน์ ปกป้องไม่ให้นางคนใจชั่ว เอาลูกตัวเองไปประจาน เอาทุกคนที่บ้านนี้ไปประจาน”
หนักยิ้ม กวาดตามองทุกคนราวกับจะจดจำไว้ตลอดกาล จนมาหยุดที่เทิดศักดิ์
“พ่อภูมิใจมากเทิดศักดิ์ พ่อรักลูก อยากให้ลูกกอด และอยากกอดลูกสักครั้งในชีวิต”
เทิดศักดิ์ก้มลง เนียน และแดงน้อยเอามือหนักมากอดเทิดศักดิ์ไว้ เทิดศักดิ์กอดหนักตอบ
“ผมรักพ่อครับ”
“พ่อก็รักลูก รักทุกคน ลาก่อน”
หนักปิดตาลงอย่างสงบ ท่ามกลางเสียงสะอื้นไห้ของคนที่ล้อมรอบกาย เรียมกับขุนภักดียืนมองอยู่ใกล้ๆ ต่างจากศพสนที่ไม่มีใครเหลียวแล นอนตายอย่างเดียวดายและน่าอนาถ

หลายวันต่อมา สมาชิกทุกคนของบ้านภักดีภูบาลนั่งอยู่ภายในเรือลำใหญ่ ที่แล่นอยู่กลางแม่น้ำท่าจีน
ทุกคนแต่งชุดดำ กำลังจะทำพิธีลอยอังคารกระดูกของทองจันทร์ และหนัก
“ทุกคนมารวมกันตรงนี้ มาช่วยกันส่งคุณย่า” ขุนภักดีเรียกลูกๆ
ทุกคนมารวมกัน ขุนภักดีหย่อนหม้ออังคารของทองจันทร์ลงไป
“มาทางนี้เทิดศักดิ์ อุ้มกระดูกของพ่อมาทางนี้”
เทิดศักดิ์อุ้มหม้อบรรจุอังคารของหนักมา ทุกคนมารวมกัน เทิดศักดิ์หย่อนหม้อลงไปในน้ำ เรียมมองเทิดศักดิ์ที่หน้าหมองเศร้าตลอดเวลา
“เทิดศักดิ์ แม่ให้กบกับแมว เอาเถ้ากระดูกของแม่สน ใส่ติดมาด้วย ส่งเขาไปสู่สุคติด้วยสิ”
กบยื่นส่งมาให้ เทิดศักดิ์รับมาแล้วหย่อนลงไปเพียงลำพัง
“คุณแม่ครับ ไปสู่สุคตินะครับ”
เห็นเรือแล่นไปตามลำน้ำในบรรยากาศแสนโศกเศร้า

เวลาผ่านไป เช้าวันนี้เนียน เรียม และเนื้อทอง มาทำผมที่ร้านของทานตะวัน แต่ละคนทำผมสวยงาม มีทานตะวันคอยดูแล
“ขอบใจมากจ้ะพิศมัย นี่จ้ะ ค่าติ๊บ” เรียมยื่นเงินให้
“ขอบใจมากนะพิศมัย ดูสิแม่ชั้นสองคนสวยราวกับเป็นพี่สาวของชั้น” ทานตะวันยิ้มแฉ่ง
“หนูอี๊ด ชมกันเองเสียแล้ว”
“แล้วดูน้องสาวชั้นสิ สวยงามมากจริงไหม”
“หนูสวยเหมือนพี่อี๊ดนี่คะ”
ทุกคนหัวเราะ แดงน้อยกับเทิดศักดิ์พากันเข้ามา
“ตำรวจมาแล้ว มารับสาวๆ”
“นายอำเภอมาแน่ะ มารับสาวๆ เหมือนกัน”
ขุนภักดีเข้ามากับเอก
“ข้าหลวงก็มารับคุณนายสองคน”
“เชิญขอรับ คุณนาย” เอกบอก
ทุกคนพากันออกไปอย่างมีความสุข พิศมัยกับช่างยิ้มแย้มมองตาม

พิธีเปิดโรงเรียนของเนื้อทอง มีบรรดาข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนทั่วเมืองสุพรรณ มาร่วมงานอย่างเนืองแน่น
แลเห็นแพรคลุมป้ายชื่อโรงเรียนอยู่ และขุนภักดีกำลังตัดริบบิ้น มีทุกคนในครอบครัวยืนอยู่ด้านหลัง และข้าราชการพ่อค้า ประชาชนหมู่ใหญ่ยืนรวมตัวกันอยู่ ท่านขุนบรรจงตัดแพรคลุมป้าย ลูกโป่งดึงแพรสีสวยลอยขึ้นไปบนอากาศ เห็นชื่อป้ายโรงเรียนเด่นหรา
“โรงเรียน ทองจันทร์อนุสรณ์”
“เราเปลี่ยนชื่อใหม่ให้เป็นอนุสรณ์แด่คุณนายทองจันทร์มารดาผมครับ ทุกๆ คน” ขุนภักดีประกาศ
ทุกคนปรบมือยินดี ต่างยิ้มย่องผ่องใส แหงนหน้ามองลูกโป่งที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นทุกคนก็เดินเข้าประตูโรงเรียนไป นำโดยขุนภักดี
สมาชิกทุกคนของบ้านภักดีภูบาลที่เคยหมองเศร้าทุกข์โศก อันเนื่องมาจากเรื่องราวร้อนร้ายของความรักความแค้นในอดีต

วันนี้สีหน้าของแต่ละคนเปื้อนยิ้มเปี่ยมสุขตลอดเวลา

******* อวสาน*******

อ่านละคร อาญารัก ตอนอวสาน วันที่ 24 พ.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manage