อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 9 วันที่ 3 พ.ค. 56
แม้อภิวัฒน์จะเตือนภูวนัยว่าถ้าเขาไปที่ฟาร์มก็อาจจะไม่โชคดีรอดมาเหมือนคราวก่อน แต่ด้วยความเป็นห่วงทุกคนเขาตัดสินใจไป โดยมีไผ่ตามไปด้วยเพราะภูวนัยบอกว่าต้องการไปดูว่าพวกเขาอยู่กันอย่างไรเท่านั้นภูวนัยกับไผ่ปลอมเป็นผัวเมียชาวต่างชาติไปขอเปิดห้องพักที่รีสอร์ตของเสกสรร พอเห็นเป็นชาวต่างชาติ เสกสรรก็โขกค่าเช่าคืนละหมื่น แต่ตัวเองพูดภาษาอังกฤษไม่ได้จึงให้พรรณรายมาแปล พอรู้ราคาไผ่อุทานสยอง...
“หา! ถ้าอย่างนั้น ฉันว่าเราไปที่อื่นก็ได้นะ” ไผ่ชวนภูวนัย เสกสรรได้ยินพูดภาษาไทยและจะหนีไปพักที่อื่น ก็กลับลำทันที
“เราพักแค่คืนเดียว” ภูวนัยบอก
“คืนละสองพันครับ”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอกุญแจด้วย” ภูวนัยบอกหลังจากสบตากับไผ่แบบพอรับได้
เสกสรรเอาใจว่าเดี๋ยวจะให้เด็กไปยกกระเป๋าให้ ภูวนัยบอกว่าไม่เป็นไร เรายกกันเองได้ แล้วหันไปพูดกับไผ่หวานหยด “ไปกันเถอะจ้ะที่รัก” ทำเอาไผ่พะอืดพะอม ทำหน้าไม่ถูก
“พูดไทยได้ก็ไม่บอกแต่แรก ฮึ่ยย...เสียดาย เงื้อดาบแล้วไม่ได้ฟัน” เสกสรรบ่นอุบอิบ
พรรณรายมองตามไผ่กับภูวนัยไปอย่างสงสัย ถามเสกสรรว่า “พ่อว่าคุ้นๆ หน้าสองคนนั้นไหม”
“ทำไม...อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนเก่าแกตอนอยู่ที่อเมริกา”
“จะบ้าเหรอพ่อ ไม่รู้สิ ฉันรู้สึกคุ้นหน้าสองคนนั้นยังไงชอบกล” พรรณรายยังรู้สึกตงิดๆ ในใจ
ooooooo
พอยกกระเป๋าเข้าห้องพัก ไผ่พญาก็บ่น
“โห...ตาหนวดนั่นเล่นจะฟันเราเสียหัวแบะเลย” พอมองเตียงที่แต่งสวยหนานุ่ม ก็สะดุดกึก ถามไม่เต็มเสียง“เอ่อ...นี่เราต้องนอนด้วยกันเหรอ”
“ทำไม” ภูวนัยทำหน้าขรึม “แค่นี้คุณเสกกับพั้นซ์ก็มองเราแปลกๆแล้ว ขืนเราแยกห้องนอนกันอีก พวกเขาจะยิ่งสงสัย แล้วอีกอย่าง ผมบอกคุณแล้วใช่ไหม ว่าผมจะมาคนเดียว”
ไผ่ฉุนกึก มองขวับตาเขียว “อ้าว...นี่หาว่าฉันจุ้นเรื่องของนายรึไง ท่านอภิวัฒน์ก็บอกอยู่ว่าถ้านายมานี่รับรองว่านายต้องตายแน่ๆ”
“แต่ผมต้องมา...จะให้ผมรอดคนเดียว แล้วเห็นพ่อกับหลานๆ ผมต้องตายรึไง”
ไผ่อึ้งไปอย่างเห็นใจ พูดเสียงอ่อนลงว่า
“แต่นายสัญญากับฉันแล้วนะ ว่านายต้องการมาดูความเป็นอยู่ของพวกเขาเท่านั้นเอง” พูดแล้วเห็นภูวนัยนิ่ง ไผ่รุก “ทำไม...นี่นายคิดจะผิดคำสัญญารึไง ถ้านายบอกว่านายจะมานี่เพราะคิดจะล้างแค้นเพื่อนนายละก็...ยังไงฉันก็ไม่ให้มา”
“เอาน่า...ผมรู้ว่าผมต้องทำอะไร”
“ไม่ได้! นายต้องสัญญาก่อน” ไผ่คาดคั้น แล้วคว้ามือภูวนัยขึ้นมา เอานิ้วก้อยตัวเองเกี่ยวก้อยของเขา แล้วโมเมเองว่า “ดี...นายสัญญาแล้วนะ เดี๋ยวฉันขอเข้าห้องน้ำก่อน เหนียวตัวจะแย่”
พอไผ่พญาไปเข้าห้องน้ำ ภูวนัยก็หน้าเครียดขึ้นมาทันที
ooooooo
ด้วยความเป็นห่วงพ่อและหลานๆ ภูวนัยออกจากห้องไปเผื่อจะได้เห็นใครบ้าง แล้วก็ได้เจอจริงๆ!
ภูวนัยเจอม่านเมฆกับม่านหมอก แอบได้ยินสองพี่น้องคุยกันอย่างทุกข์ใจ ม่านเมฆไม่เชื่อว่าภูวนัยจะโทร.มาบอกพรรณรายให้รับพวกตนมาอยู่ที่รีสอร์ต
ม่านหมอกไม่สนใจเรื่องนี้ แต่กลับโทษว่าที่พวกเราต้องมาอยู่อย่างนี้เพราะภูวนัยทำเรื่องชั่วๆ ไว้
“ไม่จริง! พ่อภูไม่ใช่พวกค้ายาซะหน่อย” ม่านเมฆเถียงเสียงแข็ง ม่านหมอกอ้างว่าตำรวจบอกว่าเขาเป็น “ตำรวจโกหก...เมฆไม่เชื่อว่าพ่อภูจะเป็นพวกนั้น”
“เขาเป็นคนเลว เขาหลอกพวกเรา เขาทำให้พวกเราต้องเป็นอย่างนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะเขา...เพราะเขาได้ยินไหม!”
ม่านเมฆรับไม่ได้วิ่งออกไป ม่านหมอกมองตามน้องแล้วนั่งร้องไห้อย่างหนักใจ
ภูวนัยแอบดูอยู่อย่างรู้สึกผิด เขาอยากออกไปบอกความจริงกับม่านหมอก แต่มีคนงานเดินผ่านมาจึงต้องหลบ แต่พอคนงานเดินผ่านไป ม่านหมอกก็หายไปแล้ว...เขาได้แต่ยืนคิดเป็นห่วงหลานมาก
ไผ่พญาในคราบนักท่องเที่ยว อาบน้ำเสร็จออกมาไม่เห็นภูวนัย จึงออกจากห้องมองหาว่าเขาหายไปไหน
ooooooo
ที่ห้องอาหารรีสอร์ต...พรรษาไม่นิ่งดูดายเข้ามาช่วยทำงานในห้องอาหาร เผ่าพงศ์บอกว่าไม่ต้องทำอะไรเพราะเราไม่ได้มาอยู่ฟรีๆ แต่พรรษาอยู่เฉยไม่ได้ยังคงทำโน้นทำนี่ไปเรื่อย
ระหว่างนั้น ตะวันฉายไปที่ฟาร์ม พอรู้ว่าพวกเผ่าพงศ์มาอยู่ที่รีสอร์ตจึงตามมาดู เจอพรรษาเลยคุยกัน
“ค่ะ...เราก็มากันแค่นี้ ส่วนพวกคนงาน เราจำเป็นต้องเลิกจ้าง เอ่อ...คุณตะวันฉายมีอะไรหรือเปล่าคะ” พรรษาถาม ตะวันฉายบอกว่าตนแวะมาดูเผื่อว่ามีอะไรจะให้ช่วยบ้าง
ขณะนั้นเอง ม่านเมฆวิ่งเข้ามากอดเผ่าพงศ์เหมือนเด็กกำลังขวัญเสีย เผ่าพงศ์กอดหลานถามว่าเป็นอะไรหรือ?
“พี่หมอกเขาบอกว่าพ่อภูเป็นคนชั่ว พ่อภูทำให้เราต้องเป็นแบบนี้ ไม่จริงใช่ไหมตา”
“พ่อภูเป็นคนดี...แล้วเราคิดว่าพ่อภูเป็นคนดีหรือเปล่าล่ะ” ม่านเมฆพยักหน้า “ดีแล้วหลานตา...ตอนนี้พี่หมอกเขาคิดอย่างนั้นก็ปล่อยเขาไป แล้ววันไหนที่พ่อภูกลับมา พี่หมอกเขาก็จะรู้ความจริงเอง”
ตะวันฉายฟังม่านเมฆแล้ว ทำให้เขาอยากคุยกับม่านหมอก เพื่อฟังความในใจของเธอ
เวลาเดียวกันนั้น ที่หน้ารีสอร์ต ชาติกล้าอยู่ในรถคันหนึ่ง จ่าวีระกับราชัย อยู่ที่รถอีกคันหนึ่ง ทั้งหมดมาซุ่มดักภูวนัยตามแผนล่อเสือออกจากถ้ำ
ขณะนั้นเอง จ่าวีระวิทยุรายงานชาติกล้าว่า “หัวหน้าครับ มีรถคันนึงมาครับ”
ที่แท้เป็นรถของปลายฟ้า เธอจอดรถแล้วเดินเข้าไปที่รีสอร์ต ชาติกล้าออกไปทัก เธอถามว่าเขามาทำไม
“เรามาปฏิบัติราชการ” ปลายฟ้าดักคอว่ามารอจับภูวนัยใช่ไหม ชาติกล้ากลับย้อนถามว่า “ภูติดต่อมาหรือเปล่า”
ปลายฟ้าถามอย่างไม่พอใจว่าจะให้ตอบแบบผู้ต้องสงสัยหรือว่าเพื่อน ชาติกล้าเตือนขู่ๆว่าไม่อยากให้เธอเกี่ยวข้องกับภูวนัยเพราะอาจจะโดนข้อหาสมรู้ร่วมคิด
“เราแค่เป็นห่วงคุณลุง...เป็นห่วงเด็กๆ แต่ถ้าชาติจะคิดว่าเราสมรู้ร่วมคิด ให้ความช่วยเหลือภู...เอาซิ” เธอยื่นมือออกไปให้จับ เมื่อชาติกล้าไม่จับ เธอพูดอย่างห่างเหินว่า “ถ้าไม่จับ งั้นฟ้าขอตัว”
ชาติกล้าคว้ามือเธอไว้ เอ่ยขอโทษอ้างว่าตนแค่ไม่อยากให้เธอเดือดร้อน
“ปล่อยมือฟ้าเถอะชาติ” ปลายฟ้าพูดนิ่งๆเมื่อเขาปล่อยเธอจะเดินเข้าไปในรีสอร์ต แต่แล้วกลับหันมาพูดอีกว่า “ชาติถามเราใช่ไหมว่าภูติดต่อมาหรือเปล่า? เปล่า...ภูไม่ได้ติดต่อฟ้าเลย แต่ถ้าภูติดต่อมา ฟ้าก็จะไม่บอกชาติ เพราะอะไรชาติอยากรู้ไหม เพราะฟ้าเชื่อว่า ภูเป็นคนดี” พูดแล้วเดินเข้าไปเลย
ooooooo
ไผ่พญาเดินตามหาภูวนัยมาจนถึงห้องอาหาร เห็นเผ่าพงศ์นั่งคุยกับม่านเมฆก็ถอยกรูด แต่เจอพรรษาเข้าอย่างจัง
พรรษาทักทายอย่างมีอัธยาศัยถามว่าพูดภาษาไทยได้ไหม ไผ่ดัดสำเนียงพูดไม่ชัดว่าพอได้นิดหน่อย
“งั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ” พรรษาเชิญไผ่มานั่งที่โต๊ะ บอกให้รอเดี๋ยวจะไปเอาเมนูมาให้ ไผ่สั่งทันทีโดยไม่รอเมนูว่าเอาผัดไทย พรรษายิ้มแปลกใจ บอกให้รอสักครู่
อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 9 วันที่ 3 พ.ค. 56
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะโดย บทประพันธ์ เล่าเต็งคุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ บทละคร โดย อภิวัฒน์ เล่าสกุล
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะผลิตโดย : บริษัท กำกับการดี จำกัด
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะนำแสดงโดย : ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ - ไปรยา สวนดอกไม้
ติดตามชมคุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ