อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 15/2 วันที่ 2 พ.ค. 56
“มะ ...ไม่มีปืนครับ” แช่มโกหก“มันไม่มีปืนดอกเจ้าค่ะ” ช้อยรีบแก้ตัวแทนลูก
“ไม่มีแล้วเมื่อกี้แกเอาอะไรมายิงโต้ตอบชั้น ป่วยการพูด มันปากแข็งปากโป้ปดมดเท็จเหมือนแม่มัน ใส่กุญแจมือแล้วเอาตัวไปขังไว้หมู่เติม”
ช้อยร้องไห้โฮๆๆๆ
“ไอ้แช่ม ไอ้แช่มของแม่ ติดตะรางแล้วโธ่...ไอ้แช่ม”
ช้อยก้มลงกราบเทิดศักดิ์
“คุณเทิดศักดิ์เจ้าขา กรุณาปล่อยมันเถิดนะเจ้าคะ”
“เหลวไหล ไปหมู่เติม”
หมู่เติมคุมตัวแช่มออกไป มีเทิดศักดิ์ตามไปด้วย ช้อยตีอกชกหัว
“ไอ้แช่มจะโดนประหารชีวิตไหม โธ่ลูกแม่”
“มาร้องไห้ร้องห่มเอาตอนนี้หามีประโยชน์อันใดไม่ ทำไมตอนมันยังเด็กไม่สอนให้มันรู้จักแยกแยะผิดถูกดีเลว นี่แหละผลของการไม่สั่งสอนอบรมลูกให้ถูกทาง”
เวลาต่อมา แช่มยืนเกาะลูกกรงห้องขังบนโรงพักร้องไห้โฮๆ โดยมีช้อยนั่งร้องไห้ระงมอยู่ด้านนอก
“แม่จ๋า ชั้นไม่อยากติดคุก แม่ช่วยชั้นด้วย ช่วยชั้นนะแม่”
“แม่ก็อยากจะช่วยแก แต่แม่จนปัญญาแล้วลูก”
“ไปหาคุณนายสนสิ ขอคุณนายสนช่วยชั้นนะแม่ ขอให้เขาบอกหมวดเทิดศักดิ์ปล่อยชั้น”
คำพูดลูกชายกระแทกเข้าที่หน้าช้อยเหมือนเรียกสติได้คิดขึ้นมา
“จริงสิ คุณสน คุณสน สัญญาว่าจะช่วยนี่นา”
ช้อยรีบลุกพรวดทันที แช่มงง
“แม่จะไปไหน”
“ไปหาทางช่วยแก”
ช้อยเดินออกจากหน้าห้องขังไป สวนกับหมวดเทิดศักดิ์ที่เดินตรงเข้ามาหา
“จะกลับแล้วหรือยัยช้อย”
“เจ้าค่ะ”
“ยังกลับไม่ได้ ชั้นมีอะไรจะถามหลายเรื่อง”
“เอ้อ...”
“ไปที่ห้องสอบสวนยัยช้อย”
“เจ้าค่ะ ไปเจ้าค่ะ”
ช้อยเดินตามเทิดไป แช่มมองตามตาละห้อย พยายามยื่นมือออกมานอกลูกกรง
“แม่...”
สองคนอยู่ในห้องสอบสวนบนโรงพัก เทิดศักดิ์สอบถามช้อยทุกเรื่องทั้งหมดทั้งปวงที่สงสัย
“ขอบใจที่ตอบข้อสงสัยชั้น หวังว่าที่พูดมานั่นคือความจริงทั้งหมด”
“ความจริงแน่นอนเจ้าค่ะ”
“ถ้าเช่นนั้น ตอบมาว่าปืนที่นายแช่ม ยิงสู้กับชั้นหายไปไหน
ช้อยสะดุ้งนิดหนึ่ง แล้วรีบส่ายหน้า
“ช้อยไม่เห็นจริงๆ เจ้าค่ะ เห็นมันวิ่งมาตัวเปล่าเล่าเปลือยนะเจ้าคะ”
“แต่เขายิงปืนใส่ชั้น รู้ไหมนี่คือข้อหาพยายามทำร้ายพนักงาน ขณะปฏิบัติหน้าที่”
“เอ้อ แต่ถ้ามันไม่มีปืนจริงๆ มันจะรอดพ้นคดีใช่ไหมเจ้าคะ”
“อย่าทำหัวหมอใส่ชั้น กลับไปได้แล้ว”
“เอ่อ เจ้าค่ะ”
ช้อยรีบไหว้แล้วออกไปทันที เทิดมองตาม
“ทุกเรื่องที่ยัยช้อยตอบ มีแม่สนมาเกี่ยวข้องไปซะทุกเรื่อง แม่ช่างน่าเป็นห่วงเหลือเกิน”
เทิดศักดิ์หนักใจเรื่องสนมากมาย
วันต่อมา สนพยายามฉอเลาะประจบขุนภักดีที่แวะมาหา แต่นั่งมองหน้าสนนิ่งและนาน
“วันนี้พี่ขุนมาหาสนเป็นพิเศษ ทั้งที่ไม่ใช่วันของสน สนดีใจเหลือเกินค่ะ เอนหลังสักนิดนะคะ สนจะไปหาน้ำท่าขนมมาให้รับประทาน”
“ขอบใจมากสน พี่ไม่เอนหลังดอก พี่ไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น”
“อุ๊ยตาย นี่พี่ขุนอย่าบอกนะ ว่าจะมาคุยกระจู๋กระจี๋กับสนตามลำพังยามบ่าย”
“ไม่ใช่ดอก วันก่อนพี่ จับคนต้มเหล้าเถื่อนแถวบ้านเรานี่เอง” ขุนภุกดีว่า
“คนต้มเหล้าเถื่อน” สนชักเอะใจ
“มันว่ามันรู้จักสน”
“ต๊าย”
“สนรู้จักมันรึ”
“สนไม่เคยไปรู้จักมักจี่อะไรกับไอ้คนต้มเหล้าเถื่อนที่ไหนคะพี่ขุน”
“นั่นน่ะสิ พี่ก็นึกแล้วว่ามันตีขลุมว่าสนิทกับสน หวังจะให้พี่ปล่อยมัน”
“ตอนนี้มันอยู่ที่ไหนคะ”
“ตะรางน่ะสิ”
“มันจะถูกขังนานไหมคะ”
“ก็ตามที่กฎหมายกำหนดไว้นั่นแหละ”
“มันใส่ร้ายอะไรสนบ้างหรือเปล่าคะ” สนลองหยั่งเชิง
ขุนภักดีนิ่งงันไป เสียงคนต้มเหล้าเถื่อนต่อว่าท่านขุนเรื่องดีแต่จับเหล้าเถื่อนไม่ไปจับคนในบ้านดังก้องในหู
“เปล่า” ขุนภักดีบอก
สนแอบถอนหายใจโล่งอก ท่านขุนลุก สนบ่นตัดพ้ออย่างน้อยใจ
“เพิ่งมานั่ง จะไปแล้วหรือคะ พี่ขุน
“ไปแวะเรือนคุณแม่น่ะ”
ขุนภักดีเดินลงเรือนไป สนมองตามเริ่มไม่สบายใจ
“นี่มันอะไรกันหว่า ศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ความวัวเรื่องไอ้หนัก ไอ้แช่ม ยังไม่ทันหาย ความควายไอ้คนต้มเหล้าเถื่อนเข้ามาแทรก ปล่อยไว้นานไป มันอาจบอกพี่ขุนเรื่องเราไปเช่าเรือมัน”
สนหงุดหงิดงุ่นง่านไปหมด ก่อนจะตะโกนเรียกสาวใช้
“อีเล็กๆ หายไปไหน ใครก็ได้ไปตามไอ้สายมาสิ”
เวลาต่อมาไอ้สายยิ้มแป้น แบเงินในมือห้าตำลึงออกมามองท่าทางดีใจมาก
“ตั้งห้าตำลึง ค่าไปสอดแนมไอ้คนต้มเหล้าเถื่อนว่ามันพูดถึงคุณนายสนว่าอย่างไร”
สายมองซ้ายแลขวา จะย่องออกไปทางหลังบ้าน เอกปราดมาขวาง
“จะไปไหนไอ้สาย”
สายตกใจ ชะงัก “ไปเอ้อ ไปข้างนอกจ้ะ พี่เอก”
“รู้แล้วเพราะเท้าเอ็งก้าวไปนอกบ้าน ข้าหมายความว่า เอ็งจะไปทำ อะไรที่ไหน”
“ไปเยี่ยมแม่จ้ะ แม่ป่วย”
“พวกเอ็งเหมือนกันทั้งนั้น เวลาจะหนีเที่ยวเอ็งแช่งพ่อแช่งแม่ว่าป่วยทุกคนเกิดแกตายไปจริงๆ ละมึงเอ๊ย นรกกินกบาล” เอกพูดเหน็บ อย่างรู้ทัน
“ไม่ได้โกหก แกป่วยจริงๆ จ้ะ”
เอกส่ายหัวคร้านจะสอบถาม แม้นมั่นใจว่าสายโกหก
ฟากเนียนนั่งครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเงียบๆ ตามลำพัง สีหน้าเนียนดูเศร้าสร้อยนัก
“แม้นว่าความจริงไม่ได้ถูกเปิดเผย แต่ทั้งแดงน้อย หนูติ๋วหนูอี๊ดก็ได้ดีมีสุขมีอนาคตกันหมดทุกคน แค่นี้แม่ก็ไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้วลูกเอ๊ย”
เนียนคิดแล้วยิ้มออกมาได้
ฝ่ายขุนภักดีอยู่ระหว่างเดินจากเรือนสนจะมาเรือนตนเอง มองไปเห็นเนียนพอดี
“เนียน”
ขุนภักดีหยุดชะงัก คิดไปคิดมา
“ทำไมสนต้องไปเช่าเรือให้เด็กสองคนนั่นพายเล่น มีเจตนาร้าย อย่างที่ไอ้คนต้มเหล้าเถื่อนมันพูดหรือเปล่า สนเช่าเองแล้วทำไม กล่าวหาว่าเด็กติ๋วชวนหนูอี๊ดไป”
ภาพตอนที่ตนฉุดกระชากลากเนื้อทองมาเฆี่ยนตีผุดขึ้นมาหลอกหลอนอีกครา
“เราบุ่มบ่ามไม่ดูเหตุดูผล ทุบตีคนโดยไม่ฟังความสองฝ่าย”
ขุนภักดีมองไปที่เนียนอีก ขยับเดินเข้าไปใกล้อีก
“ถ้ายัยติ๋วเป็นลูกเรา” ท่านขุนมองดูสองมือของตัวเองแล้วสะท้อนใจ “แล้วเราโบยตีลูกขนาดนั้น เราก็พ่ออำมหิตแท้ๆ หัวอกแม่อย่างเนียนคงปวดร้าวเป็นที่สุด โธ่เอ๊ย..เนียน”
ขุนภักดีเขยิบเข้าไปฟังใกล้อีก
เนียนนั่งเศร้าสร้อยอยู่ที่เดิม ขณะที่ขุนภักดีอยู่อีกทางกำลังจะขยับปากเอ่ยเรียก
“นะ...”
เป็นจังหวะที่แดงน้อยเข้ามาอีกทางมาถึงตัวเนียนก่อน
“สวัสดีครับ น้าเนียน”
ท่านขุนชะงักถอยฉากหลบมอง เห็นเนียนดีใจมือไม้สั่น ยิ้มกว้างมีความสุขชนิดที่ขุนภักดีไม่เคยเห็นมาก่อน
“นายอำเภอแดงน้อย”
เนียนรับไหว้แล้วทำท่าราวกับจะโอบกอดแดงน้อย
“นี่มันอะไรกัน ทำไมเนียนดีใจและดูมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนขนาดนี้ แดงน้อยสำคัญกับเนียนมากนักรึ แปลกแท้ๆ อีกแล้ว”
ท่านขุนฉงน ไม่ยอมไปไหนต่อ กลัวสองคนเห็น จึงฉวยโอกาสแอบฟังไปด้วย
เนียนยิ้มแย้มสีหน้าระรื่นเปี่ยมสุข แดงน้อยพูดคุยกับเนียนต่ออย่างสุภาพ แววตาเปล่งประกาย สุขใจอย่างประหลาด
“ผมคิดถึงน้าเนียนมากครับ อยากมากราบเยี่ยม แต่งานรัดตัวเหลือเกิน”
“ขอบคุณมากค่ะ ที่เมตตาคนแก่ รู้ว่าคนแก่มีความสุขที่ได้พบนายอำเภอ”
“พุทโธ่ น้าเนียนครับ เรียกผมแดงน้อยสั้นๆก็พอ ไม่ต้องเรียกนายอำเภอ”
“คำว่านายอำเภอ มันช่างน่าภาคภูมิใจ ขอให้น้าเรียกคำนี้ต่อไปเถิด นะคะ”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นผมก็ไม่ขัดข้องดอกครับ”
“มาจากที่ทำงานมาเหนื่อยๆ รอสักครู่ น้าจะไปหาอะไรมาให้รับประทาน”
“รบกวนมากเกินไปแล้วครับ”
“ไม่รบกวนดอกค่ะ น้าเต็มใจอยากทำอะไรให้นายอำเภอมากเท่าที่จะทำได้ค่ะ”
เนียนจับมือจูงแขนแดงน้อยให้มาลงนั่ง เอามือลูบหัวแดงน้อย อย่างชื่นชมสุขใจ ก่อนเดินจากไป แดงน้อยมองตามเนียนพึมพำ
“เราจำแม่ไม่ได้ นึกวาดภาพออกมาทีไร ใกล้เคียงกับน้าเนียนทุกที”
ส่วนขุนภักดี มึนไปหมดกับภาพที่เห็น
“สองคนนี่ถ้าดูดีๆ ก็ราวกับแม่ลูกรักกัน แต่ถ้าดูร้ายๆ ก็คล้ายจะเล่นชู้กันนี่กระมังที่มักเป็นเหตุให้ใครเข้าใจเพราะคำยุยงของคนเลวทรามเช่นนางช้อย”
ขุนภักดีเกิดนึกถึงภาพเสือหนักกับเนียนพูดจาพลางโอบกอดกันเมื่อ 20 ปีก่อนขึ้นมา
“ผู้ชายคนนั้นเมื่อยี่สิบปีที่แล้วนั่นเป็นใครกัน ทำไมเนียนถึงมีผู้ชายให้แสดงความรักใคร่หลายคนนัก”
ขุนภักดีมึนตึ๊บ สับสนไปหมด
เวลาเดียวกันในห้องขังบนโรงพัก มีชายคนต้มเหล้าเถื่อนกับแช่มยืนปะปนอยู่ด้วยกัน
ไอ้สายมาถึงหน้าห้องขังบนโรงพัก แล้วมายืนแอบฟังพอดี ไม่ได้ทำท่าว่าจะมาเยี่ยมใครทำเหมือนมาเยี่ยมคนอื่น เพราะสนส่งมาดูลาดเลา ว่าชายคนต้มเหล้าเถื่อนว่าพูดอะไรไปบ้าง
โดยคนต้มเหล้า มายืนเกาะลูกกรง โม้ไม่เลิกอวดอ้างกับแช่ม แต่ถูกแช่มเกทับ
“ชั้นนี่แหละสนิทกับคุณนายสน”
“แม่ชั้นตะหากเป็นคนสนิทของคุณนายสน”
“แต่ผัวคุณนายจับข้ามาใส่ตะราง”
“ลูกคุณนายจับชั้นมาใส่ตะราง”
สายได้ยินหูผึ่งถามคนต้มเหล้า
“น้าชายติดคดีอะไรรึ”
“เล็กน้อย ต้มเหล้าเถื่อน เอ็งมาเยี่ยมใครรึ”
“มาเยี่ยมหลานน่ะ แต่หาไม่เห็นแล้ว โดนพาไปศาลแล้วกระมังแล้วไอ้น้องเล่า คดีอะไร”
“เขาหาว่าชั้นปล้น” แช่มบอก
“อ้อ...น่าเห็นใจนะ อยากจะฝากอะไรไปบอกญาติไหม จะเอาไปบอกให้”
คนต้มเหล้าสนใจ “จริงหรือ”
“จริงสิ ชั้นน่ะเห็นใจคนตกทุกข์ได้ยาก อยากให้พ้นตะราง” สายว่า
“ชั้นคงพ้นได้ไม่ยากถ้าหากคุณนายสนช่วย”
“ฮ้า..คุณนายสนจะช่วยน้าได้อย่างไร”
“เอาอย่างนี้ เอ็งช่วยนำข่าวไปบอกคุณนายด้วยว่า ยังจำไอ้คนที่คุณนายมาเช่าเรือ เมื่อหลายปีก่อนได้ไหม ถ้ายังจำได้ ก็ช่วยให้ข้าออกไปจากตะรางด้วย ไม่อย่างนั้น ข้าอาจจะบอกอะไรบางอย่างที่คุณนายไม่อยากให้ใครรู้” คนต้มเหล้าบอก
“ได้สิ จะรีบไปบอกคุณนายให้ ได้ความอย่างไรจะกลับมาบอกไปละ”
สายหันตัวกลับ แต่แช่มเรียกไว้
“เดี๋ยวสิพี่ชาย ชั้นก็มีเรื่องที่คุณนายสนไม่อยากให้ใครรู้เหมือนกัน”
“อ้อ...มีทีเด็ดกันทั้งนั้น” สายบ่นงึมงำ
“ปากชั้นมันก็เบา บางทีอาจเผลอพูดอะไรไปโดยไม่ได้ตั้งใจชั้นอึดอัดมาก ก็อาจอยากพูดอะไรที่คุณนายให้เหยียบไว้”
“อืม...น่าเห็นใจทั้งสองคน ชั้นจะหาทางบอกให้” สายบอก
“เอ็งชื่อไรน่ะ” คนต้มเหล้าถาม
“สอนจ้ะ” สายปด
“บ้านอยู่ไหนล่ะ” แช่มถาม
“บ้านท่านขุนภักดีจ้ะ” สายบอก
สองคนตกใจมาก แต่สายก็ออกไปแล้ว
ด้านเนียนนั่งมองแดงน้อยกินขนม แล้วดื่มน้ำฝนลอยดอกมะลิอย่างอิ่มเอมใจมาก โดยไม่รู้ว่าขุนภักดีแอบมองอยู่
“อร่อยเหลือเกินครับ ฝีมือน้าเนียนทำเองหรือครับ”
“ค่ะ น้าทำไว้ทุกวัน รอเผื่อว่าวันไหนนายอำเภอมาชิม ในที่สุดนายอำเภอก็มา”
“โถ ไม่ต้องทำขนาดนั้นดอกครับ ผมมาวันไหนน้าเนียนมีอะไรผมก็กินได้ทุกอย่าง” แดงน้อยยกน้ำดื่ม “ แหม..น้ำนี่ช่างหอมชวนดื่มมากครับ”
“น้ำฝนลอยดอกมะลิค่ะ ทั้งขนมหม้อแกง ทั้งน้ำเอากลับไปทานที่บ้านได้นะคะ” เนียนยิ้มบอก
“ขอบคุณครับ แต่ผมว่ามาทานที่นี่ ทั้งมีความสุข ทั้งอร่อยกว่าทานไปคุยกับน้าเนียนไป ทั้งสบายใจ ทั้งมีความสุข”
สีหน้าแววตาทั้งเนียนและแดงน้อยมีความสุขกันจริงๆ
ขุนภักดี งุนงงประหลาดใจมากขึ้นไปเรื่อยๆ
“มันยังไงกันเหวย ช่างรักใคร่ดีงามต่อกันเกินคนรู้จักธรรมดา นี่ถ้าไม่ได้เรียมเตือนสติเอาไว้ก่อนหน้านี้ คงออกไปยิงมันตาย คาบ้านกันทั้งคู่”
ขุนภักดีอดทนฟังต่อไป
ขณะเดียวกัน เทิดศักดิ์กำลังบีบนวดทองจันทร์ไปมาด้วยใบหน้ายิ้มย่อง ทองตบเข่าฉาดใหญ่
“ผู้หมวดเจ้าเล่ห์ แกมาประจบย่า จะให้หาเมียให้รึ”
“แหม...คุณย่ารู้ทันผมอีกแล้ว”
“ย่ะ...เห็นมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย แกอ้าปากย่าก็เห็นลิ้นไก่ ไรฟันแกหมดเรื่องแบบนี้ ต้องอย่าผลีผลามใจร้อน”
“ผมไม่ใจร้อนดอกครับ เพียงแค่ร้อนใจ อยากขอหมั้นเขาเอาไว้เท่านั้นเองครับคุณย่าครับ ผมกลัวคนอื่นมาตัดหน้าน่ะครับ”
“คนที่สามารถมาตัดหน้าแกได้ ก็มีแต่พ่อแดงน้อยคนเดียวเท่านั้น ทั้งหล่อทั้งโก้ ทั้งสมาร์ท ทั้งเก่ง”
“คนอย่างแดงน้อย คงไม่เผาเรือนเพื่อนดอกครับ เราตกลงกันแล้ว”
“ไฮ้...นี่ไปแอบตกลงกันไว้ตั้งกะเมื่อไหร่”
“สมัยที่เรายังเรียนกันอยู่ครับ คุณย่าครับ ผมอยากทราบว่าคุณย่าขอเขาให้ผม วันนี้วันพรุ่งเลยได้ไหมครับ”
“ไอ้หมอนี่คาดคั้นจัง เอาเป็นว่าย่า จะเอ่ยปากบอกเนียนเขาไว้ก่อน”
“ผมจะไปขอให้คุณนายแม่เรียม ช่วยสนับสนุนอีกแรงนะครับ”
“ย่ะ สองแรงแข็งขัน” ทองจันทร์ค้อนวงใหญ่
เทิดศักดิ์ก้มลงกราบบนตักของทองจันทร์ ที่ยามนี้ทั้งเอ็นดูปนหมั่นไส้เทิดศักดิ์
“เอ๊ะ..ย่า เห็นพ่อแกกลับมาแต่หัววัน แล้วหายแว่บไปทางไหนหรือว่า ไปแอบมองเนียนมันอีกแล้ว”
“แอบมองน้าเนียนหรือครับ” เทิดศักดิ์ฉงน
“ย่ะ...พ่อเรามันประหลาดคน รักแรงเกลียดแรง แต่ตัดไม่ขาดนี่แหละเรื่องของสายสวาทมันเวียนหัวย่ะ”
ทองจันทร์ส่ายหน้า
ด้านแดงน้อยได้โอกาสสอบถามเนียน
“น้าเนียนคงทราบแล้วว่า ลุงโพล้งกับแม่แพร ย้ายกลับมาบ้านแพน”
“ทราบจากหนูติ๋วแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ที่พาสองคนนั้นย้ายกลับบ้านเก่า”
“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ ผมมีหน้าที่ต้องตอบแทนพระคุณแม่แพรกับลุงโพล้ง แกสองคนดูแลผมมานานมากแล้ว สมควรพักผ่อนสักที”
อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 15/2 วันที่ 2 พ.ค. 56
ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager