My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 3 วันที่ 2 ส.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 3 วันที่ 2 ส.ค.61

กิตติท่าทีอ่อนลงแต่พอถามว่าพวกอคินรู้ได้ไงว่าตนอยู่ที่นี่ พออคินบอกว่าดูจากบัตรประชาชน กิตติก็ระแวงขึ้นมาว่าพวกนั้นก็ต้องรู้ที่อยู่ของตนเหมือนกันเพราะตนได้แลกบัตรที่ประตูทางเข้า แม้เบนบอกว่าจะหาที่อยู่ใหม่ให้ กิตติก็ไม่สนใจ หาจังหวะโดดระเบียงหนีไปต่อหน้าต่อตา เบนจะตาม อคินบอกว่าอย่าเลยไม่คุ้ม

เบนเสนอให้คนมาเฝ้าที่นี่เพราะยังไงกิตติก็ต้องกลับมา แต่ดูๆแล้วกิตติเหมือนจะเป็นโรคจิตที่ทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความสนใจ อคินถามว่าความสนใจจากใคร ริศาหรือ พอเอ่ยถึงริศา อคินก็ขอตัวไปบอกว่าเป็นห่วงริศา พวกเราค่อยนัดกันใหม่แล้วกัน



“มันเป็นแบบนี้ทุกทีที่พูดถึงสาริศา” เบนส่ายหน้า งึมงำ

กิตติหนีไปจนหิว เจอร้านก๋วยเตี๋ยวจึงแวะกิน แต่เจอลูกน้องของเดอะฟ็อกซ์เข้าพอดีจึงมุดโต๊ะหนี  ลูกน้อง เดอะฟ็อกซ์ตามไปแต่ตลาดมีผู้คนพลุกพล่าน กิตติมุดหายไปในหมู่คนจนพวกนั้นถอยไป

กิตติซ้อนมอเตอร์ไซค์วินไปที่บ้านริศา เจอเธอพอดีรีบบอกว่าพวกมันกำลังตามล่าตน ไม่แน่ใจว่ามันอาจจะตามล่าคุณหนูเหมือนกัน ริศาถามว่าพวกไหน ใคร

“พวกที่วางแผนปล้นเครื่องบินไง” กิตติโพล่งออกไป แต่พอจะบอกว่าเป็นใคร อคินก็ขับรถเข้ามาจอดพรืด เห็นกิตติก็โพล่งว่านึกแล้วว่ามันต้องมาที่นี่ บอกกิตติว่ารู้อะไรมาบอกตนก็ได้  แต่อย่ายุ่งกับริศา กิตติเห็นอคินก็วิ่งหนีไป ริศาจะปั่นจักรยานตามก็มีรถตู้เข้ามาจอดยื่นกระบอกปืนออกมายิงใส่หัวกิตติทันที

กิตติล้มคว่ำไปท่ามกลางความตกตะลึงของริศาและอคิน มือปืนในรถหันกระบอกปืนใส่ริศากับอคิน ทั้งสอง ทิ้งตัวกับพื้น พริบตานั้นผีอัศนีปรากฏเป็นหมอกควันขวางหน้ามือปืน ลมฟ้าแปรปรวนเกิดฝนตกหนักจนมือปืนตกใจเพ่งมองไปเห็นร่างริศากับอคินเพียงเงาๆ มันลั่นปืนใส่ทันที ผีอัศนีพุ่งเข้าเอาตัวทับบังร่างริศากับอคินไว้ มือปืนมองไปเห็นแต่ร่างกิตตินอนคว่ำหน้าอยู่ แต่ริศากับอคินหายไปแล้ว มันจึงกลับไป

ooooooo

พอคนร้ายไป ทั้งอคินและผีอัศนีต่างประคองริศาขึ้นถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า มือผีอัศนีสัมผัสกับมือของอคินโดยบังเอิญ เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงทันที!

อคินเห็นร่างผีอัศนีเลือนรางแต่มองออกว่าเป็นรูปร่างคน ทั้งอคินและผีอัศนีต่างมองกันตะลึง

อคินกับผีอัศนีสื่อถึงกันได้ต่างระดมถามริศาว่าเป็นอะไรไหม ริศาขอบคุณมึนๆว่า

“ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง คุณอัศนี...คุณอคิน” อคินถามว่าใครคืออัศนี สิ่งนั้นใช่ไหม? ริศาตกใจถามว่า “คุณ...คุณเห็นเขาด้วยเหรอ เห็นได้ยังไง...ก็เขาเป็น...”

ริศากำลังจะบอกก็พอดีป้านิ่มถือร่มออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ชี้ไปที่ร่างกิตติถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ตายหรือเปล่า พอป้านิ่มออกมาผีอัศนีก็หายไปทันที

ริศากับอคินรีบไปพลิกร่างกิตติขึ้นมา ป้านิ่มเห็นหน้าก็อุทาน

“กิตติ...นี่มันลูกนายจวนคนขับรถเก่าของพ่อหนูนี่ แล้วนั่น เขาตายแล้วใช่ไหม ใครทำเขา!”

เมื่อพากิตติไปโรงพยาบาล หมอบอกว่าโชคดีที่กระสุนไม่ทำให้ถึงแก่ชีวิตแต่ก็ทำให้สมองเสียหายบางส่วน คงต้องใช้เวลาในการรักษาพอสมควร ริศาถามว่า หมายความว่าเขาพูดไม่ได้ใช่ไหม หมอบอกว่าตอนนี้เขาเหมือนเจ้าชายนิทราไม่มีการตอบสนองอะไรเลย ริศาน้ำตาไหลพึมพำใจเสีย...

“เขาเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องคนปล้นเครื่องบินพ่อ เป็นคนเดียวที่บอกได้ว่าใครทำให้พ่อตาย แต่ตอนนี้เขาจะบอกอะไรเราอีกไม่ได้แล้ว”

อคินบอกว่ามันมายิงกิตติถึงหน้าบ้าน ริศาก็ไม่ปลอดภัยแล้ว ริศาสีหน้าเข้มแข็งขึ้นทันทีบอกอคินว่า

“ริศาว่า...เราสรุปได้แล้วล่ะค่ะว่าเครื่องที่ตกไม่ใช่ อุบัติเหตุ มันมีขบวนการอะไรก็ไม่รู้อยู่เบื้องหลัง  ไม่ใช่ความบกพร่องของกัปตัน ไม่ใช่ปัญหาเครื่องยนต์หรืออะไรขัดข้อง และไม่ใช่เหตุสุดวิสัยด้วย”

“ใช่...และถ้าย่าพี่ไม่เกิดอุบัติเหตุจนต้องเข้าโรงพยาบาลวันนั้น คนที่จะต้องไปเผชิญกับเรื่องราวบนเครื่องบินลำนั้น...ก็ต้องเป็นพี่เอง”

เมื่อพาริศากลับบ้าน พอลงจากรถริศาก็ขอบคุณและบาย...แต่อคินยังข้องใจถามว่าสิ่งที่เขาเห็นเป็น ผ.ผึ้งใช่ไหม ทันใดนั้นผีอัศนีก็ปรากฏเป็นร่างโปร่งแสงข้างหลังริศาบอกว่าผี...ใช่ฉันเองแล้วทำผีหลอก

อคินตกใจปลอบใจตัวเองว่าผีไม่มีในโลกแต่โดดกอดริศาเต็มมือ ผีอัศนีด่าว่าไปกอดผู้หญิงทำไม แต่อคินกลัวจนเป็นลมไปแล้ว

เมื่อพาอคินเข้าไปในห้องรับแขกแล้ว ริศาติงผีอัศนีว่าเล่นแรงไปไหม เล่นจนเขาเป็นลมไปแล้ว

พออคินรู้สึกตัวขึ้นมา ถามริศาว่านี่เป็นความจริงใช่ไหม ผีอัศนีพูดอย่างสมเพชว่า นึกว่าแน่ที่แท้ก็ขี้ขลาดเสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายจริงๆ แบบนี้ต้องหลอกให้สนุก

“พอแล้วค่ะคุณปู่”

อคินได้ยินริศาเรียกปู่ก็พึมพำ...ปู่เหรอ?

“ใช่ ถ้าจะนับว่าปู่เขาเป็นเพื่อนกะข้า เราสนิทกันมาก ไปเที่ยวด้วยกันทุกคืน เขาไม่ปอดแหกอย่างเอ็ง”

อคินเตือนริศาว่าอย่าเข้าใกล้ผี อันตราย ผีอัศนีบอกว่าริศาไม่อยากให้ตนไปไหนเพราะเขารับปากแล้วว่าจะช่วยตน ตีขลุมว่า

“ไหนๆเอ็งเห็นข้าแล้ว มาช่วยริศาเขาอีกแรงก็อาจจะทำให้ข้าได้เจอเมียข้าเร็วขึ้น” พูดจบผีอัศนีก็วาดมือ ไปที่หน้าจอโทรทัศน์

จอโทรทัศน์ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพทหารจีไอเฮฮากันอยู่รอบสังเวียนที่สันติกำลังชกมวยกับอัศนี อคินเอะใจจำได้ ริศาบอกว่า

“ใช่ค่ะ นั่นน่ะเป็นคน เป็นคุณอัศนีในอดีต ก็เรากำลังดูชีวิตอัศนีในอดีตไงคุณอคิน”

“ไปด้วยกันเดี๋ยวนี้เลย” ผีอัศนีโอบอคิน พาย้อนไปดูอดีตของตน

เป็นการชกมวยระหว่างสันติกับอัศนี สันติขึ้นชกเพื่อหาเงินช่วยอัศนีแต่งงาน จู่ๆอนงค์ก็เข้ามาบอกสันติว่าเดวิดให้มาตาม เตรียมประชุมภารกิจของวันพรุ่งนี้

อคินดูอดีตของผีอัศนีทั้งเรื่องชกมวย ทั้งเรื่องสงครามเวียดนาม ทั้งเรื่องเครื่องบินที่อัศนีขับ บ่นว่า

“ทั้งหมดนี่ยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนายถึงมาตามหลอกหลอนน้องสาริศา”

“คนรุ่นใหม่นี่มันใจร้อนจริงๆ...อะ งั้นข้ามไปวันที่ฉันตายเลยก็ได้” ผีอัศนีวาดมือไปในอากาศเหมือนดึงอคินกับริศาออกไปอีกโลกหนึ่ง...แต่ทันใดนั้นเสียงป้านิ่มก็ร้องเรียก

“ยัยริศา...ยัยริศา...คุณอคิน”

ooooooo

ป้านิ่มร้องเรียกริศากับอคินแล้วเข้ามาปลุกถามว่าทำไมมานอนอยู่บนโซฟาอย่างนี้ ตำหนิริศา ว่ามันไม่งามยังไงก็ควรไว้ตัวด้วย ตำหนิอคินว่าควรเกรงใจสารัตถ์กับตนบ้าง ตนไม่ได้กีดกันอะไรแต่อย่าชิงสุกก่อนห่าม

ริศากับอคินถูกปลุกจากดินแดนมหัศจรรย์ เห็นว่านอนอิงหลับกันอยู่ อคินรีบขอโทษ ริศาได้แต่รับคำ

พอป้านิ่มไปทั้งสองมองกันงงๆสงสัยว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หลับได้ยังไง อคินโทษว่าเพราะผีนักบินโบราณนั่นเชียว ต่อว่าผีอัศนีว่าให้ริศาไปดูความรักของตัวเองในอดีต หวังจะให้ริศาซาบซึ้งไปด้วยหรือไง

“ใช่ เขาจะได้ตามหาอนงค์ถูก แล้วก็เอาของบางอย่างไปให้อนงค์ด้วย” อคินบ่นว่าห้าหกสิบปีแล้วป่านนี้ยายอนงค์คนสวยมิแก่เป็นย่าเป็นยาย หรืออาจตายไปแล้วหรือ

“เฮ้ย...ไอ้ปากเสีย”

ผีอัศนีโมโหผลักอกอคินแต่มือทะลุร่างเขาไป ริศา ขอร้องอย่าตีกันเลย บอกอคินว่าตนสัญญากับอัศนีแล้วว่าจะเอาสร้อยไปให้ภรรยาเขาให้ได้ ผีอัศนีปรามาสว่า

“ผีนักบินยุคซิกซ์ตี้อย่างข้านี่แหละที่จะช่วยหนูริศาเขาตามหาความจริงเรื่องเครื่องบินพ่อเขาตกให้ได้ก่อนเอ็งแน่นอน”

เมื่ออคินกลับถึงบ้านคุณย่า ถูกคุณย่าประชดว่ายังสนใจฉันอยู่อีกหรือ  ถ้าอยู่บ้านนี้แล้วไม่มีความสุข อยากไปอยู่ที่อื่นก็ไปเลย อยุทธติงแม่ว่าก็หลานมันมาแล้วนี่ครับ คุณย่าพูดอย่างเจ็บปวดว่า

“ที่ฉันห่วงใยแก ไม่อยากให้แกเป็นนักบิน เพราะฉันไม่อยากให้แกมีจุดจบเหมือนคนตระบัดสัตย์ไม่รักษาคำพูดคนนั้น” อคินถามว่าปู่หรือ “ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้พูดถึงคนคนนั้นต่อหน้าฉัน!! อยุทธ พาแม่ไปจากตรงนี้ แม่จะไปนอน แม่ง่วง พาแม่ขึ้นบ้านเดี๋ยวนี้”

อคินได้แต่ถอนใจเซ็ง

รุ่งขึ้นริศาพาอคินไปที่บลูไคท์ ศรันย์เข้ามาโอ๋ แล้ว ก็ผงะเมื่อริศาบอกว่าตนมาแต่งตั้งให้อคินเป็นคนดูแลผลประโยชน์ทั้งหมดแทนตน เมื่อเข้าที่ประชุมศรันย์ค้านหัวชนฝาว่าทำอย่างนั้นไม่ได้

ศรุตปรามศรันย์ให้พอแล้ว ขณะเดียวกันอคินก็พูดในที่ประชุมว่า

“เวลานี้หุ้นของสาริศา ซึ่งเคยเป็นของพี่สารัตถ์มีจำนวนเปอร์เซ็นต์มากพอที่ทำให้ผมซึ่งทำหน้าที่ผู้จัดการแทนต้องเข้ามาร่วมรับทราบการทำงานของทุกท่านด้วย...ต้องขอฝากตัวด้วยนะครับ”

ศรันย์แค้นแทบคลั่งที่อคินเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารบริษัทบลูไคท์ แล้วริศากับอคินก็เจอปัญหาเมื่อเข้าไปเก็บข้าวของในห้องทำงานสารัตถ์ เปิดคอมพ์ดู แต่ปรากฏว่าจู่ๆไฟก็ดับและข้อมูลในเครื่องก็ถูกลบทั้งหมด! ริศาบอกอคินว่าที่ตนหาในแฟ้มก็ไม่มีอะไร บ่นอย่างสิ้นหวังว่าเอาเข้าจริงเราก็ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน  กิตติก็ถูกยิงพิการ  แถมยังมาไล่ยิงพวกเราอีก ถ้าเราไม่มีผีช่วยเราก็คงต้องตายแล้วเหมือนกัน

อคินมองริศาอย่างสงสาร พลันก็นึกได้ร้องดีใจ

“เออ ใช่แล้ว ใช่แล้ว โอ๊ย  โง่จริงๆ...บ้าน...เราต้องกลับบ้านกันเดี๋ยวนี้”

 ooooooo

เมื่อกลับมาถึงบ้านริศา อคินตรงไปเปิดคอมพ์ที่ห้องทำงานสารัตถ์แต่เปิดไม่ได้เพราะไม่รู้รหัสผ่าน ผีอัศนีโผล่หน้าออกจากจอคอมพ์ทำเอาอคินผงะ เลยถามรหัสผ่านของคอมพ์ ผีอัศนีบอกว่าไม่รู้

อคินตัดสินใจรื้อคอมพ์เพื่อถอดฮาร์ดแวร์เอาไปเสียบกับเครื่องของริศาคาดว่าน่าจะได้ผลกว่า ผีอัศนีเท้าแขนบนโต๊ะที่มีโมเดลเครื่องบินที่สารัตถ์ใส่แฟลชไดรฟ์ไว้รู้สึกมีอะไรแปลกๆ พยายามจะหยิบเครื่องบินขึ้นมาดูแต่หยิบไม่ได้ จึงเรียกริศา บอกว่าเครื่องบินโมเดลอันนี้มันมีอะไรแปลกบางอย่าง

ทันใดนั้นอคินก็ได้รับโทรศัพท์จากเบนเร่งให้รีบมาโรงพยาบาลเพราะกิตติพยานเอกของเขาอาการวิกฤติ ริศาบอกผีอัศนีว่ามีอะไรค่อยคุยได้ไหม  ตนมีเรื่องด่วนต้องไปเดี๋ยวนี้ แล้วอคินกับริศาก็รีบออกไปเลย

ที่หน้าห้องไอซียู เบนกำลังดูหมอและพยาบาลช่วยชีวิตกิตติกันอย่างตึงเครียด ขณะนั้นเทพกับจอร์จ ลูกน้องเดอะฟ็อกซ์ก็ถือกระเช้าอ้างว่าเป็นเพื่อนจะมาเยี่ยมกิตติ เบนผิดสังเกตเพราะตนเป็นคนบอกพยาบาลไว้เองว่าไม่ต้องแจ้งใครทั้งสิ้น พอคาดคั้นถาม เทพกับจอร์จจวนตัวก็เผยตัวต่อสู้กับเบนและอติศักดิ์เพื่อนของเบนที่อยู่ด้วยจนลุยเข้าไปในห้องไอซียูได้เอาปืนจ่อกิตติทันที

ริศาวิ่งมาเห็นเทพเอาปืนจ่อกิตติตกใจร้องกรี๊ด เทพหันมองต่างจำกันได้ว่าเคยเจอกันในงานที่บ้านศรุต ขณะเทพจะหันเล่นงานริศานั่นเอง ผีอัศนีก็จับริศาเหวี่ยงหลบไป อคินวิ่งเข้ามาแท็กเทพล้มลงปืนกระเด็น จอร์จคลานไปหยิบปืนจะยิงอคิน ผีอัศนีพุ่งเข้าบังอคินไว้

เทพแย่งปืนจากจอร์จจะยิงกิตติ ผีอัศนีจ้องไฟในห้องโบกมือไปมา ทันใดไฟในห้องก็วูบวาบไปมา อคินพุ่งเข้าปัดปืนทำให้กระสุนพลาดเป้า จอร์จงงตกใจสุดท้ายหนีเอาตัวรอดไป

จังหวะหนึ่งริศาถูกเทพจับเป็นตัวประกัน อัศนีจึงเข้าสิงริศา สาวร่างบอบบางกลายเป็นมีพลังมหาศาลจนเทพตะลึง สุดท้ายสู้แรงริศาไม่ได้โดดตึกหนีไป

เบนงงมากกับเหตุการณ์ประหลาดหลายอย่าง โดยเฉพาะริศาที่มีกำลังมหาศาลต่อสู้กับเทพจนเทพต้องวิ่งหนีไป ถามว่ามันคืออะไร ริศากับอคินรู้แก่ใจว่าเป็นฝีมือของผีอัศนีแต่ก็ช่วยกันปกปิดกลบเกลื่อน

จากเหตุการณ์นี้อคินกับริศาสรุปได้ว่าคนพวกนี้เป็นคนของบลูไคท์และพยายามฆ่ากิตติเพราะกิตติรู้เรื่องเครื่องบินตก

กิตติอาการวิกฤติวิญญาณออกจากร่าง ผีอัศนีเห็นบอกว่าเราเป็นพวกเดียวกัน  ตนสื่อกับริศาได้  มีอะไรบอกมา ตนจะบอกริศาเอง กิตติอ้าปากพะงาบๆ พยายามบอกแต่คุยกันไม่รู้เรื่องพอดีอคินกับริศามาวิญญาณกิตติก็หายไป

ผีอัศนีบอกว่าถึงตนจะเป็นผีแต่ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง ผีอย่างตนเป็นผีสัมภเวสีที่ต้องการความช่วยเหลือ อคินสัญญาว่าจะช่วยตามหาเมียเขาให้อีกแรงแต่เขาก็ต้องรวบรวมพลังใช้อิทธิฤทธิ์ช่วยพวกตนเท่าที่จะทำได้บ้าง ผีอัศนีฟังแล้วโอเคทันที

ooooooo

เมื่อเทพกับจอร์จกลับมาที่บ้านศรุต ถูกศรุตตำหนิว่างานนี้นอกจากพลาดฆ่ากิตติไม่ได้แล้วยังถูกยึดปืนและถูกริศาเห็นหน้าเต็มๆอีกด้วย

ศรุตบอกว่าพวกนั้นคงระวังตัวมากขึ้นเราคงเข้าถึงตัวกิตติไม่ได้อีกแล้ว และถ้ามันฟื้นขึ้นมาบอกตำรวจ  ตำรวจก็ต้องสืบมาถึงตนแน่ โทษว่าพวกเทพ ทำให้เดอะฟ็อกซ์กับพวกตนเดือดร้อนกันหมด สั่งให้ออกนอกประเทศไปให้เร็วที่สุด

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 3 วันที่ 2 ส.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทประพันธ์โดย นภสร
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทโทรทัศน์โดย ทิพย์สุดา
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ