อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 7 วันที่ 22 ส.ค.61
“รู้เช่นนั้นก็ดีแล้ว ฉันขอล่ะเลิกขวางทางสักที ทั้งร่างกายและวิญญาณของฉันมันรอคอยแต่พี่ณุ เป็นของพี่ณุคนเดียวทั้งชั่วชีวิตนี้” รินพูดจบผละจากไป ปาลช้ำใจมากปล่อยมาลัยดอกรักทิ้งลงพื้น คิดว่านั่นเป็นคำพูดที่กลั่นจากใจรินโดยหารู้ไม่ว่าทั้งหมดเป็นคำพูดของผีหยด กลับเข้าห้องปิดประตู น้ำตาลูกผู้ชายพานจะไหล...พายเดินมาถึงหน้าห้องปาลเห็นมาลัยดอกรักตกอยู่ก็ชะงัก ก้มลงเก็บขึ้นมาดู นึกถึงตอนที่ตัวเองถามรินว่าจะเอาดอกรักไปทำอะไร เธอบอกจะเอาไปมอบให้คนที่เธอรักชั่วชีวิต พายถึงกับหน้าหมอง
“คนที่พี่รินรัก คือปาล”...
ด้านเดือนพยายามเอาหูแนบประตูหวังจะได้ยินที่วิษณุคุยกับกิฟท์ รินเดินตาขวางเข้ามามองเหยียดๆ เรียกเดือนขึ้นไอ้ขึ้นอีมาแอบฟังอะไรอยู่ตรงนี้ พอรู้ว่าวิษณุกำลังคุยกับกิฟท์อยู่ในห้อง รินที่ถูกผีสิงสติแตก
“อีกำไล เปิดบัดเดี๋ยวนี้” ไม่ใช่แค่ตะโกนยังทุบประตูปังๆอีกต่างหาก
ooooooo
กิฟท์กำลังคุยเรื่องบทอยู่กับวิษณุได้ยินเสียงทุบประตูปังๆเดินไปเปิดรับ รินชี้หน้าพร้อมกับพุ่งเข้าหาอย่างเอาเรื่อง กิฟท์กลัวรีบไปหลบหลังวิษณุ รินไม่สนใจจะลุยเข้าไปเล่นงานกิฟท์ให้ได้ ครั้นเห็นสมุดบันทึกในมือเขาคว้ามาฟาด วิษณุเอาตัวเองบังกิฟท์ไว้ก็เลยโดนเข้าไปเต็มหน้า ลงไปนอนร้องโอดโอย
รินตกใจหยุดอาละวาดได้ วิษณุเกรงจะมีเรื่องกันอีกรีบพาเธอไปที่ห้องพักตัวเอง เธอเอาน้ำแข็งมาประคบหน้าให้เขาถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาไม่เป็นไรมากไม่ต้องกังวล
“รินไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะคะ”
“อย่าคิดมากน่ะริน ไปนอนเถอะไป”
รินขออยู่ที่นี่ไม่กลับห้องตัวเองแล้วเข้าไปนั่งเบียดวิษณุจับมือจับไม้อีกต่างหาก เขามองเข้าไปในแววตาเห็นผีหยดอยู่ในนั้นก็ตกใจ ถอยหนี
“นี่ไม่ใช่ริน ไม่ใช่รินใช่ไหม”
“ถ้าไม่ใช่รินแล้วพี่ณุอยากให้เป็นใครรึ” รินเงยหน้าขึ้นสบตาเขาพลันมีใบหน้าผีหยดซ้อนทับอยู่ เขาผงะเป็นรอบที่สอง รินเป็นฝ่ายรุกไล่พยายามปลุกปล้ำ เขาต้องรวบมือสองข้างเธอไว้แล้วเดินมาที่ประตู เป็นจังหวะที่บอลเอาพร็อพงานมาให้เขาดูพอดีเปิดประตูผลัวะเข้าไปเห็นรินพยายามนัวเนียเจ้าของห้อง
“บอลพี่ฝากพารินกลับห้องหน่อยนะบอล”
“ได้พี่ เอ่อพี่จอมฝากมาให้เลือกทีพี่”
วิษณุขอผัดเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกัน รินทำท่าอ้อนสุดชีวิตจะขออยู่ด้วย วิษณุเหนื่อยมาทั้งวันขอพักก่อน ถ้ารินคือรินจริงๆควรจะให้เขาได้พัก เจอไม้นี้เข้าไปเธอจำต้องล่าถอยปล่อยให้เขาปิดประตูห้องล็อก วิษณุเดินไปหยิบบันทึกที่ปาลให้มาอ่าน คุณกำไล หยดและหยาดต่างเสียชีวิตในคืนเดียวกัน คืนเดือนดับ...
ครู่ต่อมา บอลเปิดประตูห้องพักเข้ามาเห็นปาลนั่งกดรีโมตเล่นสีหน้าบอกบุญไม่รับ ชูมาลัยดอกรักให้ดูถามว่านี่อะไรของใครตกอยู่หน้าห้อง เขาบอกว่าของริน บอลถึงกับร้องอ้าวมาทำอะไรแถวนี้ เมื่อครู่ตนเห็นไปโผล่อยู่ห้องพี่ณุ ปาลชะงักถามซ้ำว่าเจอเธอที่นั่นหรือ
“ครับพี่ ทะเลาะอะไรกันไม่รู้สองคนนั่น ผมว่าบอสผมทั้งคู่เนี่ยจะเครียดมากไปแล้ว ทำละครมันควรบันเทิงไม่ใช่เหรอวะพี่ หน้างี้เครียดกว่าตอนทำสารคดีอีก” พูดจบบอลลุกไปเข้าห้องน้ำ ปาลมองดอกรักที่บอลวางทิ้งไว้ ก่อนจะเบือนหน้าหนี
ooooooo
วิษณุหนีไปกองถ่ายแต่เช้า ทิ้งรินให้นั่งรถตู้คันเดียวกับปาลซึ่งถือโอกาสนี้เอามาลัยดอกรักคืนให้เธอที่ทำตกไว้เมื่อคืน รินหยิบมาถือไว้
“วันหลังอย่าแตะต้องของรักของฉันอีก”
ปาลไม่ตอบโต้ได้แต่นั่งเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรกันแม้แต่คำเดียว...
ด้านวิษณุรีบไปที่ต้นไม้หน้าตึกวนาเทพ ร้องเรียกผีหยาดให้ออกมาหา เขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับรินหรือเปล่า ผีหยาดที่นอนฟุบอยู่ในห้องใต้ดินได้ยินเสียงเขาร้องเรียกหายตัววับไป...
กิฟท์กำลังเม้าท์เรื่องที่รินตามไปอาละวาดเอาสมุดบันทึกฟาดหน้าพี่ณุตอนกำลังบรีฟเคลียร์อินเนอร์คุณกำไลกับตนเมื่อคืน ถ้าไม่เชื่อถามเดือนก็ได้ ลูกหมีถามว่าจริงหรือเปล่า เดือนพยักหน้าพี่ณุโดนเข้าไปเต็มๆเลย
“ไม่ใช่ค่ะ พี่หมายถึงว่าสองคนนี้เขาคบกันจริงๆ ใช่ไหม”
แอมแปร์สงสารพี่ณุที่เจอเมียหึงโหด เดือนของขึ้นทันทีเมียที่ไหนกันสั่งให้หยุดเม้าท์เรื่องนี้ได้แล้ว กิฟท์กระเซ้าเดือนหึงหรือ ทุกคนกำลังหัวเราะกันสนุกสนานแต่พอเห็นรินเดินเข้ามาเท่านั้นเงียบกริบเป็นเป่าสาก
“พี่ณุอยู่ไหนรึ”
“มันจะอะไรกันนักกันหนา เมื่อคืนยังสร้างเรื่องไม่พอรึไง” เดือนเหลืออด จังหวะนั้นหน่อยวิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงานรินว่าทีมเต็นท์หลงทาง ไปอ้อมไกลเลย น่าจะเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึง
“เขาบอกว่าพี่ปิดเครื่อง จะจัดที่กินข้าวตรงไหนไปก่อนดีพี่”
รินไม่สนใจใครหรืออะไรทั้งนั้น อยากรู้แค่ว่าพี่ณุอยู่ไหน ทุกคนมึนตึ้บนี่ไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยหรือ เมื่อไม่ได้คำตอบ รินลุกออกไปหาเขาเอง พลันมีเสียงผีหยาดร้องเรียกพี่สาวดังขึ้น รินชะงักหันมอง
ตามเสียงเห็นผีหยาดยืนอยู่ ทุกคนมองตามสายตารินแต่ไม่เห็นใครมองหน้ากันเลิ่กลั่ก...
ผีหยดในร่างรินลากแขนผีหยาดมายังมุมลับตาคน ผีหยาดขอร้องพี่สาวให้เลิกสิงร่างริน ปล่อยเธอไป ผีหยดไม่ยอมปล่อย จะอาศัยร่างนี้เพื่อครอบครองคุณพระในชาตินี้ให้จงได้
“แม้นพี่ครอบครองคุณพระได้ แต่ก็มิใช่ตัวพี่หนา หาได้สมแก่สัตย์สัญญาที่คุณพระได้กล่าวไว้ไม่ วิญญาณของพี่จักยังติดอยู่ในเรือนนี้อยู่ดี”
“เอ็งไม่เห็นรึว่าข้าได้ออกจากเรือนนี้ด้วยร่างของมัน อ้อ เอ็งคงจะอิจฉาที่เห็นข้าได้เป็นอิสระ ถึงต้องมาหาเรื่อง ชวนให้ข้าออกจากร่างมัน”
“พี่หยด วิญญาณของพี่ยังไม่ได้เป็นอิสระแต่อย่างใด หากแค่ย้ายจากในเรือนนี้ไปอยู่ในร่างแม่ริน สิ่งที่พี่ทำมันมิได้ช่วยปลดปล่อย หากยิ่งผูกรั้ง”
ผีหยดตบหน้าน้องสาวฉาดใหญ่ “หยุดปากของเอ็งได้แล้ว เอ็งนี่มันสู่รู้เรื่องของข้านัก ข้าจักขอมีความสุขในร่างนี้จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
ooooooo
ปาลเดินเลี้ยวหัวมุมตึกมาเจอวิษณุที่เดินตามหาผีหยาด เขาไม่อยากเจอหน้าอีกฝ่ายเพราะเรื่องรินไปที่ห้องเมื่อคืน ทำท่าจะเดินหนี วิษณุร้องเรียกไว้ ขอคุยเรื่องรินหน่อย เขาว่าเธอเปลี่ยนไปไหม
“ไม่รู้สิครับ ผมอาจไม่ได้รู้จักเขาดีพอที่จะรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง เท่าที่พี่ณุรู้จัก แล้วรินเขาทำอะไรเหรอครับ พี่ณุถึงดูกังวลขนาดนี้”
“เมื่อคืนรินมาที่ห้องพี่ แล้วเขาทำตัวแปลกๆจนพี่รู้สึกว่านั่นไม่ใช่ริน”
“เขาก็มาตามหาพี่ที่ห้องผมเหมือนกัน โกรธผมใหญ่ ผมทำดอกรักในมือเขาพัง เขาบอกว่าจะเอาไปให้พี่”
“ดอกรักเหรอ ปาล ถ้ารินเขาทำอะไรให้ปาลรู้สึกแย่ๆ พี่อยากบอกปาลว่าคนคนนั้นอาจไม่ใช่ริน คนที่อยู่ในร่างรินตอนนี้คือหยด” จากนั้นเรื่องราวที่หยดเคยปักผ้าเช็ดหน้าลายดอกรักให้คุณพระวนาเทพก็พรั่งพรูออกจากปากวิษณุ “แล้วปาลจำเรื่องในบันทึกได้ใช่ไหมที่กำไล หยดกับหยาดตายคืนเดียวกันในคืนเดือนดับ”
“จริงสิ รินแปลกไปหลังจากเกิดจันทรุปราคา นี่แปลว่าผีหยดสิงรินจริงๆ แต่ผีหยดก็เคยสิงรินมาแล้ว แต่ก็ได้แค่ไม่นาน ทำไมครั้งนี้...”
“เพราะอำนาจของคืนเดือนดับไงล่ะ แม่ของเดือนเคยเล่าให้พี่ฟังว่าในคืนเดือนดับอำนาจมืดจะมีพลัง เพราะเสริมด้วยพลังของพระราหู ผีจะมีอำนาจมากกว่าปกติและเคยมีผีเข้าสิงคนแล้วยึดร่างนั้นอยู่นานจนตาย”
ปาลอยากรู้ แล้วเราจะเอารินกลับมาได้อย่างไร วิษณุเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ขอฝากเขาช่วยเก็บเรื่องทั้งหมดนี้ไว้เป็นความลับอย่าให้ทีมงานคนอื่นระแคะระคายเด็ดขาด ตนกลัวจะอยู่กันไม่ไหว เดือนเดินเข้ามาพอดีแปลกใจทั้งคู่มาทำอะไรกันตรงนี้ ปาลโกหกว่ามาขอให้พี่ณุช่วยอธิบายบทให้นิดหน่อย
“เซตพร้อมแล้วนะคะพี่ณุ ทุกคนรอพี่คนเดียว”...
ผีหยาดยังคงขอร้องผีหยดให้ปล่อยรินไป จะยึดร่างเธอตลอดไปไม่ได้ ผีหยดเถียงทำไมจะไม่ได้ ไม่ต้องเอาเรื่องบาปบุญคุณโทษมาพูดให้รกหู หากผีหยาดอยากเสวยสุขที่สวรรค์ชั้นไหนก็ไม่ต้องมาลากตนไปด้วย
“ความสุขที่ข้ารอคอยมาถึงแล้ว ข้าจักไม่ยอมเสียมันไปอีก”
“พี่หยดจ๋า ไม่มีสิ่งใดอยู่ตลอดไปหรอก แลหมดกำลังพระราหูวันใดวันหนึ่ง วิญญาณของพี่ก็จักต้องออกจากร่างแม่ริน”
“เอ็งไม่ต้องกลัวดอก ข้าจักไม่ยอมออกจากร่างนี้และจักทำทุกทางเพื่อยึดร่างนี้”
ooooooo
ปาลเดินผ่านมาแถวนั้นพอดี ได้ยินเสียงสนทนาแต่ไม่เห็นใคร ทั้งผีหยดและผีหยาดก็ไม่เห็นเขาเช่นกัน ผีหยดมองไปยังกระจก เห็นเงารินสะท้อนอยู่ในนั้น
“แม้นร่างของมันจักต้องตายไปพร้อมข้าก็ตาม ไม่มีข้าก็จักไม่มีมัน”
รินที่สะท้อนอยู่ในกระจกแววตาเต็มไปด้วยความกลัว พยายามมองหาปาลให้มาช่วย เขาเดินผ่านพอดี ได้ยินเสียงรินร้องขอความช่วยเหลือ เดินเข้าไปหารินที่ผีหยดสิงร่างอยู่
“ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่ริน คืนรินมา คืนรินมาให้ผมเถอะผมขอร้อง”
รินกลายร่างเป็นผีหยดจ้องตาปาลเขม็ง นี่เขารู้หรือว่าตนสิงร่างนี้อยู่
“ใช่ แม่หยด”
“เอ็งนี่ขวางข้าดีนัก แล้วถ้าข้าไม่คืนเอ็งจะทำอะไร”
ปาลยืนยันจะทำทุกอย่าง ผีหยดหัวร่อแล้วคว้าของมีคมแถวนั้นขึ้นมากำไว้ในมือ “ร่างของอีนี่เป็นของกูแล้ว ถ้ามึงขวาง กูก็จักทำทุกทางให้ร่างนี้สิ้นสลายไปพร้อมกู” ผีหยดเอาของมีคมชิ้นนั้นขู่จะกรีดข้อมือริน ปาลคว้าคมของมันไว้ ผีหยดกับปาลยื้อแย่งของมีคมกันไปมา ผีหยาดสงสารเขาอยากช่วยแต่ทำอะไรไม่ได้
“อย่าทำอะไรริน อย่าทำอะไรรินผมขอ”
ผีหยดขว้างของมีคมทิ้ง “ถ้าเอ็งรักอีนี่ เอ็งก็จักต้องรักข้าด้วยสิ และหยุดขวางข้าได้แล้ว เพราะข้ากับมันจักเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีทางแยกสลายจากนี้ไป”
ผีหยดในร่างรินว่าแล้วเดินจากไป ปาลมองเลือดที่มือตัวเอง ก่อนจะเอามือทุบพื้นอย่างอับจนหนทาง ผีหยาดเข้ามาใกล้ๆ
“แม่รินจะต้องปลอดภัย ต้องมีทางอย่าเพิ่งถอดใจนะพ่อปาล”
ปาลไม่ได้รับรู้การมีอยู่ของผีหยาด ได้แต่ถอนใจอย่างสิ้นหวัง จากนั้นไปล้างแผลโดยปล่อยให้น้ำชะเลือดออก พายออกมาจากห้องน้ำเห็นเลือดตกใจ
รีบเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมเลือดเยอะอย่างนี้
“ไม่มีอะไรพี่พลาดโดนแก้วบาดน่ะ”
“อีกแล้ว ทำไมพี่ปาลเจอแต่เรื่องเต็มไปหมด ครั้งก่อนก็โดนตัวต่อต่อย แล้วครั้งนี้ไปทำไรมาคะถึงโดนแก้วบาดได้”
“พี่ไม่ทันระวังเองแหละ”
พายขอดูแผลเขาหน่อย แล้วจับมือเขายื่นไปตรงที่น้ำไหล ไม่สบายใจนักกับการกระทำของเธอแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร แอมแปร์กับลูกหมีมาเข้าห้องน้ำพอดี
เห็นสองคนใกล้ชิดกันหยิบมือถือขึ้นมาเก็บช็อตเด็ดเอาไว้ ปาลค่อยเลื่อนมือออกจากมือเธออย่างสุภาพ
“เลือดหยุดแล้วล่ะ ขอบใจพายนะที่เป็นห่วง”
“รู้ใช่ไหมว่าพายห่วง”
ปาลอึดอัดใจ แอมแปร์กับลูกหมีเดินเข้ามาเหมือนเพิ่งจะเห็นทั้งคู่ร้องทักมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พายมาช่วยดูแลปาลถูกแก้วบาด
“เดี๋ยวหาปลาสเตอร์ปิดก็คงโอเคแล้วครับ งั้นผมไปก่อนนะ” ปาลยิ้มให้ทุกคนแล้วเดินลิ่วไปเลย...
วิษณุแทบไม่มีสมาธิกำกับการแสดง แต่ต้องพยายามรวบรวมสติไม่อยากให้มีปัญหากระทบไปถึงคนอื่น ทันทีที่สั่งคัต เดือนเข้ามาบ่นว่าวันนี้เหนื่อยมาก ต้องโทร.ตามเต็นท์ ต้องเคลียร์เรื่องอาหารเย็น ไม่รู้รินเป็นอะไรไม่ทำอะไรสักอย่าง วิษณุฝากเธอด้วย ถ้ามีอะไรต้องตัดสินใจจัดการแทนได้เลย
“พี่คงใช้งานรินเขาหนักไปหน่อยเขาคงจะเครียด”
“เดือนเข้าใจค่ะ งานสเกลนี้มันใหญ่ เขายังไม่คุ้นพี่ณุไม่ต้องกังวลนะคะ มีอะไรเดือนช่วยเต็มที่ค่ะ พี่ณุอยากให้เดือนช่วยอะไรบอกได้เลยนะคะ”
“เออเดือน พี่เพิ่งนึกขึ้นได้ พระที่ตอนนั้นรินสวมให้พาย ฝากเดือนไปขอคืนให้พี่ทีสิ”
“อ๋อ พายคืนมาตั้งแต่ตอนพักกองโน้นแล้วค่ะ แต่เดือนลืมให้พี่ณุ”
วิษณุขอคืนตอนนี้เลยได้ไหม เดือนอ้างว่าเอาทิ้งไว้ที่บ้าน นี่เขาจะเอาไปทำไมหรือ เขาไม่อยากเล่ารายละเอียดให้ฟังได้แต่บอกว่าอยากมีไว้อุ่นใจ ถ้าคืนนี้มีรถตู้กลับกรุงเทพฯวานเธอฝากมาให้ด้วย
ooooooo
ปาลยังนึกย้อนไปถึงตอนที่ตัวเองกับวิษณุหลอกล่อผีหยดในร่างรินขึ้นรถจะพาไปวัด แต่เธอไหวตัวทันโดดหนีจากรถไปได้ เขาต้องตามไปกล่อมให้กลับมาที่ตึกวนาเทพ โกหกว่าคุณพระให้เธอไปรอที่ห้องใต้ดินของที่นั่น เธอถึงได้ยอมมาด้วย...
ภายในห้องใต้ดินตึกวนาเทพ ผีหยดในร่างรินเห็นปาลยืนนิ่งไม่พูดไม่จา ไล่ตะเพิดเขาไปให้พ้น เธอจะอยู่กับคุณพระที่นี่เพียงลำพัง เสียงตวาดของเธอทำให้เขาตื่นจากภวังค์ เปิดประตูให้ผีหยดเข้าไปในห้อง ค้อมหัวให้แล้วปิดประตู ผีหยดเดินไปนั่งที่เตียงรอคอยคนรักอย่างสงบ
“คุณพระเรียกข้ามาทำไมกันนะ หรือคุณพระจักจำอีหยดได้แล้วจึงเพรียกหาเพื่อรับใช้...แม้มิใช่เรือนกายเดิม แต่บ่าวจักปรนเปรอจนคุณพระจดจำได้เช่นเดิม”
ที่หน้าห้องใต้ดิน ปาลยืนถือขันลงหินแบบโบราณรอวิษณุอย่างกระวนกระวายใจ สักพักเขาเดินเข้ามาพร้อมขวดน้ำมนต์ คว้าขันในมือปาลมาเทน้ำมนต์ส่วนหนึ่งลงไป
“หลวงพ่อให้น้ำมนต์พี่มาอาจจะช่วยอะไรได้ ปาลสแตนด์บายอยู่หน้าห้องนะมีอะไรพี่จะเรียก” วิษณุยื่นขวดน้ำมนต์ที่เหลือให้ปาลถือไว้ แล้วเปิดประตูเข้าไป...
วิษณุหลอกล่อให้ผีหยดดื่มน้ำมนต์ในขันไม่สำเร็จ จึงใช้กำลังบังคับแต่เธอแรงเยอะ ดิ้นหนีไปที่หีบหยิบมีดพร้าเล่มที่แม่เยื้อนแทงเธอมาถือไว้ในมือ เขาถึงกับหน้าซีด คาดเดาไม่ออกว่าเธอจะมาไม้ไหน...
อีกมุมหนึ่งหน้าตึก ยุพดีจอดรถเสร็จถือตะกร้าใส่แกงเลียงยืนมองไปรอบๆ รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก หยิบมือถือขึ้นมาโทร.หาเดือนแต่ไม่มีใครรับสาย ตัดสินใจเดินหากองถ่ายเอง กระทั่งมาถึงต้นไม้ใหญ่เข้าไปลูบคลำโดยไม่รู้ตัว เงยหน้ามองกิ่งไม้ที่อยู่ข้างบน แสงแดดแยงตา จนต้องหลับตาลง
ยุพดีเหมือนถูกดูดเข้าไปในอดีต มาโผล่ในคืนเดือนดับเห็นหยาดถูกพวกทาสจับแขวนคอบนกิ่งไม้
ตัวเองกลายเป็นแม่เยื้อนพยายามปีนต้นไม้ขึ้นไปช่วยลูกแต่ปีนไม่ไหวตกลงมา เสียงพวกทาสก่นด่าหยาดดังไปทั่ว แม่เยื้อนพยายามเถียงทุกคนทั้งน้ำตาว่าลูกของตนไม่ได้ทำแต่ไม่มีใครฟัง
เสียงเดือนโทร.เข้ามือถือทำให้ยุพดีตื่นจากภวังค์แปลกใจที่ตัวเองน้ำตาไหล ควานหามือถือขึ้นมารับสาย เดือนเห็นแม่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้วางสายแล้ววิ่งมาหา ถามว่ามาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อครู่นี้เธอมัวแต่ถ่ายรูปอยู่ก็เลยไม่ได้รับสาย แล้วแม่มายืนตากแดดทำไม ยุพดีรู้สึกคุ้นๆแถวนี้ก็เลยเดินดูเพลินไปหน่อย
“เพ้อเจ้อแล้วค่ะ แม่จะมาคุ้นอะไร ที่นี่มันบางบาปนะคะไม่ใช่ตลาดแถวบ้าน รีบเข้าไปในกองดีกว่าค่ะ” เดือนเดินนำยุพดีไปยังทิศทางที่กองถ่ายตั้งอยู่ ยุพดีหันมองไปที่ต้นไม้อีกครั้งมีแต่ความว่างเปล่า รีบเดินตามลูกไป พอเธอลับสายตา ผีหยาดปรากฏตัวขึ้น มองไปยังยุพดี “แม่...แม่จ๋า นั่นใช่แม่จริงหรือไม่จ๊ะ”
ooooooo
ในห้องใต้ดินวิษณุใจคอไม่ดีที่ผีหยดเอามีดทำท่าจะแทงรินที่ตัวเองสิง แอบกดมือถือหาปาลเป็นสัญญาณให้เข้ามาช่วย แค่อึดใจปาลเปิดประตูพรวดเข้ามา ผีหยดหันขวับไปมองสีหน้าไม่พอใจ
“เอ็งสุมหัวกับคุณพระหลอกข้า เอ็งนี่ควรจะตายไปอีกคน” ไม่พูดเปล่าผีหยดย่างสามขุมเข้าหา
ปาลถอยกรูดสะดุดขาตัวเองขวดน้ำมนต์หล่นจากมือ วิษณุรีบคว้าขวดนั้น ล็อกคอผีหยดจากด้านหลังจนมีดหลุดมือ ปาลเข้าไปช่วยจับอีกแรง ในที่สุดจับน้ำมนต์กรอกปากผีหยดสำเร็จ เธอดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดก่อนจะแน่นิ่งไป ปาลเป็นห่วงรินจะเข้าไปดู ผีหยดที่แกล้งหมดฤทธิ์ผลักเขากระเด็น...
ทีมอาร์ตได้ยุพดีมาช่วยดูการจัดสำรับที่จะต้องเข้าฉากต่อไปแทนวิษณุได้เป็นอย่างดี จนกิฟท์ออกปากนี่ถ้าท่านเปลี่ยนชุดเข้าฉากเล่นแทนเธอได้เลย เหมาะสมเป็นคุณกำไลมากกว่าเธออีก
“คุณกิฟท์พูดยอแม่เกินไปแล้วค่ะ”
เดือนนึกขึ้นได้ถามแม่ว่าพระอยู่ไหน ท่านลืมไว้ในรถเดี๋ยวไปหยิบมาให้แล้วเดินลิ่วออกไป เมื่อมาถึงรถยุพดีเปิดเข้าไปหยิบพระ อยู่ๆมีลมพัดกระโชกเข้ามา บรรยากาศวังเวงชอบกล ครั้นจะกลับไปที่กองถ่ายเกิดจำทางไม่ได้ หันรีหันขวาง ผีหยาดปรากฏตัวขึ้นด้านหลัง
“แม่จ๋า แม่มาเพื่อช่วยพี่หยดใช่หรือไม่” สิ้นเสียงผีหยาด ยุพดีนิ่งงันไปชั่วครู่เหมือนโดนมนตร์สะกด เดินใจลอยมาถึงทางเดินลงไปยังห้องใต้ดิน ทันใดนั้นเธอตื่นจากภวังค์ แปลกใจไม่น้อยตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงเดินต่อไป...
ผีหยดตระหนักแล้วว่าคุณพระในชาตินี้ไม่ได้ต้องการเธอ ในเมื่อเขาเป็นห่วงนังผู้หญิงที่เธอสิงร่างอยู่ เธอจะคืนร่างให้ แล้วเงื้อมีดแทงริน ปาลโดดคว้ามือไว้ทัน สองคนยื้อยุดฉุดกระชากมีดกันไปมา
“หยด...ทำฉันเถอะอย่าทำร้ายคนอื่นเลย ฉันคือคนที่ร้ายกับเธอ ทำฉันสิ ปล่อยริน ฉันขอร้อง”
อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 7 วันที่ 22 ส.ค.61
ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตรละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ