อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 10 วันที่ 31 ส.ค.61
“เอ อยู่กันได้มินาน แม่กำไลก็เริ่มจักโกหกฉันแล้วรึ หรือว่าแม่กำลังจักปล่อยให้ฉันทดสอบดูว่าแม่กำไลโกหกฉันจริงรึเปล่า” คุณพระเขยิบเข้าไปเชยคางคุณกำไลขึ้นมา ส่งตาหวานไปให้กิฟท์ในคราบคุณกำไลหางตากระตุกไม่หยุด ภาพที่แอบเห็นต้นกับผู้ชายอีกคนผุดขึ้นมาในความคิดของกิฟท์ ขยะแขยงขึ้นมาทันใด แต่ด้วยสปิริตแรงกล้าคุณกำไลฝืนแสดงต่อ ทำเป็นแม่งอนให้เขาง้อ“คุณพระจักพิสูจน์ความในใจเมีย มีวิธีใดรึเจ้าคะ”
“ก็มิเห็นยาก เดี๋ยวพี่จักพิสูจน์ให้เจ้าดูดีรึไม่”
คุณพระโน้มตัวคุณกำไลให้ลงนอน แล้วเข้าไปซุกไซ้ กิฟท์ในบทคุณกำไลทนฝืนใจไม่ไหวถอยหนี วิษณุต้องสั่งคัต ก่อนจะพูดผ่านวิทยุสื่อสาร
“กิฟท์ อารมณ์มันแข็งไปหน่อย หน้าหยีจนดูไม่น่ารักเลย ยังไงพี่ขออีกเทกแล้วกันนะ”
“เอ่อ...ค่ะๆ”
“แปลกนะคะเนี่ย ปกติน้องกิฟท์จะอินกับบทถึงเนื้อถึงตัวคุณต้นแท้ๆ” ลูกหมีบ่นอุบ แอมแปร์เห็นด้วย
“นั่นสิ นี่ปาไปเทกที่ 5 แล้ว ยังจูนไม่ติดอีก น่าสงสัยว่าจะไปกินอะไรผิดมา”
กิฟท์หันหลังรีบลุกขึ้นจัดเสื้อผ้า แอบถูตามตัวที่ต้นสัมผัสขนลุกขนพองรับไม่ได้
ooooooo
กิฟท์เดินหัวเสียออกจากฉากเอาหลังมือเช็ดปากตัวเองขยะแขยงสุดๆ บ่นอุบเกิดมายังไม่เคยจูบดูดดื่มกับผู้ชายแท้ๆ จูบแรกดันต้องมาเสียให้เก้งอย่างต้น เห็นพาไลเดินถือถุงขนมเข้ามาวางบนโต๊ะ รีบลากแขนออกไปขอคุยเกี่ยวกับความลับของพี่ต้น พาไลมีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด ชวนไปคุยที่เงียบๆดีกว่า
“พูดแบบนี้แปลว่าใช่ แล้วซิสปล่อยให้กิฟท์อ่อยสู้ตายอยู่ตั้งนาน ที่แท้ก็ชะนีพอๆกัน น่าโมโหจริงๆ”
“ใจเย็นก่อนค่ะ มันอาจไม่ใช่อย่างที่น้องกิฟท์ไปรู้ไปได้ยินมานะคะ อะไรทำให้น้องกิฟท์เข้าใจแบบนั้นคะ”
นางเอกสาวยืนยันไม่ใช่ได้ยินคนอื่นพูดแต่เห็นด้วยตาตัวเองแล้วเปิดคลิปในมือถือให้ดู เป็นคลิปต้นกอดกับผู้ชายแต่เห็นไม่ถนัดว่าเป็นใคร พาไลถึงกับหน้าเครียด...
เลิกกองแล้ว วิษณุยังไม่กลับโรงแรมที่พักจะไปอยู่เฝ้ายุพดีที่โรงพยาบาล ฝากบอลกับรินดูเบรกพรุ่งนี้ให้ด้วย ต้นเข้ามาขอวิษณุไปด้วย อยากไปเยี่ยมท่านเช่นกัน เขาไม่ขัดข้องดีเสียอีกจะได้มีคนพาเดือนกลับ
“พี่ณุรอผมเปลี่ยนชุดแป๊บนึงนะครับ” ต้นวิ่งปรู๊ดไปขึ้นรถตู้กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงแรม พาไลจะเข้าไปคุยด้วยแต่ไม่ทันรถตู้แล่นออกไปเสียก่อน...
ในเวลาต่อมา ขณะต้นกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า พาไลแวะมาหาเล่าเรื่องที่กิฟท์เห็นเขากอดกับผู้ชายที่กองถ่ายเมื่อคืนแถมมีคลิปให้ดูอีกต่างหากโชคไม่ดีไม่เห็นว่ากอดใครอยู่ เขาตกใจพูดไม่ออก พาไลตำหนินี่หิวมากจนต้องหากินเรี่ยราดในกองถ่ายเลยหรือ ต้นฉุน จะพูดจะจาอะไรให้มันดีๆหน่อย
“พี่ก็แค่เป็นห่วง อุตส่าห์กำความลับของต้นไว้ตั้งนาน ต้นก็รู้ถ้ากิฟท์ปล่อยภาพออกไปจะเสียหายแค่ไหน แต่ต้นไม่ต้องกลัวนะถึงยังไงถ้ากิฟท์จะปล่อยรูปกับนักข่าวพี่ก็ยังมีวิธีแก้ไขได้...ต้นก็แค่บอกว่าพี่เป็นแฟนต้น จะประกาศข่าวแต่งงานปลอมๆไปเลยก็ได้เพราะไม่ว่าต้นจะเป็นอย่างไรพี่ก็รักต้นรับต้นได้ทั้งนั้น ต้นรู้ใช่ไหมต้นจะกอดจะแอบรักผู้ชายคนไหนก็ได้ แต่ถ้าจะมีผู้หญิงสักคนที่ต้นรัก คนนั้นจะต้องเป็นพี่” พาไลเสียงเข้ม...
ระหว่างรอพาไลที่อ้างจะไปซื้อของกิน กิฟท์เปิดดูรูปที่ถ่ายกับต้นใน IG ทำท่าจะลบทิ้งแต่เจ๊ต๋อยโทร.เข้ามาหาเสียก่อน นินทาเรื่องเจนน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการได้เป็นคู่จิ้นกับเกื้อแถมรับงานเป็นคู่อีกต่างหาก ฟันค่าตัวกันหลักแสน กิฟท์สงสัยคู่จิ้นไม่ได้รักกันจริงสักหน่อย คนไม่รู้กันหรือ
“แหม คนเขาก็เห็นสองคนนี้ผ่านทีวี ผ่านโซเชียลกันทั้งนั้นใครจะมาสนความจริง เขาก็คิดว่าจิ้นกันจริงทั้งนั้นแหละจริงไหม” คำพูดของเจ๊ต๋อยทำให้กิฟท์ปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันที
ooooooo
ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล วิษณุถึงกับหน้าเครียดเมื่อต้นเล่าให้ฟังว่ากิฟท์เห็นเขากอดกับผู้ชายอยู่ในกองถ่าย เขาเองยังไม่เห็นรูปก็เลยไม่รู้ว่ากิฟท์เห็นหน้าวิษณุหรือเปล่า เดือนเดินออกมาพอดีเห็นรถวิษณุก็โบกมือให้ เขาบอกต้นให้เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน แล้วค่อยคุยกันทีหลัง จากนั้นพากันไปหาเดือน
“ต้นเขาอยากมาเยี่ยม พี่เลยให้มาด้วยจะได้ฝากเดือนกลับพร้อมกัน คืนนี้พี่เฝ้าให้เองเดือนจะได้พักบ้าง”
“ก็ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวเดือนเข้าไปลาแม่ก่อน” เดือนว่าแล้วเดินนำสองหนุ่มเข้าข้างใน...
ขณะที่เกิดเรื่องกับวิษณุไม่เว้นวัน ผีหยาดเล่าให้ผีหยดฟังว่าตนเห็นนิมิตจากความฝันของแม่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเธอกับพี่สาวตายไปแล้ว ปรากฏว่าไม่ใช่สัตย์สัญญาของคุณพระวนาเทพที่พันธนาการพี่ไว้ที่นี่แต่เป็นเพราะคำสาปของแม่เยื้อน ขอเพียงพี่สำนึกผิดพี่ก็จะเป็นอิสระ แม่เยื้อนขอให้พี่ติดอยู่ในเรือนนี้ตราบจนกว่าพี่จะรู้ว่าสิ่งที่พี่ได้ทำลงไปเป็นความผิดมหันต์เพียงใด เมื่อนั้นพี่ก็จะได้ไปเกิด
ผีหยดเสียใจน้ำตาร่วง เห็นมีดพร้าที่แม่แทงตัวเองตายก็ยิ่งแค้น ผีหยาดสงสารพี่สาวจับใจเอื้อมไปแตะ เธอสะบัดมือออก ไล่ผีหยาดไปให้พ้น เธออยากอยู่ตามลำพัง แล้วร้องไห้โฮ ผีหยาดมองผีหยดอีกครั้งก่อนจะหายวับไป ผีหยดหยิบมีดพร้าขึ้นมากำไว้ ก่อนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดใจ...
ผีหยาดไปปรากฏตัวที่ห้องพักฟื้นยุพดี เห็นวิษณุนั่งเฝ้าอยู่เข้าไปกราบ เล่าเหมือนที่เล่าให้พี่สาวฟังว่าที่ผีหยดติดอยู่ที่เรือนไม่ได้ไปผุดไปเกิดไม่ใช่เป็นเพราะสัตย์สาบานที่ท่านให้ไว้แต่เป็นเพราะถูกแม่สาปแช่ง หากวันใดเธอสำนึกผิดและให้อภัยเรื่องที่ผ่านมาได้ เธอก็จะได้ไปเกิด วิษณุตื่นเต้นดีใจถามว่าผีหยดรู้เรื่องนี้หรือยัง
“รู้แล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้พี่หยดขอเวลาอยู่ลำพังเพื่อทบทวนเรื่องทั้งหมด บ่าวเฝ้าหวัง รอก็แต่เพียงว่าพี่หยดจะสำนึกได้สักวันก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”
วิษณุอาสาจะช่วยพูดกับผีหยดอีกแรงหนึ่ง ผีหยาดดีใจหากท่านช่วยก็คงจะมีหวัง...
นอกจากจะไม่สำนึกผิด ผีหยดยังทำการสาปแช่งคืน ขุดหลุมฝังศพตัวเองที่อยู่ใต้ต้นไม้ต้นนั้น จนเจอศพถูกห่ออยู่ในผ้าเอาเส้นผมจากศพถูเลือดที่เลอะฝ่ามือตอนขุดดิน
“ตราบเส้นผมจนถึงจิตวิญญาณและเลือดของข้า...ข้าขอสาปมัน” ผีหยดกดมือและผมตัวเองเข้าไปในผิวต้นไม้ เกิดแรงสะเทือนไปทั่ว “ผู้ใดที่เคยทำกรรมไว้กับข้า ขอให้มันเจ็บขอให้มันจำให้พวกมันต้องชดใช้กรรม ชดใช้จนกว่าจะสาสมที่ข้าถูกจองจำเอาไว้ที่นี่” สิ้นเสียงสาปแช่ง ฟ้าผ่าเปรี้ยงราวกับรับคำสาปนั้น “กูจักทำให้แม่เจ็บยิ่งกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่า อีหยาด... กูจักทำให้มึงได้แต่ดูแม่ตาย แต่ก็ทำอันใดมิได้ เจ็บเหมือนที่กูต้องเจ็บ”
เส้นผมเปื้อนเลือดหายเข้าไปในต้นไม้ อึดใจเดียวต้นไม้ที่เขียวขจีเหี่ยวเฉายืนต้นตาย...
ท้องฟ้าแปลบปลาบครืนๆราวกับเกิดอาเพศ หลวงพ่อนั่งสมาธิอยู่ในกุฏิเหมือนจะรับรู้ถึงคำสาปแช่งนี้ได้
“นานถึงเพียงนี้แล้วยังอาฆาตมาดร้ายต่อคนอื่นมิเปลี่ยนแปลง เวลาแห่งการสำนึกผิดเหลืออีกไม่นานแล้วแท้ๆ ประตูแห่งแสงสว่างคงมิอาจนำพาได้แล้ว สิ่งใดที่เจ็บแค้นไว้คงมองเป็นโทษจากผู้อื่นเสียหมด” หลวงพ่อเปลี่ยนจากนั่งสมาธิไปเป็นสวดมนต์แทน...
ทางด้านกิฟท์ไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลย มาดักรอต้นแต่เช้า เห็นเขาขึ้นรถกำลังจะสตาร์ตเครื่อง รีบขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับมีเรื่องอยากจะคุยด้วยแล้วยื่นซองเอกสารให้เขาเปิดดู ต้นถึงกับหน้าเจื่อนเมื่อเห็นภาพตัวเองกอดกับผู้ชายแต่ไม่เห็นว่าเป็นใคร เธอสัญญาจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับแลกกับที่เขายอมเป็นคู่รักของเธอ ซึ่งจะต้องเล่นละครคู่กัน อีเวนต์คู่กัน ต้นพยายามต่อรองขอทำอย่างอื่นให้แทน
“พี่ต้นลองไปคิดก่อนก็ได้ค่ะ ยังไงเรื่องนี้ กิฟท์ก็มีแต่ได้ค่ะ ไม่มีเสีย” กิฟท์วางซองเอกสารไว้ก่อนลงจากรถ ต้นมองตามหน้าเครียด
ooooooo
วิษณุตรงไปที่ห้องใต้ดินเพื่อจะกล่อมผีหยดตามที่ได้รับปากไว้กับผีหยาด แต่ติดตรงที่ไม่สามารถมองเห็นผีหยดได้ ผีหยาดจึงให้เขาจับมือตัวเองไว้ ทันทีที่สัมผัสมือกัน ผีหยดปรากฏตัวขึ้นในลุคอ่อนหวานดูเป็นคนละคนกับทุกครั้ง ก้มกราบวิษณุอย่างอ่อนน้อม เสแสร้งเหมือนตัวเองสำนึกผิด
“บ่าวทราบเรื่องทั้งหมดแล้วเจ้าค่ะ บ่าวเสียใจนัก ความรักความริษยา มันบังตาจนบ่าวได้ทำสิ่งที่เลวทรามเหลือเกิน ทำในสิ่งที่อกตัญญูอย่างยิ่ง จนแม่เกือบพลั้งถึงชีวิต”
ผีหยาดเชื่อหมดใจว่าพี่สาวปล่อยวางความแค้นทั้งหมดลงได้แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้แม่ต้องดีใจมาก หากท่านฟื้นขึ้นมากล่าวยกโทษ คำสาปทั้งหมดคงเป็นอันสิ้นสุด ผีหยดคร่ำครวญคงทำอะไรไม่ได้ในเมื่อแม่ยังไม่ฟื้น เธอเองอยากไปเห็นหน้าท่านใจจะขาดแต่ก็ทำไม่ได้ หนล่าสุดที่เธอออกจากที่นี่ต้องอาศัยร่างคนอื่น
อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 10 วันที่ 31 ส.ค.61
ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตรละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ