อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 10 วันที่ 1 ก.ย.61

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 10 วันที่ 1 ก.ย.61

ผีหยาดเชื่อหมดใจว่าพี่สาวปล่อยวางความแค้นทั้งหมดลงได้แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้แม่ต้องดีใจมาก หากท่านฟื้นขึ้นมากล่าวยกโทษ คำสาปทั้งหมดคงเป็นอันสิ้นสุด ผีหยดคร่ำครวญคงทำอะไรไม่ได้ในเมื่อแม่ยังไม่ฟื้น เธอเองอยากไปเห็นหน้าท่านใจจะขาดแต่ก็ทำไม่ได้ หนล่าสุดที่เธอออกจากที่นี่ต้องอาศัยร่างคนอื่น

“คุณพระเจ้าขา งั้นเพลานี้เราไปขอร้องแม่หญิงรินได้หรือไม่ ว่าขอยืมร่างสักครั้งเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้พี่หยดได้พบหน้าแม่เผื่อแม่จักฟื้นขึ้นมา กล่าวอภัยพี่หยด” ผีหยาดมองวิษณุอย่างอ้อนวอน ขณะที่ผีหยดแอบลุ้นว่าเขาจะหลงกลเหมือนน้องของเธอหรือเปล่า...



ที่คอนโดฯที่พักของต้น พาไลไม่พอใจมากที่รู้เรื่องต้นทำข้อตกลงเป็นแฟนกับกิฟท์แลกกับความลับของตัวเอง ยืนกรานไม่ยอมให้เขาไปเป็นแฟนคนอื่น แล้วเข้าไปออดอ้อน

“พี่เคยบอกแล้วไง ต้นจะไปชอบผู้หญิงคนไหนกี่คนก็ได้พี่ไม่สน แต่ถ้าจะเป็นแฟนกับผู้หญิงสักคน คนนั้นต้องเป็นพี่...เป็นพี่แค่คนเดียว ใช่ไหมต้น” พาไลพรมจูบไปทั่วตัวต้นซึ่งจูบตอบอย่างเสียไม่ได้...

หลังเสร็จกิจกับพาไล ต้นลุกขึ้นคว้าเสื้อคลุมเดินเข้าห้องน้ำ พาไลที่แกล้งนอนนิ่งเมื่อครู่ลุกไปหยิบมือถือลับออกมาเปิดคลิปต้นกับผู้ชายคนหนึ่งเมื่อ 6 ปีที่แล้วขึ้นมาดู

“ถ้าจะมีใครสักคนทำเรื่องทุกอย่างพัง พี่สู้ทำเองไม่ดีกว่าเหรอ เพราะพี่ไม่มีวันยอมเสียต้นให้ใคร”...

ปาลแวะมาอัดเสียงรายการของตัวเองเห็นรินยังนั่งทำงานอยู่ เข้ามาชวนไปหาอะไรกินด้วยกัน เธอไปไม่ได้งานยังไม่เสร็จ เขาก็เลยไม่อยากรบกวนไว้วันหลังค่อยนัดกันใหม่ ปาลยังไม่ทันขยับไปไหน วิษณุเข้ามาหารินมีเรื่องสำคัญให้เธอตัดสินใจ ขอร้องให้ปาลอยู่ฟังด้วย เธอสงสัยว่ามีเรื่องอะไรกันแน่

“หยาดบอกพี่ว่าสิ่งที่ขังหยดไว้ในเรือนวนาเทพ ที่แท้คือคำสาปของแม่เยื้อนและจะไม่มีทางได้ไปเกิดจนกว่าจะสำนึกในบาปกรรมที่ทำไว้”

ปาลสงสัยว่าพี่ณุจะให้รินช่วยตามหาว่าแม่เยื้อนคือใครหรือ เขาส่ายหน้า รินได้เจอกับแม่เยื้อนแล้ว เราทุกคนได้เจอท่านแล้ว เพราะแม่เยื้อนที่แท้ก็คือยุพดี แม่เดือนในชาตินี้ หยาดมาขอร้องเขาช่วยกล่อมรินให้ยอมให้ผีหยดสิงร่างอีกครั้งได้ไหมเพื่อให้เธอไปกราบเท้าแม่เยื้อน รินถึงกับอึ้งขณะที่ปาลหน้าเครียดทันที

ooooooo

ผีหยาดขอตัวไปดูแลแม่ก่อนแล้วเดินผ่านประตูห้องใต้ดินออกไป ผีหยดคร่ำครวญว่าอยากไปกราบเท้าแม่ด้วยแต่ไม่มีวาสนา ผีหยาดขอให้พี่สาวอดใจรอหน่อย คุณพระรับปากแล้วว่าจะไปขอร้องรินให้ และตนเชื่อว่าเธอจะยอมช่วยพี่แน่ๆ ผีหยดบีบน้ำตาน่าสงสาร

“ใจข้ามันเจ็บเสียเหลือเกินอีหยาด คนเลวๆอย่างข้าคงได้แต่นั่งดูแม่ตายให้ช้ำใจเสียตรงนี้ บาปกรรมที่ข้าทำคงจักตามติดข้าไปอีกนานหลายชาติภพ หากข้าไม่ได้กราบขอให้แม่อภัยข้าเสียแต่ตอนนี้” ผีหยดซบหน้ากับเข่าตัวเองร้องไห้แต่ปากยิ้มชอบใจที่ผีหยาดหลงเชื่อคำลวง...

ที่บริษัทเบญจกายแปลง วิษณุยังคงขอร้องรินให้ผีหยดสิงร่าง หากทุกอย่างจบ ผีหยดจะได้ไปเกิดและแม่เยื้อนก็อาจจะฟื้นขึ้นมา ปาลโกรธควันแทบออกหูนี่ไม่ใช่เรื่องที่จะขอกันได้ รินเห็นท่าทางของเขาแล้วตกใจไม่คิดว่าจะโกรธขนาดนี้ พยายามดึงแขนให้ได้สติแต่ไร้ผล

“ผมไม่เชื่อ คนอย่างผีหยดไม่มีทางกลับตัวกลับใจได้แน่ ยังไงผมก็ไม่ยอมให้รินทำ...หรืออย่างน้อยพี่ก็ไม่ควรพูดออกมาให้รินลำบากใจ”

“พี่ขอโทษนะ พี่เข้าใจว่าปาลห่วงริน พี่เองก็ยอมให้หยดสิงรินไม่ลงหรอก พี่แค่ไม่รู้จะปรึกษาใคร ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากพี่...พี่ทำให้หลายคนต้องเสียใจ หยาดต้องตายหยดก่อกรรมทำเวรและสุดท้าย ตัวพี่ก็รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับใครไม่ได้ รักผู้หญิงคนไหนไม่ได้อีกเลย ไม่ว่าจะเป็นเดือน ฝน หรือว่าริน”

จังหวะนั้น เดือนโทร.มาตามวิษณุให้ไปที่โรงพยาบาล เขาวางสายแล้วหันมาทางริน “พี่ไปหาเดือนก่อนนะ ไม่ต้องคิดมากนะเดี๋ยวทุกอย่างมันก็คงเรียบร้อยเองแหละ...พี่ไปนะปาล”

ปาลอึกอักทำหน้าไม่ถูก ครั้นวิษณุไปแล้ว เขาขอให้รินรับปากจะไม่ยอมทำตามที่วิษณุขอร้อง เธอยืนยันจะไม่ยอมเสี่ยงเด็ดขาด เรื่องนี้มันมากเกินไปสำหรับเธอ ชีวิตเธอยังมีพ่อ มีแม่และก็มีปาลให้ห่วง

“งั้นสัญญากับผมนะไม่ว่าใครจะขอร้องยังไงคุณจะไม่พาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายนะริน”

“ฉันสัญญา” รินยกมือขึ้นทำไฮไฟว์ ปาลไฮไฟว์ตอบ แล้วไม่ยอมให้เธอเอามือออกกุมไว้อย่างนั้น บอลเข้ามาเห็นพอดี ทั้งคู่รีบกลบเกลื่อนว่ายุงเยอะกำลังช่วยกันตบยุง บอลถามหาพี่ณุไปไหน สงสัยลืมนัดพี่สามคุยเรื่องเพลง พี่สามมารอแล้ว เขาโทร.บอกพี่ณุแล้วแต่พี่ณุบอกให้พี่รินเป็นคนจัดการไปเลย

“ได้ๆ...งั้นเดี๋ยวคุณกลับไปก่อนได้นะ ฉันขออยู่ฟังเพลงละครก่อน...ไปบอลไปช่วยกันฟัง”

“เฮ้ย พี่ผมเร่งตัดตอนสิบอยู่เนี่ย ให้พี่ปาลไปช่วยแทนนะ น่าจะช่วยพี่ได้ดีกว่าผมอีก”...

ในเวลาไล่เลี่ยกันวิษณุมาถึงห้องพักฟื้น เห็นยุพดียังคงนอนไม่ได้สติ เดือนถือเอกสารยินยอมให้ผ่าตัดมาให้ บอกว่าหมอเร่งให้เธอเซ็นแต่พี่ฝนยังมาไม่ถึงเธอเลยไม่รู้จะทำอย่างไร และที่สำคัญเธอไม่กล้าตัดสินใจ วิษณุรับเอกสารไปอ่าน ฟังเดือนรายงานสิ่งที่คุยกับหมอไปด้วยว่าหากปล่อยให้แม่เป็นเจ้าหญิงนิทราแบบนี้ต่อไปร่างกายท่านจะเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ อย่างน้อยเสี่ยงผ่าตัดตอนนี้ยังดีกว่าทิ้งไว้จนร่างกายรับไม่ไหว

วิษณุบอกให้เธอเชื่อหมอ ถึงจะมีโอกาสแค่ 1 %ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย เดือนตัดสินใจเซ็นเอกสารทั้งน้ำตาแล้วเอาไปให้พยาบาลที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า ผีหยาดปรากฏตัวขึ้น แปลกใจทำไมไม่เห็นริน ตกลงเธอจะช่วยพี่หยดไหม วิษณุให้รินทำอย่างนั้นไม่ได้มันเสี่ยงเกินไป ผีหยาดผิดหวังน้ำตาร่วงที่ไม่สามารถช่วยพี่สาวได้

ooooooo

ที่ห้องอัดเสียงพี่สามไม่สามารถเปิดไฟล์ที่อัดเสียงร้องเพลงประกอบละครให้รินฟังได้ จึงขอให้ปาลเป็นนักร้องจำเป็นร้องให้เธอฟังแทน พี่สามฟังไปฟังมาเห็นเข้าที เสนอให้ปาลร้องเพลงประกอบไปเลยเพราะเขาเองก็มีฝีมือในการร้องเพลงอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาหานักร้องมาร้องอีก แล้วถามความเห็นจากรินจะว่าอย่างไร

“ลองดูก็ได้ค่ะ ฝากหน่อยนะคุณ ฉันจะไปช่วยบอลมันหน่อย” พูดจบรินเดินลิ่วออกไป...

ดึกมากแล้วกว่ารินจะกลับถึงคอนโดฯที่พัก โยนกระเป๋าถือพร้อมกับทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหน็ดเหนื่อย ทันใดนั้น ผ้าม่านในห้องปลิวไสวทั้งที่ไม่ได้เปิดหน้าต่าง เธอเริ่มเอะใจ มองไปรอบๆมีเงาผู้หญิงแวบไปแวบมาอยู่ด้านหลัง รินหันขวับร้องถามว่าใคร เงียบไม่มีเสียงตอบ

“ใคร...นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ ออกมาเดี๋ยวนี้” รินค่อยๆ เปิดประตูห้องนอนเข้าไป เห็นร่างผู้หญิงเรืองแสงสีขาวในชุดผ้าแถบยืนอยู่ ผีหยาดหันมองเจ้าของห้องพลางยิ้มให้

“แม่ริน หยาดเองเจ้าค่ะ” ผีหยาดหมอบกราบกับพื้น รินตกใจแทบช็อกแต่พยายามทำใจดีสู้ผี

“แม่รินเจ้าขา แม่เยื้อนแม่ของบ่าวของแม่เดือนกำลังจะสิ้นใจ บ่าวมาเพื่อขอร้องขอให้แม่รินเห็นแก่พี่สาวบ่าวสักครา หากแม่สิ้นไปเสีย พี่หยดก็มิมีวันได้เจอหน้าแม่อีก บ่วงกรรมก็มิคลี่คลาย”

“พี่ณุ เอ่อ...คุณพระให้เธอมาขอร้องฉันหรือ”

ผีหยาดมาเองไม่ได้มีใครขอร้อง รู้ว่าพี่หยดก่อกรรมไว้มากเหลือเกิน แต่วันนี้พี่สำนึกได้แล้ว ขอร้องรินให้โอกาสพี่หยดสักครั้ง เพียงครั้งเดียวทุกสิ่งที่พันธนาการทุกคนไว้ กรรมของพี่หยด คุณกำไลและคุณพระจะจบสิ้นลงได้ก็ต้องอาศัยเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น รินครุ่นคิดหนักไม่รู้จะทำอย่างไรดี มีเสียงมือถือของเธอดังขึ้น เห็นหน้าจอโชว์เบอร์ปาล รินนึกถึงคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับเขาว่าจะไม่พาตัวเองไปเสี่ยงอันตราย

“สิ่งที่เธอขอ ฉันคงทำให้ไม่ได้ ฉันเสียใจ”

ผีหยาดน้ำตาร่วงเสียใจที่ช่วยพี่สาวไม่ได้ จากนั้นร่างก็หายวับไป รินจับอกข้างซ้ายตื่นเต้นหัวใจแทบหลุดออกมาเต้นข้างนอกทรวงอก รีบกดรับสายปาลที่โทร.มาหาอีกครั้ง เขาเป็นห่วงเห็นเธอไม่ตอบไลน์กลัวจะหลับในกลางทางเสียก่อน รินนิ่งเงียบมองไปทางผ้าม่านที่ผีหยาดหายตัวไป คิดจะบอกเขาเรื่องนี้แต่เปลี่ยนใจ

“รินทำไมเงียบไป คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”

“อ๋อ ฉันแค่คิดเรื่องงานนิดหน่อยน่ะ”

ปาลถามเธอว่ามั่นใจจะให้เขาร้องเพลงประกอบ–ละครจริงๆหรือ เขากลัวร้องแล้วจะทำให้ละครเธอพัง ถามพี่ณุก่อนดีไหม เธอมั่นใจในตัวเขาว่าทำได้ ไม่จำเป็นต้องถามใคร

“พูดแบบนี้เอารางวัลเพลงประกอบไปรอเลยแล้วกัน งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่ห้องอัดตอนเช้านะคุณ”

รินวางสายจากปาล มองไปรอบๆห้อง แอบหวั่นไหวไปกับคำร้องขอของผีหยาด...

วิษณุฝันร้ายว่าผีหยาดมาต่อว่าเขาที่ไม่สามารถช่วยกล่อมรินให้ยอมให้ผีหยดสิงร่าง เขาดิ้นรนหายใจหอบแรงก่อนสะดุ้งตื่น ปวดหัวแทบจะระเบิด

ooooooo

เพื่อให้แผนคู่จิ้นสำเร็จด้วยดี เช้านี้ต้นจูงมือกิฟท์ไปออกรายการทอล์กโชว์ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ฟังผู้ชมทางบ้านส่งคำถามเข้ามาถามผู้ถูกสัมภาษณ์ได้ เรื่องที่พิธีกรสัมภาษณ์ไม่พ้นว่าทั้งคู่เป็นคู่จิ้นแค่ในจอหรือออกมาเบ่งบานนอกจอด้วย กิฟท์ทำเป็นอายม้วน

“แหม คือคนเราเจอหน้ากันทุกวัน เล่นละครด้วยกันก็ไม่แปลกที่จะสนิทใช่ไหมละคะ”

“แล้วสนิทระดับไหนคะ สนิทปานกลางหรือม้ากมาก” พิธีกรยิงคำถาม

“ใจกิฟท์เองก็อยากสนิทม้ากมาก แต่จะพัฒนาหรือไม่พัฒนา ตบมือข้างเดียวคงไม่ดังเนอะ” กิฟท์หันไปตีต้นเบาๆแบบเอียงอาย เขายิ้มหวานเจี๊ยบให้เธอแม้ในใจจะอึดอัด พิธีกรถามต้นตกลงจะยื่นมืออีกข้างมาตบด้วยไหม เขาขอไม่ตอบให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ก็แล้วกัน แล้วส่งสายตาลึกซึ้งให้กิฟท์

“โอ๊ย...เขินเนอะคุณผู้ชม มาไปต่อกันที่คำถามต่อไป คนนี้ดูเป็นแฟนคลับน้องต้นนะเนี่ย” ว่าแล้วพิธีกรก้มไปอ่านคำถาม “ได้ข่าวว่าพี่ต้นเนี่ย เป็นสุดยอดเก้งตัวจริง ซุกผัวไว้...”

สิ้นเสียงพิธีกรเกิดโกลาหลในห้องส่ง โปรดิวเซอร์ที่ยืนอยู่ข้างกล้อง หันไปบอกทีมงานให้หยุดไลฟ์สด แล้วโวยวายว่าคอมเมนต์นี้มาได้อย่างไร ทุกคนมองต้นเป็นตาเดียวกัน

ระหว่างที่รายการถูกเบรกชั่วคราว เนื่องจากทีมงานรับสายจากผู้ชมมือเป็นระวิงสายแทบไหม้ กิฟท์กับต้นมองสถานการณ์รอบข้างอย่างเคร่งเครียด ต้นโวยใส่กิฟท์เสียงเบาได้ยินกันแค่สองคน

“เราทำข้อตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ กิฟท์เอาข่าวพี่ไปพูดแบบนี้ได้ยังไง”

“จะบ้าเหรอพี่ต้น กิฟท์ไม่ได้โง่นะคะ ถ้าเรื่องแดงแบบนี้ คนที่มีแต่เสียกับเสียก็เป็นกิฟท์ กิฟท์ไม่ทำหรอกค่ะ”

“แล้วถ้าไม่ใช่กิฟท์จะมีใครที่รู้เรื่องนี้อีก”

“กิฟท์น่าจะต้องเป็นคนถามพี่ต้นมากกว่าว่ามีใครรู้เรื่องนี้อีกบ้าง” สิ้นเสียงกิฟท์ พาไลส่งไลน์มาหาต้น

“อย่าบังคับให้พี่ต้องร้าย” ต้นอ่านจบยื่นให้กิฟท์อ่านด้วย เธอนิ่งคิดไปอึดใจก่อนจะยิ้มร้ายออกมา

“อย่าบังคับให้กิฟท์ต้องเล่นเกมสิคะพี่พาไล”

ooooooo

ที่ห้องตัดต่อบริษัทเบญจกายแปลง วิษณุนั่งดูเทปไปพลางเอามือนวดขมับตัวเองไปด้วย โดยมีบอลนั่งอยู่ข้างหลังกับพนักงานตัดต่ออีกคนเปิดมือถือดูคลิปรายการทอล์กโชว์

“โห ละครเราดังเป็นพลุแตกแล้วพี่ไม่ต้องพึ่งพีอาร์ด้วย” บอลร้องเอะอะ

“เออ...เมื่อเช้าสายไหม้เลยนะเว้ย ดังจนไม่ได้ทำการทำงาน พี่หน่อยแกเลยดึงสายโทรศัพท์ออกเลย”

“ไม่คิดว่าพี่กิฟท์กับพี่ต้นแถลงข่าวเปิดตัวแล้วจะมีดราม่าอะไรขนาดนี้” เสียงบอลคุยกับพนักงานได้ยินถึงหูวิษณุ หันมาถามว่ามีอะไรกัน

“อ๋อ ก็คลิปแถลงข่าวกลางงานทอล์กโชว์ไงพี่ พี่ต้นกับกิฟท์เนี่ย เปิดตัวว่าคบกันแล้ว” บอลว่าพลางยื่นมือถือให้วิษณุดูคลิปที่ว่า...

ณ สตูดิโอทอล์กโชว์ ต้นกับกิฟท์ยังคงให้สัมภาษณ์สดเรื่องความรักของทั้งคู่ คราวนี้เขากุมมือเธอไว้อย่างหวงแหนอีกด้วย แล้วทำเป็นสารภาพว่าความจริงเขายังไม่อยากเปิดตัวเพราะเขาเพิ่งย้ายช่อง

“แต่ผมคิดว่าวันนี้ผมต้องให้เกียรติกิฟท์ ขอโทษกิฟท์นะครับที่ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าผมคบกิฟท์บังหน้าหรือเป็นเรื่องเล่นๆ ผมรักกิฟท์จริงๆครับ” ไม่พูดเปล่าต้นมอบดอกไม้ช่อสวยให้กิฟท์ที่รับไปอย่างเขินๆ

“พี่ต้นก็...” กิฟท์หอมแก้มต้นกลางรายการ พิธีกรอายม้วนไปด้วยราวกับถูกขอความรักเสียเอง

“ขอบอกเลยนะครับ ผมจริงจังกับผู้หญิงคนนี้ กิฟท์เป็นคนแรกและคงเป็นคนสุดท้ายที่ทำให้ผมอยากจะฝากชีวิตไว้ที่ใคร” ต้นมองสบตากิฟท์ ต่างขวยเขินสุดๆ โปรดิวเซอร์หันไปโวยทีมงาน

“ตกลงไอ้คอมเมนต์หยุดโลกนั่น สคริปต์แกหรือเปล่า”

“เฮ้ย เปล่านะพี่ แต่ต้องขอบคุณเขานะพี่ ยอดวิวรายการเราพุ่งไปอีกล้านวิวแล้วพี่”

ที่บนเวที กิฟท์คลายจากอ้อมกอดต้นเช็ดน้ำตาป้อยๆ “สำหรับเรื่องข่าวว่าร้ายพี่ต้น กิฟท์ไม่สนหรอกค่ะ ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แค่เรารักกันและใครที่แกล้งปล่อยข่าวให้ร้ายพี่ต้น หยุดเถอะค่ะกิฟท์ขอร้อง”...

วิษณุทนดูการสัมภาษณ์ครั้งนี้ต่อไปไม่ไหว คืนมือถือให้บอลสีหน้าเคร่งเครียดหนักกว่าเดิม

“พอพระนางละครเราเปิดตัวเป็นแฟนกันแบบนี้ ยอดเรตติ้งละครมีแต่พุ่งๆๆ โชคดีกับบริษัทเรามากเลยนะพี่” บอลมองวิษณุที่เอามือนวดขมับตัวเองสีหน้าบอกบุญไม่รับ “พี่ณุไม่ดีใจเหรอพี่”

“อ๋อ...อือ” วิษณุรับคำแบบแกนๆ

“แหม...ไม่คิดเลยว่าจะแอบชอบกันตอนไหน ตอนถ่ายเห็นพี่ต้นรำคาญกิฟท์จะตาย”

“พี่...ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะถึงขั้นแถลงข่าวอะไรแบบนี้” วิษณุเริ่มอาการไม่ดี เรี่ยวแรงหมดดื้อๆ มีเสียงเคาะประตูห้องตัดต่อดังขึ้น เขากัดฟันเดินไปเปิดรับ เจอต้นยืนถือถุงใส่ขนมเต็มสองมือ บอลมองงงๆมาได้อย่างไร เขารีบออกตัวพอดีผ่านมาแถวนี้เลยแวะเอาของฝากมาให้ วิษณุรู้ว่าเขาจะมาเคลียร์เรื่องแถลงข่าวเป็นแฟนกับกิฟท์ หันไปบอกบอลกับพนักงานขอไปคุยกับต้นสักครู่เดี๋ยวมาแล้วพากันออกไป

ooooooo

รินเพิ่งมาถึงออฟฟิศ เห็นต้นกับวิษณุเดินผ่านหน้า ร้องทักต้นแล้วถามวิษณุเรื่องเพลงว่าอย่างไรจะให้ปาลร้องอย่างที่พี่สามเสนอหรือเปล่า วิษณุยกหน้าที่ให้เธอตัดสินใจได้เลย แล้วพาต้นเดินต่อไป บอลออกมาจากห้องตัดต่อเจอรินก็หยุดทัก

“อ้าวพี่ริน ไหนบอกว่าวันนี้จะไปห้องอัด ดูพี่ปาล ลงเสียงไง”

“เดี๋ยวก็ไปแล้ว นี่พี่แค่แวะมาเอากล้องไปเผื่อถ่ายพี่สามตอนเล่นคอร์ด เผื่อต้องถ่าย MV หรืออะไรขึ้นมา”

“รอบคอบสมกับการเป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่จริงๆเลยครับพี่” บอลอวยกันเอง รินอดถามไม่ได้ว่าวันนี้นัดต้นมาทำอะไรหรือ เขาไม่ได้นัด ต้นผ่านมาเลยแวะมาหาพี่ณุ รินมองไปยังทิศทางที่ต้นกับวิษณุเดินไปรู้สึกแปลกๆอย่างไรชอบกล...

อีกมุมหนึ่งในห้องทำงาน วิษณุดึงมือออกจากต้นสีหน้าไม่พอใจ ต่อว่าว่าทีหน้าทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก ต้นแก้ตัวถ้าไม่ทำกิฟท์จะแฉเรื่องของเรา เขาอยากให้เป็นแบบนั้นหรือ

“ไม่ใช่ต้น แต่อย่างน้อยเรื่องมันก็ไม่ควรจะลุกลามขนาดนี้ ต้นไม่ควรเอาหน้าที่การงานตัวเองมาล้อเล่นแบบนี้นี่มันเรื่องโกหก สุดท้ายถ้าเรื่องแดงขึ้นมา...”

“นี่พี่รักผมจริงๆบ้างหรือเปล่า” ต้นเสียงเขียวไม่พอใจ รินเดินผ่านหน้าห้องพอดี เห็นต้นกับวิษณุยื้อยุดฉุดมือกันไปมาก็แปลกใจมาก นึกถึงที่ต้นเคยเล่าให้ฟังตอนนั่งรถตู้ของบริษัทมาด้วยกัน

“กว่าจะมาถึงตรงนี้ ผมก็ลำบากมาเยอะ อย่างเดียวที่ผมจำเสมอคือไม่เคยลืมบุญคุณใคร”

“นั่นคือเหตุผลที่คุณต้นย้ายช่องมาเล่นให้พี่ณุใช่ไหมคะ”

“พี่ณุเล่าให้รินฟังเรื่องผมเหรอครับ”

“ค่ะ เล่าว่าเคยช่วยคุณต้นไว้ตอนทำพาสปอร์ตหาย แค่นั้นแหละค่ะ”

ต้นแอบถอนใจโล่งอก “ครับ ดูพี่ณุปลื้มคุณรินมากนะครับ ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณดูอ่อนโยนแต่ก็เข้มแข็งภายในคนคนเดียวกัน” ต้นมองรินตาหวาน เธอได้แต่มองอึ้งไม่รู้จะมาไม้ไหน...

รินตื่นจากภวังค์นึกถึงโปสต์การ์ดที่ลงชื่อเป็นภาษาอังกฤษด้วยอักษรตัวที หรือว่าชายปริศนาคนนั้นจะเป็นต้น เธอไม่รอช้ารีบเดินไปให้พ้นจากตรงนั้น...

ฝ่ายต้นเดินไปดูรูปโปสต์การ์ดจากมองต์มาร์ทที่ตัวเองส่งให้วิษณุ พลิกดูที่ตัวทีด้านหลัง

“พี่ให้ค่าความรักเราเท่าไหร่กันแน่ หรือว่ามีแต่ผมคนเดียวที่พยายาม”

“ต้น...ต้นไม่เข้าใจ” วิษณุตัดพ้อ

“พี่ก็อธิบายให้ผมเข้าใจสิว่าทำไมพี่ถึงยินดีให้ทุกคนรู้เรื่องเรา แต่ไม่อยากให้ผมเป็นคู่จิ้นหลอกๆกับกิฟท์”

“เพราะพี่เป็นคนทำให้กิฟท์กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ ต้นเหตุมันมาจากพี่ ทุกความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะพี่ พี่คนเดียวที่ทำลายทุกอย่าง”

ต้นมองหน้าวิษณุอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจนักก่อนจะผละจากไป วิษณุปวดหัวหนักกว่าเดิม เป็นจังหวะที่เดือนโทร.มาบอกว่าแม่ของเธออาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ หมอเลยเลื่อนคิวผ่าให้เป็นวันพรุ่งนี้ 10 โมงเช้า

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 10 วันที่ 1 ก.ย.61

ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตร
ละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ