My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 4 วันที่ 5 ส.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 4 วันที่ 5 ส.ค.61

ริศาติงว่าศรันย์คือลูกชายเจ้าของบลูไคท์ อคินบอกว่าคนพวกนั้นก็อยู่กับอาศรุต สเตฟานี่หัวเราะพูดอย่างสมใจว่า “คิดไม่ผิดจริงๆที่มาหาพวกคุณ ถ้าคุณจะกรุณาให้ความช่วยเหลือฉันบ้าง ฉันอาสาจะช่วยคุณในเรื่องเครื่องบินตกได้ ฉันพอจะรู้จักตำรวจที่ตามเรื่องนี้อยู่”

อคินกับริศาเชื่อมโยงเรื่องว่าถ้าพวกนี้รู้ว่าสารัตถ์รู้เรื่องทุจริตแล้วก็เลยฆ่าปิดปาก สเตฟานี่เสนอว่า

“เอาอย่างนี้ คุณสาริศาที่เวลานี้ได้ถือหุ้นแทนมิสเตอร์สารัตถ์แล้วเอาหลักฐานการโกงของนายศรันย์มาให้เรา เราจะหาข้อมูลของเครื่องบลูไคท์ที่ตกในวันนั้นว่าก่อนเครื่องขึ้นมันมีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเปล่า แล้วเรามาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ดีไหมคะ”



อคินกับริศามองหน้ากันอย่างมีความหวังขึ้น

วันต่อมาก็ประชุมเครียดกับวีรนุชและผีอัศนีเพื่อหาวิธีดำเนินการต่อไป ผ่านการแลกเปลี่ยนสรุปได้ว่า เราต้องแยกเป็นสองเรื่องคือหนึ่งเรื่องทุจริตของศรันย์ และเรื่องทำไมคนของศรุตกับชาวต่างชาติคนนั้นถึงมาตามฆ่ากิตติ อคินและริศา

ผีอัศนีเสนอเรื่องการตามหาเมียของตนและมันหมายถึงตามหาลูกชายของตนด้วย อคินจึงสรุปว่า

“คุณใช้ความเป็นผีช่วยชีวิตพวกเราไว้หลายครั้ง เราจะรวมเรื่องของคุณไว้ในภารกิจของเราด้วย แต่เราต้องกลับไปเอาหลักฐานการโกงของศรันย์มาก่อนถึงจะขยายผลต่อไปได้”

ooooooo

ริศากลับถึงบ้านได้ฟังฝันร้ายจากป้านิ่มที่ฝันว่าไฟไหม้บ้านหลังนี้ มีเครื่องบินทิ้งระเบิดและอคินกับริศาก็อยู่ในกองเพลิงด้วย ริศาปลอบป้านิ่มว่า

ฝันร้ายจะกลายเป็นดีแต่ป้านิ่มติงว่าฝันสามคืนติดกันไม่ดีแน่

ทันใดนั้นผีอัศนีก็พูดแทรกขึ้นว่าก่อนที่ตนจะเครื่องบินตกก็ฝันเห็นเครื่องบินตกมาก่อนสามคืนติดกัน ริศาฟังแล้วใจไม่ดีแต่ก็พยายามพูดปลอบใจป้านิ่มว่าอาจเพราะเรามีเรื่องร้อนใจก็ได้แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องจะเกิดขึ้นจริง

ป้านิ่มบอกว่าริศาไม่อยู่บ้านตนไม่สบายใจเลย ไหนจะเรื่องคนที่มันมายิงนายคนนั้นที่หน้าบ้าน แล้วพออยู่คนเดียวก็นอนสะดุ้งตลอดเวลา

“ก็จริงนะ คนร้ายทุกคนรู้ว่าสาริศาอยู่ที่นี่ บ้านนี้ ไอ้เจ้าศรันย์มันก็เคยเข้านอกออกใน” ผีอัศนีเห็นด้วย เลยทำให้ริศาคิดหนัก

ฝ่ายอคินพอกลับไปเจอคุณย่าก็อวดว่าตนกลับมาแล้วอย่างปลอดภัย ถูกคุณย่าจับโกหกทันทีว่าตาเขียวปากเจ่อมาแบบนี้หรือปลอดภัย แล้วเอาคลิปที่อรนิภาฟ้องเรื่องอคินไปสืบเรื่องเครื่องบินตกจนเกิดเรื่องราว คุณย่าเปิดคลิปให้ดูแล้วสั่งเด็ดขาดว่า

“ฉันออกคำสั่งให้แกเลิกสืบเรืองเครื่องบินตก ถอนตัวออกจากบลูไคท์แล้วปล่อยให้เรื่องราวทุกอย่างเป็นหน้าที่ของคนอื่น” อคินถามว่าคุณย่ามีเหตุผลอะไร “เหตุผลเหรอ เหตุผลคือฉันรักแก ฉันไม่อยากให้แกไปตายแล้วจากฉันไปอีกคน”

“ผมไม่จากย่าไปไหนหรอก ปู่เขาจากย่าไปยังไงเหรอครับ เขาไปขับเครื่องบินแล้วไม่กลับมาใช่ไหมย่าช่วยเล่าทุกอย่างให้ผมฟังที มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ที่ทำให้ย่าเป็นคนไม่ปกติแบบนี้”

คุณย่าเสียงเขียวว่าหาว่าตนไม่ปกติเหรอ อยุทธให้อคินขอโทษคุณย่าเดี๋ยวนี้

“แต่คุณย่าแปลกจริงๆนี่ครับพ่อ พ่อคิดดูนะ เราโดนห้ามพูดถึงปู่กันเลย พ่อไม่สงสัยเหรอว่าปู่ผิดยังไง เลวร้ายยังไงถึงทำให้ย่าเป็นแบบนี้”

“หยุด” คุณย่าตวาด อคินสวนทันทีว่าไม่หยุด ตนอยากรู้เรื่องปู่ คุณย่าเลยด่า “แกมันเลว”

 “ใช่ ผมเลว ผมอยากเป็นนักบินรบผมก็เป็นไม่ได้ เพราะผมสอบเข้าเตรียมทหารไม่ติด ผมถึงต้องมาเป็นนักบินพาณิชย์ไง ตอนที่เพื่อนทุกคนที่บ้านครูจันทรามีเรื่องให้เขียนเรียงความว่าใครคือฮีโร่ ทุกคนมีฮีโร่ของเขา ผมเองก็อยากเขียนถึงปู่ เพราะผมคิดว่าคนที่ขับเครื่องบินรบได้จะต้องเก่งมาก แต่ผมก็เขียนไม่ถูก เพราะผมไม่รู้เรื่องของปู่เลย ทำไมครับย่า ปู่ทำอะไรที่มันเลวร้ายมากเหรอ ปู่ไปมีเมียน้อยซักโหลหรือไงย่าถึงห้ามใครๆเล่าเรื่องปู่ให้พวกเราฟัง”

คุณย่าเป็นลมไปทันที อยุทธรีบประคองย่าไป อคินทิ้งตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยใจสุดๆ พึมพำปวดร้าว

“ย่า...ผมพยายามเข้าใจย่านะ แต่ย่าก็ต้องพยายามเข้าใจผมบ้างสิ...”

ตกเย็นริศาเรียกอคินไปหาที่บ้าน บอกว่าตนจะไปจากที่นี่สักพัก ป้านิ่มเอาของที่จำเป็นล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ตนไม่อยากรบกวนเขา พยายามจะทำเองแต่ก็ทำไม่ได้จริงๆ เธอชี้ไปที่เครื่องคอมพ์ของพ่อที่อคินรื้อเมื่อคราวที่แล้วบอกว่าอยากเอาของจำเป็นไปกับตัวไม่อยากทิ้งไว้ที่นี่ อคินจึงรีบจัดการให้

ผีอัศนีที่รู้สึกแปลกๆกับโมเดลเครื่องบินที่โต๊ะ

ก็ย้ำกับริศาให้เอาโมเดลเครื่องบินลำนี้ไปด้วย

แต่ไม่ทันได้ทำอะไร พวกเทพก็กระหน่ำยิงมาจากนอกบ้านหูดับตับไหม้ อคินกับริศาวิ่งออกจากบ้านแต่สะดุดล้ม โมเดลเครื่องบินที่ริศาถือมากระเด็นไปไกลเธอก็ยังพยายามควานหาจนเจอและหยิบไปด้วย

วิ่งไปเจอบึงน้ำขนาดใหญ่รอบบึงเป็นที่โล่ง อคินตัดสินใจเลื่อนตัวลงไปในบึง ริศาไม่กล้าลงน้ำ อคินต้องปลุกปลอบใจอยู่นานจึงยอมลง โดยมีผีอัศนีคอยลุ้นตลอดเวลา

แต่พอลงซ่อนตัวที่ตลิ่ง ผีอัศนีก็ทำเสียงคนว่ายน้ำหนีไป พวกเทพมาถึงหลงกลจึงยิงกราดไปกลางบึง

ooooooo

อคินกับริศาถูกปลอกกระสุนที่พวกเทพยิงหล่นใส่หัวราวกับห่าฝนทั้งเจ็บทั้งกลัวจนแทบไม่กล้าหายใจ พอพวกมันเห็นทุกอย่างเงียบ เทพส่งสัญญาณให้วิ่งอ้อมไปอีกด้านหนึ่งของสระ

พอเสียงฝีเท้าพวกมันวิ่งห่างออกไป อคินก็พาริศาขึ้นจากสระแล้วไปหาครูจันทราที่บ้าน ครูถามว่าไปทำอะไรมาสภาพถึงเหมือนลูกหมาตกน้ำแบบนี้

“ครูจำเรื่องที่ผมสงสัยว่าเครื่องบินตกมันจะไม่ใช่อุบัติเหตุได้รึเปล่าครับ มันลงมือหนักขึ้นเรื่อยๆ อาจจะหมายความว่า...เรากำลังเข้าใกล้ความจริงเข้าไปทุกที”

ริศาบอกว่าพวกมันมาถล่มบ้านตน อคินย้ำว่าด้วยอาวุธสงครามเลย ขณะนั้นเองผีอัศนีก็ถามริศาว่าเครื่องบินจำลองลำนั้นอยู่ไหน ริศานึกได้ถามอคิน อคินบอกสงสัยหายไปตอนลงไปในน้ำ ผีอัศนีบ่นว่าอุตส่าห์หยิบมาดันทำหายเสียได้ อคินถามว่ามีอะไรสำคัญหรือ

“ไม่รู้สิ ฉันแค่รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างข้างในนั้น เซ้นส์แบบผีๆมั้ง”

อคินควักยูเอสบีสีฟ้าสดใสออกมาถามว่านี่หรือเปล่า ตนเห็นมันโผล่ออกมาจากหัวของโมเดลเครื่องบินเลยหยิบมา แต่เปียกน้ำขนาดนี้ไม่รู้จะใช้ได้หรือเปล่า ครูจันทราบอกว่าได้ ให้เอาไปใส่ไว้ในตุ่มข้าวสาร พอมันแห้งก็ใช้ได้เหมือนเดิม อคินกับริศามองหน้ากันอย่างมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

ooooooo

ทีวีออกข่าวภาพที่บ้านริศาถูกถล่มยับเยินและพยายามสัมภาษณ์ริศากับอคิน แต่ทั้งสองปฏิเสธที่จะพูดและพากันรีบออกจากวงล้อมนักข่าว

ศรุตดูแล้วลุกพรวดโพล่งอย่างหัวเสียว่าเป็นแบบนี้ได้ยังไง แบบนี้ก็บรรลัยหมด พอเจอศรันย์ก็ตรงเข้าไปกระชากเข้ามาถามว่านั่นฝีมือเขาใช่ไหม โกรธที่ริศาไม่สนใจตัวเองเลยทำแบบนี้ ศรันย์ถามว่าพ่อบ้าหรือเปล่า ตนอยากได้ริศาจะตายจะทำแบบนี้ทำไม แล้วนึกเป็นห่วงริศาผละไปทันที

ศรุตหงุดหงิดหัวเสียที่เรื่องทั้งหมดดูจะบานปลายใหญ่โตไปทุกที

ฝ่ายมิสเตอร์เอฟก็พาลูกน้องสองคนบุกไปที่บ้านพักของเทพที่ตัวเทพเอง จอร์จและลูกน้องอีกสองคนกำลังทำแผลจากที่ไปลุยบ้านริศามา จอร์จถูกมิสเตอร์เอฟใช้ปืนเก็บเสียงยิงคว่ำตายคาที่ทันที ลูกน้องสองคนของมิสเตอร์เอฟลั่นไกใส่ลูกน้องสองคนของเทพทะลุกลางหน้าอกแม่นราวกับจับวาง

เทพกระโดดหลบเข้ามุมถามว่าทำไมท่านทำกับตนแบบนี้

“พวกแกทำเสียแผนทุกอย่าง ขอแก้ตัวมากี่ครั้งสำเร็จสักครั้งรึยัง ไอ้อคินตามไปถึงอินดาน่า ป่านนี้สืบรู้อะไรไปถึงไหนแล้ว แต่แกก็ไม่มีปัญญาจะฝังมันที่นั่น”

เทพอ้างว่าพวกมันมีผีช่วย มิสเตอร์เอฟถามว่าแล้วที่ถล่มบ้านลูกสาวกัปตันที่ตายไป บ้านพังยับแต่ทำไมคนรอด เทพบอกว่ามันมีผีช่วยจริงๆ

“แกทำงานพลาดแต่ละครั้งก็เหมือนลอกคราบขบวนการของเราออกทีละชั้น พวกเราต้องทำงานยากขึ้น ...พวกหน้าโง่แต่ขยันแบบนี้ไปอยู่กับผีเถอะไป๊”

เพียงมิสเตอร์เอฟพยักหน้าเทพก็ถูกยิงจมกองเลือด มิสเตอร์เอฟชักมีดออกมายิ้มเลือดเย็น

 “อย่า!! อย่า !!!” เทพร้องแทบไม่เป็นภาษา

ooooooo

เบนมาหาอคินที่บ้านครูจันทรา ครูจึงให้ไปที่ตุ่มข้าวสารบอกให้ช่วยดูนี่หน่อย พลางป้านิดก็งมไปในตุ่มหยิบยูเอสบีขึ้นมาบอกว่า

“นี่ไงคะ ไอ้เจ้านี่แหละค่ะที่อคินกับสาริศาคาดว่าจะเป็นข้อมูลไขคดีปริศนาของเรื่องราวทั้งหมด”

เมื่ออคินเสียบยูเอสบีเข้าเครื่องคอมพ์ ปรากฏข้อมูลการเช่าซื้อเครื่องบินที่แพงเกินจริง แถมการโอนเงินเข้าธนาคารยังมีข้อน่าสงสัยทั้งจำนวนเงินและธนาคารที่ทางบลูไคท์ไม่ได้ใช้ทำธุรกรรมเป็นหลักด้วย อคินจึงส่งข้อมูลให้สเตฟานี่ช่วยดู สเตฟานี่บอกว่าจะตรวจสอบกับข้อมูลที่ตนมีอีกครั้ง ได้เรื่องอย่างไรจะติดต่อกลับอีกทีและเตือนอคินให้ระวังตัวด้วยเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติอาจมีบางคนที่ไม่อยากให้เขาขุดคุ้ยต่อ

อคินขอบคุณที่เตือน แม้จะกังวลใจเรื่องนี้แต่ก็โล่งใจที่ส่งข้อมูลสำคัญให้สเตฟานี่แล้ว

เมื่ออคินกลับไทยแล้ว อรนิภาก็จะกลับ อ้างกับอังคารว่าต้องกลับไปดูแลกิจการที่เมืองไทย พูดแล้วบ่นว่าไม่ทันไรคนอินบ็อกซ์เข้ามาสั่งของอีกแล้วพลางหยิบโทรศัพท์ดู พอเห็นชื่อริศาก็บ่นอารมณ์เสีย

“โทร.มาอยู่ได้ ถามอยู่นั่นแหละว่ารู้จักคนที่นามสกุลเดียวกับเรารึเปล่า จะไปรู้ได้ไงล่ะยะ คนนามสกุลซ้ำกันตั้งเยอะตั้งแยะ” อังคารถามว่าเขาถามถึงใคร “อนงค์ สิริปัญญา ญาติๆเรามีใครชื่อนี้ด้วยเหรอคะ...”

อังคารอึ้งไปทันที อรนิภาตัดบทว่าพ่อไม่ต้องไปสนใจหรอก ตนจะบล็อกทิ้งไปเลยแล้วรีบไปกลัวตกเครื่อง อังคารยังพยายามรั้งไว้อีก คราวนี้อรนิภารับตรงๆว่าตนต้องรีบกลับไปชิงทำคะแนนคืนจากอคิน มัวอยู่ที่นี่เดี๋ยวเสียคะแนนหมดแล้วรีบไปเลย อังคารได้แต่มองตามลูกสาวไปอย่างหนักใจ

ริศาบอกผีอัศนีว่าไม่รู้จะตามหาอนงค์ให้ได้ที่ไหนอีก เพราะถามไปในโลกออนไลน์ก็ถูกบล็อกไปแล้ว ผีอัศนีบ่นว่าถามแค่นี้ก็ต้องตัดการติดต่อ ยัยนี่มันเป็นใครกัน ริศาเปิดโปรไฟล์ให้ดูก็ไม่เห็นหน้าเพราะเป็นรูปหญิงสาวทำโยคะเท่านั้น

ป้านิ่มเดินมาเห็นริศาพูดคนเดียวก็ตกใจเข้ามาถามหวาดๆว่าทำไมพูดคนเดียว สารัตถ์มาหาเหรอ? ริศาบอกว่าเปล่า ตนหงุดหงิดเพื่อนในเฟซบุ๊กใจร้ายมากถามอะไรก็ไม่ตอบ แล้วรีบกระซิบบอกผีอัศนีว่าไปก่อนนะแล้วค่อยคุยกัน

ooooooo

ฝ่ายอคินก็ยังเป็นไม้เบื่อไม้เมากับคุณย่าที่หวงและห่วงหลานชายหัวแก้วหัวแหวนจนแทบขยับตัวไปไหนไม่ได้ และอคินก็ชอบแหย่คุณย่าให้หงุดหงิด

วันนี้เขาบอกคุณย่าว่าจะไปค้างบ้านเพื่อน จะไปนอนบ้านผู้หญิงที่ตนรัก ถูกคุณย่าประชดว่าคนอย่างเขารู้จักความรักหรือเปล่าว่ารักคืออะไร มีแต่เรื่องกิเลสตัณหาเท่านั้นแหละ

“ไม่ใช่เลยครับ ผู้หญิงคนนี้ดีงามไร้เดียงสาอ่อนหวานบอบบางต้องการคนปกป้อง ผมอยากจะดูแลเขาตลอดไป ย่าอยากรู้จักน้องเขาไหมครับ ผมอยากจะเปิดตัวเขาให้พ่อกับย่าได้รู้จัก”

คุณย่าทั้งงอนและหมั่นไส้ บอกอยุทธว่าไม่ต้องสนใจ มันจะขึ้นเขาลงห้วยอะไรก็ช่างมัน อคินบอกว่าเอาที่คุณย่าสบายใจก็แล้วกันแล้วไหว้ลาหอมแก้มคุณย่าเป็นพิธีอย่างที่เคยทำ บอกว่าอาจไปหลายวันแต่ไม่ต้องห่วงมีอะไรก็โทร.ไปได้เสมอ

พออคินออกไป อยุทธก็ได้รับโทรศัพท์จากอังคารถามว่าอคินได้เล่าอะไรให้ฟังหรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นที่อินดาน่า อยุทธบอกว่าไม่ได้เล่า

อังคารคาดว่ามันคงไม่อยากให้ทางบ้านรู้ แล้วเล่าให้ฟังว่า

“มันมีปัญหากับขบวนการอาชญากรข้ามชาติอะไรสักอย่าง วันนี้ดูข่าวเมืองไทยก็เห็นว่าบ้านเด็กผู้หญิงที่เป็นลูกสาวกัปตันสารัตถ์สายการบินบลูไคท์ก็โดนถล่ม มันต้องเกี่ยวกันแน่ๆ”

“นายอย่าเล่าอะไรให้แม่ฉันฟังนะ เดี๋ยวตกใจไปใหญ่ ระยะนี้แม่ยิ่งมีอาการ...”

เอมอรถามขัดขึ้นว่าคุยกับใคร พอรู้ว่าอังคารโทร.มาก็บอกให้เอาโทรศัพท์มานี่ ถามทันทีว่าลูกสาวเขาหลอกอคินไปอินดาน่าด้วยกันตั้งสองวันสามคืนมีอะไรกันหรือเปล่า อังคารบอกว่ามีอีกสองสาวไปด้วยสวยๆทั้งนั้น แล้วเล่าให้ฟังว่า

“เอ่อ...คุณอาครับ ยัยอรมาบ่นว่ามีคนในเฟซบุ๊กอินบ็อกซ์มาถามยัยอรถึงคนชื่ออนงค์ สิริปัญญา น่ะครับ” เอมอรตกใจจนโทรศัพท์แทบหลุดมือ อยุทธถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เอมอรตอบเสียงปร่าว่าแม่ไม่เป็นไร ถามอังคารว่าแล้วยัยอรตอบไปว่ายังไง “ยัยอรจะไปรู้อะไร เด็กๆไม่มีใครเคยทราบหรอกว่าคุณอาเคยใช้ชื่ออนงค์ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเอมอร แต่มันก็นานมากแล้วตั้งแต่สมัยผมเด็กๆ”

“ฉันเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุลใหม่มาตั้งหลายสิบปีแล้ว ทำไมถึงมีคนถามหาอนงค์อีก” อังคารถามว่า “มีญาติพี่น้องฝั่งไหนของคุณอาที่ไม่รู้ว่าคุณอาเปลี่ยนชื่อรึเปล่าครับ”

“มีสิ...มีคนเดียวนั่นแหละที่ไม่รู้ว่าฉันเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลเพราะไม่อยากให้ใครตามตัวเจอ ไม่อยากนึกถึงอดีตอีกต่อไป...ดีแล้วอังคาร แกไม่ต้องบอกใครทั้งสิ้นว่าฉันเคยเปลี่ยนชื่อ อนงค์ สิริปัญญา ตายไปแล้วจากโลกนี้ ตอนนี้มีแต่เอมอร นภประสิทธิ์ เท่านั้น”

วางโทรศัพท์จากอังคารแล้วเอมอรพึมพำน้ำตาคลอ...

“ทำไม...ทำไมเรื่องในอดีตมันต้องตามมาหลอกหลอนฉันตลอด...ทำไมกัน???”

อยุทธกอดแม่อย่างสงสารเห็นใจ เอมอรกอดลูกชายร้องไห้คิดถึงอดีตที่ตัวเองฝังใจไม่เคยลืม...

ooooooo

ป้านิ่มเปิดโอกาสให้อคินกับริศาทำอาหารกันในห้องครัว ตัวเองออกไปซื้อมังคุดในสวนซอยใกล้ๆ แม้อคินกับริศาจะมีความรู้สึกดีๆต่อกันแต่ทั้งสองก็ไม่ชิงสุกก่อนห่ามอย่างที่ผู้ใหญ่สอน ช่วยกันทำอาหารกุ๊กกิ๊กๆไปตามประสาหนุ่มสาว

ผีอัศนีมาเห็นก็บ่นอย่างหมั่นไส้ เมื่อป้านิ่มกลับมา อคินทำน้ำจิ้มสำหรับปลานึ่งสมุนไพรที่ริศาเป็นคนทำ ป้านิ่มบอกว่าน้ำจิ้มนี่สูตรของคุณย่าริศาเลยนะ คุณอังคณาเป็นคนทำอาหารเก่งมาก เสน่ห์ปลายจวักเป็นที่หนึ่งในอำเภอเลย ริศาบอกว่าตนเคยเห็นแต่รูปของคุณย่าอังคณา

“ก็คุณย่าเสียไปตั้งแต่ก่อนหนูจะเกิด แต่ป้าจำได้แม่นเลย โดยเฉพาะวันแต่งงานของน้าสันติกับน้าอังคณา เพราะวันนั้นน้าอังคณาสวยมาก สวยจนใครๆก็ตะลึง”

ป้านิ่มเล่าถึงอดีตว่า น้าสันติตอนหนุ่มๆหล่อมาก ใครๆก็ไม่อยากเชื่อว่าน้าสันติจะสละโสด ทุกคนแปลกใจที่จู่ๆน้าสันติก็ลุกขึ้นมาประกาศแต่งงานทั้งที่คบกับน้าอังคณาได้แค่ไม่กี่เดือน เขาลือกันว่าน้าสันติอกหักจากสาวคนอื่นเลยมาลงเอยแต่งงานกับน้าอังคณา

“มันจะอกหักจากใครได้ถ้าไม่ใช่แม่อนงค์ของฉัน ไอ้เพื่อนทรยศ” ผีอัศนีโพล่งขึ้น แล้วก็สะกดจิตริศาให้เข้าสู่วันงานแต่งงานของตนในอดีต ส่วนป้านิ่มไม่รู้อีโหน่อีเหน่จู่ๆก็ฟุบหลับไปคาโต๊ะอาหาร

อคินกับริศาหลุดเข้าไปในโลกอดีต ทั้งสองอยู่ในชุดพื้นบ้านภูไทมาร่วมงานของอัศนีกับอนงค์ ผีอัศนีเล่าประกอบบรรยากาศว่า ในวันแต่งงานของตน สันติพาแฟนมาเปิดตัวเป็นครั้งแรก งานจัดพิธีแบบอีสาน

อัศนีมีแม่มานั่งอยู่ แต่อนงค์มีหญิงวัยกลางคนนั่งข้างๆ เพราะคุณแม่เธอไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานนี้ทะเลาะกันรุนแรงจึงไม่มางาน อัศนีเล่าว่า

“อนงค์เป็นคนใจเด็ด ตัดสินใจอะไรแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนใจเธอได้”

สันติพาอังคณามาเปิดตัวในงานนี้แต่เขาไม่ได้ใส่ใจเธอเลย สายตาและความสนใจจดจ่ออยู่กับอนงค์ตลอดเวลา จนอังคณาน้อยใจเดินหนี อัศนีบอกให้ตามไปก็บอกว่า “เดี๋ยวเขาก็กลับมาเองแหละ”

บรรยากาศงานครึกครื้นรื่นเริงด้วยประเพณีอีสานจนอคินกับริศาที่หลุดไปในโลกอดีตชวนกันออกไปเซิ้งกันสนุกสนาน

สันติดื่มจนเมาแล้วแต่งกลอนสดให้อัศนีในงานว่า

“เก็บดอกไม้ทั้งป่ามาโปรยปราย เก็บดาวรายทั้งฟ้ามาส่องแสง ในงานแต่งอนงค์-อัศนี นั่นสตรีในฝันนั่นก็เพื่อน ไม่ลืมเลือนสัญญาและหน้าที่ วันใดเพื่อนบินลับไปไม่ไยดี จะดูแลคนดีแทนเพื่อนเอย”

ด้นกลอนสดแล้วสันติก็หัวเราะเมาๆ อัศนีเข้าไปบอกว่าเมาแล้วไปพักก่อนไหม สันติกลับจับมืออัศนีกับอนงค์มากุมกันอวยพรให้ทั้งสองมีความสุข มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง อัศนีสาธุขอให้สมพรปาก ส่วนอนงค์ขอบคุณ และถ้าวันแต่งของสันติ ตนสองคนก็จะแต่งกลอนอวยพรเขาอย่างสาสมเช่นกัน

จากนั้นไม่นานอัศนีก็พาอนงค์ไปโรงพยาบาล พอออกจากห้องหมอ อัศนีก็กระโดดตะโกนว่าตนจะเป็นพ่อคนแล้วทั้งยังเชื่อว่าจะได้ลูกชาย บอกว่าถ้าเป็นลูกชายจริงตนจะสอนให้เป็นนักบินก่อนการตั้งไข่เลย

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 4 วันที่ 5 ส.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทประพันธ์โดย นภสร
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทโทรทัศน์โดย ทิพย์สุดา
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ