อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 7 วันที่ 21 ส.ค.61
“ไม่เป็นไรค่ะ พายไปท่องบทดีกว่า” พายหันหลังเดินกลับ กิฟท์เซ็งที่เสี้ยมไม่สำเร็จ...ปาลเดินนำรินที่ถูกผีหยดสิงลงไปห้องใต้ดินตามที่นัดไว้กับวิษณุ ทางเดินที่ทั้งมืดและน่ากลัวทำให้เขาอดนึกถึงวันเดือนดับไม่ได้ พลันภาพคืนเกิดจันทรุปราคาผุดขึ้นมาในความคิดคำนึงของเขา ตอนนั้นผีหยดสิงร่างรินเรียบร้อยแล้วทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ทีมงานช่วยกันไล่เก็บข้าวของที่ปลิวเกลื่อนกองถ่าย
นักข่าวจัดเสื้อผ้าหน้าผมเสร็จ ถือไมค์รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ค่ะ ตอนนี้กองถ่ายนางบาปบางบัวบานก็กลับสู่สภาวะปกติแล้วนะคะ แหม บรรยากาศจันทรุปราคาเมื่อกี้นี้ เหมาะกับละครพีเรียดที่อิงกับตำนานเรื่องนี้มากๆนะคะคุณผู้ชม เพราะฉะนั้นห้ามพลาดเด็ดขาดนะคะ”
เดือนรอจนนักข่าววางไมค์จึงเข้ามาขอบคุณที่ช่วยทำข่าวให้...
บอลยังกลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่หาย บ่นกับวิษณุว่าเมื่อครู่นี้น่ากลัวมาก วิษณุที่กลัวสุดฤทธิ์แต่ต้องเก็บอาการไว้ไม่อยากให้ลูกทีมเสียขวัญ ปลอบว่าไม่มีอะไร แค่ลมแรงไฟดับนิดหน่อยเรื่องปกติ เดี๋ยวช่วยกันดูความเรียบร้อยทั้งคนทั้งของด้วย บอลรับคำ เป็นจังหวะต้นประคองกิฟท์เข้ามาสมทบ
“ต้น กิฟท์ โอเคกันไหมครับ” วิษณุถามด้วยความเป็นห่วง
“จะโอเคค่ะ ถ้าพี่ณุช่วยยืนยันกับกิฟท์ว่าทั้งหมดนี่ไม่เกี่ยวอะไรกับผีหยาด”
“มันจะเกี่ยวได้ยังไงล่ะกิฟท์ ก็เห็นว่ามันไม่มีอะไรเลย อย่าทำให้พี่ณุเขากังวลกว่านี้เลย” ต้นช่วยตอบคำถามแทน ในเมื่อเขาว่าไม่เกี่ยว กิฟท์รีบเออออไปด้วย แล้วชวนเขากลับโรงแรมที่พัก ยังไม่ทันก้าวขาต้องอ้าปากตาค้าง เมื่อเห็นรินที่ถูกผีหยดสิงก้มกราบแทบเท้าวิษณุ ทีมงานทุกคนพากันอึ้ง
“ริน...รินเป็นอะไรหรือเปล่า” วิษณุร้องถาม
“พี่ต้น ดูรินสิคะน่ากลัวจัง” กิฟท์ต้องขยับออกห่าง เดือนหมั่นไส้รินเป็นทุนเดิมอยู่แล้วต่อว่าว่าเป็นอะไรขึ้นมาอีก รินที่ถูกสิงกวาดตามองทุกคนอย่างเกรี้ยวกราดก่อนจะปรับท่าทีอ่อนลง
“เมื่อครู่ตอนไฟดับลมพัด รินเผลอวูบไปนิดเดียว ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วค่ะพี่”
“งั้นค่อยๆลุกขึ้นนะริน” วิษณุประคองรินให้ลุกขึ้น เธอมองเขาอย่างอาลัยอาวรณ์พึมพำในใจ
“คุณพระเจ้าขา บ่าวอยู่นี่ อีหยดกลับมาหาคุณพระแล้วนะเจ้าคะ”
ปาลกับพายตามมาสมทบ เห็นรินเกาะแขนวิษณุ แน่น จ้องมองเขาด้วยสายตายั่วยวนไม่เหมือนรินคนเดิม ปาลต้องเบือนหน้าหนี กำมือข้างที่ถูกต่อต่อยไว้แน่น
“ริน งั้นเดี๋ยวพาทีมงานกลับโรงแรมเลยนะ พี่ไปดูพี่จอมเขานิดนึง” วิษณุเอามือรินออกแล้วผละจากไป ผีหยดในร่างรินมองตามจนเขาลับสายตา พึมพำในใจอีกครั้ง
“ความหวังครั้งใหญ่ที่กูเฝ้ารอชั่วชีวิตมาถึงแล้ว กูจักไม่ยอมให้ใครมาขัดขวางกูอีกเป็นแน่”
เดือนหันมาแขวะริน “ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นทำไมล่ะคะ ทำงานสิคะ”
รินไม่สบอารมณ์หันมองเดือนตาขวาง คนถูกมองถึงกับเสียวสันหลังวูบ
ooooooo
ที่ห้องใต้ดินในตึกวนาเทพ ผีหยาดที่นอนกองอยู่กับพื้น พึมพำทั้งที่ยังไม่ได้สติให้พี่หยดพอได้แล้ว มีเสียงหลวงพ่อดังแว่วเข้ามา
“เอ็งช่วยอันใดมันไม่ได้ดอก กรรมดีถูกบังเสียแล้ว ในคืนเดือนดับนี้ กรรมของผู้ใดจักเป็นของผู้นั้น ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามวิถีกรรม จนกว่าจะถึงเวลาตื่นรู้เถิด”...
ในเวลาต่อมาที่ห้องพักในโรงแรม รินอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยนั่งมองกระจกสำรวจหน้าตาเนื้อตัวของตัวเอง เห็นน้ำหอมของพายบนโต๊ะเครื่องแป้งหยิบขึ้นมองทำท่าจะฉีด พายที่ยืนมองอยู่ไม่ค่อยพอใจ
“ปกติพี่รินใช้น้ำหอมด้วยเหรอคะ”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็คงจะเพราะคืนนี้ไม่ปกติกระมัง” รินที่ถูกสิงยิ้มเย็นให้พายในกระจกเงา ฉีดน้ำหอมทั่วตัว อย่างไม่เกรงใจเจ้าของ แล้วลุกขึ้นจะออกจากห้อง
“คงจะมีอะไรพิเศษมากนะคะ พี่รินถึงใช้น้ำหอมของพาย”
“ของแค่นี้ก็นึกว่าแบ่งกันใช้จักเป็นอันใดเล่า” รินจ้องพายตาขวาง แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ “ข้าอยากได้ดอกรัก แถวนี้พอจะมีหรือไม่”
พายอยากรู้ว่ารินจะเอาดอกรักไปทำอะไร เธอตวาดแว้ดไม่ใช่ธุระอะไรของตัวที่ต้องรู้ แต่ถ้าอยากรู้จริงๆ ตนจะบอกให้ว่าดอกรักมีไว้มอบให้คนที่เรารักชั่วชีวิต พายแนะให้รินลองไปดูที่สวนข้างโรงแรมอาจจะมีก็ได้...
จากนั้นไม่นานระหว่างที่กิฟท์กับเดือนกำลังเดินกลับห้องพัก เห็นผีหยดในร่างรินที่สวนของโรงแรม เก็บดอกรักมานั่งร้อยเป็นมาลัย ก็รีบหลบมุมแอบฟัง
“คุณพระเจ้าขา แม้นบ่าวอยู่ในร่างของผู้อื่น บ่าวจักทำทุกทางให้คุณพระจดจำบ่าว”
เดือนที่แอบดูอยู่กับกิฟท์งงมากที่อยู่ๆรินเกิดโลกสวยขึ้นมาเก็บดอกไม้มาร้อยมาลัย กิฟท์เห็นด้วย คนอะไรหลายอารมณ์จนตามไม่ทัน นี่ว่าจะยกรางวัลตุ๊กตาทองให้ไปเลย รินได้ยินเสียงนินทาหันขวับ สองสาวรีบหลบแต่ไม่พ้น เธอตวาดแว้ดมาแอบดูเธอทำไม กิฟท์ปฏิเสธว่าไม่ได้แอบดูพอดีเดินผ่านมาทางนี้
“แล้วนั่นจะเอาดอกไม้ไปทำอะไร”
รินตะคอกใส่จะไปไหนก็ไปอย่ามายุ่ง กิฟท์กับเดือนเห็นสายตาที่จ้องมาทางตัวเองน่าสะพรึงจนขนหัวลุกพากันวิ่งหนีกระเจิง
ooooooo
ปาลยืนเหม่ออยู่ที่ระเบียงห้องยังน้อยใจรินไม่หาย บอลเปิดม่านออกมาชวนไปดื่มเหล้าคลายเครียดด้วยกันนิดหน่อยๆก็กลับกันแล้ว เขาขอผ่านให้บอลไปดื่มกินตามสบายขอนอนพักดีกว่า บอลออกไปแค่อึดใจแม่ของปาลโทร.มาถามจะกลับบ้านวันไหน เขาคิดว่าคงเป็นสัปดาห์หน้า พักกองไปนานตอนนี้ต้องเร่งถ่าย
“โอเคปาล แม่กำลังจะบินไปเยี่ยมป้าจี๊ดที่อเมริกานะ ไว้แม่กลับมาชวนรินเขามากินข้าวที่บ้านเราหน่อยสิ แม่อยากเห็น เจอครั้งสุดท้ายยังไว้ผมเปียอยู่เลย ไม่รู้ป่านนี้โตขึ้นจะเป็นไง”
“เอ่อ ครับแม่ เดินทางดีๆนะครับ แล้วเจอกันครับ” ปาลวางสายหน้าเจื่อนจะชวนรินไปกินข้าวได้อย่างไรแค่หน้าเขาเธอยังไม่อยากมอง...
รินร้อยมาลัยดอกรักเสร็จจะเอาไปให้วิษณุเผื่อระลึกได้ว่าชาติที่แล้วเคยมีความสุขกับเธอมากแค่ไหน...
ด้านพายออกมาเดินเล่นรับลมเห็นรินถือมาลัยดอกรักเดินผ่านไปไกลๆ นึกเอะใจทางนั้นไปห้องปาลไม่ใช่หรือ ใจคอไม่ดีรีบตามไปดูแต่ไม่เห็นเธอแล้ว รินไม่ได้เลี้ยวไปทางห้องพักปาลแต่เลี้ยวอีกทางไปหาวิษณุ...
ทางฝ่ายวิษณุนั่งเตรียมงานถ่ายทำอยู่ในห้องพัก เป็นฉากที่หยาดเตรียมปรุงยาพิษขอให้นายปั้นช่วย บทที่ต้องกำกับกับความจริงที่ปรากฏในสมุดบันทึกช่างขัดแย้งกันเหลือเกิน
“หยาด ฉันไม่อยากให้เรื่องทั้งหมดเป็นแบบนี้เลย ฉันขอโทษนะหยาดที่ต้องปล่อยให้คนอื่นเข้าใจผิดๆต่อไป โดยที่ฉันทำอะไรไม่ได้เลย”...
ขณะที่วิษณุกำลังโทษตัวเองเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขชื่อเสียงที่เสียไปให้หยาดได้ ผีหยาดที่ถูกขังไว้ในห้องใต้ดินค่อยๆรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมองไปรอบๆพบว่าทุกอย่างสงบแล้ว ตั้งใจจะไปห้ามพี่สาว แต่ลุกไม่ไหวทรุดลงไปนอนอย่างเดิม...
หลังคิดทบทวนหัวแทบระเบิด วิษณุนึกวิธีช่วยหยาดออก หยิบสมุดบันทึกแล้วหยิบมือถือโทร.หากิฟท์จะขอไปพบที่ห้องพัก มีเรื่องเกี่ยวกับบทละครจะคุยด้วย อารามรีบร้อน เขาลืมเสียบคีย์การ์ดเอาไว้...
ผ่านไปอึดใจ รินเปิดประตูห้องพักวิษณุเข้ามาพบแต่ห้องว่างเปล่าไม่มีคุณพระกลับชาติมาเกิดในร่างวิษณุก็โมโห อุตส่าห์มาหาถึงที่เขากลับไม่อยู่ เดินกระแทกเท้าปังๆออกไป...
เมื่อมาถึงห้องพักของกิฟท์ วิษณุขอคุยกับนางเอกของตัวเองตามลำพังขอให้เดือนออกไปรอข้างนอก กิฟท์เห็นหน้าตาจริงจังของเขาถามว่ามีอะไรกับเธอหรือ
“ในฐานะผู้กำกับ พี่มีเรื่องอยากให้กิฟท์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตำนานนางบาปที่เราทำละครกันอยู่ กิฟท์รู้ใช่ไหมว่าตำนานมันไม่ได้ตรงกับความเป็นจริงทั้งหมด”
“ค่ะ ไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้นก็ได้มั้งพี่ ก็แค่ละคร”
“ก็ใช่ ละครก็คือละคร มีแค่จุดเดียวที่พี่อยากให้กิฟท์รู้ แล้วทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์จริงๆของคุณกำไลกับนางหยาด ในความเป็นจริงมันค่อนข้างละเอียดอ่อนนะกิฟท์”
“ละเอียดอ่อนช่วงไหนคะ เมียน้อยก็คือเมียน้อยเท่านั้นเอง อยากได้ของคนอื่นจนตัวสั่น”...
ในระหว่างที่วิษณุพยายามหว่านล้อมให้กิฟท์เปลี่ยนมุมมองหยาดใหม่ ผีหยดในร่างรินเกิดคลั่งขึ้นมาจะต้องเจอตัววิษณุให้ได้แต่ไม่รู้เขาไปอยู่ห้องไหน ก็เลยไล่เคาะไปทุกห้องที่อยู่ชั้นเดียวกับห้องของวิษณุ สร้างความรำคาญใจให้ทุกคน
ooooooo
วิษณุยังคงคุยกับกิฟท์ อยากรู้ว่าเธอคิดอย่างไรเกี่ยวกับคุณกำไล รู้สึกเข้าใจตัวละครตัวนี้แค่ไหน
“ก็ชอบนะคะ ชอบสไตล์ตัวตนที่ไม่อยากให้แฟนมีชู้ กิฟท์รู้สึกคอนเนกต์เหมือนเข้าใจเขาเลยว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น บางทีแทบไม่ต้องเล่นอะพี่ คนเรามันก็ต้องรักตัวเองกันทั้งนั้น”
“แล้วถ้าพี่จะบอกกิฟท์ว่า...กิฟท์คือ...เอ่อ” วิษณุหายใจติดขัด “ใจเย็นๆนะกิฟท์ คือ...”
กิฟท์เห็นวิษณุมีอาการแปลกๆลุกไปรินน้ำเย็นมาให้ดื่ม บอกเขาว่าคนที่ควรตั้งสติก่อนคนแรกน่าจะเป็นเขามากกว่า เขาดื่มน้ำไปอึกใหญ่ ถอนหายใจแล้วพูดเพิ่มเติมว่า
“พี่อยากให้กิฟท์ลองตีความดีๆ”
“จะให้กิฟท์ตีความไปทางไหนได้อีกคะ มันก็แค่เรื่องของผู้ชายมักมากอย่างพระวนาเทพกับผู้หญิงตะเกียกตะกายอย่างอีหยาดแค่นั้นแหละค่ะ คนที่น่าสงสารที่สุดคือกำไลนะคะพี่ เขาต้องมาตายฟรีทั้งๆที่ภักดีในความรักพระวนาเทพ” กิฟท์พูดใส่หน้าวิษณุเสมือนคุณกำไลด่าคุณพระวนาเทพไม่มีผิดเพี้ยน เขาถึงกับจุกพูดอะไรไม่ออก...
ผีหยดในร่างรินไล่เคาะมาถึงห้องพักของปาล เจ้าของห้องเปิดประตูรับเจอรินถือมาลัยดอกรักมองเขาตาขวาง เขาดูอย่างไรสายตาที่มองมาก็ไม่ใช่สายตาของริน สายตาใครก็ไม่รู้ที่เขาไม่เคยรู้จัก รินเห็นหน้าเขาก็ตวาดใส่เห็นคุณพระบ้างไหม ปาลมองเธองงๆ ผีหยดรีบเปลี่ยนคำพูด
“เห็นพี่ณุหรือไม่”
“พี่ณุ...คุณมาตามหาพี่ณุห้องผมเนี่ยนะ เขาจะมาห้องผมทำไม”
“พี่ณุมิอยู่ก็แล้วไป จะพูดทำไมให้มากความน่ารำคาญนัก” พูดจบรินหันหลังจะไป ปาลคว้าแขนไว้ ทำให้มาลัยดอกรักที่คล้องแขนเธอร่วงลงพื้น เธอโกรธมาก ชี้หน้าด่ากราดว่ากล้ามากที่มาทำลายของของตน ปาลโมโหหยิบมาลัยดอกรักขึ้นมาขยำ
“แล้วทีคุณเที่ยวทำลายความรู้สึกของคนอื่นคุณทำได้อย่างไรริน”
รินตะปบแขนปาลข้างที่ที่ขยำมาลัยดอกรักของตัวเองไว้แน่นจิกจนเลือดซิบ เขาถึงกับร้องโอ๊ยด้วยความเจ็บปวด รินเย้ยหยัน รู้แล้วใช่ไหมว่าการไม่ได้รับรักตอบมันเจ็บอย่างไร
“ผมรู้ว่าต่อให้ผมทำดีกับคุณแค่ไหน ก็เทียบพี่ณุไม่ได้ เพราะต่อให้พี่ณุทำคุณเสียใจยังไง คุณก็ยังรัก”
“รู้เช่นนั้นก็ดีแล้ว ฉันขอล่ะเลิกขวางทางสักที ทั้งร่างกายและวิญญาณของฉันมันรอคอยแต่พี่ณุ เป็นของพี่ณุคนเดียวทั้งชั่วชีวิตนี้” รินพูดจบผละจากไป ปาลช้ำใจมากปล่อยมาลัยดอกรักทิ้งลงพื้น คิดว่านั่นเป็นคำพูดที่กลั่นจากใจรินโดยหารู้ไม่ว่าทั้งหมดเป็นคำพูดของผีหยด กลับเข้าห้องปิดประตู น้ำตาลูกผู้ชายพานจะไหล...
อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 7 วันที่ 21 ส.ค.61
ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตรละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ