อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 8 วันที่ 25 ส.ค.61

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 8 วันที่ 25 ส.ค.61

“ใช่ เรื่องหมอนั่นฉันทำเอง แม่คิดว่าฉันมันเลวระยำนักใช่รึไม่ ทำได้แม้กระทั่งฆ่าคน แต่ฉันจักบอกแม่เอาไว้เลย ฉันมิได้อยากทำดอก แต่ฉันต้องทำเพื่อตัวเอง” หยดมองหยาดที่เอาแต่นั่งก้มหน้า “เอ็งก็เหมือนกันอีหยาด คิดว่าข้ามันน่าสมเพชมากนักใช่รึไม่ เอ็งถึงได้แย่งคุณพระไปจากข้า”

“ฉันไม่ได้แย่งคุณพระไปจากพี่ ฉันมิได้คิดเยี่ยงนั้นเลย”



“ฮึ ทั้งเอ็งและแม่รู้ความจริงก็คงปรี่ไปบอกคุณกำไลกับคุณพระ ทุกวันนี้ที่ฉันมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะลูก ทั้งความรักทั้งศักดิ์ศรี ฉันก็พึ่งลูกคนนี้จนหมดสิ้น ยิ่งตอนนี้คุณกำไลมีลูกชายแล้ว คุณพระก็มีเอ็งปรนนิบัติพัดวี หากมีผู้ใดเทียวไปบอกเรื่องลูกฉัน คราวนี้เอ็งกับแม่คงสมใจ”

หยาดใจอ่อนตามเคยทนเห็นพี่เสียใจไม่ได้รับปากจะไม่บอกเรื่องพี่แท้งลูกให้ใครฟัง แม่เยื้อนตกใจทำอย่างนั้นเท่ากับช่วยหยดหลอกคุณพระ หยดเห็นแม่ทำท่าจะไม่ช่วยปิดเรื่องแท้งลูก คร่ำครวญทั้งน้ำตาว่าแม่ไม่เคยรัก ไม่เคยทำอะไรเพื่อเธอเลย อยากเห็นเธอเป็นแค่เมียทาส แม่เยื้อนสงสารลูกจับใจ

“หากเอ็งคิดว่าแม่อย่างข้ามิเคยทำอะไรเพื่อเอ็งบ้างเลย นี่จักเป็นครั้งเดียวที่ข้าจักทำเพื่อเอ็ง ข้าจักถือว่าข้าไม่รู้ไม่เห็นเรื่องนี้” พูดจบแม่เยื้อนเดินจากไปทั้งน้ำตา...

ผีหยาดนึกถึงอดีตแล้วอดน้ำตาไหลไม่ได้ หากแม่ไม่ปดเพื่อพี่ในวันนั้น พี่ก็คงต้องถูกแขวนคอไปนานแล้ว

“ฮึ คงจะสุมความแค้นไว้มานานสิหนา สุดท้ายต้องลงมือฆ่าข้าด้วยตัวเอง”

“พี่หยด พอได้แล้ว พี่หยดตรองดูดีๆเถิดหนาว่าทุกอย่างเกิดจากความตั้งใจของแม่หรือ”

ผีหยดรู้ทั้งรู้ว่าเป็นอุบัติเหตุแต่ก็ไม่ยอมรับ ยังคงตัดพ้อต่อว่าแม่เยื้อนที่ทำให้ตัวเองตาย ผีหยาดไม่รู้จะอธิบายอย่างไรว่าแม่รักพี่มากแค่ไหน และตนเชื่อเหลือเกินว่าครั้งนี้ท่านอาจจะมาเพื่อช่วยปลดปล่อยพี่

“คนที่ทำลายชีวิตกูครั้งหนึ่ง จักช่วยกูได้อย่างไร”...

ขณะที่ผีหยดยังแค้นแม่ตัวเองข้ามภพข้ามชาติ ยุพดีที่ยังคุยอยู่กับวิษณุตัดสินใจเล่าความลับเรื่องตัวเองฝันแปลกๆก่อนจะมาที่บางบาปให้ฟัง เธอฝันเห็นตัวเองถือมีดพร้าไว้ในมือ แทงผู้หญิงคนหนึ่ง เดือนกลับเข้ามาพร้อมกระติกน้ำร้อน ทั้งยุพดีและวิษณุจึงต้องหยุดการสนทนาไปโดยปริยาย เดือนเห็นหน้าทั้งคู่ก็ตกใจ

“แม่ ทำไมแม่หน้าซีดแบบนั้นล่ะ พี่ณุก็อีกคน เป็นอะไรกันคะเนี่ย”

“คงมีไข้นิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอกเดือน”

วิษณุถือโอกาสลาเลย ยุพดีจะได้พักผ่อน แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ ชวนท่านไปไหว้พระก่อนกลับกรุงเทพฯ ท่านเป็นสายบุญอยู่แล้วจึงรับคำชวนโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา

ooooooo

เช้าวันถัดมา วิษณุพายุพดีมากราบหลวงพ่อที่วัดบางบาปแล้วเล่าเรื่องที่เกิดในกองถ่ายให้ท่านฟัง

“เมื่อวานคุณแม่เขามาเยี่ยมกองแล้ว มีสภาวะบางอย่างที่เกิดขึ้นคล้ายๆกับเคยเกิดขึ้นกับผมมาก่อน ผมไม่คิดว่าเรื่องทั้งหมดคือความบังเอิญ”

“ไม่มีความบังเอิญบนโลกนี้หรอก การที่โยมได้มาเจอกัน การที่อาตมามานั่งอยู่ตรงนี้ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว กรรมเพียงแต่รอเวลาของมันที่จะปรากฏขึ้นให้เรารับรู้”

“หลวงพ่อหมายความว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับดิฉันเป็นกรรมในอดีตของดิฉันเหรอคะ”

“อะไรเกิดขึ้นกับโยมเล่า”

ยุพดีไม่รู้จะเล่าอย่างไร ทุกอย่างเหมือนฝันแต่ฝันนั้นช่างเหมือนจริงเหลือเกิน ตั้งแต่ตนเดินเข้าไปในตึกวนาเทพ รู้สึกเหมือนเคยอยู่ที่นั่นมาก่อนหลายร้อยปี แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อตนเพิ่งเคยไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แต่ทุกเสียงที่ได้ยิน ภาพประหลาดๆที่เกิดขึ้นในหัว ตนไม่รู้จะอธิบายกับตัวเองอย่างไร

“หลวงพ่อ บอกดิฉันทีได้ไหมคะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน”

“สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว มีเหตุผลในตัวของมันเองเสมอ อาตมาไม่มีคำตอบให้โยมหรอก โยมต้องตามหาคำตอบด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับที่โยมวิษณุดั้นด้นมาถึงที่นี่เพื่อตามหามัน”

“แต่ถึงแม้ผมจะได้รู้แล้วว่าผมเคยเป็นใคร รู้ว่าผมเคยทำบาปกับใครไว้มากแค่ไหนแต่ทำไมผมยังรู้สึกไม่ปลอดโปร่งเหมือนกับผมยังเดินไม่ถึงปลายอุโมงค์เหมือนกับคำตอบมันยังไม่ชัดเจน”

“หากโยมแสวงหาคำตอบของชีวิตก็จักต้องใช้เวลาทั้งชีวิตครุ่นคิดถึงมัน...โยมเองอย่าโทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุสิ่งใดเลย สิ่งใดที่ล่วงไปแล้วให้มันล่วงไปเถิด โยมแบกรับกับผลลัพธ์ของมันทุกอย่างไม่ได้หรอกนะ”

ยุพดีมองหลวงพ่อด้วยความฉงน ที่เหมือนท่านจะมองเห็นทุกความกังวลในใจของเธอ...

ระหว่างเดินมาขึ้นรถ ยุพดีขอร้องวิษณุช่วยเล่าเรื่องที่เราคุยกันค้างจากเมื่อคืนมาให้หมด

“ผมสามารถติดต่อกับนางหยาดได้ครับแม่ ทำให้ผมต้องยอมจำนนว่าผมคือพระวนาเทพและผมยังเจอหลักฐานหลายๆอย่างที่บอกผมว่าบางทีแม่อาจจะเป็นแม่เยื้อนแม่ของหยดและหยาดในชาติที่แล้วน่ะครับ”...

ที่มุมหนึ่งของกองถ่ายละครนางบาป เดือนได้ยินรินกับบอลถามหาวิษณุ จัดแจงคุยอวดตอนนี้เขาไม่อยู่ออกไปกับแม่ของเธอตั้งแต่เช้า เขารู้ว่าท่านชอบทำบุญก็เลยเอาใจพาไปวัด รินแค่พยักหน้ารับรู้ ไม่ได้ให้ความสนใจว่าเขาจะสนิทอะไรกับใครแค่ไหน กิฟท์กับพาไลเดินเม้าท์เข้ามาทันได้ยิน

“แหม ต่อไปกิฟท์ต้องประจบเดือนบ้างแล้ว ซี้กับผู้กำกับขนาดนี้ไม่บอกกันเลยนะคะ”

“นิดหน่อยน่ะค่ะ เมื่อคืนพี่ณุก็มาคุยเล่นกับแม่ที่ห้องทั้งคืน”

ต้นแปลกใจเดือนไปสนิทกับพี่ณุตั้งแต่ตอนไหน เธอตอบไม่เต็มเสียงนักว่าพี่ณุเคยเป็นแฟนกับพี่สาวของเธอ ต้นอึ้งไปเล็กน้อยแต่ก็รีบยิ้มรับกลบเกลื่อน วิษณุกลับมาพอดี เดือนไม่เห็นแม่มาด้วยถามว่ากลับกรุงเทพฯไปแล้วหรือ เขาพยักหน้า ขอโทษทุกคนที่กลับช้าไปหน่อย ชวนทุกคนถ่ายละครกันเลยดีกว่าแล้วถามว่าพร้อมไหม กิฟท์สวนทันทีว่าพร้อมมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว

ooooooo

ยุพดีระลึกชาติได้มากขึ้นเป็นลำดับ มองปลาบู่ที่ตัวเองทอดอยู่ในกระทะ พลันภาพในอดีตเมื่อชาติที่แล้วผุดขึ้นมาในความคิดคำนึงของเธอ ตอนนั้นเธอในคราบแม่เยื้อนทำต้มปลาบู่เอาไว้ หยาดเข้ามาช่วยเป็นลูกมือ ได้กลิ่นหอมของกับข้าวถามว่าต้มอะไร ไม่คุ้นตาเลย

“ต้มปลาบู่น่ะ ยากเหลือเกินกว่าจักซื้อได้สักตัว”

“โห ปลาบู่คงจักอร่อยมากเลยสิจ๊ะแม่ ฉันตื่นเต้นอยากลองชิมเหลือเกิน”

ทาสเดินผ่านมาได้ยินก็กระเซ้าว่าวันนี้แม่เยื้อนเอาปลาบู่มาทำกับข้าวกินเลยหรือ ชมหยาดว่ามีวาสนาสูงอ้อนแม่จนได้กินปลาบู่เป็นกับข้าว หยาดยิ้มค้างเมื่อแม่ขัดขึ้นว่าปลาบู่เป็นของชอบของหยด ได้ยินมันบ่นอยากกิน วันนี้เห็นเรือนครัวมีตนก็เลยใช้อัฐไปแลกจากนางชื่นมา

ทาสได้ยินว่าทำให้หยดก็ชักสีหน้าใส่

“นังเยื้อน เอ็งก็เหลือเกินจริงๆ ลูกเลวแบบอีหยดยังจักไปเอาใจมันอีก เดี๋ยวมันก็เหลิงละเลิงกันไปใหญ่ ไม่เห็นหัวแม่หัวเชื้อกันพอดี”

“เอ็งก็ เด็กมันยังเล็ก มิรู้ความอันใดดอก เหตุใดต้องพูดร้ายใส่มันเยี่ยงนี้” แม่เยื้อนแก้ตัวแทนหยดทำให้ทาสไม่ชอบใจต่อว่าเธอว่าแทนที่จะเอาใจหยาดที่อุตส่าห์มาช่วยทำกับข้าว กลับนึกถึงแต่หยด

“ข้าเป็นแม่ ถ้าทำได้ก็จักเอาใจลูกทุกคนมิต่างกันดอก”

ทาสขี้เกียจเถียงด้วย แล้วแต่แม่เยื้อนก็แล้วกัน จากนั้นก็ผละจากไป แม่เยื้อนทำกับข้าวต่อสีหน้ามีความสุข ขณะที่หยาดแอบน้อยใจที่แม่ทำกับข้าวที่มีแต่ของชอบของพี่สาว...

จากนั้นไม่นาน แม่เยื้อนกับหยาดช่วยกันยกสำรับมาวาง แม่เยื้อนยกต้มปลาบู่ไปวางตรงหน้าหยด แล้วแกะปลาชิ้นหนึ่งแบ่งใส่จานให้หยาด หยดรีบแย่งคืน

“นี่มันปลาของข้า แม่ตั้งใจทำให้ข้ามิใช่รึ แล้วจักแบ่งให้อีหยาดมันได้เยี่ยงไร”

“เอ๊ะอีหยด เอ็งคิดจักกินปลาเพียงคนเดียวได้เยี่ยงไร มิคิดแบ่งน้องแบ่งนุ่งมันบ้างรึ”

หยดไม่ยอมแบ่งในเมื่อแม่ทำให้เธอ อะไรที่เป็นของเธอจะต้องเป็นของเธอคนเดียวไม่มีวันแบ่งให้ใคร หยาดเห็นแม่กับพี่สาวเริ่มเถียงกัน รีบบอกว่าไม่เป็นไรเธอชอบกินผักแล้วกินอวดแม่

“โธ่ อีหยาดเอ๊ย น่าเอ็นดูจริง เอ็งยังเล็กยังน้อย แต่ยังรู้จักดูแลพี่สาวเยี่ยงนี้ ข้าเห็นแล้วชื่นใจนัก ต่อไปเอ็งต้องช่วยข้าดูแลนังหยดมันรู้หรือไม่”

หยาดรับคำ แม่เยื้อนลูบหัวเธอด้วยความเอ็นดู...

ไม่ใช่แค่ช่วยแม่ดูแลหยดเท่านั้น หยาดยังรับผิดแทนอีกด้วย มีอยู่คราวหนึ่งหยดอยากกินมะม่วงแทนที่จะขอเจ้าของดีๆกลับสั่งหยาดให้ปีนไปเก็บให้ เจ้าของต้นมะม่วงจับได้จะเอาเรื่อง หยดผลักน้องให้ออกไปรับหน้า แถมโกหกว่าน้องเป็นคนต้นคิด เจ้าของมะม่วงคว้าไม้ไล่ตีทั้งพี่ทั้งน้อง แม่เยื้อนต้องวิ่งเอาตัวกันลูกไว้

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 8 วันที่ 25 ส.ค.61

ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตร
ละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ