My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 5 วันที่ 7 ส.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 5 วันที่ 7 ส.ค.61

ผีอัศนีคำราม แล้วแววตาก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อนึกถึงเรื่องอดีต และบรรยากาศรอบตัวก็เปลี่ยนไป ในห้องเต็มไปด้วยหมอกขาวปกคลุม เสียงปืนกล เสียงระเบิดดังแว่วขึ้น...

ริศากับอคินมาอยู่ในบรรยากาศสงคราม ริศาถามว่าที่นี่ที่ไหน อคินถามว่าพาพวกตนมารบกับใคร

“นี่แหละ...ที่ที่ฉันเอาชีวิตมาเสี่ยงทุกวัน”

พริบตานั้น บรรยากาศก็ตกอยู่ในภาวะสงคราม สันติกับอัศนีออกปฏิบัติภารกิจด้วยกัน เจอขบวนขนอาวุธ สันติบอกให้อัศนีกลับเข้าประจำหมู่เดี๋ยวนี้ แต่อัศนีปฏิเสธ


“อัศนี นายกำลังปฏิบัติการนอกเหนือคำสั่ง กลับเข้าประจำหมู่เดี๋ยวนี้ เราต้องกลับฐานแล้ว”

“เชิญ...ขอฉันจัดการไอ้ขบวนนี้ก่อน”

 อัศนีตอบอย่างมุ่งมั่น ตาจ้องผ่านระบบเล็งเป้ายิง เห็นขบวนรถก็กดปุ่มยิงจรวดใส่ทันที

“อัศนี...กลับเข้าประจำหมู่ เรากำลังจะกลับฐาน”

“รับทราบ”

เครื่องบินของอัศนีบินวนกลับเข้าประจำหมู่ เครื่องบินสองลำบินเคียงคู่กันไปบนท้องฟ้า ผ่านควันระเบิดที่ลอยอยู่บนพื้นข้างล่าง...

ooooooo

การปฏิบัติการนอกเหนือคำสั่งของอัศนีด้วยข้ออ้างว่าระเบิดมันเหลือ สันติถามว่าแล้วถ้าข้างล่างมันมีปืนต่อสู้อากาศยานยิงสวนขึ้นมาจะทำยังไง คิดถึงอนงค์บ้างหรือเปล่า

สันติตำหนิว่าอัศนีทำนอกเหนือคำสั่งถ้าพลาดขึ้นมาจะทำยังไง อัศนีตะแบงว่า “กูก็ตาย แค่นั้น”

สันติถามว่าเขาคิดถึงอนงค์บ้างไหมถ้าเขาเป็นอะไรไปอนงค์จะอยู่ยังไง ก็ถูกอัศนีประชดว่า เขาเป็นห่วงอนงค์ยิ่งกว่าตนอีก สันติโมโหสุดขีด กระชากคอเสื้ออัศนีจะชก

ชาร์ลีกับเดวิดเดินเข้ามาแยกทั้งสองออกจากกัน ชาร์ลีปรามว่า

“คำสั่งคือคำสั่ง หลังจากนี้ห้ามทำอะไรนอกเหนือปฏิบัติการอีก เข้าใจรึยัง”

“ครับผม” ทั้งสองรับคำ มองหน้ากันเคืองๆ แล้วหันหลังเดินออกไปคนละทาง

ผีอัศนียืนอยู่กับริศาและอคินมองภาพในอดีตที่เพื่อนรักเดินหันหลังจากกันอย่างเจ็บปวด

อัศนีพยายามหัดสานปลาตะเพียนจากใบมะพร้าวเตรียมให้ลูกเล่น เพราะสานไม่เป็นปลาตะเพียนที่สานออกมาเป็นกองจึงบิดเบี้ยว เขาบอกอนงค์ว่าให้พี่ขับเครื่องบินไปทิ้งระเบิดสักร้อยรอบยังจะดีกว่า

อนงค์ขอร้องอย่าพูดถึงสงครามอีกเลย ทุกครั้งที่เขาขึ้นบินตนใจหายกลัวเขาจะไม่ได้กลับมา

อัศนีบอกว่ามันเป็นงาน และถ้าตนบินครบร้อยภารกิจ เราจะมีเงินเยอะมากเลย แล้วพี่ก็จะได้กลับไป

อนงค์ไม่อยากฟัง ถามว่ารู้ไหมว่าทุกครั้งที่เขาขึ้นบินตนใจหายแค่ไหน กลัวเขาจะไม่ได้กลับมาถามว่า

“ทำไมพี่ถึงภูมิใจนักกับการเป็นทหารรับจ้างพวกอเมริกา มันจ้างไปบินก็ไป จ้างให้ไปตายก็ไป พี่ขายชีวิตแลกเงินอย่างนั้นหรือ”

อัศนีชี้แจงว่าตนไม่ได้ทำเพื่อเงิน แต่ทำเพื่อชาติเพื่อไม่ให้สงครามแบบนั้นข้ามพรมแดนมาในแผ่นดินของเรา

อนงค์ตัดพ้อว่าเขาพูดเหมือนไม่มีอะไรต้องห่วง ตนยอมมีผัวสานปลาตะเพียนขายใช้ชีวิตจนๆ ดีกว่าให้ผัวไปตายที่บ้านเมืองใครก็ไม่รู้ อนงค์ลุกไปนั่งที่อื่นงอนๆ

อัศนีตามไปอธิบายว่าตนเข้าใจเธอแต่ก็อยากให้เธอเข้าใจตนบ้าง ไม่อยากให้เรียกตนว่าเป็นทหารรับจ้าง ตนไปด้วยใจ ไม่อยากให้บ้านเมืองเราต้องฉิบหายเพราะไฟสงคราม อนงค์เข้าใจแต่ก็ขอให้เขาคิดถึงหัวอกตนบ้าง อัศนีบอกว่า

“คิดถึงตลอดเวลา”

“ถ้างั้นถ้าจะทำอะไรที่มันจะเสี่ยง ก่อนทำพี่ก็ช่วยนึกถึงลูกที่ยังไม่ลืมตามาดูโลกบ้าง ฉันอยากให้ลูกได้อยู่ดูหน้าพ่อ รู้ไหม”

“รู้ แล้วพี่ก็อยากเห็นลูกได้เล่นปลาตะเพียนสานฝีมือพี่ ตัวนี้ด้วย” อัศนีชูปลาตะเพียนสานบิดเบี้ยวให้อนงค์ดู เลยหัวเราะขำกอดกันด้วยความเข้าใจ แต่สีหน้าอนงค์ก็ยังเต็มไปด้วยความกังวล

ooooooo

อนงค์เปิดโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษพื้นฐานให้แก่บรรดาเมียเช่าและผู้หญิงที่ทำงานกับพวกทหารต่างชาติ ริศาดูแล้วทักว่าครูอนงค์ท้องแก่ขนาดนี้แล้วยังทำงานอีกหรือ

อัศนีบอกว่าห้ามแล้วก็ไม่ฟัง บอกว่าต้องช่วยตนหาเงินไว้เตรียมเลี้ยงลูก

ทันใดนั้นภาพที่ปรากฏคืออนงค์เจ็บท้องคลอด พวกนักเรียนจึงช่วยกันประคองส่งโรงพยาบาล ระหว่างนั้นอนงค์ขอให้ใครก็ได้ช่วยเรียกพี่อัศนีมาที บอกลูกว่า “อย่าเพิ่งออกมา รอพ่อจ๋าของหนูก่อน”

ที่ฐานทัพอเมริกันประจำจังหวัดอุดรฯ เดวิดบอกอัศนีทันทีที่เห็นเขาเดินเข้าไปในอาคารปฏิบัติงานว่าให้รีบไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ เมียเขาเจ็บท้องแล้ว อัศนีตื่นเต้นมากขอยืมมอเตอร์ไซค์ของเดวิดบิดไปอย่างเร็วทันที

อัศนีไปถึงโรงพยาบาลก็วิ่งฝ่าบรรดาเมียเช่าที่พาอนงค์มาโรงพยาบาล ร้องบอกตลอดทาง

“อนงค์...อนงค์...พี่มาแล้ว”

อนงค์ดีใจมาก บอกว่าลูกของเรากำลังจะคลอดแล้ว อัศนีร้อนใจถามว่าทำไมหมอยังไม่มา พอหมอมา หมอบอกว่าปากมดลูกของอนงค์ยังเปิดไม่เต็มที่ หมอยังทำคลอดไม่ได้ อัศนีจึงไปรอข้างนอก

“พี่อย่าไปไหนนะ พี่ต้องอยู่กับอนงค์จนกว่าอนงค์จะคลอด เราต้องอยู่ดูหน้าลูกพร้อมกันนะพี่ สัญญาสิ สัญญา...พี่อัศนี”

“พี่จะไม่ไปไหนอนงค์ พี่จะอยู่ตรงนี้ เราจะได้อยู่พร้อมหน้ากัน พ่อ แม่ ลูก”

ผีอัศนีดูเหตุการณ์วันนั้นอย่างขมขื่น

ooooooo

อนงค์เจ็บท้องคลอดแต่ยังไม่คลอด ทั้งกังวลทั้งกลัว แต่อัศนีก็เฝ้าปลอบว่าไม่ต้องกลัวอดทนนิดหนึ่งตนจะไปตามหมอ

 “พี่อัศนี ถ้าอนงค์ตายล่ะ ถ้าอนงค์เป็นอะไรไป แล้วลูก...ลูกของเรา พี่ต้องอยู่ดูแลลูกของเรานะ”

 “ไม่หรอก อนงค์ที่รักของพี่ อนงค์จะไม่เป็นไร แล้วเราจะได้อยู่กันพร้อมหน้า เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ไงจ๊ะ”

 อนงค์กัดฟันพยักหน้าแต่เจ็บจนทนไม่ไหวร้องโอ๊ยๆ อัศนีรวบตัวอนงค์มากอดไว้แน่น

 เช้าตรู่วันต่อมาอนงค์ถูกเข็นออกจากห้องพักฟื้น อัศนีถลาเข้าไปกุมมืออนงค์ข้างเตียงไม่ปล่อย พร่ำบอก

 “อนงค์ ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะรออยู่ตรงนี้ อนงค์...พี่จะรอดูหน้าลูกของพี่ที่นี่”

 “สัญญานะ...สัญญา...”

 “สัญญา พี่เตรียมของไว้รับขวัญลูกเราด้วยอนงค์...นี่...”

อัศนีจะหยิบสร้อยออกมาให้ดูแต่ไม่ทัน อนงค์ร้องอย่างเจ็บปวด พยาบาลจึงรีบเข็นเตียงไปห้องคลอด

อัศนีมองตามไปอย่างเป็นห่วง แล้วมองสร้อยในมือ

ระหว่างที่อนงค์อยู่ในห้องคลอดนั่นเอง เดวิดก็เข้ามาบอกอัศนีอย่างเร่งรีบว่าเขาต้องกลับฐานเดี๋ยวนี้ อัศนีบอกว่าตอนนี้ตนไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นเพราะเมียจะคลอดลูกแล้ว

“อัศนี ชาร์ลีให้มาตาม มีภารกิจด่วนฉุกเฉินนายต้องตามฉันกลับฐานเดี๋ยวนี้” อัศนีถามว่าให้คนอื่นทำแทนไม่ได้หรือ “ไม่ได้ ชาร์ลีระบุรายชื่อคนที่จะต้องไปทำงานนี้มาแล้ว มาเร็ว”

“เดวิด...แต่ผมปล่อยเมียผมไว้คนเดียวอย่างนี้ไม่ได้”

อัศนีละล้าละลัง ลำบากใจมาก ทันใดสันติก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามา บอกว่าตนเพิ่งกลับจากอบรมต่างจังหวัดได้ข่าวว่าอนงค์จะคลอดลูกเป็นยังไงบ้าง เดวิดบอกว่าสันติมาก็ดีแล้ว ให้เฝ้าอนงค์แทนอัศนีหน่อย เพราะอัศนีต้องไปทำภารกิจเดี๋ยวนี้

“งานอะไรเดวิด อนงค์กำลังจะคลอดลูก ให้อัศนีมันได้เห็นหน้าลูกก่อนไม่ได้รึไง”

เดวิดบอกว่าชาร์ลีย้ำว่าต้องเป็นนักบินมือดีที่สุดไปทำงานนี้ สันติจึงอาสาไปแทน เพราะชาร์ลีเคยบอกว่าเราสองคนเป็นนักบินมือดีที่สุด อัศนีไปไม่ได้ตนไปแทนเอง อัศนีติงว่าเขาไม่ต้องทำเพื่อตน

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 5 วันที่ 7 ส.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทประพันธ์โดย นภสร
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทโทรทัศน์โดย ทิพย์สุดา
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ