อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 5 วันที่ 16 ส.ค.61

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 5 วันที่ 16 ส.ค.61

รินเขินหนักทำอะไรไม่ถูก คว้าซาลาเปายัดใส่ปากแก้เขิน จังหวะนั้นทีกับกอล์ฟเข้ามาตามปาล อิ่มเมื่อไหร่จะได้ไปดูตึกกัน พ่อรินขอให้รินเป็นคนพาพวกหนุ่มๆไป แนะให้เริ่มไปดูตึกตั้งแต่ศูนย์ข่าวพรหมเทพไล่ไปตามถนนเรื่อยๆ รินรับหน้าที่ไกด์จำเป็นด้วยความเต็มใจ...

ขณะรินพาปาลกับพวกทัวร์ตึกโบราณของภูเก็ต วิษณุเอาบันทึกต้นตระกูลคุณพระวนาเทพมาให้ธานีดู อธิบายว่านี่คือหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญมากที่เล่าเรื่องจริงๆของนางหยาด เจ้าของตำนานบางบัวบาน ซึ่งเรื่องจริงกับตำนานต่างกันอย่างสิ้นเชิง ธานีสงสัยเขาเอามาให้ดูทำไม



“คือตอนนี้ผมได้หยุดกองละครนางบาปบางบัวบานไว้ชั่วคราวครับ ผมจะขอเวลาแก้บทตามความจริงในบันทึกเล่มนี้ครับ”

ทีแรกธานีไม่สนใจว่าเรื่องจริงกับตำนานจะต่างกันแค่ไหน ให้วิษณุถ่ายทำตามบทเดิมที่เขียนเอาไว้ แต่พอต้นเข้ามาช่วยพูดเท่านั้น ท่าทีของธานีก็เปลี่ยนไปจะลองพิจารณาเรื่องนี้ดูอีกที...

ครู่ต่อมาวิษณุพาต้นมากินอาหารหรูเพื่อขอบคุณที่ช่วยพูดจนธานียอมรับฟัง ต้นขอร้องอย่าถือเป็นบุญเป็นคุณอะไร วิษณุเองเคยช่วยตนไว้มากกว่านี้อีก ตอนนั้นที่อยู่เมืองนอกถ้าไม่ได้เขาช่วยไว้ตนไม่รู้จะเอาชีวิตรอดอย่างไร วิษณุเกรงใจนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้นช่วย ละครก็ยอมมาเล่นให้

“แค่นี้เล็กน้อยมากเลยพี่ ได้ทำงานกับพี่ ผมมีความสุขเพราะผมนับถือในตัวพี่และผมก็อยากให้พี่ได้ทำงานอย่างมีความสุข ถ้าต้องช่วยอะไรมากกว่านี้ผมก็ยินดี”

ooooooo

การได้พาปาลกับเพื่อนๆมาวาดรูปตึกโบราณของภูเก็ตทำให้รินลืมเรื่องถ่ายละครไปได้ ยิ่งได้เห็นภาพวาดลายเส้นสวยๆฝีมือเขาก็ยิ่งประทับใจ แอบไปสเกตช์ภาพเองบ้าง พอปาลมาใกล้ๆเธอรีบคว่ำรูป เขาขอดูหน่อย สัญญาจะไม่หัวเราะ เธอถึงยอมเอารูปให้ดู เขาเห็นลายเส้นแบบเด็กอนุบาลกลั้นหัวเราะจนจมูกบาน

รินเห็นหน้าเขาถึงกับขำก๊ากแล้วขอภาพสเกตช์คืนเขาไม่ให้เอารูปวิ่งหนีโดยมีเธอวิ่งไล่อย่างสนุกสนาน...

เสร็จจากวาดภาพตึกโบราณ รินพาปาลกับพวกไปชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ ปาลเห็นเธอดูผ่อนคลายอดทักไม่ได้ เวลาเธออยู่ที่นี่เหมือนเป็นอีกคนดูสบายใจมีความสุข

“ก็ถิ่นฉันนี่ ภูเก็ตเป็นเมืองที่เจ๋งที่สุดในโลก คุณไม่รู้หรอก” รินพูดไม่ทันขาดคำมีสายจากทีมงานละครโทร.เข้ามาสอบถามเรื่องเอกสาร ปาลเห็นเธอหน้าเครียดขึ้นมาอีก รอจนวางสายคว้ามือถือไปปิดเครื่อง

“คุณน่ะใช้งานตัวเองมามากแล้ว หัดพักบ้างเถอะ สะกดเป็นไหมคำว่าพักอ่ะ”

แม้จะอึดอัดที่มือถือถูกปิดเครื่องเพราะชินกับการเปิดไว้ตลอดเวลา แต่ก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก...

กลับถึงรีสอร์ตพวกหนุ่มๆเอาภาพสเกตช์ตึกโบราณมาให้พ่อรินดูในฐานะที่เป็นสถาปนิกรุ่นพี่ ต่างได้รับคำชมกันถ้วนหน้าโดยเฉพาะปาลที่วาดเส้นสายได้สวยมีมิติ

ระหว่างกินมื้อค่ำที่ทางทะเลรินรีสอร์ตขอเป็นเจ้ามือ แม่รินเห็นว่าปาลกับพวกจะอยู่แค่ถึงวันมะรืน อยากให้เขากับรินได้ทำความคุ้นเคยกันจึงเสนอให้ลูกพาเขาไปเที่ยววันพรุ่งนี้อีกวันหนึ่ง เธอส่ายหน้าบอกให้เขาไปเอง พรุ่งนี้เธอไม่ว่างต้องช่วยแม่ดูรีสอร์ต ท่านขอร้องอย่ามาทำเป็นลูกกตัญญูหน่อยเลย ถ้าอยากกตัญญูจริงๆก็ให้รีบแต่งงานปั้นหลานให้จะดีกว่า ปาลอมยิ้มรู้ว่าแม่เชียร์ตัวเองสุดลิ่ม

“วันนี้วันเดียวก็ไปมาตั้งหลายที่แล้วนะ” พ่อรินทักท้วง ทีเห็นด้วยพรุ่งนี้ว่าจะพักสักหน่อย ปาลไม่อยากพักมาถึงหลังคนอื่น อีกทั้งยังไม่ค่อยถูกใจรูปพวกนี้ แม่รินสบช่องวานรินพาปาลไปหน่อยก็แล้วกัน ส่วนคนอื่นให้พักอยู่ที่นี่ เดี๋ยวท่านจะดูแลเอง

ooooooo

ยุพดีแม่ของเดือนกับฝนไม่ได้เจอกับวิษณุนานแล้วตั้งแต่เลิกรากับฝน ท่านคิดถึงก็เลยให้เดือนโทร.ตาม โดยไม่รู้ชาติก่อนท่านเป็นแม่ของหยดกับหยาด ท่านเห็นเขาหน้าเครียดๆ ถามว่าละครมีปัญหาใช่ไหมเห็นเดือนเล่าให้ฟัง เขายอมรับว่าใช่ ตอนนี้พยายามแก้บทให้ละครใกล้เคียงความจริงมากที่สุด

“แม่เอาใจช่วยนะ เห็นในข่าวละครน่าสนุกแม่ยังอยากดูเลย น่าจะสำเร็จด้วยดีเลยล่ะลูก เห็นเดือนเล่าว่าทาสในเรื่องมันผูกคอตายใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นทำไมณุไม่ทำเรื่องนี้เป็นละครผี คนชอบดูกันนะ”

เดือนบ่นอุบแค่นี้ก็เจอผีหลอกไม่เว้นวันอยู่แล้ว ยุพดีดูเหมือนจะไม่สนใจสิ่งที่ลูกพูด ยังคงเสนอแนะให้วิษณุลองทำละครผี แถมยังมีเรื่องผีสมัยก่อนเล่าให้เขาฟังเผื่อจะใช้เป็นพล็อตเรื่องได้...

ในเวลาเดียวกัน ผีหยดยังเคืองน้องสาวไม่หายที่ทำให้แผนสิงร่างรินต้องพังไม่เป็นท่า แล้วกองละครหายไปหมดอย่างนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมาอีก ผีหยาดปลอบพี่สาวแม้จะสิงรินได้ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา พี่ก็รู้ดีว่าเราไม่สามารถยึดร่างใครได้ตลอดเวลา เว้นเสียแต่ทำได้อย่างกะเทยอีเสนกลีบ

“อีเสนกลีบที่แม่เล่าน่ะรึ” ผีหยดชักจะสนใจขึ้นมา...

ช่างบังเอิญเหลือเกินเรื่องที่ผีหยาดกับผีหยดคุยกันเป็นเรื่องเดียวกับที่ยุพดีเล่าให้วิษณุฟังว่าเมื่อร้อยปีก่อนมีผีผู้หญิงไปเข้าร่างผู้ชายแล้วยึดร่างนั้นไว้เป็นของตัว ส่วนวิญญาณเจ้าของร่างก็เลยกลายเป็นผีเร่ร่อน ที่แปลกก็คือผีผู้หญิงตนนั้นตอนเป็นคนเคยเป็นเพื่อนสนิทของแม่เยื้อน ตายเพราะเป็นไข้ป่า

ในคืนหนึ่งที่เกิดจันทรุปราคาหรือคืนเดือนดับเหมือนกับคืนที่หยาดและหยดตาย อ้ายเสนเสียใจที่เมียทิ้งไปหาชายชู้ เลยไปแขวนคอตายใต้ต้นมะขามคู่โดยใช้ผ้าขาวม้าต่างเชือก ผีกลีบแอบมองอยู่จังหวะที่อ้ายเสนขาดใจตาย ผีกลีบโดดเข้าสิงร่าง อ้ายเสนที่ตายไปแล้วกลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง กลายเป็นผีกะเทย กายเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง วิษณุพึมพำคืนเดือนดับอย่างนั้นหรือ ยุพดีได้ยินไม่ถนัดถามว่าพูดอะไร

“ไม่มีอะไรครับ แต่ผมหาข้อมูลเจอว่าวันที่ตัวละครในตำนานนางบาปทั้งหมดตายเป็นคืนเดือนดับ”...

ผีหยดนึกถึงคืนเดือนดับขึ้นมาได้ก็ตาโตตื่นเต้นเห็นความหวังรำไร ผีหยาดหวั่นใจกลัวพี่สาวจะเลียนแบบผีกลีบ จึงแกล้งพูดว่าเรื่องที่แม่เล่าให้เราฟังเป็นแค่นิทานสนุกๆเท่านั้น

“อีหยาด มึงก็รู้ว่าเรื่องจริง ป้า เอ๊ยลุง เอ๊ย...ป้าเสนกลีบมึงก็เคยเจอแกอยู่ตั้งนมนาน...ได้กาลล่ะ กูรอวันจันทรคราสเดือนดับหนา แลแย่งร่างอีรินมันมาเป็นของกู แลครองคู่คุณพระในชาตินี้ไปจนตาย”

ooooooo

รินขับรถพาปาลทัวร์ภูเก็ตจนทั่วตั้งแต่ยังไม่ทันบ่ายหมดมุกไม่รู้จะพาไปไหนอีก เขาเปิดดูจากกูเกิล เห็นสะพานสารสินน่าสนใจเพราะไม่ใช่เป็นแค่สะพานแต่มีตำนานเล่าขานอีกด้วยว่ากิ่วนักศึกษามีอนาคต มารักกับโกดำที่เป็นคนขับรถสองแถว ความรักเป็นพิษทำให้ทั้งคู่มาโดดสะพานแห่งนี้ตายพร้อมกัน

“ว่ากันว่าในคืนพระจันทร์เต็มดวงจะมีกระต่ายสีขาวตาแดงสองตัวมาเดินคลอเคลียกันที่สะพานนี้ให้เห็นอยู่เรื่อย อาจจะเป็นวิญญาณของโกดำกับกิ่ว...

ถ้าเป็นคุณล่ะ ถ้ารู้ว่าความรักมันไม่มีทางเป็นไปได้คุณจะทำไง”

“ฉันก็คงเลิก แล้วก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตต่อ”

ปาลเซ็ง ทำไมรินถึงยอมแพ้ง่ายนัก เธอไม่เห็นความจำเป็นอะไรในเมื่อความรักเป็นไปไม่ได้จะเสียเวลาไปทำไม เขาตั้งข้อสังเกตทำไมพูดราวกับไม่เคยเสียใจ ไม่เคยรักใคร รินยิ้มแหย นึกถึงตอนตัวเองชอบวิษณุ ก่อนจะถามกลับไปบ้างว่าถ้าเป็นเขาจะทำอย่างไร เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่เคยต้องสู้เพื่อใครขนาดนั้น

“แต่ถ้าวันหนึ่งต้องทำ ผมคงจะทำทุกอย่างแบบที่ผมไม่ต้องกลับมาโกรธตัวเองว่ายังไม่ได้ทำอะไรเพื่อให้ได้อยู่ด้วยกัน แล้วสุดท้ายถ้ามันยังเป็นไปไม่ได้ ผมก็คงไม่เสียใจเพราะอย่างน้อยผมก็ได้ทำเพื่อความรักอย่างเต็มที่แล้ว” คำพูดของปาลทำเอารินเคลิ้ม ต้องรีบดึงตัวเองกลับมา

“คุณอย่าไปเชื่อมากนักเลย ตำนานก็แค่เรื่องเล่าที่ฉันเคยได้ยิน ผู้ชายดึงผู้หญิงบังคับให้กระโดดลงไปพร้อมกันทั้งที่ไม่เต็มใจนะ”

ปาลอยากพิสูจน์ว่ามีกระต่ายสีขาวตาแดงสองตัวมาเดินเล่นบนสะพานแห่งนี้จริงหรือเปล่า ชวนรินให้อยู่ที่นี่จนถึงกลางคืน เธอนึกสนุกรับคำชวนของเขา...

นั่งคุยกันไปชมวิวกันไปตั้งแต่เย็นจนค่ำไม่เจอกระต่ายสักตัว จันทร์เต็มดวงยิ่งทำให้สะพานแห่งนี้สวยงาม รินอยากรู้หากปาลต้องสร้างตึกตรงนี้ตรงสะพานนี่ จะออกแบบอย่างไร เขามองไปรอบๆก่อนจะตอบว่า คงไม่ทำอะไรเลยเพราะทุกอย่างดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลานี้ตอนนี้ พูดพลางจ้องรินเขม็งจนเธอเขิน

“ผมดีใจนะที่ได้เจอคุณบนเครื่องบิน ดีใจที่ได้มาพักบ้านคุณ”

“มันก็แค่เรื่องบังเอิญน่ะคุณ”

“ใครจะรู้ล่ะคุณ มันอาจจะเป็นการดลใจของอำนาจที่มองไม่เห็น แรงกรรมในอดีตชาติแบบที่ดลใจให้พี่ณุมาทำละครนางบาปบางบัวบานก็ได้นี่ แต่จะคืออะไรก็ตามผมก็ขอบคุณนะ ทริปนี้ผมมีความสุขมากเลย” ไม่พูดเปล่าปาลส่งตาหวานมาให้ รินเขินจัดชวนเขากลับกันได้แล้วป่านนี้กระต่ายหนีกลับพระจันทร์ไปแล้ว...

ไม่ใช่แต่ปาลเท่านั้นที่มาเที่ยวทริปนี้อย่างมีความสุข รินเองก็สุขใจไม่แพ้เขาเช่นกัน แม้เธอพยายามเก็บอาการเอาไว้ แต่ไม่พ้นสายตาของแม่กับพ่อ ในเมื่อปาลทำให้ลูกสาวของพวกท่านมีความสุข ท่านจึงเชียร์เขาออกนอกหน้า เล่นเอารินเขินแล้วเขินอีก...

ในเวลาเดียวกัน วิษณุกำลังมุ่งมั่นเขียนบทละครเรื่องนางบาปบางบัวบานใหม่อยู่ที่ออฟฟิศ บอลที่นั่งเช็กเทปรายการอยู่ข้างๆนึกถึงรินขึ้นมาได้ จัดแจงโทร.ถามว่าจะกลับกรุงเทพฯเมื่อไหร่ แต่ติดต่อไม่ได้ เธอปิดเครื่อง วิษณุบอกให้เขาปล่อยเธอพักบ้างก็ดี ตนกวนเธอมาเยอะแล้ว รอช่องตัดสินใจก่อนค่อยตามเธอกลับ

“แล้วช่องเขามีท่าทีอย่างไรบ้างล่ะพี่หลังจากไปคุย”

“เขาก็บอกจะพิจารณา นี่ก็จะวีกแล้วยังไม่ติดต่อกลับมาเลย พรุ่งนี้พี่คงตามเรื่องแล้ว ระหว่างรอพี่ก็แก้บทไปพลางๆ” วิษณุพิมพ์งานต่อสีหน้าหนักใจ

ooooooo

ทีกับกอล์ฟกลับรถตู้ มีปาลคนเดียวที่กลับเครื่องบิน รินอาสาขับรถไปส่งที่สนามบินให้ แม่รินกับพ่อยังอุตส่าห์เชียร์เขาตบท้ายก่อนจะจากกัน และยังฝากให้ช่วยดูแลรินตอนอยู่กรุงเทพฯให้ท่านด้วย แถมยังบอกอีกด้วยว่าทีหน้าทีหลังไม่ต้องเรียกท่านทั้งสองว่าคุณน้าให้เรียกพ่อกับแม่

ไม่นานนักรินขับรถพาปาลมาถึงสนามบิน บังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อที่ได้เจอกับคุณน้อยเจ้าของตึกวนาเทพที่เพิ่งเดินทางมาถึงภูเก็ต ทั้งสามคนจึงพากันไปนั่งคุยที่ร้านกาแฟภายในสนามบิน คุณน้อยเล่าว่าแฟนของเธอเพิ่งมาจากอิตาลีก็เลยมาเที่ยวที่นี่ แล้วถามทั้งคู่ว่ามาเที่ยวเหมือนกันหรือ

“ผมทำงานน่ะครับ แต่คุณรินบ้านเขาอยู่ที่นี่ พอดีบังเอิญมาเจอกัน”

คุณน้อยแปลกใจแล้วละครนางบาปไปถึงไหนแล้วทำไมทั้งคู่ถึงมาอยู่ที่นี่ รินเล่าว่าตอนนี้เราพักกองชั่วคราว พอดีอยากปรับบทอะไรนิดหน่อย วิษณุรู้สึกขึ้นมาว่าหยาดอาจไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่ตำนานเล่าขาน

ปาลยังคาใจเกี่ยวกับหยด จึงถามคุณน้อยว่าเคยได้ยินทาสชื่อนี้หรือเปล่า เธอไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ตอนเป็นเด็ก คุณทวดของเธอชอบขู่ว่าถ้าดื้อผีอีหยดจะมาหักคอ แต่บางทีคุณทวดก็จะพูดชื่อหยาด เธอก็เลยไม่แน่ใจว่าท่านจำผิดหรือว่ามีทาสที่ชื่อทั้งหยดและหยาด แล้วอดสงสัยไม่ได้ทำไมถึงถามเรื่องนี้ รินโกหกว่าแค่อยากได้ข้อมูลไปทำงาน ปาลซักไม่เลิกว่าคุณน้อยจำอะไรเกี่ยวกับคุณพระวนาเทพได้บ้าง

คุณน้อยไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับท่านเพราะเธอเป็นญาติฝ่ายคุณกำไล ขอเตือนทั้งคู่เกี่ยวกับตึกวนาเทพไว้หน่อย คุณทวดของเธอเคยบอกว่าที่นั่นมีคำสาป ส่วนจะเป็นคำสาปอะไรเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

“แต่วันที่นางหยาดตายกับทวดกำไลตายมันเป็นคืนเดียวกันแถมเป็นคืนเดือนดับ ซึ่งว่ากันว่าคำสาปวันนั้นส่งผลให้ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของทุกคนในตึกวนาเทพก็มีแต่รุ่มร้อน ครอบครัวของน้อยถึงได้ทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้นกับไอ้เรื่องมรดก จนน้อยต้องปรึกษาคุณปาลเพื่อยกตึกให้กรมศิลปฯตัดปัญหานั่นแหละค่ะ”

แฟนของคุณน้อยตามมาสมทบพอดี คุณน้อยจึงขอตัวไปก่อน เป็นจังหวะเดียวกับมีเสียงประกาศของสนามบินเรียกผู้โดยสารที่จะไปกรุงเทพฯให้ขึ้นเครื่องได้ นั่นเท่ากับถึงเวลาที่ปาลต้องจากกับริน...

ส่งปาลเรียบร้อย รินขับรถกลับมาที่สะพานสารสินอีกครั้ง จอดตรงจุดที่จอดรอดูกระต่ายกับปาลเมื่อคืน กลิ่นอายความสุขยังอบอวลไปทั่วจนอดยิ้มไม่ได้ หยิบมือถือมาถ่ายรูปตรงจุดนั้นแล้วโพสต์ลง IG พร้อมกับติด #ตำนาน เรื่องจริง ความรู้สึกจริงๆ @สะพานสารสิน...

ปาลนั่งอยู่ริมหน้าต่างเครื่องบินมองลงมาเห็นสะพานสารสิน กดถ่ายรูป อัปลง IG แล้วติด #ขอบคุณทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นที่นี่ #ภูเก็ต

พายเห็น IG ของปาล นึกว่าโพสต์ให้ตัวเองจัดแจงไลน์หาเป็นทำนองตัดพ้อเล็กๆว่านายปั้นไปภูเก็ตไม่บอกนางหยาดสักคำ แต่แล้วเธอถึงกับหน้าเจื่อนเมื่อเห็น IG ของรินลงรูปสะพานสารสินเช่นกัน พายแกล้งกดไลค์พร้อมกับลงคอมเมนต์ว่า “เที่ยวสนุกไหมคะพี่ริน”

รินเห็นคอมเมนต์ของพายไม่กล้าตอบ แถมพาลไม่ตอบไลน์จากปาลอีกด้วย ทำให้เขาแอบน้อยใจ...

ในขณะที่เกิดรักสามเส้าเราสามคนระหว่างปาล พายและริน กองละครนางบาปได้รับข่าวร้าย ธานีไม่อนุมัติให้เปลี่ยนบท ถ้าวิษณุทำตามบทที่เขียนไว้เดิมไม่ได้ ทางช่องจะให้ผู้กำกับรายอื่นมาทำแทน วิษณุอับจนหนทางไม่รู้จะทำอย่างไร โทร.ขอร้องต้นให้ไปช่วยคุยกับธานีอีกครั้ง

“ได้พี่ ไม่ต้องห่วงนะพี่ ผมไปช่วยพูดให้อีกรอบ” ต้นวางสายแล้วหันมาบอกพาไลที่นั่งอยู่ข้างๆว่าทางช่องจะเปลี่ยนผู้กำกับ พรุ่งนี้ตนจะไปคุยกับคุณธานี ถ้าเขาจะเปลี่ยนผู้กำกับจริง ตนคงไม่เล่นต่อ พาไลไม่เห็นด้วยขืนไปยื่นคำขาดแบบนั้นเป็นเรื่องแน่ ต้นเคยบอกเธอแล้วว่าที่รับเล่นละครเรื่องนี้เพราะพี่ณุกำกับ ถ้าไม่ใช่พี่ณุ ตนไปนอนเล่นพักร้อนต่างประเทศไม่ดีกว่าหรือ จะมาเล่นให้เหนื่อยทำไม

“ดูต้นจะปลื้มพี่ณุเขาจริงๆนะ” น้ำเสียงแดกดันอยู่ในทีของพาไลทำให้ต้นไม่พอใจ

“ผมก็แค่อยากทำงานดีๆ พี่เป็นผู้จัดการผมพี่ก็ควรเลือกงานดีๆให้ผมบ้าง”...

นอกจากจะขอให้ต้นช่วยไปพูดกับธานีอีกครั้ง วิษณุยังขอให้ผีหยาดช่วยอีกแรงหนึ่ง...

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 5 วันที่ 16 ส.ค.61

ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตร
ละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ