อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 3 วันที่ 9 ส.ค.61

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 3 วันที่ 9 ส.ค.61

เมื่อกลับถึงเรือน คุณกำไลจึงพบกำไลข้อมือที่ตัวเองชมชอบปนอยู่ในข้าวของที่หยาดหอบหิ้ว รู้ทันทีว่านี่เป็นอุบายของคุณพระวนาเทพ คงจะซื้อแล้วให้บ่าวแอบเอามาใส่ไว้ให้ แทนที่จะสวมกำไลข้อมือนั้น คุณกำไลกลับเก็บใส่กล่อง หยาดแปลกใจในเมื่อชมชอบทำไมถึงไม่ใส่

“เพราะชายมากอุบายมิเคยหยุดที่หญิงใดเพียงคนเดียว ข้าจึงรักเขามิได้ ต่อให้เขาดีต่อข้ามากกว่านี้เท่าใด ข้าก็มิกล้าเชื่อคำรักของเขา” คุณกำไลคิดถึงความเจ็บช้ำที่แม่นายได้รับจากเจ้าสัวไกรผู้เป็นพ่อ...



แม้จะลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะไม่รักผู้ชายเจ้าชู้ แต่สุดท้ายคุณกำไลแพ้ใจตัวเอง รักคุณพระวนาเทพหมดใจและตกลงใจแต่งงานด้วย เขาจึงสร้างตึกวนาเทพอันโอ่อ่าไว้เป็นเรือนหอของตัวเองกับเธอ

อีกสามวันถึงวันแต่งงาน โหรที่ดูฤกษ์แนะให้คุณพระวนาเทพมานอนค้างที่เรือนหอเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย หยดแอบได้ยินหยาดกับพวกบ่าวคุยกันเรื่องนี้ วางแผนจะลอบเข้าไปหาเขาเพื่อชิงได้เขาเป็นผัวก่อนคุณกำไล ครั้นใกล้ค่ำ นางทาสชั่วจัดแจงแต่งตัวสวย พรมน้ำอบหอมฟุ้งหวังจะบุกเข้าหาคุณพระวนาเทพ แต่ถูกแม่เยื้อนรู้เท่าทันแผนชั่วเสียก่อน จึงลงหวายหลังแตกเลือดอาบแล้วจับขังไว้ในห้องใต้ดินไม่ให้พบเจอใคร

ooooooo

งานแต่งงานของคุณพระวนาเทพกับคุณกำไลดำเนินไปอย่างราบรื่น ท่ามกลางเสียงร้องไห้และเสียงตะโกนให้แม่เยื้อนปล่อยตัวเองออกไปของหยด

“ฉันขอร้อง แม่ปล่อยฉันออกไป” เสียงคร่ำครวญของหยดปลุกให้วิษณุตื่นจากภวังค์ มองไปรอบๆแปลกใจที่เห็นตัวเองยืนอยู่หน้าห้องใต้ดินในตึกวนาเทพ มองสบตากับคุณพระวนาเทพที่อยู่ในภาพวาดตรงหน้า

พลันมีเสียงของตกดังมาจากในห้องใต้ดิน เขาผลักประตูเข้าไปต้องตกใจเมื่อกำไลข้อมือที่เขาเห็นจากตอนรำลึกชาติได้กลิ้งจากใต้ตู้มาหยุดตรงหน้า ก้มเก็บขึ้นมาพิจารณา จากนั้นเขากลับไปที่ห้องรับรองของตึกวนาเทพ วางกำไลที่เพิ่งเก็บได้ไว้ข้างๆผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกรัก

“เรา...คือพระวนาเทพ” วิษณุพึมพำเสียงสั่น

ไม่สามารถเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว ตั้งใจจะเอาไปปรึกษากับริน ตามหาตัวกระทั่งเจอเธอยืนคุยอยู่กับปาลที่สวนสวยข้างตึก ขอคุยด้วยเป็นการส่วนตัว ปาลจึงต้องหลบทางให้ เมื่อได้อยู่กันตามลำพัง วิษณุเอากำไลข้อมือกับผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกรักให้ดู ทีแรกรินนึกว่าเป็นของเข้าฉาก แต่พอเขาบอกว่าเป็นของจริง มีอยู่วันหนึ่งเขาเผลอหลับไปพอตื่นขึ้นมาผ้าเช็ดหน้าก็มาอยู่กับเขา

“คงจะมีใครแกล้งพี่ณุมั้งคะ ไม่ก็เห็นพี่ณุเหนื่อยๆเลยไปช่วยเช็ดให้”  รินพยายามพูดไม่ให้เครียด

“ริน...หลายคืนมานี่ พี่ฝันอะไรแปลกๆตลอดแต่บางทีมันก็เหมือนจริงซะจนเหมือนไม่ใช่ความฝันพี่จะพูดยังไงดี มันเหมือนการระลึกชาติได้ และพี่ก็เห็น...ตัวเองเป็นพระวนาเทพ พี่รู้ว่ามันอาจจะฟังดูเหลือเชื่อนะริน แต่พี่เห็นกิฟท์เป็นคุณกำไล ในความฝันกำไลวงนี้พี่เป็นคนซื้อให้กิฟท์เขาเอง แต่ที่มันน่ากลัวกว่าความฝันก็ตรงที่พอพี่ตื่นขึ้นมากำไลนี่มันกลับมีอยู่จริง และพี่ได้มันมาจากห้องใต้ดิน”

รินมองเขาด้วยความเป็นห่วงลองเอามืออังหน้าผากดูไม่พบว่าเป็นไข้ “รินว่าโปรเจกต์นี้มันคงคอนซูมทุกคนมากไปแล้วอ่ะพี่...พี่ณุก็คงอินกับบทที่เขียนเองกำกับเองมากไป รินว่าพี่ณุพักผ่อนก่อนดีกว่านะคะ”

“พี่ไม่ได้บ้านะริน รินเองก็อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าทำไมพี่ถึงอยากทำเรื่องนี้มาก ทำไมพี่ถึงแก้บทเองเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ทำไมอยู่ๆช่องก็ให้โอกาสเรา ทำไมดาราใหญ่อย่างกิฟท์ถึงยอมมาเล่นให้เรา รินจะบอกว่าทั้งหมดนี่คือความบังเอิญเหรอริน” คำพูดของวิษณุทำเอารินขนลุกเพราะเขาพูดเหมือนที่ปาลเคยพูดกับเธอไม่มีผิดเพี้ยน เธออยากรู้แล้วผ้าเช็ดหน้าผืนนี้เป็นของใคร เขารู้แค่เป็นของคนชื่อหยดแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร

ผีหยดที่ยืนฟังอยู่น้อยใจที่คุณพระจำเธอไม่ได้ วิษณุยังเล่าเรื่องที่ชื่อทั้งหมดในบทเปลี่ยนจากหยาดมาเป็นหยดได้เอง ครั้นเขาแก้ให้กลับไปอย่างเดิมก็มีมือมืดมาเปลี่ยนอีก รินไม่ปักใจเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ฟังแล้วมึนตึบ ขอตัวไปพักผ่อนสักครู่ โดยไม่ลืมไล่เขาไปพักเช่นกัน หยดมองตามรินที่เดินออกไป

“กูรู้แล้วว่าจะเอาชนะอีกำไลได้อย่างไร” ผีหยดยิ้มเจ้าเล่ห์...

ผีหยดวางแผนจะสิงร่างรินเพราะคิดว่าเธอเป็นคนที่คุณพระวนาเทพกลับชาติมาเกิดในร่างวิษณุรักที่สุดเพื่อแย่งเขาไปจากคุณกำไลในชาตินี้ให้ได้ เนื่องจากชาติที่แล้วคุณกำไลได้คุณพระเป็นผัวตัดหน้าตัวเอง

ที่เพียรพยายามจะเข้าหาเขาแต่ถูกแม่เยื้อนจับได้เสียก่อน ผีหยดยังจำเรื่องราวในอดีตตอนที่บ่าวสาวเข้าเรือนหอได้ดี

ตอนนั้นหยดปีนหน้าต่างห้องหอแอบดู เห็นคุณกำไลขอคำมั่นจากคุณพระวนาเทพก่อนที่จะมีอะไรว่าต้องรักเธอเพียงคนเดียว ยกย่องเธอเพียงคนเดียว และจะมีเธอเพียงคนเดียวจนวันตาย เขาถึงกับอึ้งไม่คิดว่าเธอเป็นเอามากขนาดนี้ คุณกำไลเห็นเขานิ่งไปก็ใจเสีย

“มิกล้ารึเจ้าคะ ไหนว่ารักนักรักหนา น้องขอเพียงเท่านี้ให้มิได้รึเจ้าคะ”

“กว่าจักได้เจ้ามา พี่เฝ้าบากบั่นทั้งยังตึกที่สร้าง ก็เพียงเพื่อเจ้า คำขอเพียงแค่นี้พี่ย่อมให้ได้สิ ขอมากกว่านี้พี่ก็ให้เจ้าได้” คุณพระวนาเทพรับปากส่งๆ แล้วดึงคุณกำไล มากอด หยดที่แอบฟังอยู่ปวดร้าวใจมาก

ooooooo

หยดไม่ยอมแพ้แม้คุณพระวนาเทพจะแต่งงานกับคุณกำไลแล้วก็ตาม รอเวลาที่เขานั่งเรือกลับจากทำงานลงไปลอยคอเล่นน้ำรอท่าอยู่ คลื่นจากเรือของเขาปะทะร่างเธอจึงแกล้งร้องเอะอะเพื่อเรียกความสนใจ ได้ผลดีเกินคาด เขาสนใจมองเธอที่นุ่งผ้ากระโจมอกผืนเดียวด้วยสายตาหื่น ถามว่าชื่ออะไร

“หยดเจ้าค่ะ คุณพระเคยช่วยหยดไว้ที่ตลาดอย่างไรเล่า”

คุณพระวนาเทพจำไม่ได้แต่แกล้งเออออไปด้วยแล้วยื่นมือไปให้หยดจับ เธออายม้วนผ้าถุงหลุดหายไปเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว เขามองร่างเปลือยเปล่าในน้ำของเธอเพลิดเพลินไม่บอกกันสักคำ จนเธอเห็นผ้านุ่งตัวเองลอยตุ๊บป่องถึงได้รู้ตัวก้มดู เห็นไม่มีอาภรณ์ปิดบังรีบดำน้ำหนีด้วยความเขินอาย...

นางทาสใจบาปปักผ้าเช็ดหน้าที่คุณพระวนาเทพให้ เป็นลายดอกรักเสร็จเรียบร้อย บรรจงแต่งตัวแต่งหน้างามหยด พกผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมาที่ตึกวนาเทพหวังจะมาอ่อยเหยื่อเจ้าของตึก แต่เจอนายแม่เป็นมารมาขวางไว้ เธอจึงต้องล่าถอยกลับไปด้วยความแค้น

“มึงไม่รู้กระไรอีคุณนาย คุณพระท่านน่ะเจอกูก่อน อีกำไลลูกสาวมึงแย่งคุณพระไปจากกู ยังไงกูก็จะเอาคุณพระคืนมาให้จงได้ ให้มึงอกแตกตายเลยคอยดู” หยดมองผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกรักในมือสีหน้ามุ่งมั่น...

ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล หยดขึ้นไปหาคุณพระวนาเทพบนตึกไม่ได้จึงจ้างวานสุกทาสรับใช้เช่นกัน

ให้เอาผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกรักขึ้นไปให้แทน กำชับให้ไปวางในที่ที่คุณพระเห็นแต่จะให้คุณกำไลล่วงรู้ไม่ได้

แผนการของหยดได้ผลดีเกินคาด คุณพระวนาเทพรู้ความนัยที่เธอสื่อถึงจึงย่องเงียบมาหา หยดตกเป็นเมียลับของเขาสมใจอยาก ก่อนเขาจะจากไปยังมอบเงินให้เธอไว้ใช้...

คืนหนึ่งหลังจากเสร็จสมอารมณ์หมายคุณพระวนาเทพให้สัญญากับหยด วันใดที่ในหลวงทรงเลิกทาส เขาจะยกเธอขึ้นเป็นเมียให้สมกับความดีของเธอ

“บ่าวจะเฝ้ารอคอยคำสัญญา จนกว่าจะได้เป็นเมียของคุณพระ ไม่ว่าจะเกิดชาติหน้าหนไหน” หยดรู้สึกฮึกเหิม อีกไม่นานจะได้ตีเสมอคุณกำไล...

แต่แล้วความฝันของหยดต้องมลายสิ้นเมื่อรู้จากสุกที่มาดักรอเยาะเย้ยอยู่กับพวกทาสว่าคุณกำไลท้อง ที่หวังว่าคุณพระวนาเทพจะยกขึ้นเป็นเมียคงต้องรอชาติหน้า หยดโวยลั่นไปรู้มาได้อย่างไร

“เอ็งมัวไปข้างนอกอยู่ เลยไม่รู้ความ คุณกำไลไม่สบาย เขาตามหมอมากันให้วุ่น ตรวจแล้วว่าหล่อนท้อง มึงเป็นหมาหัวเน่าแน่อีหยด หมั่นไส้มานานแล้วมันกร่างนัก มาพวกเราเอาตีนรุมมัน” สิ้นเสียงสุก พวกทาส รุมกระทืบหยดสะบักสะบอม...

หยดปล่อยให้คุณกำไลท้องไม่ได้ จึงไปหาหมอชั่วให้ช่วยจัดยาสมุนไพรที่กำจัดทั้งแม่ทั้งลูกได้ในคราเดียวกัน เมื่อได้ยาที่ว่ามา เธอลงมือทำแกงเลียงหน้าตาน่ากินผสมสมุนไพรพิษจัดใส่ชามฟักทองแกะสลักสวยงามยกเอาไปที่ตึกวนาเทพ หยาดมาเจอพอดีร้องทักพี่สาวมาถึงนี่เลยหรือ แกงเลียงหอมน่ากินมาก

“เออสิ แกงนี้บำรุงคนท้องบำรุงนมดีนัก คุณกำไลกำลังท้องอยู่ ข้าเลยทำมาให้ ฝากเอ็งเอาเข้าสำรับไปให้หล่อนกินที” หยดยื่นถาดใส่ชามฟักทองแกะสลักให้

“คุณกำไลคงดีใจ หล่อนรับข้าวปลามิใคร่ได้มาหลายวันแล้ว” หยาดรับถาดจากพี่สาวรีบเอาไปจัดรวมกับกับข้าวอย่างอื่น นายแม่มาเห็นเสียก่อน แปลกใจทำไมวันนี้มีแกงเลียง ตนไม่ได้สั่งให้ทำสักหน่อย

หยาดอยากให้แม่นายเห็นความดีความชอบของหยด จึงบอกว่าแกงนี่เป็นฝีมือหยด แม่นายยกชามใส่แกงเลียงไปเททิ้ง

“แม้นเชื่อว่าอีหยดหวังดีกับกำไล ข้านี้คงต้องไปไถนาแล้วหนาแม่หยาด”

หยดที่แอบดูผลงานตัวเองอยู่แค้นใจมากอยากจะฆ่านายแม่แทน

ooooooo

ผีหยาดล่วงรู้ถึงแผนชั่วของผีหยดจึงไปเตือนวิษณุที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้องพัก ให้หาทางช่วยหยุดพี่หยดด้วย เขาหวั่นใจจะเกิดเรื่องไม่ดีก่อนไปกองถ่ายละคร จึงเอาสร้อยห้อยพระเครื่องติดมือไปด้วย...

ทางด้านรินยังคาใจเรื่องที่วิษณุเล่าว่าตัวเองกลับชาติมาเกิด ระหว่างรอการถ่ายทำเธอลองเสิร์ชหาใน กูเกิลดูมีแต่เรื่องเหลือเชื่อ ต้นเห็นเธอนั่งอยู่คนเดียวหน้าตาซีดเซียวเข้ามาถามว่าไม่สบายหรือเปล่าทำไมหน้าซีดนัก เธอแค่เพลียๆไม่ได้เป็นอะไร แล้วถามเขาว่าเชื่อเรื่องชาติก่อนไหม เชื่อการกลับชาติมาเกิดหรือเปล่า

“จะบอกยังไงดี คือผมก็เป็นพุทธนะครับ เชื่อในกฎแห่งกรรม แต่ที่ว่าทำดีแค่ไหนทำชั่วแค่ไหนแล้วต้องไปเกิดเป็นอะไรก็คงมีจริงบ้างมั้งครับ แต่ก็ไม่ฟันธงนะบางเรื่องในชีวิตคนเรา คนบางคนที่เราต้องมาเจอ มันก็เหมือนมีอะไรสักอย่างที่จัดการให้มันต้องเกิดขึ้น ไม่ใช่บังเอิญไปทั้งหมดมั้งผมว่านะ”

รินเห็นกิฟท์เดินมาแต่ไกลไม่อยากมีเรื่องด้วย ขอตัวไปหาอะไรทำตรงอื่นแล้วเดินลิ่วไปเลย ต้นได้รับไลน์จากพาไลว่าทนนางเอกของเขาไม่ไหวขอกลับก่อน เป็นจังหวะที่กิฟท์เดินมาถึงพอดี

“พี่ต้นขา ทำไมพี่พาไลเช็กเอาต์กลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ กิฟท์ตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอแล้ว ไม่เห็นลากิฟท์เลย หรือพี่พาไลรำคาญที่กิฟท์ไปนอนด้วยคะ เขามาฟ้องอะไรไหมคะ”

ต้นส่ายหน้าพี่พาไลไม่ได้มาฟ้อง แค่มีงานแต่เช้าต้องรีบไปทำก็เลยต้องขอตัวกลับไปก่อน...

ฝ่ายวิษณุตามหารินจนเจอ เอาสร้อยคอพร้อมพระยื่นให้ เธองงนี่มันเรื่องอะไร เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันแค่รู้สึกแปลกๆก็เลยอยากให้เธอสวมพระเครื่ององค์นี้ไว้ ทีแรกเธอไม่ยอมสวม ผีหยาดต้องมาดลใจเธอถึงได้ยอมรับ วิษณุอาสาสวมให้ เธอพยักหน้าแล้วหันหลังให้เขาสวมสร้อย

“พี่อยากให้รินปลอดภัย ขอให้พี่ดูแลรินสมกับที่รินดูแลพี่บ้างนะ”

ปาลถือบทเดินมาจากอีกทางหนึ่งจะให้รินช่วยต่อบท เห็นวิษณุกำลังสวมสร้อยให้เธอหน้าจ๋อยไปเลย...

เนื่องจากรินไม่ว่างต่อบทให้ ปาลจึงขอร้องให้บอลช่วย ต่อบทกันได้พักเดียว บอลเห็นรินเดินเข้ามาก็ดีใจขอร้องเธอให้ช่วยเป็นหยาดต่อบทให้ปาลที ตนไม่ถนัดเรื่องต่อบทให้ใคร ปาลยังเคืองที่เห็นรินสวีตหวานอยู่กับวิษณุเมื่อครู่ ก็เลยงอนไม่ยอมต่อบทด้วย บอลไม่สนใจใครทั้งสิ้นเอาบทยัดใส่มือรินแล้ววิ่งปรู๊ดไปอย่างรวดเร็ว ปาลไม่มีทางเลือกจำต้องต่อบทกับเธอ บทเจ้ากรรมเป็นตอนที่นายปั้นตัดพ้อหยาดที่ไม่รับรัก

ปาลจึงใส่อารมณ์ร่วมเข้าไปด้วย ทำเอารินถึงกับอึ้ง  รู้สึกเหมือนเขากำลังตัดพ้อเธออยู่ หวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก พายมาถึงพอดี รินจึงผละออกมาปล่อยให้ต่อบทกันเอง ทั้งคู่ต่อบทกันไปหัวเราะกันไปสนุกสนานผิดกับ เมื่อครู่ลิบลับ รินที่แอบมองอยู่ทนดูไม่ไหว ต้องเบือนหน้าหนี...

ผีหยดจะสิงร่างรินเห็นพระห้อยคออยู่ก็ชะงัก เดือนก็เห็นพระองค์นั้นเช่นกันโวยวายลั่นว่ารินได้มาอย่างไร เธอได้มาจากพี่ณุ ผีหยดช้ำใจมาก ตัดพ้อทำไมคุณพระถึงทำแบบนี้ ถ้าไม่ให้ตนสิงร่างนังนี่แล้วตนจะปรนนิบัติเขาได้อย่างไร รินพยายามอธิบายให้ฟังว่าเหตุใด วิษณุถึงเอาพระองค์นี้มาให้ แต่เดือนไม่สนใจสั่งให้เธอถอดออก พระองค์นี้เป็นพระที่เธอกับพี่สาวของเธอเป็นคนสั่งทำให้พี่ณุ มีเสียงวิษณุดังขึ้น

“ห้ามถอดนะริน...นี่มันอะไรกันเดือน”

“เดือนต่างหากที่ต้องถามพี่ณุ สร้อยเส้นนี้พี่ฝนกับเดือนทำพิเศษให้พี่ณุตอนที่พี่ณุจะไปถ่ายงานที่ต่างประเทศ แล้วพี่ณุเอามาให้คนอื่นสวมได้ยังไงคะ”

วิษณุไม่เคยเห็นรินเป็นคนอื่น และที่สำคัญเขาเคยขอแล้วไม่ใช่หรือไม่ให้เดือนทำตัวเป็นเด็กๆแบบนี้อีก เดือนหงายเงิบ ขณะที่ผีหยดยิ่งมุ่งมั่นในเมื่อคุณพระเห็นรินสำคัญยิ่งต้องสิงร่างเธอให้ได้ แต่อดสงสัยไม่ได้ทำไมคุณพระถึงเข้ามาขัดขวาง นึกถึงผีหยาดขึ้นมาทันที หายวับไปโผล่ที่ต้นไม้เห็นผีหยาดนั่งอยู่บนกิ่งไม้ปรี่เข้าไปตบหน้าหันฐานไปเตือนคุณพระจนเอาสร้อยพระมาสวมให้รินทำให้ตนสิงร่างเธอไม่ได้

ผีหยาดขอร้องให้หยุดทำแบบนี้ ที่ตนพาคุณพระมาที่นี่ก็เพื่อมาปล่อยผีหยดจากคำสาปเพราะสงสาร ไม่ใช่จะพาท่านมาให้พี่คิดอ่านทำเรื่องบัดสีอย่างที่พี่กำลังจะทำ การที่พี่จะใช้ร่างรินยิ่งเป็นการก่อกรรมหนาขึ้น วิญญาณของพี่ยิ่งติดขังอยู่ที่นี่ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ แทนที่จะสำนึกผีหยดตบหน้าน้องสาวซ้ำอีกครั้ง สั่งห้ามมายุ่งเรื่องของตนอีก ผีหยาดพยายามอ้อนวอนให้เลิกก่อกรรมทำเข็ญแต่ผีหยดไม่ฟัง...

วิษณุกลุ้มใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่รู้จะทำอย่างไรดีจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับหลวงพ่อที่อยู่วัดใกล้ๆ ท่านเชื่อว่าการที่เขาต้องมาเจอที่นี่ คงเป็นเพราะมีอะไรที่รอคอยให้เขามาแก้ไขกรรมที่เคยทำไว้ในอดีต

“ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน เป็นเรื่องของกรรมทั้งนั้นน่ะแหละโยม”

ooooooo

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 3 วันที่ 9 ส.ค.61

ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตร
ละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ