อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 4 วันที่ 10 ส.ค.61

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 4 วันที่ 10 ส.ค.61

การมาวัดครั้งนี้ของวิษณุทำให้เขาเห็นภาพตัวเองในอดีตตอนที่เป็นคุณพระวนาเทพมาที่วัดแห่งนี้กับคุณกำไลซึ่งกำลังท้องลูกคนที่สองโดยมีหยาดอุ้มคุณแดงลูกคนแรกไว้แนบอก

ระหว่างที่คุณกำไลเดินแยกไปคุยกับหลวงพ่อเรื่องจะเป็นธุระในการซ่อมแซมโบสถ์ให้ คุณพระวนาเทพพยายามก้อร่อก้อติกกับหยาดที่ไม่ยอมเล่นด้วย คุณกำไลเสร็จจากคุยธุระมาเห็นพอดี ได้แต่เก็บความช้ำใจไว้

วิษณุหลุดออกจากนิมิต หายใจหอบเหนื่อย รู้สึกขยะแขยงตัวเองในชาติปางก่อนยิ่งนัก



“คุณพระเคยคิดอะไรกับนางหยาดด้วยเหรอเนี่ย...นี่มันเรื่องอะไรกัน แล้วตำนานนี่มันยังไงกันแน่”...

ผีหยดยังคงต่อว่าผีหยาดที่มาขัดขวางตนไม่ให้สิงร่างรินเพราะลึกๆแล้วตัวเองหวงคุณพระวนาเทพ ผีหยาดที่ปฏิเสธทั้งน้ำตาว่าไม่เคยคิดอะไรกับเขา เธอไม่เชื่อ สั่งให้เลิกสำออยได้แล้ว

“พี่ก็เชื่อแต่สิ่งที่พี่เชื่อ ไม่ต่างอะไรจากคนพวกที่เขียนตำนานขึ้นมา ฉันคงบังคับให้พี่หรือใครๆ เชื่อฉันไม่ได้ดอก มันคงเป็นกรรมของฉันเอง ฉันเพียงเห็นว่าพี่มีทางที่จะหยุดกรรมได้ แต่หากพี่ยังคิดจะก่อกรรมฉันก็จนใจ มันคงเป็นกรรมของพี่เอง” ตัดพ้อจบผีหยาดหายวับไป

“กรรมดี...กูต้องทำกรรมดีอีกสักกี่ชาติเล่า กูจักได้เกิดทันกันกับคุณพระ ขืนมัวแต่รอมิต้องรอชั่วกัปชั่วกัลป์รึ กูไม่ต้องการทรมานเยี่ยงนั้นแล้ว” หยดหน้าตามุ่งมั่นเห็นรินเดินมาดูทำเลแถวนั้นพอดี “กูต้องการร่างที่คุณพระรักมากที่สุด เพื่อที่กูจะได้ครอบครองคุณพระ แต่เพียงผู้เดียว”

ooooooo

เช้านี้วิษณุแวะมาปรึกษากับหลวงพ่ออีกครั้ง เนื่องจากไม่รู้จะทำอย่างไรกับตัวเองดี เรื่องราวในอดีตที่เคยเรียนให้หลวงพ่อทราบยังตามมารบกวนอยู่ตลอด หลวงพ่อสั่งสอนว่าความคิดไม่ได้รบกวนเราแต่เราต่างหากที่ไปรบกวนมัน ต่อสู้กับมันจนเกิดเป็นความทุกข์ใจ เพราะความรู้สึกโกรธเกลียดที่เกิดขึ้น

“แล้วผมควรทำยังไงครับหลวงพ่อ”

“เฝ้าดูมันไปไม่ต้องทำอะไรกับมัน อดีตก็คืออดีต เราย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้หรอกนะโยม”

วิษณุอยากชดเชยให้กับความผิดที่ตัวเองทำในอดีตแม้จะไม่รู้ก็ตามว่าเคยทำกรรมอะไรร้ายแรงแค่ไหน หลวงพ่อไม่อยากให้เขาแบกกรรมเอาไว้ควรจะปล่อยวางมันลงเพราะถ้าแบกก็ต้องแบกไปตลอดชีวิต วิษณุไม่สามารถปล่อยวางได้ตราบใดที่ไม่รู้ว่ากรรมของตัวเองคืออะไร

“อดีตก็คือสิ่งที่ล่วงไปแล้ว อนาคตก็ยังมาไม่ถึงตั้งจิตให้อยู่กับปัจจุบันนะโยม แม้แต่เวรแต่กรรมมันก็มีเวลาของมันนะโยม” หลวงพ่อมองวิษณุด้วยความเป็นห่วง...

ที่หน้าตึกวนาเทพ พายนั่งต่อบทอยู่กับปาล วันนี้บทของเธอมีแต่ฉากที่ต้องใช้อารมณ์หนักๆ ด้วยความมุ่งมั่นในการแสดงทำให้พายเครียดเกินเหตุอยู่ๆวูบจะเป็นลม ปาลต้องประคองไว้ รินวางงานตรงหน้าเข้าไปช่วยดูแล เห็นเธอหน้าซีดๆ อาสาไปหยิบน้ำหวานมาให้ดื่ม จังหวะนั้นวิษณุเดินถือธูปไปที่ใต้ต้นไม้ต้นนั้น ปาลเห็นเขาจุดธูป พนมมืออธิษฐานบางอย่างอยู่ ชี้ชวนให้พายดูนั่นพี่ณุจุดธูปทำไม

“สงสัยจุดขอขมาหรือบอกเจ้าที่เจ้าทางให้กองถ่ายสะดวกหรือเปล่าคะ”

ปาลลุกขึ้นจะเดินไปหาวิษณุแต่พายรั้งตัวไว้ ชวนให้ไปเช็กเสื้อผ้าหน้าผมกันก่อน ผู้กำกับมาแล้วเดี๋ยวคงจะเรียกเข้าฉาก ปาลจำใจเดินไปกับพายแต่อดหันมองไปทางต้นไม้ไม่ได้

ฝ่ายวิษณุอธิษฐานให้ผีหยาดปรากฏตัวออกมา มีเรื่องจะคุยด้วย อยากรู้ว่าชาติก่อนเคยทำอะไรเอาไว้บ้าง อธิษฐานเสร็จเอาธูปปักตรงโคนต้นไม้ พลันมีลมกระโชกแรงเข้ามา เขามองไปรอบๆด้วยความประหลาดใจ ครั้นก้มมองที่พื้นตรงหน้า เห็นผีหยาดหน้าตาสะสวยในชุดทาสกราบเท้าตัวเองอยู่ ร้องทักว่าหยาดใช่ไหม

“คุณพระจำเรื่องราวของตัวเองได้แล้วรึเจ้าคะ”

วิษณุจำได้เท่าที่ผีหยาดเล่าให้ฟังคืนนั้นว่าเขาคือคุณพระวนาเทพกลับชาติมาเกิด และเรือนนี้ไม่ได้มีเธอเป็นทาสเพียงคนเดียวยังมีหยดอีกคนหนึ่ง ที่เขาเรียกเธอมาพบเพื่อถามว่าคุณพระวนาเทพเคยทำอะไรกับหยดและหยาดไว้บ้าง กลัวว่าที่ใครต่อใครเข้าใจหยาดผิดจนทำให้ถูกแขวนคอตายมีต้นเหตุมาจากเขา

“ได้โปรดบอกฉันเถอะหยาด หากเธอเคยขอร้องให้ฉันมาช่วยปลดปล่อยพี่สาวเธอ เธอต้องช่วยปลดปล่อยฉันก่อน ฉันทุกข์เหลือเกินหยาด ทุกข์โดยที่ไม่รู้ว่าฉันทำสิ่งใด ฉันอยากรู้ความจริงทั้งหมด”

ผีหยาดยินดีทำให้ตามที่วิษณุต้องการ จากนั้นเธอพาเขากลับสู่อดีต ตอนนั้นคุณกำไลซึ่งกำลังท้องลูกคนที่สองไม่เป็นอันกินอันนอนตั้งแต่รู้ว่าคุณพระวนาเทพมีอะไรกับหยด บ่าวที่ดูแลหาข้าวหาปลาให้กินพยายามขอร้องให้เธอกินอะไรบ้าง ไม่เห็นแก่ตัวเองก็ให้เห็นแก่ลูกในท้อง

“ข้าตรอมใจอยู่อย่างนี้กินอะไรมิลงจริงๆ อย่าบังคับข้านักเลย”

แค่ใช้ผัวร่วมกับคุณกำไลยังไม่ทำให้สาแก่ใจพอ หยดยังเอาเข็มขัดทองคำที่คุณพระวนาเทพยกให้ตัวเองใส่มาอวดคุณกำไลให้ช้ำใจอีกต่างหาก บ่าวทนไม่ไหวไล่ตะเพิดเธอออกไป

“ไม่ต้องไล่ ข้าก็มิอยากเหยียบให้เสียเท้าดอก” หยดยิ้มเย้ยก่อนจะลงจากเรือน คุณกำไลช้ำใจหนักเพราะเข็มขัดทองเส้นที่หยดใส่เป็นของขวัญวันแต่งงานที่พ่อมอบให้เธอ แต่คุณพระกลับเอาไปให้หญิงอื่น

ooooooo

คุณกำไลทราบเรื่องที่หยาดถูกหยดจับขังห้องใต้ดิน รีบลงจากเรือนใหญ่ไปหา บ่าวจะไปจัดการเรื่องนี้ให้เองเธอก็ไม่ยอม ระหว่างเดินไปที่เรือนทาส ได้ยินพวกทาสนินทาเรื่องที่หยดอาจได้รับการยกย่องให้ขึ้นมาเป็นเมียเทียบชั้นกับตัวเองแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ขยับจะเดินต่อ

พวกทาสหันมาเห็นเสียก่อนพากันตกใจ รีบกราบขอโทษ คุณกำไลเดินต่อไปไม่พูดอะไร ครั้นมาถึงห้องใต้ดินเห็นแม่เยื้อนกับทาสหญิงอีกคนกำลังแก้ปมเชือกที่ผูกประตูห้องเอาไว้ เธอไล่บ่าวไปตามทาสชายมาช่วยกันตัดเชือกพวกนี้ออก ไม่นานนักเชือกถูกมีดตัดขาด หยาดที่เป็นอิสระถลามากอดแม่เอาไว้

“อีหยดมันทำเอ็งด้วยเรื่องอันใด”

“พี่หยดจะขึ้นไปอวดของฝากที่คุณพระให้ ฉันจะห้ามไม่ให้พี่หยดขึ้นเรือนไปหาคุณกำไล พี่หยดเลย...” หยาดยังเล่าไม่ทันจบ คุณกำไลเรียกเธอให้ตามกลับไปที่เรือนวนาเทพ...

คุณกำไลทนอยู่กับคนไม่รักษาคำสัตย์สัญญาอย่างคุณพระวนาเทพต่อไปไม่ไหว สั่งให้หยาดเก็บข้าวของของตนไปที่เรือนเจ้าสัวไกร นายแม่เห็นลูกสาวหอบผ้าหอบผ่อนกลับมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอร้องไห้โฮ

“ลูก...ขอกลับมาอยู่ที่เรือนนี้ กลับมาอยู่กับคุณแม่ได้รึไม่ ลูกมิอยากกลับไปอยู่ที่เรือนนั้นอีกแล้วเจ้าค่ะ”

นายแม่กอดตอบพลางบอกให้หยุดร้องไห้ได้แล้ว หญิงเราเกิดมาเลือกผัวได้เพียงหนเดียว ถึงจะทนไม่ได้ก็ต้องทน คุณกำไลโอดครวญว่าเจ็บครั้งนี้สาหัสนัก เจ็บจนเธอแทบหายใจไม่ได้ เจ็บที่ตัวเองโง่เขลา ปล่อยให้เขาลวงจนเสียทีให้แก่ชายมากรัก แต่ก็ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมทุกข์ระทมเยี่ยงนี้ได้

“ลูกรัก อย่าให้พวกมันรู้ว่าเจ้าเสียใจเพียงใด ทุกความเสียใจของเจ้าจักเป็นบ่อน้ำชโลมความหวังให้แก่เมียรองไร้ศักดิ์เหล่านั้น เจ้าจงรีบกลับ เอาผ้าผ่อนข้าวของทั้งหลายกลับเรือนไปเสีย อย่าทำให้เรื่องยิ่งบานปลายปล่อยให้พวกปากหอยปากปูนินทาเอาได้” นายแม่กุมมือคุณกำไลอย่างเป็นกำลังใจให้

“เจ้าค่ะคุณแม่” คุณกำไลปาดน้ำตาทิ้ง

“ส่วนเรื่องอีหยด ลูกมิต้องเป็นกังวลอันใด แม่จักไปจัดการเอง”...

นายแม่ไม่รอช้าขนบ่าวไพร่หลายคนไปที่เรือนทาสช่วยกันจับตัวหยดมาที่ลานหน้าเรือน สั่งให้นางสายเอาน้ำมันร้อนๆมาสาดหน้าหวังจะให้เสียโฉม คุณพระวนาเทพจะได้ไม่แล หยดรู้งานรีบพลิกตัวหนี น้ำมันร้อนจึงพลาดจากใบหน้ามาโดนแผ่นหลังแทน เธอปวดแสบปวดร้อนดิ้นทุรนทุราย

“ข้าจักขอเตือนเอ็งเป็นครั้งสุดท้ายว่าอย่าได้มักใหญ่ใฝ่ไปยุ่งกับผัวลูกข้าอีก มิเช่นนั้นข้าจักไม่จบแค่เอาน้ำมันเดือด แต่จักเป็นดินที่ฝังกลบหน้าเอ็ง มิให้ได้ร้องโหยหวนเช่นนี้อีก จำใส่กะลาหัวเอาไว้”

หยดมองตามนายแม่ที่ยกพวกกลับไปด้วยความแค้น...

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 4 วันที่ 10 ส.ค.61

ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตร
ละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ