My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 6 วันที่ 8 ส.ค.61
เดวิดบอกว่าชาร์ลีย้ำว่าต้องเป็นนักบินมือดีที่สุดไปทำงานนี้ สันติจึงอาสาไปแทน เพราะชาร์ลีเคยบอกว่าเราสองคนเป็นนักบินมือดีที่สุด อัศนีไปไม่ได้ตนไปแทนเอง อัศนีติงว่าเขาไม่ต้องทำเพื่อตน“ไม่ได้เว้ย อนงค์ต้องการนายมากกว่าฉัน นายต้องอยู่ ฉันไปเอง ไปเดวิด”
แต่พอสันติไปถึงสนามบิน ปรากฏว่าอัศนีตามมาติดๆบอกว่างานนี้เป็นงานของตน อีกอย่างเราปฏิบัติการคู่กันมาตลอดจะให้ตนมาทิ้งเขาไปคนเดียวแบบนี้ไม่ได้
สันติจะแย้ง อัศนีตัดบทว่า
“ภารกิจก็กำลังเดือดนะเว้ย เท่าที่ฉันรู้มา งานนี้ไม่ใช่ง่าย ฉันไม่มีทางปล่อยนายไปคนเดียว”
“เฮ้ย...ไม่ได้”
“สันติ...เราจะยืนเถียงกันอย่างนี้ หรือจะรีบไปทำภารกิจให้เสร็จก่อนอนงค์จะคลอด เร็วเว้ยเราได้กลับไปหาอนงค์พร้อมกันไง ฉันไปดูหน้าลูก นายก็จะได้ไปดูหน้าหลานพร้อมกัน เร็ว”
ริศาดูแล้วอินกับเรื่องราวที่ดำเนินไป ถามอัศนีว่า
“คุณอัศนี เมียคุณกำลังต้องการคุณที่สุด แต่คุณกลับทิ้งคุณอนงค์มาทำงานนี่นะ”
“ฉันรู้ว่าอนงค์ต้องการฉัน แต่ประเทศชาติก็ต้องการฉันเหมือนกัน ถ้าฉันไม่ทำงานนี้ มันอาจจะไม่เหลือแผ่นดินให้อนงค์ที่ฉันรักได้อาศัยอยู่ก็ได้”
ผีอัศนีตอบหนักแน่นชัดเจนจนอคินกับริศาอึ้งสนิท
ขณะนั้นเอง ลมพัดแรงขึ้นทุกที จนริศากับอคินต้องหลับตาและพื้นที่ยืนอยู่ก็สั่นสะเทือน...
ที่แท้ป้านิ่มกำลังเขย่าปลุกทั้งสองอย่างแรง บ่นว่าเขย่าจนบ้านจะพังแล้วยังไม่ยอมตื่น อคินค่อยๆตื่นมองไปเห็นริศาเห็นเพิ่งปรือตาขึ้น เสียงวีรนุชโวยวายว่า
“โอ๊ย...ตื่นซะที ยัยเจ้าหญิงนิทรากับเจ้าชายนิทรา เล่นหลับทั้งคู่แบบนี้ไม่มีใครจูบใครให้ตื่นเลย”
ริศาสบตาอคินถามว่าปู่ล่ะ ปู่ไปไหน แล้วคุณอัศนี ป้านิ่มงงถามว่าริศาโดนยาอะไรเข้าไปเพี้ยนหรือเปล่า
วีรนุชไม่สนใจตั้งหน้าตั้งตาขอบคุณอคินที่ช่วยพาตนออกมา ส่วนป้านิ่มถามว่าแผนเมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง ได้อะไรกลับมากันบ้าง
ต่อมาอคินเข้ามาในห้องทำงานของสันติ เดินดูรูปสันติในเครื่องแบบทหารอากาศหล่อ เท่มาก ผีอัศนีโผล่เข้ามา อคินถามว่าทำไมในฝันตนไม่เคยเห็นทั้งสองคนใส่เครื่องแบบอย่างนี้เลย ผีอัศนีเล่าหน้าขรึมว่า
“พวกเราจะต้องลาออกจากการเป็นทหารอากาศก่อนจะมาทำงานนี้” อธิบายว่า “กองบินหิ่งห้อย คือหน่วยลับสุดยอด อาสาสมัครที่เข้าร่วมในโปรเจกต์นี้ต้องลาออกจากราชการก่อน ไม่มีสังกัด ไม่มีตัวตน ถ้าหายไปในภารกิจจะไม่มีใครรู้ว่าศพนั้นเป็นใคร มาจากไหน เป็นวีรบุรุษนิรนามไงล่ะ”
“แล้วพวกคุณก็ยอมหรอ”
“ใช่สิ...เสียสละเพื่อปกป้องประเทศชาติ”
ผีอัศนีพูดอย่างภูมิใจในหน้าที่ของตัวเอง อคินฟังแล้วทึ่งมาก มองผีอัศนีอย่างศรัทธา รู้สึกอยากเป็นแบบนั้นบ้าง
ooooooo
อคินหยิบอัลบั้มรูปของสันติขึ้นมาดู เป็นรูปสันติกลับมารับราชการที่กรุงเทพฯ ใส่เครื่องแบบทหารอากาศมีเหรียญตราประดับเต็มหน้าอกทั้งหล่อและเท่มาก เห็นแล้วคิดถึงตัวเอง บ่นกับผีอัศนีว่า
“อิจฉาน้องริศาจังที่มีรูปปู่เป็นฮีโร่ของประเทศแบบนี้ ผมสิ...ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าปู่ของตัวเองชื่ออะไร ทำงานที่ไหนกันแน่ รู้แค่ว่าปู่เป็นนักบินสมัยสงครามเวียดนามแค่นั้นเอง รูปถ่ายซักใบยังไม่เคยเห็นเลย”
ผีอัศนีอยากช่วยถามว่าปู่อยู่ฐานทัพไหน ตาคลี อุดร หรือสัตหีบ อคินบอกว่าไม่รู้ ถามว่าบินเครื่องอะไรก็ไม่รู้ ถามว่าย่าชื่ออะไร อคินบอกว่าชื่มเอมอร ผีอัศนีว่าไม่คุ้น ถามว่าแล้วรู้อะไรอีกบ้าง
“เป็นนักบินสมัยสงครามเวียดนามแค่นั้นแหละ... หรือปู่อาจจะเป็นหน่วยอะไรลับๆซักอย่าง...แบบเฮียนี่แหละ”
อคินถอนใจเฮือก ผีอัศนีก็เซ็ง เลยหันมาพูดเรื่องของตัวเองว่า การเป็นนักบินมันคงอยู่ในสายเลือด พอโตมาตนจึงไม่อยากเป็นอะไรเลยนอกจากนักบิน เมื่อไม่ได้เป็นทหารอากาศ เป็นอะไรก็ได้ขอแต่ได้อยู่บนฟ้า ผีอัศนีบอกว่าปู่เขาคงภูมิใจที่มีหลานเป็นนักบินเหมือนกัน
“ผมเป็นนักบินพาณิชย์...คงไม่ได้ทำอะไรยิ่งใหญ่แบบเฮียหรอก”
“นายเข้าใจคำว่าฮีโร่ผิดไปไกลแล้ว เราทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ได้ถ้ามีใจเสียสละเพื่อส่วนรวม ช่วยเหลือคนอื่น ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่”
อคินยิ้มให้ผีอัศนีอย่างประทับใจมาก ก็พอดีโทรศัพท์ดังขึ้น
“คร้าบพ่อครับ กลับเดี๋ยวนี้แหละครับ บอกย่าไม่ต้องห่วงด้วย”
ooooooo
เช้าวันต่อมา อคินมารับริศาจะพาไปกราบคุณย่าอยากให้คุณย่ารู้ว่าหญิงสาวที่ตนคอยดูแลจนไม่กลับบ้านน่าปกป้องแค่ไหน ริศาติงว่าจริงๆแล้วเขาไม่ต้องมาคอยดูแลตนตลอดก็ได้
“ได้ยังไง ริศาตกอยู่ในอันตรายแล้วจะให้พี่อยู่เฉยๆเหรอ พี่ถือว่ามันเป็นหน้าที่ของพี่ที่ต้องดูแลริศาแทนพี่สารัตถ์” ริศาติงว่าเขาไม่ต้องรูสึกผิดมากจนต้องรับผิดชอบตนทุกอย่าง ตนเข้าใจแล้วว่าพ่อตายเพราะอะไร มันไม่ใช่ความผิดของเขา “พี่ไม่มีวันปล่อยริศาไว้ลำพัง ถ้าพ่อริศารู้ว่าพวกมันยังตามเล่นงานเราอยู่ ท่านจะห่วงสักแค่ไหน”
อคินพูดจนริศาต้องยอมรับความจริงใจของเขา เห็นผีอัศนียืนมองอยู่จึงชวนไปเที่ยวบ้านอคินด้วยกัน อัศนีพูดลอยๆว่าเจ้าของบ้านเขาไม่ได้ชวน อคินเลยตัดบทว่าขอสักเรื่องนะนี่เป็นเรื่องในครอบครัว ผีอัศนีเลยหายตัวไปแบบงอนๆ อคินขำๆผีแก่ขี้งอนแล้วเปิดประตูรถให้ริศาขึ้นนั่ง
ooooooo
ก่อนไปบ้านคุณย่า อคินกับริศาไปซื้ออุปกรณ์เบเกอรีที่ร้านเก๋ๆตบแต่งสวยงามดูดี อคินบอกว่าอยากได้อุปกรณ์อะไรซื้อไปให้ครบเลยนะ ริศาถามว่าคุณย่าเขาชอบทานเค้กอะไร
คุณย่าชอบเค้กมะพร้าวอ่อน ทานกับน้ำชา อคินบอกย้ำว่าคุณย่ากำลังงอนตนอยู่ด้วย เค้กมะพร้าวอ่อนอาจทำให้ท่านใจอ่อนได้
ระหว่างเลือกซื้ออุปกรณ์ หนุ่มสาวก็หยอกล้อกันตามประสาคนมีใจต่อกัน แล้วอคินก็บอกรักริศา สัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้ความรักของเราสมหวัง ทั้งสองช่วยกันหอบหิ้วอุปกรณ์เบเกอรีออกจากร้านด้วยหัวใจอิ่มเอม
เมื่อเข้าครัวก็ช่วยกันทำเค้กมะพร้าวอ่อนอย่างตั้งอกตั้งใจบรรยากาศกุ๊กกิ๊กหวานแหวว ทำไปหยอกล้อกันไป ริศาเชื่อว่าคุณย่าต้องหายงอนคุณปู่เพราะเค้กมะพร้าวอ่อนที่ชอบเหมือนกันนี่แน่เลย จึงรู้จากอคินว่าคุณปู่เสียไปนานแล้วแต่คุณย่ายังไม่ยอมให้อภัยท่านเลย
“เข้าใจแล้ว พี่อคินพยายามที่จะให้คุณย่ายอมอโหสิให้คุณปู่นี่เอง”
“คุณย่าไม่ยอมให้พี่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณปู่ทำอะไรผิด ไม่ยอมให้คนในบ้านนี้พูดถึงปู่ แล้วพี่ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าปู่ชื่ออะไร”
“อ้าว??”
ริศางงแล้วงงอีก พอดีมีเสียงรถเข้ามา ริศาตื่นเต้นไม่รู้จะทำตัวยังไงดี อคินเลยจูบแก้มให้หายตื่นเต้น
เมื่อคุณย่าเข้ามานั่งห้องนั่งเล่นแล้ว อคินประคองริศาเข้าไปสวัสดีคุณย่า
ทันทีที่คุณย่าเห็นหน้าสาริศาก็สะดุดตารู้สึกคุ้นๆ ยิ้มเอ็นดู ชมว่าน่ารักกันจริง ยิ่งเมื่ออคินบอกว่าเค้กมะพร้าวอ่อนนี่ริศาลงมือทำที่บ้านเรานี่เอง ก็ชมว่าเก่ง อคินปะเหลาะป้อนเค้กให้คุณย่า คุณย่ากินเค้กไปก็มองริศาไปว่าคุ้นหน้าแต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
อยุทธชิมเค้กแล้วชมว่าอร่อยจริงๆด้วย ชมริศาว่าเก่งจริงๆ อคินผสมโรงอวดว่าริศาทำอาหารเก่งทุกอย่างเหมือนกับเชฟมือหนึ่งเลยทีเดียว คุณย่าถามริศาว่าพ่อเสียไปแล้วอยู่กับใคร ปู่ย่าตายายยังมีอยู่ไหม ริศาบอกว่ามีคุณป้าเหลืออยู่คนเดียวนอกนั้นเสียชีวิตหมดแล้ว อคินเลยทำหน้าที่เล่าต่อว่า
“ตระกูลของริศาเป็นนักบินกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ เท่มากๆ โดยเฉพาะปู่ของริศาเป็นนักบินรบในหน่วยบินลับที่อุดรฯ สมัยสงครามเวียดนามน่ะครับ”
อยุทธจิบชาอยู่แทบสำลัก คุณย่าที่กำลังตักเค้กกินก็ชะงักกึก จ้องหน้าริศาถามเสียงสั่น
“อ่อ...เหรอ...ปู่หนูชื่ออะไรล่ะ”
“ชื่อปู่สันติค่ะ คุณย่าชื่ออังคณา”
“นามสกุลอะไรนะ”
“พงศ์บุญยภาค่ะ ตามนามสกุลคุณปู่”
คุณย่าลุกพรวดทันทีมองริศาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาแล้วน้ำตาก็รื้นเต็มตา ทุกคนตกใจ อคินถามว่าคุณย่าเป็นอะไร
คุณย่าบอกว่าเวียนหัว ให้อคินพาขึ้นไปพัก อคินบอกให้ริศาช่วยประคอง คุณย่าเสียงแข็งทันทีว่า
“ไม่ต้อง ให้เขากลับไป กลับไปเดี๋ยวนี้ แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก”
ริศาตกใจหน้าเสีย ก็พอดีอรนิภาเดินเฉิดฉายเข้ามาสวัสดีทุกคนแล้วถามว่าคุณย่าเป็นอะไรแล้วรีบเข้าไปช่วยประคองขึ้นชั้นบน
อคินคอยหันมองริศาอย่างเป็นห่วง ริศาน้อยใจ เศร้าใจ ทำตัวไม่ถูก น้ำตาค่อยๆไหล ทรุดนั่งที่โต๊ะอย่างเดียวดาย...
ooooooo
อรนิภาอยากรู้มากว่าเกิดอะไรขึ้น ลงมาเจอริศาก็ถามอย่างหาเรื่องทันทีว่าเธอทำอะไรคุณย่า ใส่อะไรให้คุณย่ากิน เลยเถิดกระทั่งว่า “การที่เธอจะฮุบพี่อคิน ก็ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องวางยาคุณย่า”
ขณะริศากำลังงง อคินก็ตามมาบอกว่าเค้กนี่กินกันทุกคนไม่มีใครเป็นอะไรสักคน คุณย่าคงแค่เหนื่อยมากกว่า
อรนิภาก็ยังหาเรื่องว่าอาจจะมีส่วนประกอบบางอย่าง ที่คุณย่าแพ้ก็ได้ พออคินบอกว่าคุณย่าไม่เคยแพ้อะไร เธอก็ตะแบงไปจนได้ว่า
“ไม่งั้นคุณย่าก็คงไม่ชอบหน้าเธอที่มาตามจุกจิกวอแวพี่อคินของฉัน คุณย่าท่านมีมารยาท คงไม่อยากไล่เธอตรงๆก็เลยทำเป็นป่วยจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเธอ”
อคินสุดทนเลยชวนริศาไปกันดีกว่า อรนิภาถามว่าพี่อคินไม่อยู่ดูแลคุณย่าก่อนหรือ เขามองเธออย่างเย็นชาแล้วจูงมือริศาออกไปเลย
เมื่อกลับไปถึงบ้านสันติ ทั้งป้านิ่ม วีรนุช กระทั่งผีอัศนีฟังอคินเล่าแล้ววิเคราะห์กันไปต่างๆนานา แต่อคินยืนยันว่าคุณย่าแค่รู้สึกไม่สบายกะทันหันเท่านั้นริศาตัดบทว่า
“พอเถอะค่ะทุกคน ถ้าทางครอบครัวพี่อคินไม่ชอบ ริศา ริศาก็ไม่ง้อหรอก ให้พี่อคินแต่งงานกับคุณอรนิภา นั่นแหละดีแล้ว ริศาก็อยู่ของริศาได้”
พูดแล้วลุกเดินงอนๆออกไป ผีอัศนีเดินไปปลอบว่าไม่ต้องแคร์พวกคนแก่หัวเก่าเอาแต่ใจ พวกผู้ดีแปดสาแหรกดูถูกคน ยุให้ทิ้งอคินเสีย ดูซิว่ายายแก่นั่นจะทนเห็นหลานตัวเองอกหักได้สักกี่น้ำ
อคินไม่พอใจที่ผีอัศนีเรียกคุณย่าตนว่ายายแก่ ผีอัศนียุริศาว่าเห็นไหมว่าอคินลำเอียงเข้าข้างย่าตัวเองแบบนี้เลิกเสียแต่ตอนนี้ดีกว่ามีปัญหาภายหลัง
ริศาเห็นผีกับคนทะเลาะกันเพราะตนก็บอกให้พอตนปวดหัว แล้วลุกไปปรามทั้งผีทั้งคนว่าอย่าตามมานะ ตนอยากอยู่คนเดียว
อคินบอกผีอัศนีว่าคุณย่าตนผ่านความเจ็บปวดมามาก ในชีวิตตนเห็นแต่พ่อที่ตามใจคุณย่าที่สุดเพราะพ่อกำพร้าอยู่ตามลำพังกับย่าเท่านั้น
ผีอัศนีคิดถึงตัวเองแล้วเศร้ารำพึงกับอคินว่า เชื่อว่าริศาต้องพยายามทำให้ย่าเขายอมรับแล้วเขาเองก็จะจับคนร้ายได้และแต่งงานกัน...
“ทิ้งให้ฉันถูกขังลืมในสร้อยเส้นนั้น ส่วนอนงค์ตอนนี้อาจจะตายไปแล้ว และวิญญาณก็ขึ้นสวรรค์หรือไปเกิดแล้ว แม่อนงค์ก็คงลืมฉันไปแล้ว” ผีอัศนีหน้าเศร้าเมื่อนึกถึงตัวเอง...
อคินมุ่งมั่นที่จะสืบค้นเรื่องปู่ให้ได้ เขาเข้าไปในห้องของอยุทธรื้อตู้เพื่อหารูปปู่ ถามอยุทธว่าพ่อไม่ได้เก็บรูปปู่ไว้บ้างหรือ อยุทธถามว่าเขาโตมากับพ่อกับย่าแล้วจะไปโหยหาคนอื่นทำไม อคินแย้งว่า
“ปู่เป็นฮีโร่นะพ่อ เขาเสียสละความสุขส่วนตัว แม้แต่ชีวิตเขาก็เสียสละได้”
“เออ...ฮีโร่มากเลยล่ะ หน้าที่มาก่อนทุกสิ่ง ทิ้งได้กระทั่งลูกเมีย ที่ไม่มีรูปปู่เพราะอะไรรู้ไหม ปู่แกเขาออกไปทำงานเพื่อชาติแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลยไง ฉันก็เป็นลูกไม่มีพ่อ ย่าก็ตกระกำลำบาก พวกเราไม่มีวันให้อภัยคนแบบนั้นหรอก”
อยุทธพูดเสียงสั่นด้วยความสะเทือนใจน้อยใจ อคินมองหน้าพ่ออึ้ง ทั้งสองเข้าไปในห้องเก็บของมีแต่รูปของอยุทธกับแม่ อยุทธเล่าอย่างเจ็บปวดว่า พอตนถามถึงพ่อทีไรก็โดนไม้เรียวจากแม่ พอฟาดจนพอใจแล้วก็ทิ้งไม้เรียวนั่งร้องไห้คนเดียวทุกที
อยุทธเล่าถึงความน้อยใจในยามเด็กที่เห็นคนอื่นมีพ่อจูงมือพามาโรงเรียน เล่าถึงความเจ็บปวดของแม่ที่ถูกครหาว่าท้องไม่มีพ่อ ได้แต่กล้ำกลืนและย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ เปลี่ยนชื่อนามสกุล มุมานะทำงานเพื่อให้ตนได้ เรียนโรงเรียนดีๆมีความสุขสบาย ย้ำเตือนอคินว่า
“ย่าเก่งขนาดไหน ที่ทำทุกอย่างจนเรามีวันนี้ แกควรจะรักแต่ย่า เอาใจแต่ย่าคนเดียวก็พอ”
อคินถามว่าแล้วชื่อนามสกุลเดิมของย่าคืออะไร
“ไม่รู้สิ...พ่อลืมไปแล้ว เราจะไปสนใจอดีตเพื่ออะไร เราอยู่กับปัจจุบันเถอะอคิน”
ooooooo
อรนิภาเจ็บใจที่อคินจูงริศาไปต่อหน้าต่อตาทิ้งตนเหมือนไร้ตัวตน ก็ไปเป่าหูคุณย่าว่าริศาใส่ยาพิษอะไรในเค้กหรือเปล่า คุณย่าบอกว่าเปล่าและให้เลิกพูดมากเสียทีตนเวียนหัว
เมื่อเป่าหูเรื่องถูกริศาวางยาไม่สำเร็จ อรนิภาก็ยุว่าอคินไม่กลับมาดูแลคุณย่าเลยก็เพราะมัวแต่ไปวิ่งตามยัยนั่น ยุว่า “คุณย่าต้องจัดการมันนะคะ”
คุณย่าบอกว่าตนไม่ได้เกลียดริศาแต่ไม่อยากเห็นหน้าอีก มองอรนิภานิ่งแล้วถามว่าตอบมาสั้นๆว่าอยากเป็นหลานสะใภ้ตนหรือเปล่า อรนิภาตอบทันทีว่า “อยากค่ะ”
“ดี...งั้นต่อไปนี้ฉันจะสนับสนุนเธอ แต่ขอร้องล่ะ ช่วยทำตัวใหม่ให้อคินเขาเอ็นดู ไม่ใช่เป็นแบบนี้” อรนิภา ถามว่าแบบไหน นี่ตนก็สวยแล้วนะ “ใช่...แต่ไม่ใช่แบบที่อคินมันชอบ”
จากนั้นอรนิภาก็เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างขนานใหญ่ แต่งตัวชุดสวยน่ารัก ทำสลัดผลไม้มาเอาใจและจะย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย อ้างว่าคุณย่าไม่ค่อยสบาย ขอร้องให้ตนมาช่วยดูแลและตนก็จะได้ดูแลเขาด้วย เริ่มจากการทำกับข้าวต่างๆให้
เท่านั้นยังไม่พอ เจ้ากี้เจ้าการเข้าไปจัดห้องนอนเปลี่ยนผ้าปูที่นอนม่าน หน้าต่าง บอกว่าจะแต่งให้สวยรอเป็นห้องหอของเราเลย อรนิภามัวแต่พูดเพ้อเจ้อหันมาอีกทีอคินหายไปแล้ว
อคินไปหาคุณย่าถามว่าให้อรนิภามาอยู่ที่นี่หรือ คุณย่าอ้างว่าตนเจ็บออดๆแอดๆ อรนิภาว่างพอดีมาช่วยดูแลย่าจะเป็นไรไป อคินบอกว่ากลัวริศาจะเข้าใจผิด ถูกคุณย่าประกาศิตว่าให้เลิกติดต่อกับสาริศาไม่ต้องเจอกันเลยยิ่งดี ตนไม่อยากเจอ ไม่อยากได้ยินชื่อนี้อีก ยื่นคำขาดว่า
“ถ้าไม่เข้าใจก็ออกไปจากบ้านนี้ ตัดย่าตัดหลาน... โอยยยย...”
คุณย่าทำท่าจะเป็นลม อรนิภารีบเข้ามาพาเข้าบ้าน อ้อนอคินให้ช่วยตนประคองคุณย่าด้วย แต่ทันใดนั้น โทรศัพท์อคินดังขึ้น เขาดูหน้าจอแล้วทักอย่างตื่นเต้น
“ไฮ...คุณสเตฟานี่...ว่าไงครับ”
ooooooo
บรรยากาศหน้าบริษัทบลูไคท์ พนักงานเดินกันขวักไขว่ สเตฟานี่ในชุดทางการเดินมาพร้อมกับอคิน ด้านหลังเป็นตำรวจในเครื่องแบบ พนักงานทุกคน แตกฮือไปจับกลุ่มซุบซิบกัน
นุชวิ่งหน้าตื่นออกมาอ้าปากจะพูด แต่สเตฟานี่ชูเอกสารให้ดูก็ชะงัก ได้แต่มองตามเธอก้าวฉับๆผ่านไป
“กัปตันอคินคะ นี่มันอะไร...”
“หมายค้น นุชทำงานใกล้ชิดท่านรองประธาน นุชไม่รู้หรือไงว่าเขาทำอะไรผิด เขาอยู่ไหน ให้ออกมามอบตัวดีกว่า”
ตำรวจเดินไปที่ห้องทำงานศรันย์ เคาะประตูแต่ไร้เสียงตอบรับ จึงหมุนลูกบิดปรากฏว่าห้องล็อก อคินขอกุญแจห้องจากนุชแต่เธอบอกว่าไม่มี ตำรวจถีบประตูทีเดียวสำเร็จ แต่ภายในห้องว่างเปล่าไร้ผู้คน
พนักงานอยากรู้อยากเห็นเข้ามามุงกันเต็มไปหมด พลางซุบซิบ นุชหันขวับมาตวาดไล่
“ไป...มายืนมุงอะไรกัน กลับไปทำงาน เดี๋ยวฟ้องท่านประธานเลย เออใช่ คุณศรุต” นุชนึกขึ้นได้วิ่งไปที่ห้องศรุต ขณะที่สเตฟานี่พูดกับอคินอย่างแปลกใจว่าหนีไปแล้วหรือ เป็นไปไม่ได้ เขาไม่น่าจะรู้ตัวก่อน
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 6 วันที่ 8 ส.ค.61
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทประพันธ์โดย นภสรMy Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทโทรทัศน์โดย ทิพย์สุดา
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ