อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 6 วันที่ 19 ส.ค.61

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 6 วันที่ 19 ส.ค.61

แม้จะเป็นปาร์ตี้เล็กๆแต่บรรยากาศอบอุ่น ทุกคนดื่มกินดูการแสดงบนเวทีกันอย่างมีความสุข กิฟท์เชิญเจ้าของงานขึ้นไปบนเวทีแสดงอะไรนิดหน่อยคู่กับปาล

“ไม่รู้จะโชว์อะไรก็ร้องเพลงแล้วกันนะครับ”

ปาลร้องเพลงซึ้งๆหวังจะสื่อความหมายไปให้ริน ร้องเพลงไปมองสบตาเธอไปด้วย พายที่ยืนร้องเพลง

อยู่ข้างๆคิดว่าเขาร้องให้ตัวเองยิ้มมีความสุข คอสตูมกับช่างแต่งหน้าเม้าท์แตกว่าคู่นี้เหมาะสมกันมาก รินทนดูไม่ได้ลุกหนี กิฟท์ไม่ยอมให้ไปวิ่งมาขวางไว้



“ผู้จัดสุดเท่มีโชว์ไหมคะ เร็วๆอยากดู ขอดูโชว์กับผู้กำกับ”

รินไม่มีทางเลือกจำต้องอยู่ในงานเลี้ยงต่อไป

ooooooo

ปาร์ตี้เลิกแล้ว แต่กิฟท์ติดลมอยากสนุกต่อ ชวนทีมงานไปดื่มกันต่อที่ห้องของเธอ รินห้ามใครไปดื่มต่อเด็ดขาด พรุ่งนี้นัดกองแต่เช้า บอลขอร้องอย่าเฮี้ยบนักเลย งานวันเกิดพายทั้งทีต้องสนุกให้เต็มที่

“เหรอ พี่ไม่เฮี้ยบก็ได้ แต่ถ้าพรุ่งนี้มีคนไม่ตื่นมาออกกอง พี่เอาเรื่องกับแกดีไหม”

“ไม่ดีครับพี่ ...ไปครับทุกคนรีบแยกย้ายไปนอนเดี๋ยวนี้เลยครับ”

ทีมงานหัวเราะชอบใจที่บอลกลัวรินหงอ จากนั้นทุกคนก็พากันแยกย้ายกลับห้อง กิฟท์เห็นต้นเดินมาเท่านั้น แกล้งเมาทรงตัวไม่ได้เซเข้าหา อ้อนให้เขาพาไปส่งที่ห้อง เขาปฏิเสธทันทีว่าดูแลคนเมาไม่เป็นให้คนอื่นดูแลน่าจะดีกว่า ดันเธอเบาๆไปให้บอล ฝากไปส่งเธอที่ห้องด้วย แล้วเดินไปกดลิฟต์ไม่สนใจใครอีก

“ชิ...เล่นตัวชะมัด”

คอสตูมกับบอลอาสาจะไปส่งกิฟท์ถึงห้องพัก เธอสะบัดทุกคนออกห่างแล้วเดินตัวตรงไม่มีอาการเมาให้เห็น ต่างจากพายลิบลับ พายเมาเอนแทบทรงตัวไม่อยู่

เดือนประคองมาส่งต่อให้รินที่เห็นสภาพเธอแล้วอดตกใจไม่ได้ไม่คิดว่าใสๆซื่อๆอย่างเธอจะดื่มจนเมาเสียลุคขนาดนี้ รินเขย่าตัวถามว่าไหวไหม เธอทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นแทนคำตอบ รินต้องพยุงให้ลุกขึ้น บอลดูท่าเธอแล้วไม่น่าจะไหว

“เดี๋ยวพี่พาพายกลับห้องเอง ฝากดูคนอื่นด้วยนะบอล” รินประคองพายที่เมาไม่รู้เรื่องกลับห้องพักด้วยความยากลำบากเพราะเธอเอาแต่ทรุดฮวบตลอด ปาลต้องเข้ามาช่วยอีกแรง พายเห็นเขามาช่วยพยุงใกล้ชิดสารภาพหมดเปลือกว่าชอบเขามาก รู้สึกดีกับเขาจริงๆ รินที่เดินไปเสียบคีย์การ์ดหน้าห้องพักแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้

“เข้าห้องก่อนดีกว่าครับน้องพาย เมาแบบนี้เดี๋ยวพรุ่งนี้ออกกองไม่ไหวนะครับ”

“แล้วพี่ปาลล่ะคะ คิดยังไงกับพาย”

“พี่คิดว่าพายควรเข้านอนได้แล้ว” ปาลประคองพายไปนอนบนเตียง เธอรั้งคอเขาไว้เกือบจะล้มลงไปบนเตียงด้วยกัน เขารีบแกะมือเธอออก พายเพ้อสักพัก ก็เมาหลับ ปาลอยากอยู่คุยกับรินแต่เธอไม่เปิดโอกาส เขาจำใจกลับห้องพัก บอลกำลังเล่นมือถืออยู่เห็นเขาเปิดประตูห้องเข้ามาก็กระเซ้าทำไมรีบกลับ นึกว่าอยากอยู่ดูแลเจ้าของวันเกิดเสียอีก เขาได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร บอลส่งมือถือให้เขาดูภาพในไลน์กรุ๊ป

“แหม ก็นี่ไงพี่ ในไลน์กรุ๊ปทีมงานกองถ่าย เขาพูดกันว่าพี่กับน้องพายเนี่ยมีซัมติ้งๆแบบกิ๊กกันอยู่ ไม่ต้องห่วงหรอกพี่ รักในกองถ่ายมีทุกกองแหละ น้องพายเขาก็น่ารักจริงๆ ผมปลื้มสุดในกองแล้ว”

ปาลยังตะลึงไม่หายกับข้อความต่างๆที่บอลเอาให้ดู ไม่แปลกใจเลยทำไมรินถึงได้ทำเย็นชาใส่

ooooooo

บอลมาตรวจงานที่ตึกวนาเทพพร้อมวิษณุ เห็นฉากที่ทีมงานสร้างอลังการกว่าคราวที่แล้วก็ชมไม่หยุดปาก วิษณุอดกระเซ้าไม่ได้เซตฉากสวยเกินงบขนาดนี้ ทีมอื่นมิตกงานกันหมดหรือ ทุกคนหัวเราะครื้นเครง

“แล้วนักแสดงล่ะทยอยมากันหรือยัง”

“กำลังมาครับพี่ รถตู้ไลน์มาบอกผมแล้วครับ”

วิษณุไม่เห็นรินอยู่แถวนั้นก็ถามหาทำไมป่านนี้ยังมาไม่ถึงอีก คนที่วิษณุถามถึงกำลังเก็บข้าวของจำเป็นใส่กระเป๋าเป้เตรียมจะมากองถ่าย พายรู้สึกตัวตื่นพอดี ก้มดูตัวเองเห็นสวมเสื้อตัวเมื่อวาน รินเล่าให้ฟังว่าเมื่อวานเธอฉลองหนักไปหน่อย ตนก็เลยพากลับมาให้นอนเลยไม่ได้ปลุกมาเปลี่ยนชุดให้

“พายขอโทษนะคะ พายสนุกไปหน่อย ลำบากพี่รินต้องแบกพายกลับห้อง”

“ไม่ใช่พี่หรอก ปาลน่ะที่พยุงพายมา...งั้นเดี๋ยวพี่รีบออกไปกองถ่ายก่อนนะ แล้วจะให้รถตู้วนกลับมารับ” รินรีบร้อนออกจากห้อง ขณะที่พายยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่รู้ว่าปาลเป็นคนพามาส่งห้อง...

ที่ตึกวนาเทพ เดือนเข้ามาแจ้งกิฟท์ว่าเย็นนี้จะมีสัมภาษณ์เธอกับต้น โดยมีแบล็กกราวด์เป็นฉากแต่งงานมีนักข่าวลงชื่อมาทำข่าวกันคับคั่ง เดือนกำชับช่างแต่งหน้าทำผมให้ประโคมกิฟท์แบบสุดฤทธิ์ จังหวะนั้นต้นเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว อาการเหวี่ยงวีนของกิฟท์หายไปทันที เขาเห็นรินก็บ่นเสียดายเมื่อคืนยังไม่ได้ร้องเพลงด้วยกัน กิฟท์แหวใส่ เมื่อคืนนี้ต้นกับเธอเต้นไปสิบยกยังเหลือแรงอีกหรือ รู้อย่างนี้จัดไปยี่สิบชุดดีกว่า

“เอ่อ รินขอตัวไปเช็กหน้างานก่อนนะคะ วันนี้ฉากใหญ่ด้วย”

“จริงด้วยสิครับ ผมลืมไปเลยว่าวันนี้มีซีนแต่งงานด้วย”

“ลืมตอนนี้ได้แต่ตอนเข้าฉากห้ามลืมบทนะคะ” รินกระเซ้า ทั้งคู่หัวเราะขำ กิฟท์มองเธอไม่พอใจ...

ปาลเพิ่งมาถึงกองถ่าย เห็นรินยืนคุยอยู่กับหน่อย ตรงรี่มาหา เธอเหลือบเห็นเขารีบชิ่งหนี เขาวิ่งมาดักหน้าทักว่ามาแต่เช้าเลย รินรีบบอกว่าอีกสักครู่พายคงมาถึง เขาไม่ได้ถามถึงพายสักหน่อยทำไมต้องพูดถึงด้วย เธอเดินหนีอีก ปาลตามไปขวางไว้ถามว่าเป็นอะไร เธอไม่วายยียวน

“ก็เป็นผู้จัด มีหน้าที่ที่ต้องทำมากมายแล้วถ้าคุณไม่มีอะไร ฉันขอตัว”

“โอเค ตอนนี้คุณเป็นผู้จัด แล้วถ้าผมอยากได้รินคนเดียวกับที่ภูเก็ตกลับคืนมา ผมต้องทำอย่างไร”

“คุณ วันนี้ฉันยุ่งมากนะ ถ้าคุณจะมาคุยอะไรไร้สาระแบบนี้...”

“ไร้สาระเหรอ คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอถามจริงๆ”

รินส่ายหน้าไม่เห็นจะรู้สึกอะไร เขาไม่เข้าใจทำไมเธอถึงต้องคอยหลบหน้ากันด้วย เธอไม่เคยหลบถ้าหลบอย่างเขาว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้หรือ จังหวะนั้นพายเดินเข้ามาพอดีถามว่ามีเรื่องทะเลาะอะไรกันรินถึงได้หน้าหงิกอย่างนั้น

“พี่พูดจาไม่เข้าหูรินเท่าไหร่น่ะ ไม่มีอะไรหรอก”

“พายขอบคุณพี่ปาลมากนะคะที่เมื่อคืนลำบากไปส่งพายที่ห้อง พายจำอะไรไม่ค่อยได้เลยค่ะ ถ้าพี่รินไม่เล่าให้ฟัง พายยังงงอยู่เลยว่ากลับมาถึงห้องได้อย่างไร...ไม่รู้พายทำอะไรน่าอายลงไปเมื่อคืน”

“เปล่านี่ไม่มีอะไรหรอก น้องพายอย่าคิดมากเลย”

ooooooo

ฉากแรกที่จะถ่ายทำเป็นตอนคุณพระวนาเทพเข้าพิธีแต่งงานกับคุณกำไล และจะมีฉากตอนที่คุณกำไลขอคำมั่นจากคุณพระว่าจะรักเธอเพียงคนเดียวไปจนตาย จะไม่มีหญิงอื่น

“พี่ขอให้สัตย์สัญญา นอกจากน้องแล้ว พี่จักไม่มีใคร มิมีวันยกย่องหญิงใดเหนือน้องกำไลของพี่”

ผีหยดปรากฏตัวขึ้นข้างหลังกิฟท์มองด้วยแววตาคั่งแค้น “คำพูดของเอ็งมันช่างน่าขันนัก เอ็งนึกว่าเอ็งมีคำสัญญาจากคุณพระเพียงคนเดียวเยี่ยงนั้นรึ” พลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความทรงจำของเธอ ตอนนั้น หยดอยู่ที่เรือนบ่าวเพิ่งดื่มน้ำมะพร้าวจนหมดลูก คุณพระวนาเทพเดินเข้ามากอดทางด้านหลัง เอามือลูบท้องเธอสีหน้ามีความสุขที่จะได้ลูกชาย

“คุณพระยังนึกถึงบ่าวอยู่รึเจ้าคะ บ่าวมันพูดกันให้ทั่วเรือนว่าคุณกำไลเองก็มีลูกชายให้คุณพระแล้ว คงมิต้องการเมียทาสไร้ค่าไร้ราคาอย่างบ่าวให้รกเรือนอีก”

“จักไปฟังพวกปากหอยปากปูมันทำอันใด ฉันโชคดีมีลูกชายถึงสองคน นับเป็นเรื่องมีบุญยิ่ง ฉันอุตส่าห์มาหา เหตุใดถึงต้องมาพูดกันเสียแบบนี้ ให้ขุ่นข้องหมองใจด้วย”

“บ่าวก็คิดเฉกนั้น แต่ปากคนเรามันห้ามกันมิได้ดอกเจ้าค่ะ” หยดแกล้งบีบน้ำตา คุณพระวนาเทพสงสารเธอจับใจดึงมากอด ถามว่ายังจำสัญญาที่เขาเคยพูดกับเธอได้ไหม เขาไม่เคยลืม เขาจะยกย่องเธอกับลูกชายไม่ต่างจากเมียเอก หยดถามย้ำว่าพูดจริงหรือ

“รึว่าคำสัตย์สัญญาของฉันมิมีราคาค่างวดอันใดต่อแม่หยดเลย”

“บ่าวมิกล้าคิดเยี่ยงนั้นดอกเจ้าค่ะ”

“เมื่อฉันมิเคยลืมแม่หยดก็อย่าได้สนคำกล่าวของผู้อื่น ยิ่งมิต้องไปเรือนใหญ่ ให้โดนใครเขารังแก ดูแลตัวเอง กับลูกฉันให้ดี แล้ววันที่ลูกคลอดฉันจักรอรับลูกชายเราที่หน้าเรือนใหญ่ ดีรึไม่” คุณพระวนาเทพดึงหยดมากอดแนบอก เธอกอดเขาตอบ...

แทนที่จะรักษาเนื้อรักษาตัวดีๆ หยดกลับหาเรื่องบ่าวอื่นที่พูดไม่เข้าหูไปทั่วโดยเฉพาะกับนางสายมีปากเสียงเถียงกันรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือ นางสายพลาดท่าหกล้ม หยดได้ทีตามเข้าไปซ้ำปรากฏกว่า ตัวเองลื่นพลัดตกบันได ลงไปนั่งร้องโอดโอย หยาดเห็นเลือดไหลมาตามขา

ร้องเอะอะลั่น นางสายกลัวความผิดวิ่งหนีกระเจิง

“โอย...ท้องข้า เจ็บเหลือเกินลูกของข้า”

หยาดรีบพาหยดไปนอนพักในห้อง นอนรออยู่นานสองนานคุณพระวนาเทพไม่โผล่มาดู แถมหมอก็ไม่มา เธอเริ่มโวยวายไล่ให้หยาดไปตามคุณพระมาให้ที หยาดต้องขอร้องให้ใจเย็นๆ โมโหไปก็จะยิ่งเจ็บท้อง

“คุณพระมิรู้รึว่าข้าเจ็บท้องจักเป็นจักตายเยี่ยงนี้ โอ๊ย...เจ็บเหลือเกิน”

“คุณพระให้คนไปตามหมอแล้ว หมอใกล้จักมาเต็มที”

หยดไม่อยากได้หมออยากให้คุณพระมาหา ไล่ให้หยาดไปตามท่านมาเดี๋ยวนี้ พอเห็นหยาดไม่ไปตามให้ จัดแจงจะลุกเองแต่ปวดท้องมากลุกไม่ไหวต้องลงนอนอย่างเดิม หยาดสงสารพี่สาวจับใจเข้าไปประคอง

“คือฉัน...ไปตามคุณพระมาแล้ว แต่คุณกำไลท่านแพ้ท้องหนักมาก คุณพระเลยต้องอยู่ดูแลคุณกำไลที่เรือนใหญ่”

“เอ็งพูดว่าอันใดนะ” หยดเริ่มอาละวาดขว้างปาข้าวของ หยาดกลัวมากถอยกรูดไปซุกอยู่มุมห้อง พยายามขอร้องให้ใจเย็นๆเดี๋ยวจะยิ่งเจ็บท้อง หยดก็ไม่ฟัง ปาข้าวของไปก็ก่นด่าคุณกำไลไปด้วย หยาดจนปัญญาไม่รู้จะห้ามอย่างไรต้องถอยออกมา

ooooooo

หมอเข้ามาตรวจท้องหยดที่นอนเครียดอยู่บนเตียงก่อนจะถอนหายใจออกมา ตรวจเสร็จเก็บข้าวของลงกระเป๋าร่วมยา หยดผุดลุกขึ้นมาหน้าตาซีดเซียว

“ลูกข้าเป็นเยี่ยงไรบ้างยังอยู่ดีรึไม่”

“อีหยดข้าเสียใจด้วยจริงๆนะ แต่...เด็กคงออกมาพร้อมเลือดแล้วล่ะ มิอยู่กับเอ็งแล้ว”

“มิอยู่แล้วรึ นี่หมายความว่าข้าแท้งลูกอย่างนั้นรึ”

“แต่เอ็งไม่ต้องเป็นห่วงดอก อายุยังน้อยยังสาวเยี่ยงนี้ ยังพอบำรุงให้มีลูกใหม่ได้ เดี๋ยวข้าจะเขียนเทียบยาให้ แล้วเอ็งก็สั่งให้อีหยาดมันต้มให้กินสักหน่อยเถิด”

“มันไม่จริงใช่หรือไม่ ต้องมีวิธีรักษาลูกข้าเอาไว้ได้สิ มีสักวิธีรึไม่ หรือหมอต้องการอัฐข้าก็จักไปหามาให้ ขอเพียงรักษาลูกไว้ให้ข้า”หยดเข้าไปหาหมออ้อนวอนให้ช่วย หมออยากช่วยแต่ช่วยไม่ได้จริงๆ วาสนาของเด็กมีได้แค่นี้ อย่าไปคิดอะไรมาก ยิ่งเสียใจร่างกายก็จะยิ่งแย่

“งั้นรักษาตัวเถิด ข้าคงต้องขอตัวไปแจ้งกับคุณพระวนาเทพก่อน”

หยดขอร้องหมออย่าเพิ่งไปบอกอะไรคุณพระ ตนขอเป็นคนบอกเอง แล้วก้มกราบขอร้องหมอ

“เอาเถิด ข้าจักไปลากับพวกไพร่ที่เรือนใหญ่ แล้วบอกให้คุณพระมาฟังจากปากเอ็งเองก็แล้วกัน” หมอมองหยดด้วยความสงสาร ก่อนจะลงเรือนไป หยดถึงกับปล่อยโฮ นี่เท่ากับหมดสิ้นทุกอย่าง ความหวังจะได้ขึ้นเป็นเมียเอกเทียบเท่าคุณกำไลมลายไปสิ้น

“ลูกของข้ามิอยู่แล้ว ลูกของข้า...จักทำเช่นไรดีเจ้ามิอยู่แล้ว แม่จักทำเช่นไรดีเล่า”

แม่เยื้อนเดินเข้ามาพร้อมกับผลไม้รสเปรี้ยว หยดไม่อยากให้แม่รู้เรื่องแท้งลูกลุกขึ้นมาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม่เยื้อนถามว่าเป็นอย่างไรบ้างวันนี้ แล้วทำไมถึงหน้าซีดเซียวอย่างนั้น

“ฉันมิเป็นอันใดแม่ ฉันก็เป็นปกติของฉัน”

“เห็นบนเรือนใหญ่เขาพูดกันให้ทั่วว่าเอ็งตบกับอีนังสายจนเจ็บท้อง”

“ก็นังสายมันปากดีซะเหลือเกิน ด่าฉันกับลูกแม่จักให้ฉันยืนให้มันด่ารึ”

“เอ็งก็หัดเจียมกะลาหัวไว้บ้าง อย่าก่อเรื่องให้มันมากนัก ทุกวันนี้คุณพระเอ็นดูเอ็งก็เพราะลูก หากวันใดคุณพระท่านไม่เมตตา เอ็งจะบากหน้าไปไหนได้”

หยดตระหนักว่าหากไม่มีลูกจะสิ้นอำนาจต่อรอง หยิบตะลิงปลิงกิน ปาดน้ำตาทิ้ง แววตาน่าเวทนาเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นร้ายกาจทันที...

ครู่ต่อมาหยดมาดักรอหมอ กลางทางเดินในป่า หมอเห็นหน้าหยดก็รู้ถึงชะตากรรมตัวเอง พยายามขอให้เธอไว้ชีวิต สัญญาจะปิดปากไม่บอกเรื่องนี้กับใคร หยดไม่สนใจเอาไม้หน้าสามฟาดจนตายคามือ จะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าตัวเองแท้ง

ooooooo

ครั้นคุณพระวนาเทพมาสอบถามอาการของลูกในท้องจากหยดด้วยตัวเอง เธอแต่งเรื่องว่าลูกยังอยู่ดี หมอบอกเพียงว่าต้องบำรุงให้หนักหน่อยเท่านั้นไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล และยังบอกอีกว่าลูกชายคนนี้ มีวาสนาดี ร่างกายแข็งแรง คงอยากอยู่กับคุณพระมากก็เลยไม่อยากจากไปไหน เขาหัวเราะชอบใจ

“พูดได้ดี พรุ่งนี้ฉันคงต้องให้คนไปตกรางวัลที่โรงหมอสักหน่อยแล้ว”

หยดร้องห้ามเสียงหลงว่าไม่ต้อง ตนตกรางวัลให้หมอไปมากมายแล้ว หากคุณพระอยากตกรางวัลก็ให้ตกรางวัลให้ลูกของเราดีกว่า เขารับรองว่าลูกเกิดเมื่อไหร่จะตกรางวัลรับขวัญให้สาสม หยดเห็นเขาไม่ได้สนใจเรื่องหมออีกก็ลอบถอนใจโล่งอก เข้าไปนัวเนียหวังจะมีอะไรกันเผื่อท้องขึ้นมาอีก โชคไม่เข้าข้างมีอะไรไม่ได้เพราะเธอเจ็บท้องเนื่องจากเพิ่งแท้ง คุณพระวนาเทพพานหมดอารมณ์ไปเลย

ผีหยดคิดถึงเรื่องในอดีตแล้วยิ่งเจ็บใจ มองคุณกำไลที่กลับชาติมาเกิดเป็นกิฟท์ด้วยความแค้น ชาติที่แล้วตนไม่ได้คุณพระ แต่ชาตินี้ไม่ว่าจะอย่างไรเขาจะต้องเป็นของตน เธอไม่มีวันชนะตนในชาตินี้ได้ เป็นจังหวะเดียวกับวิษณุสั่งคัต ทุกคนมองเขาใจจดจ่อว่าจะว่าอย่างไร พอได้ยินคำว่าผ่านจากปากเขา เสียงเฮลั่นก็ตามมา เป็นสัญญาณว่าเปลี่ยนไปถ่ายฉากอื่นต่อได้

กิฟท์ในบทคุณกำไลยังนั่งซบต้น ซึ่งรับบทคุณพระ วนาเทพจนฝ่ายชายต้องผลักเธอออก เตือนว่าถ่ายเสร็จแล้ว เธอบ่นเสียดายยังอินกับบทอยู่เลย ช่างแต่งหน้ารีบเข้าไปซับหน้าให้นางเอกของเรื่องพลางประจบสอพลอว่าเล่นกันได้ดีจนตนคิดว่าเป็นแฟนกันจริง ต้นรีบออกตัวว่าเป็นแค่การแสดง แล้วลุกขึ้นขอตัวไปเปลี่ยนชุดเพื่อแสดงฉากต่อไป เดือนลากแขนพายเข้ามาขวางเสียก่อน

“ไม่ต้องเปลี่ยนชุดหรอกค่ะ นักข่าวมาถึงกันแล้วเขาอยากเก็บภาพฉากแต่งงานสุดอลังของละครเรา...มาเลยค่ะพี่ๆนักข่าว ผู้กำกับและนักแสดงของพวกเราพร้อมแล้วค่ะ” เดือนดึงแขนวิษณุมารวมกลุ่มกับนักแสดงนำ กิฟท์พยายามนำเสนอตัวเองกับต้นจนนักข่าวเบื่อ ถามหาคู่พระคู่นางอีกคู่หนึ่งอยากสัมภาษณ์ว่าเป็นคู่จิ้นในจอหรือนอกจอด้วย แต่ปรากฏว่าปาลไม่มาร่วมกลุ่มด้วย ถามหากันเสียงเซ็งแซ่

กิฟท์ไม่พอใจที่ถูกดึงความสนใจเดินมากระซิบกับรินให้ไปตามตัวปาลมาให้สัมภาษณ์กับพาย เดี๋ยวนักข่าวเอาแต่วอแวเรื่องปาลไม่สนใจคู่ตนกับต้น รินไม่มี ทางเลือกจำต้องไปตามหาปาลมาให้ ระหว่างเดินตามหา ปาลวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพลางร้องบอกให้หนี แล้วกระชากแขนเธอวิ่งหน้าตั้งเนื่องจากถูกต่อไล่ต่อย ครั้นมั่นใจว่าปลอดภัยทั้งคู่หยุดพักเหนื่อย รินเห็นแขนเขามีรอยถูกต่อย จะพาไปหาหมอเขาไม่ยอมไป

“ผมไม่เป็นไร เอาเหล็กในออกแล้ว ประคบน้ำแข็งสองสามวันผื่นก็หาย คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”

“งั้นถ้าคุณไม่เป็นอะไรแล้วก็รีบกลับไปให้สัมภาษณ์เถอะ นักข่าวรอสัมภาษณ์คุณกับ...พายอยู่”

ปาลไม่ไปไม่อยากตอบคำถามนักข่าว เรื่องกระแสคู่รักอะไรนั่นเข้าใจผิดทั้งเพ คนที่ตนอยากให้ถามให้เข้าใจถูกกลับไม่คิดจะถามสักคำ รินสวนทันทีหากเขาหมายถึงเธอคงไม่มีอะไรจะถาม ปาลยียวนในเมื่อ เธอไม่ถามเขาขอถามเองแล้วกัน ที่เธอเปลี่ยนไปไม่เหมือนตอนอยู่ภูเก็ตเป็นเพราะพายใช่ไหม รินได้แต่อึ้ง

ooooooo

ท้องฟ้าเหนือบางบาปเริ่มเปลี่ยนสี ช่างแต่งหน้าขี้สงสัยเปิดเฟซบุ๊กเช็กดูเจอข่าวว่าวันนี้จะมีจันทรุปราคาตอนหนึ่งทุ่ม หันไปกระจายข่าวให้คนอื่นรับรู้ ต้นดูเวลาในมือถือพบว่าตอนนี้ 18.37 น. เหลืออีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

“ไอ้วันแบบนี้แหละที่คนโบราณเขาถือว่าจะมีอาเพศใหญ่” คอสตูมทำเสียงตื่นเต้น

บอลหาว่างมงายนี่มันปี 2018 แล้วจะมีอาเพศได้อย่างไร คอสตูมโต้ว่าไม่ได้งมงาย แค่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ บอลแนะให้วิษณุรื้อฉากแขวนคอมาถ่ายใหม่จะได้ไม่ต้องทำซีจีพระจันทร์ถูกโลกบัง คราวนี้จะได้ซีนอาเพศใหญ่สมจริง พี่จอมทีมเซตฉากบอกบอลถ้าอยากถ่ายใหม่ก็ให้เซตฉากเองก็แล้วกัน วิษณุนึกถึงคืนเดือนดับขึ้นมาได้ วิ่งกลับไปที่ห้องรับรองบนตึกวนาเทพ หยิบบันทึกที่ปาลให้ขึ้นมาอ่านช่วงที่เขียนถึงเหตุการณ์นี้

“คืนเดือนดับ แสงมืดไปทั่วฟ้า อาเพศใหญ่กระจายไปทั่ว เป็นวันตายของหยดกับหยาด” วิษณุตกใจ ร้องเรียกผีหยดกับผีหยาดให้ออกมาหน่อยมีเรื่องจะถาม เงียบไม่มีผีตนไหนโผล่มาให้เห็น ลมกระโชกแรงหน้าต่างปิดปัง เสียงท่องคาถาโบราณลอยมาตามลมและเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ เขาคว้าสมุดบันทึกวิ่งออกจากห้อง...

อีกมุมหนึ่งที่ห่างไกลผู้คน ปาลพยายามปรับความเข้าใจกับรินว่าไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรู้สึกอะไรกับพาย ที่ทำดีด้วยก็แค่รุ่นพี่ทำให้รุ่นน้อง ส่วนเรื่องจัดงานวันเกิดให้ก็เป็นปกติของกองถ่ายเขาทำกัน เธอกลับบอกว่าพายชอบเขามากน่าจะลองให้โอกาสน้องบ้าง ปาลตัดพ้อพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร

“คุณไม่รู้หรือว่าจริงๆแล้วคนที่ผมรู้สึกดีด้วยคือใคร”

รินเองก็ชอบปาลแต่จะให้หักหาญน้ำใจพาย คงทำไม่ได้จึงพยายามแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ได้สนใจเขา เรื่องที่ภูเก็ตก็แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปไม่ได้มีความหมายอะไร ถ้าเขามีเรื่องจะพูดแค่นี้เธอขอตัว ปาลไม่ยอมให้ไปคว้าแขนไว้ ตัดพ้อทำไมถึงเสือกไสไล่ส่งกันนัก หรือคนที่เธออยากอยู่ด้วยคือพี่ณุ

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 6 วันที่ 19 ส.ค.61

ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตร
ละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ