อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 9 วันที่ 26 ธ.ค.60

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 9 วันที่ 26 ธ.ค.60

ขณะเดียวกัน รื่นจิตนั่งทานข้าวกับมธุรส เห็นข่าวกันลองหมั้นแพงก็รู้สึกเป็นห่วงวรัชช์ มธุรสยินดีด้วยเพราะกันลองเป็นคนดีจริงๆ...ด้านวรัชช์พอเห็นข่าวก็รู้สึกโกรธและผิดหวัง จิตจีรังกับนนท์ช่วยกันปลอบใจ เขากลับโวยเล็กๆว่าเขาดูเป็นคนขี้แพ้หรืออย่างไร

“เรื่องของความรัก มันไม่มีแพ้มีชนะหรอกเว้ย” นนท์เตือนสติ แต่วรัชช์ไม่เห็นด้วย

“เกมนี้มีแต่คนที่ตายกับรอดตายเท่านั้นแหละไอ้นนท์”...

เย็นย่ำ กันลองจูงมือแพงมาส่งหน้าบ้าน ขอโทษเธอถ้าทำอะไรรวบรัดเกินไป เพื่อนส่ายหน้าพยายามยิ้มแย้ม กันลองอยากเข้าไปคุยกับรื่นจิตให้เป็นกิจจะลักษณะ แต่เธอยังไม่กลับ...เขาชวนแพงไปเที่ยวเชียงใหม่ในวันหยุดหน้า ไปที่เดิมอีกครั้ง เพื่อนรับคำ กันลองจูบหน้าผากเธอก่อนเดินกลับไป เพื่อนหันหลังจะเดินเข้าบ้าน ต้องตกใจเมื่อเจอวรัชช์ยืนอยู่



วรัชช์กระชากเพื่อนเข้ามาประชิด ต่อว่าทำไมทำแบบนี้ เมื่อเธอไม่รักษาสัญญา ตนก็ไม่ต้องรักษาเหมือนกัน เพื่อนห้ามเขาอย่าทำอย่างนั้น พลันกันลองเดินกลับมาเพราะเพื่อนลืมของไว้ในรถ พอเห็นวรัชช์ก็หน้าเครียด เพื่อนส่งสายตาวิงวอนวรัชช์ เขาจึงทำทีบอกกันลองว่าแวะเอาบทใหม่มาให้แพง แล้วย้ำอย่าลืมงานคู่วันพรุ่งนี้ กันลองมองวรัชช์ที่ดูเหมือนสีหน้าเยาะเย้ย

กันลองเดินเครียดเข้าบ้าน โดนชลลดาโวยเรื่องหมั้นแพงไม่บอกกล่าว เธอยังคาใจที่แพงจับปลาสองมือ บ่นว่าลูกไม่รู้จักรักศักดิ์ศรีตัวเอง การได้หมั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นผู้ชนะ กันลองก้มหน้านิ่งไม่เถียง...ต่างกับรื่นจิตที่ไม่ตำหนิแพงสักนิดแถมให้กำลังใจทุกอย่าง

ooooooo

วันต่อมากันลองพาเพื่อนมาสตูดิโอและนั่งรออยู่หลังมอนิเตอร์ วรัชช์เห็นหงุดหงิด พอเข้าฉากแกล้งพูดถากถางเพื่อน กล้ามากที่พามาด้วย เพื่อนไม่พอใจท่าทีเขาจึงปัดว่าเรื่องของตน วรัชช์แกล้งยื่นหน้ามาใกล้จนจมูกเฉียดแก้มเพื่อน กระซิบยั่วกันลอง

“หวังว่าเขาคงไม่แคร์กับเรื่องแบบนี้ เพราะว่ามันเป็นงานนะ”

“ยูมันปีศาจร้ายชัดๆ”

“ก่อนจะว่าผม ลองส่องกระจกดูตัวเองก่อนไหมว่าคุณเป็นใครกันแน่ นางฟ้าหรือปีศาจ”

เพื่อนโมโหคว้าแก้วน้ำในฉากสาดหน้าวรัชช์ ผู้กำกับตกใจสั่งคัต เพื่อนลุกหนี วรัชช์ดึงแขนไว้เตือนให้ควบคุมอารมณ์บ้าง อย่าเผยธาตุแท้ของตัวเองออกมา ตอนนี้เธอคือแพงอาภรณ์ กันลองอยากจะเข้าไปดึงแพงออกมา แต่ทีมงานวุ่นวายพาวรัชช์ไปเซตหน้าผมใหม่ วรัชช์แกล้งปรายตามองกันลองอย่างท้าทาย

ช่วงพัก กันลองชวนคุยเรื่องทริปเชียงใหม่ ว่าพรุ่งนี้เราไปสนามบินพร้อมกันดีไหม เพื่อนอึกอักไม่แน่ใจ วรัชช์กลับมาเห็นหมั่นไส้ เข้ามาเหน็บว่าเกิดเป็นแพงนี่ดีมีแต่คนแคร์ กันลองเริ่มโกรธถามเขายุ่งอะไรด้วย วรัชช์กวนทันที

“ก็ไม่ได้อยากจะยุ่งนักหรอก แค่เห็นคู่หมั้นคุณแล้วนึกถึงใครคนนึง...คนคนนั้นเขาก็หน้าตาเหมือนคุณนะแพง แต่ว่าเรียบร้อย อ่อนหวาน แล้วก็ไม่ขี้อิจฉาเหมือนใครบางคน”

กันลองโอบไหล่แพงเดินหนี วรัชช์ดักหน้า กันลองให้หลีกจะพาแพงไปนั่งพัก วรัชช์เยาะ ถามเธอบ้างไหมว่าอยากพักหรือเปล่า และว่าเขาชอบทำเป็นรู้ใจเธอ ทั้งที่อาจไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ เพื่อนทนไม่ไหวเอ็ดวรัชช์ให้เลิกพูดเพ้อเจ้อ เขาก็แค่คนที่ไม่มีใครแคร์ วรัชช์กรุ่น พอดีทีมงานตามไปถ่ายต่อ เพื่อนจับมือกันลองบอกให้รอแป๊บ กันลองหันมาพูดกับวรัชช์

“เลิกทำตัวเป็นเด็กเรียกร้องความสนใจสักที ก็เห็นๆกันอยู่ว่าแพงเขาแคร์ผม ไม่ใช่คุณ”

วรัชช์จ้องหน้า เพื่อนประชดจะให้ทีมงานรออีกนานแค่ไหน สองหนุ่มหน้าเครียดใส่กัน

ooooooo

เย็นวันนั้นเพื่อนแวะมาเยี่ยมแพง เจอวรัชช์นั่งป้อนข้าวแพงที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง วรัชช์เอ่ยขึ้นว่าอย่าดุฤดีเพราะตนบังคับให้เขาเปิดประตู เพื่อนถามเขาต้องการอะไร ที่เราตกลงกันไว้ยังไม่ครบอาทิตย์ วรัชช์หัวเราะ ถ้ารอถึงตอนนั้นเธอคงประกาศแต่งงานไปแล้ว

เพื่อนพยายามอธิบายว่าที่ทำลงไปเพื่อแพง วรัชช์ลุกขึ้นจับไหล่เพื่อน พูดใส่หน้า

“แต่คุณไม่ใช่แพงอาภรณ์...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมอยากจะจริงจังกับผู้หญิงสักคน อย่าทำให้ผมเสียใจเลยนะ” วรัชช์ชูนามบัตรกันลองเชิงขู่จะโทร.บอกเขา

เพื่อนขอร้องเมื่อถึงเวลาตนจะบอกกันลองเอง วรัชช์ย้อนถามว่าขอร้องในฐานะแพงหรือโฮป เพื่อนตอบว่าแพง เขาไม่พอใจให้เธอตอบใหม่อีกครั้ง เพื่อนขอให้เขาทำเพื่อตนสักครั้ง

“เราทุกคนมันก็อยากทำเพื่อตัวเองด้วยกันทั้งนั้นแหละ และผมก็กล้าพูดอย่างหน้าไม่อายว่าผมมันเห็นแก่ตัว แล้วก็จะทำทุกทางเพื่อให้ได้คุณมา!” เพื่อนยืนอึ้ง วรัชช์พูดเหมือนสั่ง “คืนนี้จะมีปาร์ตี้ฉลองครบรอบ 9 วันของเจี๊ยกกับนนท์ที่ผับเดิม...แล้วผม...จะรอ” พูดจบวรัชช์กลับไป

เพื่อนเครียดกับความหมายกำกวมของเขา...ค่ำนั้น เพื่อนตามมาที่ผับ อวยพรจิตจีรังกับนนท์ จิตจีรังโผกอดยินดีด้วยกับการหมั้นของแพง เพื่อนฝืนยิ้มรับ จิตจีรังชูแก้วให้ชน

“เลือกแล้วก็อย่ากลับมาทำให้ใครบางคนแถวนี้เสียใจอีกล่ะ ไม่งั้นฉันไม่เอาเธอไว้แน่”

เพื่อนชนแก้วด้วยและบอกขอดื่มแค่แก้วเดียว พรุ่งนี้ต้องบินแต่เช้า จิตจีรังล้อมีพรีฮันนีมูนด้วย เพื่อนยิ้มเจื่อนๆหันมาสบตาวรัชช์เข้าพอดี เพื่อนทำตัวร่าเริงตลอดงาน...หลังเลิกงาน จิตจีรังกับนนท์ยืนส่งเพื่อนๆกลับ วรัชช์แกล้งเดินเบียดไหล่เพื่อนออกไป เพื่อนไม่อยากจะใส่ใจ

และแล้วในคืนนั้น เพื่อนมาหาวรัชช์ที่ห้องพักในโรงแรม ขอให้พูดกันดีๆ และขอให้เชื่อตนว่าแพงอาการกำลังดีขึ้น อีกไม่นานตนจะกลับไปเป็นโฮปคนเดิม เพื่อนเห็นนามบัตรกันลองวางอยู่ก็แอบหยิบมาใส่กระเป๋าไว้ วรัชช์เห็นในกระจกแต่ทำเป็นไม่เห็นแล้วถามดักคอ ว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้เพื่อแพงหรือเพื่อตัวเองกันแน่ เพื่อนยืนยันว่าเพื่อแพง

“โกหก!” วรัชช์ไม่เชื่อ เพื่อนโกรธตีเขาเพียะ

“แพงเป็นแฝดไอนะ ก็ต้องช่วยน้องสิ”

“คุณกำลังอิจฉาน้อง อยากได้ทุกอย่างของแพงต่างหาก ถ้าไม่จริงก็ต้องกล้าบอกความจริงกับทุกคน”

“ไอบอกเหตุผลไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากให้ชีวิตแพงแล้วก็ชีวิตไอพังลงตรงนี้ นายจะทำอะไรก็เชิญแล้วกัน” เพื่อนโกรธจะกลับ แต่วรัชช์จับแขนไว้และบอก เขาไม่อยากรอ เพื่อนสวนว่าไม่ได้ขอให้รอ วรัชช์ดึงเธอมากอด เพื่อนใจอ่อนบอกไม่เคยพูดว่าระหว่างเราจะไม่เหมือนเดิม

วรัชช์ต่อรองให้ทำให้เขามั่นใจ โชว์มือถือที่กดเบอร์กันลองค้างไว้ เพื่อนหน้าเสียยืนนิ่ง วรัชช์จึงกดโทร. ออก เพื่อนรีบดึงมาตัดสายทิ้ง ทันใดวรัชช์ดึงเพื่อนเข้ามาจูบ เธอตกใจดิ้นขลุกขลัก สักพักก็โอนอ่อนไปตามไฟราคะ วรัชช์กระซิบว่าเธอรู้ว่าตนต้องการอะไร ตนรักเธอ เพื่อนเสียงสั่นถามเขาเมาหรือ ชายหนุ่มส่ายหน้าแล้วทาบตัวทับเธอลงบนเตียง

รุ่งเช้า เพื่อนลืมตาขึ้นมาด้วยหัวใจหวาดหวั่นระคนสุข หันมองหน้าวรัชช์ที่นอนอยู่ข้างๆอย่างสับสนน้ำตาซึม หยิบมือถือวรัชช์ขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง แต่พอเห็นภาพหน้าจอเป็นรูปคู่ตนกับเขาก็น้ำตาไหลรินรู้สึกผิด

เพื่อนโทร.บอกกันลองว่าเพิ่งออกจากกองถ่ายจะไปเจอกับเขาที่สนามบินเลย กันลองพยายามไม่คิดมาก วรัชช์ยื้อไม่อยากให้เพื่อนไป เธอสบตาขอร้อง

จากนั้น เพื่อนโทร.หารื่นจิตขอโทษที่ไม่ได้กลับบ้านและบอกว่าจะไปกับกันลอง ขอให้เชื่อใจลูก... รื่นจิตเดินออกมาเจอกันลองกำลังจะขึ้นแท็กซี่หน้าบ้าน เขารีบรับรองกับเธอว่าจะรักษาเกียรติของแพง แล้วหยั่งเชิงถามว่าแพงเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปกองถ่ายด้วยใช่ไหม ตนกลัวเธอจะลืม รื่นจิตรู้ทันทีว่าแพงโกหกเขา จึงเออออไปว่าน่าจะใช่

ก่อนไปสนามบิน เพื่อนแวะหาแพง เอาแหวนหมั้นสวมลงที่นิ้วแพง พร้อมบอกว่ามันเป็นของแพง ฤดีรายงานว่า การตอบสนองของคนไข้ดีขึ้นมาก ควรพาไปให้หมอทำกายภาพบำบัด เพื่อให้สมองฟื้นตัว เพื่อนรับปากกลับมาจะรีบพาไป

ooooooo

วรัชช์เห็นคลิปที่เพื่อนอัดไว้ตอนยังนอนอยู่ด้วยมือถือเขา “ไอยอมรับว่ายู คือคนที่รู้จักไอดีที่สุด และถ้ามันไม่มากเกินไปวันนี้ไออยากจะขอให้ยูรอ...ใช่ไอรู้ว่าไอเห็นแก่ตัว แต่ไอ ไอ...” เพื่อนพูดไม่ออกน้ำตา ไหลริน คลิปถูกตัดไป

จิตจีรังกับนนท์เดินมาด้านหลังวรัชช์เห็นคลิป ก็ตกใจที่สองคนเลยเถิดกันขนาดนี้ จิตจีรังซักถามวรัชช์ว่าเห็นแพงเป็นหนึ่งในกิ๊กผลไม้ของเขาหรือเปล่า เขายืนยันว่าคนนี้รักจริง เธอจึงว่าแล้วจะรอช้าทำไม ยุให้ตามแพงไปที่สนามบิน วรัชช์ลังเล จิตจีรังคิดว่าควรบอกให้กันลองรับรู้ ว่าแล้วก็แย่งมือถือวรัชช์มากดส่งคลิป วรัชช์ตกใจพอดูหน้าจอเห็นว่าส่งผิดคน จิตจีรังหน้าเจื่อน

คลิปถูกส่งมาให้แตงโม วรัชช์รีบมาขอให้เธอลบคลิป เกรงจะหลุดออกไป แตงโมเรียกร้องสิ่งแลกเปลี่ยนจนหนำใจ

สุดท้ายเพื่อนต้องแวะซื้อเสื้อผ้าก่อนจะมาเจอกันลองที่สนามบิน กันลองเห็นเธอหิ้วถุงมากมายก็แปลกใจ เพื่อนอ้างว่าลืมกระเป๋า เขาเอะใจแต่กลบเกลื่อนไม่อยากให้หมดสนุก

เย็นวันนั้น กันลองกับเพื่อนมาถึงดอยอินทนนท์ ทั้งสองนั่งชมวิว กันลองเห็นแพงท่าทางเหนื่อยๆ จึงถามเครียดเรื่องอะไร เพื่อนอ้างว่าเรื่องบทละคร เป็นบทนางเอกใจโลเลขี้โกหก กันลองยิ้มๆบอกก็น่าเครียดเพราะตรงข้ามกับตัวแพง เพื่อนกอดแขนกันลองอย่างรู้สึกผิด

พอเข้าพักโรงแรม พนักงานแจ้งว่ามีห้องสูทเหลือเพียงห้องเดียว เพื่อนหน้าเสีย กันลองเห็นสีหน้าเธอจึงชวนย้ายโรงแรม เพื่อนเหนื่อยดึงคีย์การ์ดแล้วเดินนำไป กันลองรู้ว่าเธอจำใจ ตามถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เพื่อนโบ้ยว่าเหนื่อยจากงานอยากพัก กันลองจึงให้เธอนอนพัก ตัวเขาจะออกไปเดินเล่นแถวนี้...พอกันลองเดินไป เพื่อนลังเลใจอยากเรียกเขาไว้ก็อยาก อยากโทร.หาวรัชช์ก็อยาก เธอว้าวุ่นใจอย่างมาก

ขณะที่หลับ เพื่อนฝันว่าวรัชช์ตามมาต่อว่าที่อยู่กับกันลองแล้วโกหกเขาว่ามาทำงาน เพื่อนถามได้ดูคลิปที่อัดให้หรือยัง จะรอตนได้ไหม วรัชช์ดึงเธอมากอดบอกรอมานานแล้ว กันลองกลับมาเห็น เพื่อนตกใจปกป้องวรัชช์ บอกตนผิดเอง วรัชช์โพล่งขึ้นว่า

“เราสองคนรักกัน คุณปล่อยแพงไปเถอะ”

กันลองไม่ฟัง ดึงมือเพื่อนอยากคุยลำพัง วรัชช์ไม่ยอมดึงมืออีกข้างไว้ กันลองถามแพง

“จะอยู่กับพี่หรือจะไปกับมัน!”

เพื่อนค่อยๆปลดมือวรัชช์ขอร้องให้เขาออกไปก่อน วรัชช์หาว่าเพื่อนเลือกกันลอง เพื่อนส่ายหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก กันลองไล่ซ้ำ วรัชช์ทั้งเจ็บใจระคนเสียใจเดินออกไป ร้องไห้หน้าห้องอย่างสุดกลั้น...ไม่ทันที่กันลองจะถามอะไร เพื่อนตัดสินใจบอกเขาว่า ตนไม่ได้รักเขา กันลองตกใจบีบแขนเธอถามว่าพูดอะไรออกมา

“แล้วฉัน...ฉันก็ไม่ใช่แพง” กันลองหาว่าแพงบ้า “ฉันไม่ได้บ้า ฉันคือเพื่อน ฝาแฝดของแพง...ฉันผิดเอง อุบัติเหตุคราวนั้น ฉันเป็นคนฟื้นขึ้นมา ไม่ใช่แพง”

กันลองเริ่มสับสน นึกได้ว่าวันนั้นแพงนั่งรถไปกับใครอีกคน เพื่อนย้ำว่าเป็นตน ตอนนี้แพงอยู่บ้านเช่าที่กรุงเทพฯ แต่ยังไม่ฟื้น กันลองส่ายหน้าไม่อยากเชื่อ เพื่อนเน้นย้ำ

“แพงรักคุณ ฉันเชื่อว่าเธอยังรอคุณอยู่ ฉันจะพาคุณไปเจอเธอเอง...นะคะ”

กันลองยกมือห้ามด้วยยังงงแล้วเดินออกจากห้อง เพื่อนลงนั่งกุมขมับ...กันลองออกมาเจอวรัชช์ยืนอยู่ จึงเดินไปหาถามเขารู้เรื่องแฝดใช่ไหม วรัชช์พยักหน้ารับ

“แล้วคุณก็เชื่อแพงเหรอ”

“ผมเห็นกับตานะว่าเธอมีแฝด”

“ถ้าเรื่องแฝดมันเป็นเรื่องจริง แล้วคุณจะมั่นใจได้ยังไง ว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่โกหกคุณอีก ถึงเธอจะใช่แพงหรือไม่ใช่แพง แต่ถ้าเธอโกหกผมได้ โกหกประชาชนทั่วประเทศได้ เธอก็โกหกว่าเธอรักคุณได้เหมือนกัน”

“ถึงผมไม่รู้ว่าอะไรคือความจริง แต่ผมก็รักเธอ” วรัชช์หน้าเครียด

“ดีนะที่คุณแค่คิดว่ารักหรือไม่รัก ส่วนผมตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่า คนที่รักอยู่ไหน”

สองหนุ่มสีหน้าเจ็บปวดไม่แพ้กัน เดินแยกกันไปคนละทาง เพื่อนตามออกมา ไม่เหลือใครสักคน เธอทรุดลงร้องไห้ด้วยความอัดอั้น...

เพื่อนสะดุ้งตื่นมองไปรอบห้อง น้ำตายังคลอเบ้า กันลองออกมาจากห้องน้ำ บอกเธอว่าได้โทร.บอกรื่นจิตว่าเรามาถึงแล้ว เพื่อนนึกได้ว่าลืมบอก กันลองส่งถุงใบโตให้ เพื่อนมองงงๆ เขาบอกเห็นเธอเพลียและไม่ได้เอากระเป๋ามา จึงซื้อวิตามินบำรุงมาให้รวมทั้งไก่ฟ้าสูตรใหม่

“ขอโทษนะคะที่ไม่ค่อยร่าเริง พะลองเลยต้องลำบากมาดูแลแพง แล้วก็มีอีกหลายเรื่องที่แพงอยากจะบอกกับพะลอง”

กันลองหวั่นใจรีบตัดบทเปลี่ยนเรื่อง ชวนไปทานอาหารของโรงแรม เห็นเธอไม่ค่อยสบายไม่น่าออกไปไหน เพื่อนฝืนยิ้มรับ...

จิตจีรังหงุดหงิดที่เห็นวรัชช์นั่งเล่นเกมไม่ตามแพงไป วรัชช์ตั้งใจทำตามคำขอในคลิปที่ให้รอ จิตจีรังตอกย้ำถ้าโดนหลอกอย่างเรื่องหมั้นจะทำอย่างไร วรัชช์นิ่งข่มใจไม่ให้ฟุ้งซ่าน

ช่วงเวลาที่นั่งกินข้าวใต้แสงเทียนกับกันลอง เพื่อนคิดถึงแต่วรัชช์ ตลอดเวลาที่กันลองคุยเรื่องในอดีตของเขากับแพง เพื่อนเออออไปแต่ในใจเห็นเป็นภาพวรัชช์กำลังพูดประโยคนั้นๆ

“แปลกดีนะคะ ความทรงจำดีๆของพะลองมีแต่เรื่องเมื่อก่อน แต่ช่วงครึ่งปีที่เราคบกันมา กลับไม่มีเรื่องดีๆให้จำบ้างเลยหรือคะ”

กันลองกุมมือเพื่อน “ไม่ใช่อย่างนั้น อะไรที่เกิดขึ้นระหว่างเรามันก็เป็นความทรงจำดีๆของพะลองทั้งนั้นแหละ เพียงแต่พักหลังมานี้แพงดูแปลกไป เหมือนแพงปิดบังอะไรพะลองอยู่ พะลองแค่รอวันที่แพงจะเปิดใจกับพะลองเหมือนเมื่อก่อน”

เพื่อนกลับเห็นภาพวรัชช์กุมมือตนและบอกว่า...

อยู่กับผมคุณก็แค่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องปิดบังอะไร... เพื่อนบีบมือกันลองตอบกลับ “แล้วทำไมพะลองไม่เปิดใจให้แพงก่อนล่ะคะ”

“พะลองไม่เปิดใจให้แพงตรงไหนหรือคะ ในเมื่ออะไรที่พะลองเคยมีให้แพง พะลองก็มีให้เหมือนเดิมทุกอย่าง” กันลองไม่เข้าใจ เพื่อนเผลอหงุดหงิดใส่

“ขอโทษนะคะ วันนี้แพงคงไม่ใช่แพงคนเดิมของพะลอง”

เพื่อนลุกขึ้นเดินไป กันลองตกใจจะตามแต่ยั้งคิด เกิดอะไรขึ้นกันแน่...และแล้วเพื่อนกลับมานั่งโมโหตัวเองที่ไปใส่อารมณ์กับกันลอง หยิบมือถือมาดู ไม่มีข้อความใดๆจากวรัชช์เลย จึงอัดคลิประบายความอัดอั้น

“แพง...ไอไม่น่าไปดราม่าใส่พะลองเลย ถ้าไอสารภาพทุกอย่างออกไป ทุกคนก็คงเกลียดไอ ทุกคนจะเข้าใจไหมว่าไอทำเพื่อแพง ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง...ใช่... ไอไม่ได้ทำเพื่อตัวเองสักนิด”

ขณะเดียวกัน กันลองยืนชั่งใจอยู่หน้าห้องที่จะเคาะประตู แล้วตัดสินใจเปิดห้องพักใหม่

ooooooo

เช้าวันใหม่ เพื่อนตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่คนเดียวในห้อง กดโทร.หากันลองก็เป็นสัญญาณปิดเครื่อง เพื่อนรู้สึกไม่สบายใจ พออาบน้ำแต่งตัวเดินมาที่ห้องอาหาร ก็เห็นกันลองนั่งทานข้าวอยู่ จึงเดินไปนั่งตรงข้ามและถามว่าเขาไม่ได้กลับไปนอนที่ห้องหรือ

กันลองพยายามทำตัวเป็นปกติ บอกว่าเขาเปิดอีกห้องพัก แล้วชวนแพงทานข้าว มีอะไรไว้คุยกันทีหลัง เพื่อนอึดอัดใจอยากสารภาพความจริงกับเขามาก

ในขณะที่วรัชช์เล่นเกมกับนนท์จนหลับคาเกม จิตจีรังหน้าตาตื่นถือไอแพดมาปลุกให้เขาดูอะไรบางอย่าง ทั้งวรัชช์และนนท์เห็นแล้วแทบช็อก...คนทั่วไปเห็นคลิปชายหญิงนอนบนเตียงใบหน้าเบลอ ห่มผ้าเห็นหัวไหล่เปลือยเปล่า และคำพูดที่แพงพูด...แล้วแชร์ต่อกันว่อน

ชลลดาเห็นคลิปลมแทบจับ รื่นจิตรู้จากมธุรสรีบเปิดคลิปดู พยายามตั้งสติต้องเชื่อใจลูก ราณีกับญาณีเรียกทวิตตี้เข้าไปสอบถาม ทุกฝ่ายต่างเครียด เพราะคอมเมนต์ กระทู้แฟนคลับวัชราภรณ์ยาวเหยียด พวกสืบเสาะพยายามโยงภาพให้เห็นว่า แบ็กกราวด์ในคลิปตรงกับห้องของพระเอกหนุ่ม รายการวิทยุ โทรทัศน์ คุยเรื่องคลิปหลุดกันเมามัน

รื่นจิตกลับบ้านแต่หัววันพยายามติดต่อแพงแต่ยังติดต่อไม่ได้ ทวิตตี้หมั่นโทร.ถามและช่วยติดต่ออีกแรง โรยบุญชะโงกหน้าข้ามรั้วมาถามรื่นจิต ว่าผู้หญิงในคลิปใช่แพงไหม แต่ตนว่าใช่เพราะจำหัวคิ้วได้ รื่นจิตขุ่นเคือง มองไปเห็นชลลดายืนกำกับอยู่ข้างหลังโรยบุญ จึงเดินหนี

เพื่อนนั่งกินกาแฟอยู่กับกันลอง ถอดแหวนหมั้นคืนให้เขาและจะสารภาพความจริง แต่แล้วก็พูดเบี่ยงเบนไปว่า ให้เราสองคนห่างกันสักพักเพื่อทบทวนดูว่าเรารักกันจริงหรือแค่เป็นความผูกพัน กันลองตกใจดึงมือแพงมากุมไม่คิดว่าเธอจะคิดมากขนาดนี้

“มันไม่ใช่ความผิดพะลองคนเดียวหรอกค่ะ เพราะ... แพงเองก็ไม่เหมือนเดิม...”

“แพงจะไม่เหมือนเดิมได้ยังไง ในเมื่อแพงตรงหน้าพะลองคือแพงคนเดิม และก็ไม่เคยมีใครมาแทนที่แพงคนเดิมนั้นได้...หายโกรธพะลองนะคะ พะลองขอโทษ”

กันลองจะสวมแหวนคืนแต่เพื่อนชักมือออก เขาปวดใจอย่างมาก “ถ้าแพงต้องการแบบนั้น พะลองก็จะเก็บแหวนนี้ไว้จนกว่าแพงจะหายงอนนะ”

เพื่อนสวนว่าไม่ได้งอน กันลองย้ำว่าเธองอนและก็งอนตัวเองในอดีต เพื่อนมองตากันลองตัดสินใจพูดความจริง

“พะลองคะ คนที่อยู่ตรงหน้าพะลองไม่ใช่แพงอาภรณ์หรอกค่ะ...”

กันลองหุบยิ้มมองแพงอย่างพูดไม่ออก ทันใดทวิตตี้โทร.เข้ามาขัดจังหวะ เพื่อนรับสาย

“ลูกสาวเห็นข่าวเรื่องคลิปหลุดรึยัง ใครเขาก็หาว่าเป็นลูก เปิดดูเลยนะแล้วโทร.หาเจ๊ด้วย”

เพื่อนงงรีบเปิดคลิปที่ทวิตตี้ส่งมาดู ทันใดก็ต้องหน้าเจื่อน กันลองเห็นและได้ยินเสียงแม้จะเบลอหน้าแต่เสียงที่ได้ยินมันชัดเจน

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 9 วันที่ 26 ธ.ค.60

ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทประพันธ์โดย จันทร์ รีจรูญ แอนเดอร์สัน
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทโทรทัศน์โดย ระกาช่อนรูป
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว กำกับการแสดงโดย มนัสนันท์ เลิศวงศ์สกุล
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ผลิตโดย บริษัท ดอร์เธอร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ