อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 8 วันที่ 20 ธ.ค.60

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 8 วันที่ 20 ธ.ค.60

กันลองหยิกแก้มเธออย่างเอ็นดู วรัชช์ยิ่งหงุดหงิดใจ

ในคืนนั้น เฟยหลันอดไม่ได้ที่จะชวนเพื่อนกลับออสเตรเลีย ทั้งที่รู้ว่าเพื่อนกลับไม่ได้ เฟยหลันเปลี่ยนมาถามว่าตกลงใครเป็นบอยเฟรนด์ เพื่อนบอกว่าตนชอบกันลอง เฟยหลันตีแขนให้คิดใหม่ แพงกับกันลองผูกพันกันมานาน เธอไม่มีทางแทนที่แพงได้ ให้เปลี่ยนมาชอบวรัชช์

“ถึงไอจะชอบใครก็เถอะ แต่ยังไงเพื่อนรักของไอก็มีอยู่คนเดียวคือ...เหลียง เฟยหลัน”

“แต่ฉันเกลียดแก...เพราะแกแย่งพี่วรัชช์ของฉันไป” เฟยหลันเอาหมอนฟาดเพื่อนขำๆ




วันต่อมา เฟยหลันจะเดินทางกลับ เพื่อนมาส่งขึ้นรถตู้ที่โรงแรมเพราะไปส่งที่สนามบินไม่ได้ เฟยหลันแอบยัดกระดาษใส่มือเพื่อน วรัชช์เดินเข้ามา เฟยหลันกล่าวขอบคุณน้ำตาปริ่มที่เขาให้ร่วมสนุกด้วยเมื่อวาน วรัชช์ดึงเธอมากอดลา แล้วดึงเพื่อนเข้าไปกอดร่วม

ทีมงานเห็นภาพแอบถ่ายรูปไว้และเม้าท์กันว่า แพงหึงแฟนคลับ เทปนี้เรตติ้งพุ่งแน่...เพื่อนกลับมาบ้าน อ่านโน้ตของเฟยหลันว่าเธอแอบฝากกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ที่พนักงานโรงแรม ให้รีบไปเอาก่อนที่วรัชช์จะเจอ แล้วเตือนว่าอย่าเปลี่ยนเสื้อให้ใครเห็นรอยสัก

คืนนั้นเพื่อนจึงเสิร์ชหาวิธีลบรอยสักที่ไวที่สุด และแล้วก็เจอวิธีที่สุดสยอง...ด้วยการใช้เตารีดไอน้ำนาบลงที่รอยสัก โดยกัดผ้าไม่ให้มีเสียงร้องออกมา...รุ่งเช้าเพื่อนต้องรีบไปพบหมอรักษารอยแผล หมอให้กลับมาล้างแผลบ่อยๆเพื่อไม่ให้เป็นหนองแล้วจะติดเชื้อ

เพื่อนแวะเยี่ยมแพงและได้รู้ว่ามีอาการตอบสนองดีขึ้น หมอให้พากลับไปดูแลที่บ้านได้โดยจ้างพยาบาลช่วยเพราะยังต้องให้อาหารทางสายยาง การใกล้ชิดกับพี่น้องน่าจะทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น เพื่อนขอเวลาเตรียมตัว... ขากลับจึงแวะหาน้อยหน่าให้ช่วยหาบ้านเช่าที่เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ระบายอากาศได้ดี ไม่พลุกพล่านไม่มีมดและแมลง มีแสงแดดส่องสว่าง

น้อยหน่าฟังความต้องการนั้นอย่างมึนๆ จึงให้เบอร์เพื่อนของแฟนที่ทำงานเกี่ยวกับบ้านจัดสรรไปแทน

ooooooo

รุ่งเช้า เพื่อนเข้าฉากกระโดดเซตลูกวอลเลย์บอล วรัชช์ไม่รู้ว่าเพื่อนบาดเจ็บที่บริเวณเอว ในบทต้องสวมกอด เธอเล่นได้ไม่ดี ทีมงานบ่นว่าคงต้องใช้สตันต์ทุกฉาก ช่วงพักเพื่อนหลบมานั่งเศร้าส่งข้อความไปบ่นกับกันลองว่าวันนี้เล่นไม่ดีเลย...มีคำว่าอ่านแต่ไม่มีข้อความตอบกลับ

จู่ๆเค้กชาเย็นยื่นมาตรงหน้า เพื่อนคิดว่าทีมงานส่งให้ก็ขอบคุณ แต่พอเงยหน้าเห็นกันลองก็ดีใจ ถามเขาไม่ทำงานหรือ เขาบอกว่ามาดูแลพรีเซ็นเตอร์ก็เป็นงาน เพื่อนซึ้งใจกินเค้กตุ้ยๆอย่างไม่กลัวอ้วน กินเสร็จกันลองจะกลับ เธอแปลกใจถามเขามาแค่นี้หรือ เขาตอบยิ้มๆ

“ใช่...พี่ต้องหัดทำตัวหวานๆเหมือนพระเอกในละครไง”

เพื่อนหัวเราะ วรัชช์ยืนมองด้วยสีหน้าเซ็งจัด พอกันลองกลับไป วรัชช์ก็ชวนเพื่อนซ้อมกระโดดตบลูกก่อนเข้าฉาก เพื่อนโดนเขากอดเอวก็ทำหน้าเหย วรัชช์เห็นเลือดที่ซึมออกมาจึงตกใจ ดึงมือเธอออกไปถามว่าโดนอะไร เธอตอบอ้อมแอ้มว่าโดนเตารีด

“บ้าเอ๊ย! ทำไมซุ่มซ่ามแบบนี้ นั่งอยู่ตรงนี้ อย่าออกไปไหน ได้ยินไหม” วรัชช์ไปหายาและปลาสเตอร์มาทำแผลให้ใหม่ แล้วต่อว่าแผลขนาดนี้ทำไมไม่บอก ฝืนกระโดดอยู่ได้

เพื่อนบอกไม่อยากให้ทุกคนลำบาก วรัชช์โวยว่าคิดโง่ๆ แบบนี้ไม่ใช่มืออาชีพ ทำไมไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดี อาชีพของเราถ้าร่างกายพัง ทุกอย่างก็พัง...พอทำแผลเสร็จ วรัชช์เดินไปบอกทีมงานว่าเขาปวดหัวทนไม่ไหวขอกลับบ้าน ทีมงานบ่นอุบ เพื่อนอึ้งไม่คิดว่าเขาจะเสียสละแทน

เหตุการณ์นี้ทำให้เพื่อนว้าวุ่นใจ หวั่นไหวไปกับวรัชช์ พยายามหักห้ามใจด้วยการสไกป์ไปคุยกับซาร่าแต่เธอออฟไลน์อยู่ มีข้อความขึ้นว่าซ้อมเชียร์ลีดเดอร์หนักมาก เพื่อนงุ่นง่านนอนไม่หลับ รื้อกระเป๋าที่ไปเอามาจากโรงแรม เห็นของฝากที่ซื้อไว้ให้มัม แด๊ดและซาร่าก็ยิ่งคิดถึง

พวกเขา...หยิบตุ๊กตาวูดูมาคุยด้วยเศร้าๆ ทำนองเราพวกเดียวกัน พวกไม่มีใครรัก

ด้วยความเซ็งเพื่อนเสิร์ชหาผับสำหรับชาวต่างชาติ แล้วหยิบชุดเก่งตอนเป็นโฮปมาใส่...กลางดึกรื่นจิตกลับมาจะเอาของฝากไปให้แพง แต่พอเห็นว่าดึกก็เปลี่ยนใจวางไว้หน้าห้อง เขียนโน้ตแปะไว้ที่ถุงว่า...เห็นผ้าพันคอผืนนี้แล้วนึกถึงแพง

วรัชช์นอนไม่หลับเหมือนกัน โทร.หาสาวแต่ละคนไม่มีใครว่างแม้แต่นนท์และจิตจีรัง จึงแต่งตัวออกไป

คนเดียว...เขามานั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ มีกระเป๋าวางอยู่ข้างๆ เพื่อนเดินกลับมาทัก วรัชช์เห็นเป็นโฮปก็ดีใจ เพื่อนส่ายหน้าทำทีเป็นแพงพลางตัวมา วรัชช์เข้าใจแล้วว่าแพงอยากหนีเที่ยวบ้าง แล้วถามว่ายังเจ็บแผลอยู่ไหม เขาขอโทษที่ก้าวก่ายเรื่องของเธอ เพื่อนส่ายหน้า

“ช่างเหอะ ฉันเองก็ไม่เป็นมืออาชีพอย่างที่คุณว่าจริงๆ” เพื่อนดื่มเครื่องดื่มมึนเมาอ่อนๆ

วรัชช์ยิ้มที่ได้เห็นอีกมุมของแพง แล้วเปรยว่าเราไม่เคยคุยกันดีๆเลย เพื่อนจึงบอกงั้นเราจะคุยกันดีๆ วรัชช์ชวนคุยเรื่องสมัยก่อนที่ไม่คิดว่าดาราดังจะกล้าทำ เพื่อนฟังแล้วขำ เขาเล่าอีกว่าเขามีความรักตั้งแต่ 8 ขวบ นอกใจไปชอบอีกคน แต่ตอนนี้เขาเชื่อว่าแพงกำลังหลงเสน่ห์เขา เพื่อนส่ายหัวตอกกลับว่าเขาโคตรหลงตัวเอง วรัชช์ขำเปลี่ยนเรื่องคุย

“จริงๆแล้วผมเป็นคนอ่อนแอมากนะ มีครั้งนึงนักข่าวขุดเรื่องที่ผมเป็นลูกเมียน้อยมาเม้าท์ ผมโคตรเจ็บเลย แต่ไม่มีใครรู้หรอกเพราะผมแสดงเก่ง ผมทำให้ทุกคนเชื่อว่าผมไม่เป็นอะไร”

“นี่เรื่องจริงไหมเนี่ย หรือกำลังแสดงอยู่” เพื่อนไม่แน่ใจ

“กับคุณผมไม่เคยแสดงเลย คุณรู้ไหม ถึงพ่อจะทำให้ผมหมดศรัทธาในความรัก แต่ความรักทำให้ผมมีความหวัง ผมเชื่อว่าความรักมันมีอยู่จริง” วรัชช์โน้มหน้าไปใกล้แพง

เพื่อนรู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูด จ้องตาวรัชช์อยากที่จะบอกความจริงเขา วรัชช์ทำท่าจะจูบ เพื่อนรีบเอาแก้วมาขวางไว้ ทำให้เขาจูบแก้ว แล้วทั้งสองก็หัวเราะขำกัน

ออกจากบาร์ วรัชช์ขับรถจะไปส่งแพง แต่เธอเมาหลับอยู่เบาะหลังจึงไม่กล้าไปส่งที่บ้าน กันลองส่งข้อความหาแพงทั้งคืน วรัชช์เห็นมือถือแพงขึ้นชื่อพะลองก็หงุดหงิดปิดเครื่องไปเลย

มธุรสนั่งแทะโลมเด็กสาวอยู่ที่บาร์ในโรงแรมของวรัชช์ พอเห็นหลานชายประคองสาวไม่ได้สติยืนรอลิฟต์ ก็จำได้ว่าสาวคนนั้นคือแพง จึงรีบวิ่งไปหาแต่ไม่ทัน มธุรสมาที่ฟรอนต์จะเอาคีย์การ์ดห้องวรัชช์ แต่พนักงานไม่ให้เพราะไม่รู้จักว่าเป็นใคร นนท์ได้ยินเสียงเอะอะเข้ามาเคลียร์ มธุรสหันมากระชากคอเสื้อนนท์แทน และบอกให้เอาคีย์การ์ดมาเดี๋ยวนี้ นนท์สั่งให้พนักงานหา

มธุรสไม่รอช้าวิ่งไปขึ้นลิฟต์ นนท์ตามติด...วรัชช์พาแพงมานอนพักที่ห้อง ถอดรองเท้าถุงเท้าออกให้ แล้วหันมาปลดกระดุมเสื้อตัวเองด้วยความอ่อนเพลีย พลันเห็นแพงดิ้นจะตกเตียงก็เข้ามาจับเธอไว้ มธุรสเปิดประตูเข้ามาถีบหลานชายกระเด็นตกเตียง แล้วรีบเข้ามาเขย่าตัวแพง

พอเห็นว่าแพงเมามากไม่ตื่นก็หันมาเล่นงานวรัชช์ต่อ ไล่เตะรอบห้อง “ทำไมแกเป็นคนอย่างนี้ฮะ ไอ้นุกนิก! ฉันสอนให้แกเป็นมารสังคมตั้งแต่เมื่อไหร่”

“มารสังคมอะไรล่ะ ฟังกันก่อนสิป้า โอ๊ย...”

พนักงานทำหน้าหวาดเสียวถามนนท์จะทำอย่างไรดี นนท์บอกไม่ต้องยุ่งเรื่องของป้าหลาน พนักงานทำหน้าเหวอ เพราะเห็นมธุรสทำตัวเป็นเสี่ยทอม

วรัชช์พยายามอธิบายกับมธุรสว่าแพงเมามาก ตนไม่กล้าไปส่งบ้านกลัวแม่เธอเอาตาย มธุรสบอก

รื่นจิตไม่งี่เง่า ชายหนุ่มชะงักถามป้ารู้จักแม่ของแพงด้วยหรือ เธอพยักหน้าบอกสนิทกันมาจะสามสิบปีแล้ว วรัชช์ตาโตเพิ่งรู้ว่าคนที่ป้าคุยด้วยบ่อยๆคือแม่แพง ก็ต่อว่าทำไมไม่บอก

“ทำไมต้องบอกเอ็ง อย่าบอกนะว่าเอ็งจะจีบหนูแพงจริงๆ”

“ป้า...ป้าจ๋า...เฮียมะ...พานุกนิกไปแนะนำกับแม่แพงหน่อยสิ เผื่อว่า...”

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 8 วันที่ 20 ธ.ค.60

ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทประพันธ์โดย จันทร์ รีจรูญ แอนเดอร์สัน
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทโทรทัศน์โดย ระกาช่อนรูป
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว กำกับการแสดงโดย มนัสนันท์ เลิศวงศ์สกุล
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ผลิตโดย บริษัท ดอร์เธอร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ