อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 10 วันที่ 30 ธ.ค.60

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 10 วันที่ 30 ธ.ค.60

รุ่งเช้าเพื่อนลุกมาทำข้าวต้มปลาให้กันลองและทำเผื่อให้รื่นจิตด้วย ใจรายงานว่ารื่นจิตไม่ได้กลับบ้าน ไปนอนเฝ้าไข้ที่โรงพยาบาล...เพื่อนเอาข้าวต้มไปให้กันลองที่บ้าน เจอโรยบุญหน้าบ้าน เธอทำหน้านิ่งไม่คุยด้วยเหมือนก่อน เพื่อนจึงฝากข้าวต้มไปให้กันลอง

สายวันนั้น กันลองเดินเข้ามาในครัวเห็นโรยบุญกำลังกินข้าวต้มหอมฉุย เธอรีบบอกว่าแพงทำมาง้อ ตอนแรก คิดว่าเป็นของกันลอง แต่พอเห็นว่าเป็นข้าวต้มปลา

กะพงแดงจึงรู้ว่าไม่ใช่ เพราะเขาแพ้ปลานี้ตั้งแต่เด็ก



กันลองแปลกใจเล็กน้อย

เพื่อนหิ้วข้าวต้มมาฝากรื่นจิตที่โรงพยาบาล แล้วถามไม่ไปทำงานหรือ รื่นจิตบอกว่าหอบงานมาทำ เพื่อนยิ่งน้อยใจตัดพ้อว่าทำไมดูห่วงโฮปมาก รื่นจิตบอกว่าฤดีขอลาออกเพราะต้องไปเฝ้าแม่ที่ป่วยหนัก และตนเห็นว่าลูกมีงานละครจึงช่วยแบ่งเบา

เพื่อนไม่พอใจเดินมาบอกหมอว่า จะให้โฮปนอนโรงพยาบาลต่อไป หมอเห็นว่าอาการคนไข้กำลังดีขึ้น น่าให้ญาติช่วยฟื้นฟู จะหาคนไปดูแลให้ใหม่ เพื่อนเสียงแข็งบอกตนต้องการให้โฮปอยู่โรงพยาบาล แล้วขอพยาบาลพิเศษเฝ้าไข้ด้วย หมอพยักหน้าอย่างจำใจ

ooooooo

เช้าวันใหม่ เพื่อนดักรอกันลองที่หน้าบ้าน ในมือถือเครื่องบินลำเล็กที่เขาให้แพง ทำทียิ้มแย้มอ้อนขอไปเป็นเพื่อนเขา เพื่อนอ่านเรื่องของกันลองจากไดอารี่แพงจนรู้หมดว่าเขากับแพงมีความหลังอะไรกันบ้างที่ผูกพันกัน

กันลองพาเพื่อนมานั่งดูเครื่องบินขึ้น เพื่อนพยายามชวนคุยเรื่องเก่าๆ “ตั้งแต่คุณพ่อกัปตันเสีย พะลองก็จะมาระลึกความหลังที่นี่ ตรงนี้ทุกปี เพราะคุณพ่อ กัปตันบอกว่า เวลาหกโมงยี่สิบนาที พระอาทิตย์จากมุมนี้จะตกกระทบกับปีกเครื่องบินสวยที่สุด”

กันลองตื้นตันที่คนรักจำเรื่องราวได้ เพื่อนยังบอกอีกว่า เห็นน้ำตาเขาครั้งแรกในวันนี้เมื่อ 13 ปีก่อน ตนไม่อยากเห็นอีกเลย กันลองดึงเธอมาจูบหน้าผากและบอกว่า ชั่วชีวิตคงไม่สามารถรักใครได้อย่างเธอ แล้วขอโทษที่หลายวันมานี่ทำตัวงี่เง่า เพื่อนยิ้มสมใจ กันลองจับมือเธอขึ้นมาจูบที่แหวนหมั้น ถามว่าเมื่อไหร่ปิดกล้องละคร จะได้แต่งงานกันเสียที

“พะลองแน่ใจแล้วเหรอคะ รู้ไหมว่าเมื่อคืนก่อนพะลองทำแพงเสียใจแค่ไหน”

“ขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ แต่พะลองไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อน เชื่อใจพะลองนะ”

เพื่อนโผกอดและยิ้มอย่างพอใจ...เย็นวันนั้น เพื่อนกลับมาดูแพง หมอบอกอาการโดยรวมแก่เพื่อนและรื่นจิต ส่วนพยาบาลพิเศษช่วงนี้คิวเต็ม เพื่อนสวนว่าตนยินดีให้ค่าตอบแทนเพิ่ม รื่นจิตแปลกใจถามหมอว่าจำเป็นต้องมีพยาบาลพิเศษคอยดูแลด้วยหรือ หมอบอกว่าที่จริงอยากให้พากลับไปดูแลที่บ้าน จะได้ฟื้นตัวไว รื่นจิตจึงคิดว่าจะลาพักร้อนมาดูแลเอง

วันต่อมา แพงได้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน รื่นจิตเห็นเธอหน้าตาสดชื่นขึ้น เข็นรถออกมานั่งเล่นริมสระ เพื่อนไม่ค่อยพอใจ แพงทำท่าอยากแช่เท้าในสระ รื่นจิตจึงประคองให้ลุกจากรถเข็น เพื่อนไม่ยอมช่วย จู่ๆกันลองโผล่มาอุ้มแพงไปนั่งริมสระให้ รื่นจิตจึงฝากกันลองดูแล แล้วชวนเพื่อนไปจัดเตียง เพื่อนยึกยักไม่อยากทิ้งกันลองให้อยู่กับแพง จึงเรียกใจไปช่วยแม่แทน

กันลองแนะนำตัวกับแพงที่เขาเข้าใจว่าเป็นโฮปหรือเพื่อน แพงน้ำตาไหลอกมา เพื่อนรีบกลบเกลื่อนว่าสมองเริ่มฟื้นตัว พักหลังเห็นน้ำตาไหลบ่อยๆแต่ไม่มีความหมายอะไร

เพื่อนเห็นแหวนลงยาที่นิ้วแพง กลัวกันลองเห็นจึงทำทีกุมมือแพงไว้ ค่ำนั้น เพื่อนตัดสินใจลบคลิปที่ถ่ายเล่นกับแพงไว้ทิ้งทีละอัน เหลือไว้คลิปเดียว

วันต่อมา เพื่อนเห็นมธุรสนั่งอยู่ในบ้านก็จะเลี่ยงหนี แต่เธอดักคอว่าเครียดเรื่องวรัชช์หรือ เพื่อนปัดว่าเรื่องงาน มธุรสเตือนเป็นนัยๆ

“จะแก้เครียดไม่ใช่เรื่องยาก ง่ายที่สุดคือให้เข้าใจปัญหาก่อนว่าเกิดจากใคร จากตัวเราหรือคนอื่น” เพื่อนแทรกว่าตัวเอง “งั้นสรุปได้ง่ายๆว่า ไม่ปัญหามันวิ่งมาหาหนู หนูก็เป็นคนวิ่งเข้าไปหามันเอง สำหรับเฮียนะ ถ้าเป็นอย่างหลัง วิธีแก้มันก็ง่ายนิดเดียว ในเมื่อเรารู้ว่า ทางข้างหน้ามันเป็นเหวก็หยุดวิ่งซะ หรือไม่ก็ไปวิ่งทางอื่น เฮียพูดถูกไหมหนูเพื่อน”

เพื่อนชะงักเมื่อถูกเรียก มธุรสทำทีขอโทษที่เรียกผิดแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนขอตัวกลับ

ooooooo

ชลลดาพยายามเตือนสติกันลองให้ดูดีๆก่อนตัดสินใจแต่งงาน และว่าผู้หญิงคนนี้มีแต่เรื่องวุ่นวาย กันลองแย้งว่ายิ่งเธอมีปัญหาตนต้องอยู่เคียงข้างคอยปกป้อง ชลลดาบอกต้องแยกให้ออกว่าปิดบังกับปิดตาข้างหนึ่งมันต่างกัน เธออาจจะหวั่นไหวกับพระเอกที่เจอกันทุกวันคนนั้น

กันลองขอให้แม่ให้เกียรติคู่หมั้นตน ชลลดายิ้มหยัน ย้ำให้ลองคิดให้ดี บางทีเรื่องทั้งหมดอาจจะเกิดจากปมแค่ปมเดียว ตนเชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คนที่ลูกคิด กันลองฟังแล้วยิ่งว้าวุ่นใจ

นับวันรื่นจิตยิ่งผูกพันกับแพง ทั้งป้อนข้าว อ่านหนังสือให้ฟังอย่างไม่รู้สึกเบื่อ บ่ายวันนั้น รื่นจิตป้อนก๋วยเตี๋ยวแพง พร้อมกับกินของตัวเองซึ่งเป็นต้มยำไปด้วย แต่แพงกลับชี้ที่ชามต้มยำ รื่นจิตจึงป้อนให้คำหนึ่ง เธอมีสีหน้าชอบใจ รื่นจิตไม่กล้าให้ทานเยอะกลัวเสาะท้อง

ในขณะที่เพื่อนเดินเล่นอยู่ที่บ้านกันลอง โรยบุญถามถึงอาการพะแพง เพื่อนเสียงเข้มบอกตนคือแพง นั่นคือเพื่อน โรยบุญร้องอ้าว...มาครบทั้งพะเพื่อนพะแพงเลย แล้วถามเพื่อนทานอะไรหรือยัง เพื่อนตวาดกลับว่าตนคือแพงอาภรณ์

โรยบุญอ้าปากค้างที่เห็นเพื่อนดุ กันลองรีบแก้สถานการณ์ว่าป้าคงเรียกผิดไปตามประสา โรยบุญพึมพำ เนี่ยนะพะเพื่อน ในบ้านโน่นน่ะพะแพง สายตาตนไม่มีพลาด

กันลองแปลกใจที่แพงอารมณ์เสียเรื่องเล็กน้อย เพื่อนพยายามสงบอารมณ์หยิบไอแพดมาเปิดรูปแบบการจัดงานแต่งงานให้กันลองดู เป็นแบบรันเวย์เพราะเห็นเขาชอบเครื่องบิน กันลองยิ่งแปลกใจเพราะคิดว่าแพงน่าจะชอบอะไรเรียบง่าย แต่ไม่อยากขัดให้เสียอารมณ์ ได้แต่แนะว่า

“พะลองกะว่ารออีกซักหน่อย ให้เพื่อนอาการดีขึ้น แพงจะได้ให้เพื่อนเป็นเพื่อนเจ้าสาว”

“พะลองติดเรื่องแค่นี้แน่เหรอคะ หรือว่ามีเรื่องอื่น... แพงกลับก่อนนะคะ วันนี้เหนื่อยละ”

กันลองเห็นแพงหงุดหงิดขึ้นมาก็ลนลานจะเดินไปส่ง แต่เพื่อนปัดหาว่าเขากลัวใครมาดักรอตนหรือ

กันลองหน้าเสียที่แพงดูจะอารมณ์เสียไปหมดทุกเรื่อง

เพื่อนกลับมาบ้านเห็นรื่นจิตฟุบหลับข้างแพงก็ยิ่งน้อยใจปลุกให้ขึ้นไปนอน แต่รื่นจิตกลับบอกให้ช่วยกันพาเพื่อนขึ้นนอนด้วย เพื่อนทนไม่ไหว ถามรื่นจิตว่า ที่ทำดีขนาดนี้เพราะรู้สึกผิดใช่ไหม รื่นจิตส่ายหน้าจะอธิบายว่าทำไมไม่ได้เลี้ยงเพื่อนด้วย แต่เพื่อนสวนว่าตอนนี้จะฝืนทำไปทำไม รื่นจิตรีบบอกว่าไม่ได้ฝืน กลับมีความสุขเสียอีก เพื่อนมองอย่างขุ่นใจ

ในคืนนั้น เพื่อนนั่งพูดกับแพงในห้องลำพัง ว่าแพงเข้าใจใช่ไหมว่าที่ตนทำลงไปเพื่อแพง ถ้าไม่ทำป่านนี้แม่กับกันลองคงไม่มีความสุข เพื่อนดึงมือแพงมาแท็กมือกัน แพงน้ำตาซึม

วันต่อมาทวิตตี้เพิ่งรู้เรื่องแต่งงานของแพงก็รีบมาหาที่ร้านที่เพื่อนนั่งรอกันลอง เพื่อนยังไม่อยากคุย ทวิตตี้จึงย้ำว่าถ้ามีปัญหาอย่าให้ตนรู้เป็นคนสุดท้าย มี อะไรจะได้ช่วยแก้ไขทัน...กันลองส่งข้อความมาว่า ยังไม่เสร็จงานให้รออีกหน่อย เพื่อนนั่งมองแหวนหมั้นที่นิ้วอย่างเซ็งๆ

มธุรสมาเยี่ยมรื่นจิตที่บ้าน รื่นจิตปรับทุกข์ว่าช่วงนี้แพงแปลกไปชอบพูดประชดประชัน มธุรสเตือนให้คิดดูดีๆ ว่าตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุแพงก็เปลี่ยนไป แถมคนที่อยู่บนรถเป็นคู่แฝด รื่นจิตหาว่าระแวงเกินไป แต่ก็แอบคิดอยู่เหมือนกัน เพื่อนกลับมาได้ยินการสนทนานั้น

เพื่อนเข้ามาหาแพง เห็นแหวนลงยาที่นิ้วก็เข้าไปถอดออก แพงพยายามฝืนน้ำตาซึม เพื่อนยื้อดึงออกมาแล้วเอาไปทิ้งลงชักโครกในห้องน้ำ

ooooooo

บทละครเรื่องเดือนประดับดาว คือชีวิตจริงของเพื่อนกับแพง ทำให้เพื่อนเล่นอินมากๆจนบางทีก็พูดนอกบทกับวรัชช์ ผู้กำกับชอบใจชื่นชมว่าแพงจะต้องได้รางวัลในบทบาทนี้แน่ๆ

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 10 วันที่ 30 ธ.ค.60

ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทประพันธ์โดย จันทร์ รีจรูญ แอนเดอร์สัน
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทโทรทัศน์โดย ระกาช่อนรูป
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว กำกับการแสดงโดย มนัสนันท์ เลิศวงศ์สกุล
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ผลิตโดย บริษัท ดอร์เธอร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ