อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 6 วันที่ 10 ธ.ค.60
กสิณถูกญาดาเอาน้ำเย็นราดปลุกให้ตื่นมาเคลียร์เรื่องทุกอย่างแต่เช้า ดิลกโกรธมาก ประกาศกร้าวจะไม่ยกโทษให้ใครทั้งสิ้น รวมทั้งกมลพรรณกับปาริฉัตร ต้องออกจากบ้านเมธาสิทธิ์ด้วยญาดาอาสาจัดการเอง โดยกสิณต้องรับผิดชอบปาริฉัตรด้วยการแต่งงาน และหากตกลงกันได้สองแม่ลูกจะได้อยู่ในบ้านเมธาสิทธิ์ต่อจนกระทั่งวันแต่งงาน
เขมิกากลับบ้านทันได้ยินทุกอย่าง สะเทือนใจมาก เพราะส่วนหนึ่งของปัญหาเกิดมาจากเธอ ญาดารู้สึกไม่ต่างกันแต่พยายามเข้มแข็ง ทำเหมือนทุกอย่างเป็นแค่บทเรียนที่ต้องก้าวผ่าน เขมิกายังคาใจเรื่องชาคริต
“ที่เขมเห็นไม่มีอะไรจริงเลย พี่ไม่มีวันแต่งงานกับผู้ชายที่ทำร้ายครอบครัวเรา ชีวิตพี่ไม่ต้องแต่งงานเลยก็ได้ สำหรับพี่ครอบครัวสำคัญเป็นอันดับแรก”
ญาดาไม่อยากให้น้องสาวคิดมาก ตัดสินใจจะเล่าเรื่องไปค้างห้องพักชาคริตเมื่อวันก่อน แต่ถูกเขมิกาตัดบท
“พี่ดาไม่ต้องพูดแล้ว...เขมละอายใจที่ไม่เชื่อใจพี่ ให้อภัยเขมนะ”
“แค่เขมกลับมาบ้านก็พอแล้ว พี่อาจจะดูแลเขมมากไปจนกลายเป็นบังคับใจ แต่ทุกอย่างเป็นเพราะเราทุกคนรักเขม แล้วเราจะรักกันอย่างนี้ตลอดไปนะเขม”
ครอบครัวเมธาสิทธิ์ปรับความเข้าใจกันหลังจากนั้น ดิลกยอมขายหุ้นบีสตาร์ไปเปิดบริษัทใหม่โดยมีญาดาเป็นหัวเรือใหญ่เหมือนเคย ส่วนกสิณทำมึนไม่ตกลงเรื่องแต่งงาน ปาริฉัตรกับกมลพรรณต้องงัดไม้ตายจะให้ญาดาจัดการ ชายหนุ่มเจ้าของแล็บที่สวิตฯกลัวเสียผลประโยชน์เพราะบีสตาร์คือลูกค้ารายใหญ่ต้องยอมแบบไม่มีทางเลือก
ญาดานัดประชุมผู้บริหารระดับสูงของบีสตาร์ รวมทั้งไตรทศและเขมิกาในเช้าวันต่อมาเรื่องเปิดบริษัทใหม่ ชาคริตบุกมาป่วนและประกาศหน้าตายจะคืนบีสตาร์เพราะไม่ชอบเล่นเกมกับพวกขี้แพ้!
ชาคริตฉีกสัญญาทิ้งต่อหน้าทุกคน ญาดาโกรธมากและไม่รอช้าจะตามไปเคลียร์กับเขา
“ฉันบอกคุณแล้วว่าฉันยอมตายดีกว่าแต่งงานกับคุณ”
“ผมก็บอกคุณแล้วว่าพ่อคุณจะเป็นคนที่ตายไม่ใช่คุณ โทษโกงภาษีตัดสินต่างกรรมต่างวาระ ถ้ามีหลักฐานแน่นหนา โกงครั้งนึงติดคุกห้าถึงสิบปีไม่รอลงอาญา พ่อคุณโกงมากว่าสิบปีแล้ว ถ้าโดนจับรับรองได้ตายในคุกแน่!”
“อย่าคิดว่าฉันจนตรอก ฉันต้องหาทางออกเรื่องนี้ให้ได้”
“ทางออกเดียวของคุณก็คือ...แต่งงานกับผม!”
ญาดายืนกรานไม่แต่งงาน ชาคริตต้องยกเรื่องวินิจถูกอุ้มมาขู่ หวังให้เธอยอมศิโรราบ แต่ญาดาไม่ยอมแพ้ เชื่อว่ายังพอมีทางจะหลบเลี่ยงการแต่งงานจอมปลอมนี้ได้!
ooooooo
ชญานีอ่านใจชาคริตไม่ได้เหมือนเคย แต่เดาว่างานแต่งงานกับญาดาคงมีเบื้องหลังบางอย่าง และเพราะหัวใจส่วนลึกไม่อยากเสียเขาให้ใคร เลยตัดสินใจเรียกไตรทศมาพบเพื่อเตือนให้ระวังพี่ชาย
ไตรทศไม่เชื่อว่าญาดาจะโง่ตกหลุมพรางของชาคริต โต้เถียงและต่อปากต่อคำจนของขึ้นกันทั้งคู่
“พี่คริตไม่ใช่คนเลว เขามีเหตุผลของเขา”
“ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไร เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายครอบครัวผม คุณเองต่างหากที่ควรจะอยู่ห่างๆผู้ชายคนนี้”
“ไม่มีทาง! พี่คริตเป็นทุกอย่างของฉัน ถ้าไม่มีพี่คริต ฉันก็ไม่มีวันนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไร ฉันก็จะอยู่ข้างๆพี่คริต”
“คุณรักพี่ชายคุณมาก”
“ใช่...รักมาก...ฉันตายแทนพี่คริตก็ยังได้”
“พี่ชายที่ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆของคุณเนี่ยนะ คุณถึงกับตายแทนได้ คุณล้ำเส้นความเป็นพี่ชายน้องสาวแล้ว”
ชญานีพูดหลบตา ไตรทศหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
“มิน่าคุณถึงไม่มองผู้ชายคนไหนเลย คุณรักนายชาคริตเกินกว่าพี่ชาย คุณอย่าเผลอบอกมันไปล่ะ ทันที ที่มันรู้ว่าคุณรักมัน มันจะทิ้งคุณทันที”
“ไม่จริง! พี่คริตไม่มีวันทิ้งฉัน”
“ผมก็หลงคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงฉลาด ที่แท้คุณก็โง่ไม่ต่างกับผู้หญิงทุกคนที่มันหลอก!”
ดิลกไม่บอกใครเรื่องแผนระดมทุนสร้างบริษัทแชร์ลูกโซ่ขายฝันเพื่อเปิดบริษัทใหม่ ความสำเร็จบนความทุกข์ของเพื่อนรักอย่างเก่งกาจพ่อของชาคริตเมื่อยี่สิบปีก่อนไม่ได้ทำให้เขาสำนึก คิดหาลู่ทางและเช่าอาคารแห่งใหม่
ญาดาคิดหาทางออกเรื่องแต่งงาน และคิดปรึกษาดิลกแต่ไม่ทันทำ ชาคริตก็เดินเกมรุกให้คนมาจับตัวดิลกต่อหน้าต่อตาเธอ ญาดาตกใจมากจะโทร.แจ้งตำรวจแต่ชาคริตก็โผล่มาแย่งมือถือ
“คุณหนีผมไม่พ้นหรอก”
“ทำไมต้องเป็นฉัน”
“เพราะคุณเป็นลูกสาวนายดิลก หรือคุณจะให้ผมกลับไปหาเขม แต่ผมว่าคุณเหมาะจะเป็นเจ้าสาวของผมที่สุด”
“ฉันไม่ต้องการงานแต่งงาน”
“แต่ผมต้องการให้ทุกคนรับรู้เรื่องของเรา”
“ไม่มีเรื่องของเรา อย่าพูดเหมือนคุณเป็นแฟนฉันได้ไหม เราไม่ได้เป็นอะไรนอกจากเป็นศัตรูกัน”
“เราจะจัดงานแต่งงานอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด เราจะเป็นคู่สามีภรรยาที่มีแต่คนอิจฉา ผมไม่ใช่ผู้ชายหัวโบราณ ไม่มีผู้นำไม่มีผู้ตาม แต่เราจะเดินเคียงกันไปตลอดชีวิต”
“เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว เสแสร้งเหมือนคนใส่หน้ากากตลอดเวลา ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง ฉันจะแต่งงานกับคุณก็ต่อเมื่อเห็นคุณพ่อปลอดภัย...แล้วคุณต้องคืนหลักฐานทั้งหมดให้ฉัน”
ชาคริตยิ้มเยาะก่อนตอบตกลงง่ายๆ ดึงมือเธอมาจูบเบาๆ
“เป็นการตอบตกลงแต่งงานที่โรแมนติกจริงๆ...คุณว่าไหม”
ooooooo
ชาคริตคืนบีสตาร์ให้ครอบครัวเมธาสิทธิ์ตามสัญญา รวมทั้งปล่อยตัวดิลกกลับบ้านอย่างปลอดภัย ญาดาโล่งใจมากแต่ยังทำใจไม่ได้จะบอกความจริงเรื่องแต่งงานกับชาคริต
ญาดาพยายามไม่คิดเรื่องแต่งงาน หมกมุ่นกับการเคลียร์เอกสารบัญชีลับที่ชาคริตให้ลูกน้องขนมาคืน จำนวนลังที่เห็นมากมายจนเธอตะลึง และยิ่งพูดไม่ออกเมื่อชาคริตบอกไม่แน่ใจว่ามีเอกสารซุกซ่อนอีกหรือไม่
ชาคริตเห็นท่าทางจริงจังของเธอก็อดทึ่งไม่ได้ หญิงสาวมีความแกร่งและเฉลียวฉลาดสมเป็นเรี่ยวแรงสำคัญของครอบครัว เขาเสนอตัวจะช่วยเคลียร์เอกสารและวางระบบในบีสตาร์ที่เต็มไปด้วยระบบเก่าๆให้ด้วยความหวังดี แต่เธอไม่สนใจและพาลไม่ยี่หระเรื่องแต่งงานจนเขาทนไม่ไหวยื่นคำขาด
“เราจะแต่งงานต้นเดือนหน้า”
“อีกสองอาทิตย์ ฉันยังไม่พร้อม”
“ถ้าผมรอให้คุณพร้อม คุณไม่มีวันพร้อมหรอก ผมจะจัดการทุกอย่างให้คุณเอง”
จบคำก็ขยับมาประคองหน้าว่าที่เจ้าสาวจะจูบ เอ่ยเสียงหวานเหมือนจะเย้า
“ผมยอมให้คุณทำงานหนักวันนี้วันเดียว ตั้งแต่วันพรุ่งนี้...คุณต้องเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของผม”
ญาดาเมินหน้าหนีจูบจากเขา น้ำตาคลอแต่ยังทำเป็นเข้มแข็ง
“ฉันมีเงื่อนไขอีกข้อ...ต้องไม่มีใครรู้ว่าฉันแต่งงานกับคุณเพราะอะไร”
“ได้...ผมตามใจคนที่ผมรักเสมอ”
ชาคริตรับปากไม่บอกเหตุผลเรื่องการแต่งงานกับใคร แต่เขาทำมากกว่านั้นด้วยการบุกไปหาดิลกถึงบ้านเช้าวันต่อมา ดิลกหัวเสียมากแต่กลับรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาชาคริตอย่างบอกไม่ถูก
“ฉันกับแกเคยรู้จักกันงั้นเหรอ”
“เริ่มระลึกชาติได้แล้วหรือครับคุณอา”
“ถ้าฉันเคยทำอะไรให้ก็บอกมาเลย ฉันจะชดใช้ให้ตามที่แกต้องการ แล้วเราก็เลิกแล้วต่อกันไป”
“คุณอาจะชดใช้ด้วยเงินหรือครับ เงินกี่ล้านก็ชดใช้ไม่ได้ เรื่องระหว่างเราต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”
ดิลกเริ่มมีอาการกำเริบ ญาดาได้ยินเสียงเอะอะรีบวิ่งมาดู พร้อมกับเขมิกาและไตรทศ ชาคริตสะใจมากที่สมาชิกครอบครัวศัตรูอยู่กันพร้อมหน้า ประกาศกร้าวจะสู่ขอญาดาจากดิลก
“งานแต่งงานคราวนี้จะยิ่งใหญ่กว่างานแต่งของผมกับเขม เพียงแต่เปลี่ยนเจ้าสาวเป็นญาดาเท่านั้นเรานี่คงทำบุญร่วมกันมาหลายชาตินะครับ ที่สุดผมก็ได้เป็นลูกเขยคุณอา...ไม่ใช่สิ...เป็นลูกเขยคุณพ่อเสียที”
ญาดาถูกทุกคนในครอบครัวจับเป็นจำเลยหลังจากนั้น และเพราะบอกเหตุผลจริงๆไม่ได้เลยต้องตอบตามแผนคือเธอเต็มใจแต่งงานกับชาคริตเพราะเธอรักเขา
เขมิกากับไตรทศถึงกับช็อก แต่คนที่โกรธจัดคงหนีไม่พ้นดิลก
“ฉันผิดหวังในตัวแกจริงๆ ถ้าแกแต่งงานกับไอ้ตัวซวยนั่น ฉันก็จะไม่ถือว่าแกเป็นลูกอีกต่อไป”
“คุณพ่อจะตัดขาดดาก็ได้ แต่ต้องหลังวันแต่งงาน ทุกคนในครอบครัวต้องมางานแต่งงานดา...นี่คือคำขอร้อง”
ooooooo
เป็นตายร้ายดี ดิลกจะไม่ยอมให้มีงานแต่งระหว่างญาดากับชาคริตเด็ดขาด ไตรทศโมโหมาก ประกาศตัดขาดกับพี่สาวคนโต ส่วนเขมิกาถึงกับหัวใจสลายเพราะไม่คิดว่าพี่สาวจะเดินทางผิดเหมือนตน
ญาดารู้สึกผิดมากต้องโกหกทุกคน โดยเฉพาะเขมิกา แต่เธอไม่มีทางเลือก ต้องเล่นตามเกมของชาคริต
“เขมน่าจะเป็นคนที่เข้าใจพี่ที่สุด...พี่อยากแต่งงานเหมือนผู้หญิงทุกคน”
“พี่ดาเปลี่ยนใจเร็วเหลือเกินนะคะ เพิ่งพูดหยกๆว่าชีวิตพี่ไม่ต้องแต่งงานก็ได้”
“ในโลกนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ถึงเวลาแล้วที่พี่ต้องเปลี่ยนตัวเอง”
“คุณคริตเขาฆ่าเขมทั้งเป็น เขาหลอกน้องสาวพี่ขนาดนี้ พี่ดาไปรักคนเลวๆแบบนั้นได้ไง”
“พี่รักเขาไปแล้ว”
“พี่ดารักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ รักตั้งแต่รู้จักกันใช่ไหม ที่พี่ดาพยายามดึงเขมออกมาจากเขาก็เพื่อตัวเอง พี่อยากได้คุณคริตไว้เอง เขมไม่ได้โกรธแต่ตอนนี้เขมรู้สึกสมเพชพี่มาก!”
ชาคริตเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง สาแก่ใจที่ทำให้ครอบครัวเมธาสิทธิ์ลุกเป็นไฟ เขารู้ดีว่าดิลกต้องไม่ยอมให้ใครมางานแต่งงานระหว่างเขากับญาดา แต่ใครจะสน ...แค่นี้ก็เข้าทางเขาพอแล้ว
ทัศนะรู้เรื่องทุกอย่างจากเขมิกาที่แวะมาเยี่ยมเพ็ญขวัญพร้อมของฝากเป็นขวดแก้วที่มีต้นไม้ข้างใน
“คุณเข้าใจคิดดี ชีวิตขวัญก็เหมือนต้นไม้ที่จะต้องอยู่ในที่จำกัดแต่ยังสามารถเติบโตได้”
“บางครั้งเขมก็อยากใช้ชีวิตเหมือนคุณขวัญ...ไม่ต้องออกไปรับรู้เรื่องแย่ๆ ไม่ต้องทนเห็นหน้าคนที่ไม่อยากเจอ”
“ตอนนี้คุณไม่อยากเจอหน้าใคร...นายคริตหรือว่าคุณดา”
เขมิกาไม่อยากเจอทั้งคู่ ทัศนะเข้าใจความรู้สึกเธอดี แต่ยังเตือนสติให้รอดูสถานการณ์ เพราะคนเจ้าแผนการอย่างชาคริตไม่น่ายอมผูกมัดกับใครง่ายๆ เรื่องแต่งงานกับญาดาจะต้องมีแผนบางอย่างซ่อนอยู่
เพ็ญขวัญกับทัศนะช่วยกันให้กำลังใจเขมิกา พยายามดึงจุดเด่นและจุดแข็งมาชื่นชมจนคุณหนูคนสวยสบายใจขึ้น แต่กระนั้นท่าทางนิ่งเฉยของเธอก็ทำให้ทัศนะไม่ไว้ใจ ต้องนัดญาดามาพบ
“คุณเขมเจอเรื่องหนักๆจนกลายเป็นคนด้านชาไปแล้ว เธอนิ่ง...จนบางทีผมก็กลัวใจ”
“เขมโตขึ้นน่ะค่ะ คุณอย่าเป็นห่วงเลย”
ญาดาเชื่อว่าน้องสาวจะไม่เป็นไร แต่คนทรมานกว่าคงเป็นเธอ ทัศนะแนะให้ถอยห่างจากชาคริต แต่ญาดาปฏิเสธ ทำไม่ได้เพราะครอบครัวจะไม่ปลอดภัยและดิลกอาจถูกชาคริตแฉเรื่องโกงภาษี
“คุณตัดสินใจแต่งงานกับนายคริตเพื่อจะดึงหลักฐานที่เหลือกลับคืนมางั้นหรือ”
“อย่างน้อยดาก็ได้จับตาเขาไว้ สืบหาหลักฐาน เล่นงานเขากลับ นี่เป็นทางออกทางเดียวของดา”
“ผมไม่อยากให้คุณตัดสินใจแบบนี้เลย...มันไม่มีประโยชน์”
“ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่ดาไม่มีทางเลือกจริงๆ”
พูดจบก็คว้ากระเป๋าจากไป ทิ้งทัศนะให้พึมพำตามหลังเสียงเครียด
“มันไม่มีประโยชน์...สุดท้ายไอ้คริตก็ต้องทำทุกทางเพื่อให้พ่อคุณติดคุกอยู่ดี”
ooooooo
นิกกี้นักจัดงานแต่งนัดญาดากับชาคริตมาคุยเรื่องกำหนดการในงาน แต่ญาดาไม่ค่อยให้ความร่วมมือและอยากขอให้พิธีเรียบง่ายและสั้นที่สุด ชาคริตไม่ยอมจะจัดงานใหญ่และต้องมีแขกมากมายรับรู้
ญาดาเหนื่อยเกินกว่าจะค้านหรือปฏิเสธ ยกสิทธิ์ให้เขาตัดสิน แม้แต่ชุดแต่งงานก็ไม่เลือก จะกลับไปทำงานท่าเดียว ชาคริตหัวเสียมากตามไปเอาเรื่อง
“คุณต้องการให้ทั้งโลกรู้หรือไงว่าคุณไม่เต็มใจแต่งงาน”
“คุณจะให้ฉันตื่นเต้นดีใจที่จะได้แต่งงานเหมือนเจ้าสาวคนอื่นงั้นเหรอ โทษที...ฉันเสแสร้งไม่เป็น!”
“ทำตัวปกติธรรมดาก็ได้ ไม่กลัวคนไปพูดต่อหรือไง”
“ฉันไม่กลัวไม่อายอะไรแล้ว พี่น้องแย่งผู้ชายคนเดียวกัน ข่าวเจ้าบ่าวหนีงานแต่งน้องยังไม่ทันจาง คนพี่ก็ยังโง่แต่งกับเจ้าบ่าวคนเดิม นี่ใช่ไหมสิ่งที่คุณต้องการ”
“ความอับอายของครอบครัวคุณเทียบไม่ได้กับ... คนที่เสียทุกอย่างในชีวิตหรอกญาดา”
ชญานีมาถึงพอดี ชาคริตเรียกตัวน้องสาวบุญธรรมมาช่วยดูแลงานทุกอย่าง ญาดาเบื่อและเซ็งมาก แต่ขยับไปไหนไม่ได้ ต้องยอมให้ชาคริตข่มแกมขู่ข้างๆหู
“ทำตัวให้เป็นเจ้าสาวหน่อย นี่จะเป็นงานแต่งงานครั้งเดียวในชีวิตคุณ เพราะคุณจะต้องเป็นของผมคนเดียว!”
กำราบญาดาได้ ชาคริตก็ไปหาเพ็ญขวัญถึงบ้าน ย้ำให้ไปงานแต่งให้ได้ ทัศนะแอบมองทุกอย่างจากอีกมุม สงสัยท่าทีแปลกๆของเพื่อนรักที่ดูกระตือรือร้นเรื่องงานแต่งครั้งนี้เหลือเกิน
เพ็ญขวัญรับปากไปงานแต่ง แต่ไม่วายเตือนชาคริตให้เลิกทำร้ายใจผู้หญิงรอบตัว โดยเฉพาะญาดา ไม่เว้นแม้แต่ชญานี ชาคริตรับปากแกนๆ ไม่หนักใจจะรับมือเพ็ญขวัญเท่าทัศนะที่รอคุยกับเขาอยู่
ชาคริตแอบเอาลังใส่เอกสารลับอีกส่วนของดิลกมาซ่อนไว้ที่บ้านทัศนะ แต่ระวังไม่ให้เจ้าของบ้านรู้ โชคดี ที่ทัศนะไม่ทันสังเกตลังพวกนั้น เพราะอยากรู้จุดประสงค์แท้จริงของการแต่งงานมากกว่า
“ฉันต้องการแต่งงานกับญาดาจริงๆ”
“ความต้องการของแกทำให้ทุกคนหันหลังให้คุณดา ครอบครัวเขาแตกสลายไม่มีชิ้นดี...แกหยุดแค่นี้ได้ไหมวะ”
ชาคริตปฏิเสธและเฉไฉถามเรื่องลาออก ทัศนะเป็นห่วงเขมิกาและอยากช่วยญาดาเลยเปลี่ยนใจไม่ลาออก แต่ชาคริตคิดไม่ถึงและเข้าใจเองว่าเพื่อนรักยังอยู่ข้างเขาเสมอ
ooooooo
ชญานีฝืนใจมากต้องดูแลงานแต่งและว่าที่เจ้าสาวให้ชาคริต ญาดาพอจะสัมผัสความรู้สึกนั้นได้ด้วยสัญชาตญาณผู้หญิงแต่ทำเป็นไม่สนใจและตัดสินใจเรื่องชุดแต่งงานไปแบบขอไปที
ท่าทางหยิ่งๆเหมือนไม่แคร์โลกของญาดาทำให้ชญานีหมั่นไส้ อดแขวะไม่ได้ทันทีที่นิกกี้ไปคุยมือถือข้างนอก
“ทำเป็นเล่นตัว ที่แท้ก็อยากแต่งงานจนตัวสั่น”
ญาดาถอนใจยาว เอือมพี่ชายจะแย่ ยังต้องรับมือน้องสาว ตอกเสียงเรียบ
“คุณคงยังปรับตัวไม่ได้ที่จะมีคนในครอบครัวเพิ่มอีกคน แต่ยังไงฉันได้เป็นพี่สะใภ้คุณแน่ หัดรู้จักให้ความเคารพฉันตั้งแต่วันนี้...ก็ยังไม่สายนะคะน้องนี”
ชญานีฉุนกึกจะสวนแต่ชาคริตโทร.มาสั่งให้พาญาดาไปส่งร้านอาหารหรูเสียก่อน แถมสำทับให้ไปรับมิสเตอร์โจวตัวแทนคุณป๋าพ่อบุญธรรมชาวฮ่องกงของเขาที่จะมาร่วมงานแต่งด้วย ญาดาเฝ้าสังเกต
ทุกอย่างเงียบๆ เห็นหน้าชญานีหงิกงอเพราะงอนพี่ชายจึงอดเตือนเขาไม่ได้
“คุณเอาแต่สั่งงานน้อง เธอไม่ได้เต็มใจ ไม่เห็นหรือไง”
“นีก็เป็นของเขาแบบนี้...วันนี้ทุกอย่างเรียบร้อยไหม”
“ค่ะ...ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของคุณ”
ชาคริตดึงมือเธอไปกุม “ผมทำทุกอย่างเพื่อคุณต่างหาก ครอบครัวคุณ ครอบครัวผม...จะรวมเป็นครอบครัวเดียวกัน ผมต้องการให้ทุกคนในครอบครัวคุณมาในงานแต่งงานของเรา”
“ฉันขอร้องทุกคนไปแล้ว”
“และที่สำคัญสุด...พ่อคุณต้องเป็นคนส่งตัวเจ้าสาว!”
ชญานีผละมายืนทำใจเงียบๆด้านนอกร้านอาหาร ท่าทางพะเน้าพะนอของชาคริตที่มีต่อญาดาเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยเห็น อารมณ์ผิดหวังและน้อยใจทำให้พาลโกรธทุกสิ่งรอบตัว ไตรทศแวะมารับญาดาเลยแวะมาทัก ทันเห็นเธอปาดน้ำตาก็พอปะติดปะต่อสาเหตุได้
“ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นคุณในสภาพนี้”
“ฉันเป็นคนไม่ใช่หุ่นยนต์ เสียใจก็ร้องไห้ ดีใจก็หัวเราะ...แปลกตรงไหน”
“คุณไม่ควรไปรักคนที่ทำให้คุณต้องร้องไห้”
“คุณไม่เข้าใจ...คุณไม่รู้ว่าฉันผ่านอะไรมาบ้าง พ่อแม่ไม่ต้องการฉัน ฉันถูกทิ้งที่โรงพยาบาล แล้วฉันก็ถูกโยนไปทางโน้นทีทางนี้ที ชีวิตฉัน...มีพี่คริตคนเดียวที่รักฉัน”
อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 6 วันที่ 10 ธ.ค.60
ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทประพันธ์โดย โสภี พรรณรายละครเรื่อง ระเริงไฟ บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา
ละครเรื่อง ระเริงไฟ กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ชิติเช่น เคน จำกัด
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง ระเริงไฟ เริ่มออกอากาศตอนแรกวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560
ที่มา ไทยรัฐ