อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 11 วันที่ 28 ธ.ค.60
ญาดาจมกับภาพชาคริต ทั้งตอนมีช่วงเวลาดีๆและตอนพลั้งมือยิงเขา ยิ่งคิดยิ่งเครียด ทำอย่างไรภาพและความรู้สึกที่มีต่อเขาก็ไม่จางหาย เช่นเดียวกับชาคริตที่ปัดภาพเธอทิ้งจากใจไม่ได้จนต้องย้ายไปอยู่โรงแรมทัศนะถูกเรียกตัวสัมภาษณ์ ตำแหน่งงานและเงินเดือนไม่ได้ทำให้เขาตื่นเต้น แต่ที่ทำให้เขายอมพิจารณาข้อเสนอจากบริษัทล่าสุดคือการได้ย้ายไปทำงานต่างประเทศที่มีโรงพยาบาลทางเลือกสำหรับเพ็ญขวัญ
ดิลกยังกบดานไม่เผยตัว แต่ชาคริตไม่ยอมแพ้ กำชับปิงให้สืบหาตัวพ่อตาให้ได้ ก่อนที่มิสเตอร์โจว
คนสนิทของพ่อบุญธรรมจะทนไม่ไหวและลงมือแทน
“ฉันต้องการจัดการนายดิลกด้วยวิธีของฉันเอง!”
ปิงรับคำสั่ง ก่อนจะรายงานเรื่องทัศนะกำลังหางานใหม่และเวลานี้นั่งอยู่ในร้านกาแฟเดียวกัน
“ระวังตัวด้วยนะครับนาย คุณทัศนะไม่ใช่คนเดิมแล้ว เขาเข้าข้างศัตรู เขาไม่ใช่...เพื่อนแล้ว”
ชาคริตขบกรามแน่น ช้ำแทบกระอักแต่ยังเชื่อใจเพื่อนรัก
“ยังไงไอ้นะก็เป็นเพื่อนฉัน...ไม่มีวันเปลี่ยน!”
ooooooo
ญาดาตัดสินใจเปิดศึกกับชาคริต จ้างบอดี้การ์ดส่วนตัวและเริ่มค้นหาความจริงเกี่ยวกับคดีเมื่อยี่สิบปีก่อน และคนแรกที่เธอต้องเค้นข้อมูลคือทัศนะ
ทัศนะไม่มีสีหน้าตกใจเมื่อเห็นญาดามาดักรอที่ร้านกาแฟที่เขามานั่งคุยเกี่ยวกับงานใหม่
“เรื่องที่คุณควรรู้...ผมบอกคุณไปหมดแล้ว”
“คุณพ่อไม่เคยทำธุรกิจกับคุณกาจ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย”
“คุณคิดเองว่าไม่เกี่ยว”
“คุณบอกว่าคุณพ่อฉันมีหุ้นในบริษัทที่เป็นคดีจนคุณกาจติดคุก แต่ฉันเช็กแล้ว...ไม่มีชื่อคุณพ่อเลย”
“คนไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน...ไม่ได้หมายความว่าไม่รู้จักกันนี่ครับ”
พูดจบก็จะผละไป ญาดาขู่จะไม่ให้เจอเขมิกาอีก แต่กลับถูกทัศนะตอกหน้าหงาย
“อย่าขู่ผม! คุณกำลังเหมือนใครรู้ไหม...เหมือนคนที่คุณเกลียดไง”
ชาคริตคือคนที่ทัศนะหมายถึง และคนคนเดียวกันก็มาดักรอเจอเขาอีกต่อหน้าร้านเดียวกัน พร้อมข่มเรื่องงานใหม่ว่าจะไม่มีวันได้ไป
ทัศนะโกรธมาก แต่ไม่ทันเอาเรื่อง ญาดาก็โผล่มาและทำให้ชาคริตพูดไม่ออก!
ทัศนะแยกตัวกลับไปแล้ว ชาคริตได้แต่มองตามด้วยความเจ็บใจ ก่อนจะตามไปวอแวญาดา
“คุณมาเจอนายนะทำไม”
“ไม่เกี่ยวกับคุณ!”
ชาคริตโมโห เอื้อมไปคว้าตัวเธอ
“ผมยังมีสิทธิ์ในตัวคุณ”
“อย่าแตะต้องตัวฉัน!”
“ไม่งั้นจะทำไม...จะยิงผมทิ้งหรือไง”
ท้าทายพลางดึงเธอเข้าหา แต่บอดี้การ์ดของญาดาก็ถลามาขวาง ปิงที่ตามประกบเจ้านายเตรียมควักปืน แต่ชาคริตไม่อยากมีเรื่องยกมือห้าม ยอมผละไปแต่ไม่วายทิ้งท้ายกวนประสาท
“ผมไม่กล้าแตะคุณแล้ว...ไว้คราวหน้าผมจะทวงสิทธิ์ของผม!”
ญาดาเกลียดใจตัวเองเหลือเกินที่หวั่นไหวกับคำพูดของชาคริต แต่ไม่นานก็ต้องปัดความว้าวุ่นใจทิ้งและตั้งหน้าตั้งตาค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของพ่อและเก่งกาจพ่อของชาคริต จนกระทั่งไปพบภาพถ่ายเก่าๆ
สมัยเรียน...หลักฐานชิ้นสำคัญว่าดิลกกับเก่งกาจเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน...
ooooooo
เพ็ญขวัญตื่นเต้นมากเมื่อพี่ชายบอกว่าได้งานใหม่ แต่เงื่อนไขคือต้องย้ายบ้านและอพยพไปอยู่ต่างประเทศทำให้เธอทำใจไม่ได้ และคิดว่าพี่ชายอาจมีเหตุผลมากกว่านั้น
ทัศนะส่ายหน้า ยืนยันไม่ได้พูดเล่น ข้อเสนอที่ว่าเป็นผลดีต่อทั้งเขาและเธอ แต่เพ็ญขวัญไม่เชื่อ
“ถ้าพี่นะต้องการหนีพี่เขมก็ไม่ต้องหนีไปไกลขนาดนั้นก็ได้”
“พี่ไม่ได้หนี พี่ทำเพื่อขวัญ ที่นั่นอากาศดี มีศูนย์การแพทย์ทางเลือกดีที่สุด นี่เป็นโอกาสดีสำหรับเราสองคน”
เพ็ญขวัญเครียดมาก ตัดสินใจสร้างเรื่องโกหกโทร.หาเขมิกาเพื่อขอความช่วยเหลือ คุณหนูคนสวยกำลังปวดหัวกับความดื้อรั้นของไตรทศที่จะออกจากบ้านให้ได้ จึงกำชับบอดี้การ์ดที่ญาดาหามาให้เฝ้าน้องชายดีๆ ส่วนตัวเองรีบไปบ้านทัศนะด้วยใจร้อนรนและเป็นห่วงเพ็ญขวัญ
แต่นอกจากคนที่เป็นห่วงจะไม่เป็นอะไร เขมิกายังพบว่าตัวเองถูกหลอกให้มาเจอทัศนะในเวลาต่อมา เพ็ญขวัญถูกต่อว่าอย่างหนัก โทษฐานโกหกคำโต ทัศนะต้องมาห้ามและพาเขมิกาไปเคลียร์อีกทาง
“ไม่คิดว่าทำเกินไปเหรอ”
“ฉันเกลียดการถูกหลอก...เกลียดที่สุด”
“คุณเกลียดผม ก็ไม่ควรจะไปลงกับขวัญ”
“ที่จริง...เด็กขี้โรคอย่างขวัญคงคิดแผนนี้ไม่ได้ คงเป็นคุณที่ใช้ความน่าสงสารของน้องเป็นเครื่องมือ”
“ผมไม่คิดจะพบคุณอีก...”
เขมิกาถึงกับอึ้ง เริ่มรู้สึกผิดที่พูดแรง แต่ทัศนะไม่สน เอ่ยเสียงเย็น
“น้องผมไม่เคยทำตัวน่าสงสาร แกขี้โรคก็จริง แต่แกเข้มแข็งแล้วก็เป็นผู้ใหญ่กว่าคุณมาก ถ้าคุณยังจำได้ว่าแกเคยดูแลคุณได้ดีแค่ไหน...ผมขอโทษแทนน้องแล้วกันที่คิดแผนไม่เข้าท่า”
“คุณนะ...จริงๆฉันไม่ได้โกรธขวัญ เขมไม่ทันคิด”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัวว่าเราจะไปรบกวนคุณอีก ผมบอกคุณคนแรกเลยแล้วกัน...ผมจะย้ายไปทำงานที่มิวนิค”
ระหว่างที่เขมิกาช็อกกับการตัดสินใจของทัศนะ ชาคริตก็ต้องหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อรู้จากผู้คุมเรือนจำว่าเก่งกาจมีคนมาเยี่ยม ญาดานั่นเองที่แวะมาหาความจริงเกี่ยวกับคดีเมื่อยี่สิบปีก่อน
เก่งกาจมีสีหน้านิ่งสงบเมื่อเห็นหน้าลูกสะใภ้ ไม่ยินดียินร้าย
“ชาคริตเป็นไงบ้าง อดทนกับลูกชายลุงหน่อยนะ เขาผ่านเรื่องหนักหนาสาหัสมามาก...ที่สุดเขาจะคิดได้เอง”
ญาดากลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ ก่อนบอกว่าเธอกับชาคริตเลิกกันแล้ว และเธอมาเยี่ยมวันนี้เพราะเรื่องดิลก
“ทำไมคะ...ทำไมคุณคริตถึงได้แค้นคุณพ่อดานัก”
“ลุงเลือกจะไม่จำ...จำไปทำไมเรื่องร้ายๆ ในเมื่อเรามีเรื่องดีๆให้จดจำ”
เก่งกาจเฉไฉไม่ยอมเล่า ญาดาต้องยื่นภาพถ่ายเก่าๆที่เพิ่งค้นเจอให้ดู
“รูปนี้อาจจะเตือนความจำได้ คุณลุงกับคุณพ่อเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน แล้วทำไมเราไม่เคยรู้จักคุณลุง ทำไม...”
“รู้มากก็ทุกข์มาก ไม่รู้ก็ไม่ทุกข์ เรื่องมันจบไปแล้ว...”
ooooooo
จนแล้วจนรอด ญาดาก็ไม่ได้อะไรจากการคุยกับเก่งกาจ แถมต้องเผชิญหน้ากับชาคริตที่มาดักรอหน้าเรือนจำ
“คุณจะตามรังควาญฉันไปถึงไหน”
“คุณต่างหากที่ตามมาดักเจอผม ผมมาเยี่ยมพ่อเวลานี้ประจำ ใช้นักสืบเจ้าไหน ผมจะได้จ้างให้ตามคุณบ้าง”
“ถ้าคิดเข้าข้างตัวเองแล้วสบายใจก็เชิญ”
“ไม่ได้คำตอบที่ต้องการล่ะสิ”
“คุณพ่อคุณบอกว่าท่านได้รับโทษตามกรรมแล้ว ท่านไม่มีอะไรจะพูด”
“แต่ยังมีคนไม่ได้รับโทษที่ทำเรื่องชั่วๆไว้”
“คุณมีแต่คำกล่าวหาลอยๆ ไหนล่ะพยาน ไหนล่ะหลักฐาน”
“คุณอยากฟังเรื่องที่เหลือไหมล่ะ เรื่องที่ไอ้นะไม่เล่าให้จบ เรื่องที่พ่อผมปิดปากเงียบมาตลอดยี่สิบปี”
“ก็เล่ามาสิ...ฉันกล้าที่จะสู้กับความจริง แล้วคุณล่ะกล้าพูดไหม”
ชาคริตพาญาดาไปอีกทาง แต่ยังไม่ยอมเล่าเรื่องคดี โยกโย้กวนประสาทจนเธอโมโห
“ตอนที่พ่อคุณโดนจับ คุณอายุเท่าไหร่...แน่ใจนะว่าคุณเข้าใจเรื่องทั้งหมดอย่างถูกต้อง คุณรู้เรื่องกฎหมายดีแค่ไหน พ่อคุณโดนทั้งคดีแพ่งทั้งคดีอาญา”
“แล้วบริษัทที่โกงเงินเป็นร้อยล้าน ทำไมมีคนรับโทษแค่คนเดียว”
“แล้วทำไมพ่อคุณไม่ซัดทอดคนที่ร่วมโกงล่ะ หรือว่าพ่อคุณทำคนเดียว”
“พ่อผมเป็นคนดี เป็นคนดีที่หาไม่ได้อีกแล้วในโลกนี้ เรื่องที่จะไปโกงใคร ลืมไปได้เลย!”
“ถ้าพ่อคุณบริสุทธิ์ แล้วทำไมไม่เคยขออุทธรณ์แต่ยอมรับโทษ แล้วท่านก็ไม่พูดถึงคุณพ่อฉันแม้แต่คำเดียว”
อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 11 วันที่ 28 ธ.ค.60
ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทประพันธ์โดย โสภี พรรณรายละครเรื่อง ระเริงไฟ บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา
ละครเรื่อง ระเริงไฟ กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ชิติเช่น เคน จำกัด
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ