อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 10 วันที่ 28 ธ.ค.60

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 10 วันที่ 28 ธ.ค.60

วันต่อมา ชลลดาได้ยินโรยบุญทะเลาะกับใครที่โทร.เข้ามาเครื่องบ้าน จึงดึงโทรศัพท์มาคุยเอง แล้วต้องแปลกใจเมื่อปลายสายบอกว่า ขอนัดเซ็นโอนสิทธิ์บ้าน จึงเลียบเคียงถามสถานที่

หน้าบ้านเช่า ฤดีพาแพงนั่งรถเข็นออกมาเดินเล่น และพยายามให้แพงพูดชื่อตัวเองว่าโฮป แต่เธอก็ออกเสียงว่าแพง...ฤดีเข้าใจว่าถามหาแพง จึงบอกว่ายังไม่มา พอดีมีคนโทร.มา ฤดีเลี่ยงไปคุย เป็นจังหวะที่วรัชช์กระโดดข้ามรั้วมาหาแพง เขากุมมือเธอขอให้เธอฟื้นตัวเร็วๆ ทุกอย่างกำลังวุ่นวายไปหมด ฤดีกลับมาตกใจนึกว่า

แม่โฮปมา วรัชช์แปลกใจที่เพื่อนบอกฤดีแบบนั้น



“หลังๆมานี่คุณแพงโทร.ติดต่อไม่ค่อยได้เลย ฤดีฝากคุณวรัชช์บอกคุณแพงให้มาเยี่ยมคุณโฮปบ้าง ช่วงนี้แม่ฤดีไม่ค่อยสบาย ฤดีอยากลากลับบ้าน”

วรัชช์รับคำแล้วกลับไป เผอิญชลลดานั่งรถผ่านหน้าบ้านเห็นแพงก็ตกใจรีบจอดรถลงมาดู ฤดีเข้าใจว่าเป็นแม่โฮป ชลลดาฉุกคิดออกตัวว่าเป็นเพื่อนแม่ของหนูคนนี้

ด้านรื่นจิตมาง้อมธุรสเพราะต้องการคำปรึกษา เห็นแพงอาเจียนเกรงว่าจะท้อง วรัชช์กลับมาถึงจึงถูก

ซักถามอย่างหนัก พอเขารู้ว่าเพื่อนอาจท้องก็ตกใจ ระหว่างทุกคนกำลังเครียด ชลลดาโทร.เข้ามาถามรื่นจิตว่า หล่อนมีลูกกี่คนกันแน่...รื่นจิตงงฟังเรื่องจากชลลดาหน้าเหวอ

เพื่อนอยู่บ้านทำอาหารมากมาย กันลองเข้ามาเห็นแปลกใจ เพื่อนบอกว่าอยากทำของชอบของทุกคน แล้วขอให้กันลองไปขอพริกไทยดำจากโรยบุญให้หน่อย กันลองกลับไปบ้าน ทันใดวรัชช์โผล่มาดึงลากเพื่อนให้ไปด้วยกัน กันลองออกจากบ้านมาเห็น รีบไปเอารถขับตาม

ในขณะที่รื่นจิตมาถึงบ้านเช่า เห็นสภาพแพงก็รู้สึกในใจว่านี่คือแพง ฤดีเรียกแพงว่าโฮป รื่นจิตพึมพำว่าไม่ใช่ ฤดีเริ่มกลัวจะเข็นแพงกลับเข้าบ้าน ด้วยความรีบร้อนทำให้รถล้ม แพงร้องโอ๊ย รื่นจิตปราดเข้ากอดลูก ชลลดาเห็นแล้วสะเทือนใจ สั่งฤดีให้เก็บของจำเป็นจะพาแพงไปโรงพยาบาล แล้วหันมาถามรื่นจิต แน่ใจได้อย่างไรว่าคนนี้คือแพง รื่นจิตน้ำตาไหลริน

ooooooo

เพื่อนถูกวรัชช์ลากมาขึ้นรถ พอติดไฟแดง

เธอพยายามเปิดประตูแต่เขากดล็อกปิดอยู่อย่างนั้น กันลองขับรถตามลงมาเคาะกระจก วรัชช์ดึงเพื่อนมากอดขอให้เลิกโกหกตัวเองและใครๆเสียที เธอตวาดให้เลิกเรียกเธอว่าโฮป และว่าตนไม่ได้อยากทนฟังคนก่นด่าแทนแพงเหมือนกัน

กันลองมองทั้งสองคุยกันโดยไม่ได้ยิน วรัชช์มีท่าทีโกรธ เปิดล็อกให้เพื่อนลงไป แต่เธอกลับเปิดหน้าต่างบอกกันลองให้กลับไปรอที่บ้าน เธอจะไปซ้อมบท เสร็จธุระจะรีบกลับ เสียงแตรรถดังให้เคลื่อนรถ กันลองจำต้องกลับไปที่รถตัวเองแล้วเคลื่อนออกไป

วรัชช์พาเพื่อนมาที่โรงพยาบาล เพราะเข้าใจว่าเธอท้อง จะให้หมอตรวจ พอเพื่อนรู้ก็โกรธตบหน้าเขาฉาดแล้วบอกว่า ตนแค่อาหารเป็นพิษเพราะไปทานอาหารใต้กับจิตจีรัง เพื่อนโวยอีกว่าเขาทำชีวิตตนพังไม่พออีกหรือ อยากให้มีพาดหัวข่าวอะไรอีก พระเอกหนุ่มส่ายหน้า

“พวกที่ชอบแก้ตัวน้ำขุ่นๆนี่มันน่าสมเพชนะ รู้เอาไว้ซะด้วย!” เพื่อนยิ้มเหยียด

วรัชช์พยายามบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิป เพื่อนไม่ฟังจะเดินหนี เสียงคนแถวนั้นซุบซิบว่านางเอกเป็นอย่างข่าวเม้าท์จริงๆ เล่นชู้กับพระเอก เพื่อนหน้าเสีย ทันใดเห็นบุรุษพยาบาลเข็นเตียงแพงผ่านไป เพื่อนตกใจว่าแพงเป็นอะไร รีบวิ่งตามไปถึงห้องฉุกเฉิน ฤดีวิ่งตามมาพอเห็นเพื่อนก็จะอธิบาย เพื่อนดึงฤดีหลบมาต่อว่าทำไมไม่โทร.หาตนก่อนที่จะเรียกรถพยาบาล

ไม่ทันที่ฤดีจะตอบ รื่นจิตเดินเข้ามาบอกว่าแม่เป็นคนพามาเอง ฤดีถอยออกไป รื่นจิตต่อว่าคิดจะปิดไปถึงไหน เพื่อนหน้านิ่งอารมณ์คุกรุ่น ยิ้มอย่างเจ็บปวดก่อนจะถามกลับ

“แล้วแม่ล่ะคะ ทำไมแม่ถึงปิดเรื่องแฝดของแพง แล้วทิ้งเขาไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”

รื่นจิตอึ้งทำหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ด้านวรัชช์รออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พยาบาลออกมาบอกว่าคนไข้รู้สึกตัวแล้วเหมือนจะเรียกหาเพื่อน วรัชช์ได้ยินรีบไปตามทางกันลองกลับบ้านหน้าเครียด หม่อนรายงานว่าชลลดาให้เขารีบไปโรงพยาบาลด่วน แพงอยู่ห้องฉุกเฉิน เขาแปลกใจมาก

ในขณะที่เพื่อนมองแม่ด้วยสายตาแข็งกร้าว รื่นจิตกำลังจะอธิบาย ก็พอดีวรัชช์วิ่งมาบอกว่าโฮปฟื้นแล้วเพ้อหาแพง เพื่อนจึงผละจากรื่นจิตไป รื่นจิตถึงกับเซพิงกำแพงคล้ายหมดแรง

เพื่อนเกาะแขนวรัชช์เข้ามาในห้องผู้ป่วย พยาบาลบอกว่าอีกสักครู่คุณหมอจะมาคุยกับเจ้าของไข้ พยาบาลเดินออกสวนกับรื่นจิตที่เดินเข้ามากับชลลดา เพื่อนรีบปล่อย มือจากวรัชช์ยกมือไหว้ ชลลดามองอย่างดูแคลนแล้วหันไปบอกรื่นจิตว่า ขอตัวกลับก่อน หวังว่าลูกเธอจะฟื้น

เพื่อนถามรื่นจิตว่าชลลดามาได้อย่างไร ผู้เป็นแม่ไม่ตอบเดินไปดูคนไข้ เพื่อนจับแขนแม่ให้หันมาตอบ รื่นจิตพูดนิ่งๆว่า เดี๋ยวกลับไปคุยเรื่องนี้ที่บ้าน เพื่อนยื้อจะถาม วรัชช์รีบดึงเพื่อนไว้

“ผมพาแพงไปหาอะไรทานรองท้องก่อนนะครับคุณน้า เธอยังไม่ได้ทานอะไรเลย”

“ปกติทำอะไรก็ไม่เคยรายงานกันอยู่แล้วนี่”

รื่นจิตประชดเพื่อนทำท่าจะเถียงแต่วรัชช์ดึงตัวออกไปเสียก่อน...

กันลองมาถึงโรงพยาบาล ตรงไปถามเจ้าหน้าที่ ชลลดาเข้ามาดึงแขน เขารีบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับแพง ชลลดาเสียงแข็ง

“แกไปดูให้เห็นกับตา แล้วเลิกยุ่งกับเขาสักที”

กันลองไม่เข้าใจ “ลูกจะไม่มีวันเข้าใจหรอก ตราบใดที่ยังตามเกมของผู้หญิงคนนั้นอยู่...เขาเป็นนักแสดงมืออาชีพ”

พูดจบชลลดาปล่อยแขนลูกชายแล้วเดินไป กันลองรีบตรงไปห้องคนไข้...ระหว่างนั้นวรัชช์พาเพื่อนมานั่งสงบสติอารมณ์ในสวนของโรงพยาบาล เพื่อนมีอาการจิกเล็บลงบนหน้าขา เขาจึงถามว่าชลลดาเป็นใคร พอรู้ว่าเป็นแม่ กันลองก็ยิ่งขอให้เพื่อนบอกความจริงทุกคน

เพื่อนเสียงขุ่นหาว่าเขาไม่เข้าใจ ที่ตนทำทั้งหมดเพื่อแพง วรัชช์ย้อนว่าเธออยากได้ผู้ชายของน้องมากกว่า เพื่อนลุกขึ้นโวยให้เลิกดูถูกตนเสียทีแล้วเดินหนี วรัชช์ยิ่งคับแค้นใจ

กันลองเข้ามาในห้องคนไข้ พอเห็นหน้าคนที่นอนบนเตียงก็หลุดปากเรียกพะแพงออกมา รื่นจิตซึ่งอยู่ในห้องบอกว่านี่ไม่ใช่แพง เขามองหน้ารื่นจิตอย่างงงๆ

ooooooo

หมอเข้ามาจะรายงานผลการตรวจ เพื่อนเดินมาพอดี รื่นจิตยืนอยู่ข้างเตียงลำพัง หมอบอกว่าผล MRI สมองคนไข้เริ่มกลับมารับรู้มากขึ้นแล้ว ปฏิกิริยาตอบสนองก็ดีถึงขั้นลืมตารับรู้มากขึ้น แต่ร่างกายต้องปรับตัวอีกเยอะ จะหลับๆตื่นๆอีกสักระยะ

เพื่อนถามว่าคนไข้จะพูดได้เมื่อไหร่ หมอบอกอีกไม่นาน ช่วงนี้ขอให้คนในครอบครัวดูแลอย่างใกล้ชิด ช่วยทำกายภาพบำบัดให้มากขึ้น หมอขอแอดมิตสองคืนเพื่อเช็กร่างกายอย่างละเอียด

พอหมอออกไป เพื่อนอ้าปากจะพูดกับรื่นจิต เธอรีบบอกว่าต้องกลับไปเคลียร์งานแล้วจะแวะมาใหม่

รื่นจิตเดินออกไป เพื่อนทรุดนั่งน้ำตาไหลอยู่ข้างเตียง ทวิตตี้โทร.เข้ามาตามไปทำงาน เพื่อนรับคำ วางสายแล้วหันมาพูดกับแพงว่า

“ไอต้องไปทำงานแป๊บนึงนะ เดี๋ยวไอมา” เพื่อนเดินออกไปกันลองค่อยๆโผล่ออกมาจากห้องน้ำ มองคนที่นอนอยู่อย่างพิศวง พลันนิ้วแพงกระดิก เขารีบจับมือเธอขึ้นมากุมโดยไม่รู้ตัว

รื่นจิตมาหามธุรสบอกว่าท่าทางแพงจะรู้ความจริงเรื่องเขามีแฝด มธุรสอ้าปากค้าง...ส่วนกันลองตัดสินใจโทร.นัดวรัชช์มาเจอที่บาร์แห่งหนึ่ง พอเจอหน้ากัน กันลองก็บอกว่าตนรู้ว่าวันนี้เขาไม่ได้ไปซ้อมบทกับแพง วรัชช์ยักไหล่ไม่แคร์ กันลองโพล่งออกมาว่าอยากรู้เรื่องแฝด

วรัชช์ยิ้มหยัน “แล้วทำไมคุณไม่ไปถามแพงเองล่ะ กลัวเขาคิดว่าคุณไม่เชื่อใจเขางั้นสิ”

“ผมแค่ไม่อยากทำให้เขาไม่สบายใจ”

“เลยต้องแอบมาเคลียร์กับผมลับหลัง” วรัชช์ประชดและทำหน้ายียวน กันลองโกรธ

“เพราะคุณนั่นแหละที่เข้ามายุ่งเรื่องของเรา พอเรามีปัญหาแพงก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดา”

“แน่ใจเหรอว่าเป็นเพราะผมคนเดียว ลองถามตัวเองดูนะ ว่าหลังๆมานี่คุณมีความสุขจริงๆรึเปล่าเวลาอยู่กับเขา เคยรู้สึกไหมว่าเขาไม่เหมือนเดิม”

กันลองเหมือนโดนจี้ใจ กระแทกแก้วลงโต๊ะแล้วโทษเป็นเพราะเขา วรัชช์โต้ อยากคิดอย่างนั้นแล้วสบายใจก็แล้วแต่ แต่ขอบอกไว้ อะไรที่เขายอมรับเธอไม่ได้ ตนรับได้ วรัชช์ทำท่าจะหยิบเงินวาง กันลองกระชากไหล่แล้วพูดใส่หน้าว่าอย่ายุ่งกับแพงอีก วรัชช์สวน

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 10 วันที่ 28 ธ.ค.60

ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทประพันธ์โดย จันทร์ รีจรูญ แอนเดอร์สัน
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทโทรทัศน์โดย ระกาช่อนรูป
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว กำกับการแสดงโดย มนัสนันท์ เลิศวงศ์สกุล
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ผลิตโดย บริษัท ดอร์เธอร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ