อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 5 วันที่ 12 ธ.ค.60

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 5 วันที่ 12 ธ.ค.60

รื่นจิตสวน “แต่ถ้าลูกไม่ใช้สมองเลย ลูกจะกลายเป็นคนที่เสียใจ”

เพื่อนรู้สึกดีที่ได้คุยกันเรื่องแบบนี้ รื่นจิตให้ชวนกันลองมาทานข้าวที่บ้านบ้าง เพื่อนตื่นเต้นแทนแพง

รื่นจิตเตือนว่าวันนี้มีงานไม่ใช่หรือ เพื่อนนึกได้ว่าสายแล้วรีบคว้ากระเป๋า รื่นจิตยิ่งแปลกใจ เมื่อก่อนแพงไม่เคยต้องเตือนเรื่องเวลา เพื่อนทำแก้มป่องให้แม่หอม เธอทำหน้าเขินๆ แต่ก็หอมแก้มลูกเบาๆ เพื่อนหอมกลับฟอดใหญ่แล้ววิ่งไป รื่นจิตลูบแก้มด้วยความรู้สึกดี

ด้านแพงเช็กเอาต์ลำพัง กันลองเดินมาเห็นแพงขึ้นรถออกไปก็รีบถามพนักงาน พอรู้ว่าเธอเช็กเอาต์ก็รีบเช็กเอาต์แล้วตามไปที่สนามบิน แต่พอแพงเห็นกันลอง กลับเดินหนีไม่ขึ้นเครื่อง แอบไปเปลี่ยนไฟลท์เที่ยวหลังเขา กันลองขึ้นเครื่องแล้วหาแพงไม่เจอก็ยิ่งเครียด



ช่วงเช้าเพื่อนมาถ่ายรายการคุกกิ้งฟอร์โฮปให้มิ้งค์ ทีมงานต่างชื่นชมที่เธอทำได้ดีมาก ช่วงบ่ายเจ๊ทวิตตี้พาเพื่อนมาถ่ายละครรักถอดรูทต่อ เพื่อนต้องเข้าฉาก กับวรัชช์ เป็นฉากรักของพระเอกกับหุ่นไอดรอยด์ จิตจีรังยืนดูแล้วพึมพำกับตัวเอง คนหนึ่งเคยรัก อีกคนก็รักอยู่ ทำไมตนถึงอาภัพอย่างนี้ ช่วงพักกอง เพื่อนเล่นเกมดึงทาวเวอร์ไม้กับทีมงาน

เพื่อนเห็นจิตจีรังมองก็ไปชวนมาเล่นด้วย โดยจับมือเธอสอน จิตจีรังใจเต้นรัวที่ได้ใกล้ชิดแพง จึงดึงพลาดทำล้มทั้งกอง ทีมงานเฮต้องโดนทำโทษ ให้เต้นท่าลิงและถ่ายลงไอจี

ระหว่างนั้นแพงเห็นภาพที่เพื่อนส่งมา เป็นภาพเพื่อนหอมแก้มรื่นจิตตอนนอนหลับ ก็รู้สึกน้อยใจ กันลองโทร.เข้ามาอีก แพงยิ่งหงุดหงิดพาลโกรธไปทุกเรื่อง...ส่วนกันลองมาถึงกรุงเทพฯก็ โทร.หาทวิตตี้ถามว่าแพงมีงานที่ไหน เจ๊ฉวยโอกาสให้เขาซื้อลอดช่องวัดเจษมาด้วย อ้างว่าแพงอยากกิน กันลองโทร.สั่งปิติจัดการและให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างเอาไปส่งที่กองถ่าย

ทีมงานเห็นกันลองหล่อก็ตื่นเต้นกันใหญ่ ทวิตตี้ต้องปรามบอกว่าเขาเป็นญาติของแพง กันลองอยากเข้าไปหาแพง ทวิตตี้บอกยังเข้าไม่ได้เพราะตอนนี้แพงกำลังถ่ายซีนอารมณ์ต้องใช้สมาธิ...เสียงผู้กำกับสั่งคัตลั่น พร้อมบ่นว่าแพงทำไมแสดงไม่ได้ ทวิตตี้รีบวิ่งไปถามแพงว่าป่วยหรือเปล่า เพื่อนขอเวลาทำสมาธิสักพัก ผู้กำกับจึงเจาะถ่ายวรัชช์ไปก่อน

จนค่ำกันลองยังนั่งตากยุงรอหน้ากองถ่าย แพงมาถึงเห็นจึงโทร.บอกให้เขากลับไปรอที่บ้าน กันลองไม่กล้าขัดใจ พอเขาไปแล้วแพงก็แอบเข้าไปเจอเพื่อนในห้องแต่งตัว เพื่อนกำลังเครียดยืนมองกระจกบ่นว่าต้องทำให้ได้
เสียงแพงดังเย็นเยียบขึ้น พร้อมร่างปรากฏในกระจก

“เธอไม่จำเป็นต้องทำได้หรอก เพราะเธอไม่ต้องทำมันแล้วล่ะ...เพื่อน”

ooooooo

เพื่อนสะดุ้งเฮือกที่ได้ยินเสียงและเห็นแพงในกระจก รีบหันกลับวิ่งไปหา แต่แพงถอยหนีแถมจ้องหน้าเขม็ง เพื่อนไม่ทันสังเกตซักถามเรื่องกันลองว่าดีกันแล้วใช่ไหม

“แล้วเป็นแพงสนุกไหม” แพงถามกลับด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

“แรกๆก็สนุกแต่หลังๆชักไม่สนุกแล้ว ไอไม่ถนัดเล่นละครอะไรนี่เลย แพงมาก็ดีแล้ว ออกไปแสดงแทนไอทีเถอะ ฉากนี้มันยากจริงๆ จะตายอยู่แล้วเนี่ย”

เพื่อนยกมือทำท่าแท็กทีมแบบทุกครั้ง แต่แพงไม่เล่นด้วย กลับเดินผ่านไปหน้ากระจก เอามือรวบผมทรงเดียวกับเพื่อน แล้วบอกให้รีบถอดชุดออกมา เพื่อนเริ่มรู้สึกถึงความเย็นชาของแพง ถามทำไมต้องอารมณ์เสีย แพงไม่ตอบเร่งรีบสลับเสื้อผ้ากับเพื่อนจนเรียบร้อย... เพื่อนจะอธิบายว่ามีการปรับเปลี่ยนบท แพงตัดบทเสียงเข้ม

“แพงนึกออก เพื่อนก็รู้นี่ แพงอยู่กับบทพวกนี้มานานกว่าเพื่อนเยอะ นี่เป็นงานของแพง และนี่ก็เป็นชีวิตของแพง”

เพื่อนกำลังลบเครื่องสำอางบนหน้า สะอึกกับคำพูดของแพง แล้วนึกได้จะบอกเรื่องงานของมิ้งค์อีกเรื่อง แต่แพงไม่ฟังบอกจะคุยกับเจ๊ทวิตตี้เอง ตอนนี้เราควรเลิกเล่นเกมสลับตัวกันเสียที เพื่อนหยิบหมวกมาใส่รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ของแพง

พอเข้าฉาก แพงเล่นซีนอารมณ์นี้ได้จนวรัชช์ทึ่ง แม้บทจะไม่ตรงกับที่ผู้กำกับปรับใหม่ แต่ทุกคนก็เงียบกริบมองการแสดงของแพงที่หน้านิ่งเพราะเป็นหุ่นยนต์ แววตาบ่งบอกถึงความเสียใจ น้ำตาพรั่งพรู เพื่อนแอบมองถึงกับอึ้งกับบทบาทการแสดงของแพง ที่น้ำตาราวกับสั่งได้

พอแพงกลับมาที่ห้องแต่งตัว เพื่อนโผล่มาชื่นชม แพงกลับสวนว่า ยังไม่กลับอีกหรือ เพื่อนชะงักถามจะให้กลับไปไหน กระเป๋าเสื้อผ้าก็อยู่ที่บ้านแพง แพงถอนใจสีหน้าเซ็งๆ

“งั้นขอเวลาเปลี่ยนชุดแป๊บนึงนะ เดี๋ยวกลับด้วยกันนี่แหละ”

ทันใดเสียงวรัชช์เคาะประตูแล้วเปิดเข้ามา เพื่อนรีบหลบใต้โต๊ะ แพงทำเหมือนไม่มีอะไร วรัชช์จะเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง เขาแฉลบเข้ามาใกล้แพง ชื่นชมว่าเล่นได้ดีขนาดผู้กำกับยันช่างไฟขนลุกเกรียว ตัวเขายังอินมาก
แล้วแย็บถาม

“ไม่อยากหวั่นไหวกับผมบ้างเหรอ ก่อนอื่นเราไปทานข้าวด้วยกันสักมื้อเถอะ หรือจะไปเมากันอีกรอบเหมือนตอนคาราโอเกะก็ได้นะ”

แพงยิ่งรู้สึกโกรธเพื่อนมากขึ้น พยายามเก็บอารมณ์ หยิบมือถือขึ้นมาโทร.หาจิตจีรัง “คุณจีคะ วรัชช์กำลังหาเพื่อนทานข้าวด้วยแต่แพงไม่ว่าง เลยโทร.ถามว่าจีว่างไหม”

“ปฏิเสธผมดีๆก็ได้นี่ ทำไมชอบยัดเยียดคนอื่นให้ผมจัง” วรัชช์หงุดหงิดคว้าเสื้อเข้าห้องเปลี่ยน แพงรีบดึงเพื่อนออกจากใต้โต๊ะแล้วดันให้ออกไป ก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกห้อง

วรัชช์เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเดินออกมา จิตจีรังวิ่งมาเกาะแขนด้วยความดีใจ ถามจะไปทานอะไรกันดี เขาปัดว่าไม่หิวแล้วกดโทรศัพท์ตามนนท์ให้มาพาเธอไปทานข้าว จิตจีรังหน้าตึง พอแพงเดินออกมาก็ปรี่เข้าไปต่อว่า เอาที่ไหนมาพูดว่าวรัชช์ชวนไปทานข้าว เขาบอกว่าเขาไม่หิว แล้วเกาะแขนถามแพงจะไปไหน ตนจะไปด้วย แพงทำหน้าระอาต้องสะสาง

“จี แพงว่าอย่าทำอะไรแบบนี้ให้นักข่าวมาเห็นแล้วเอาไปเป็นประเด็นอีกเลย แพงชอบผู้ชายค่ะ จีก็ชอบผู้ชายไม่ใช่เหรอคะ” พูดจบแพงเดินไป จิตจีรังยืนงง

ด้านเพื่อนเดินเลิ่กลั่กจะไปที่จอดรถ มิ้งค์โผล่มาจับไหล่ เพื่อนสะดุ้งโหยง มิ้งค์ต่อว่า โทร.หาไม่รับสาย จึงต้องมาหาถึงนี่ ต้องการรู้ว่าจะให้คิวถ่ายรายการเทปสอง วันไหน เพื่อนมองซ้ายมองขวากลัวใครเห็น จึงชี้วัน
ในตารางนัดของมิ้งค์ไปมั่วๆ หวังจะรีบไป

“พฤหัสฯหน้าใช่ไหมคะ โอเค เดี๋ยวล็อกคิวทีมงานเลย แล้วจะทำเมนูอะไรก็ส่งข้อความมาบอกนิดนึงนะคะ พี่จะได้เตรียมของถูก ไปก่อนนะ” มิ้งค์โบกมือด้วยท่าทางดีใจ

ด้านแพงเดินมาเจอทวิตตี้กำลังหัวเราะร่วนดีใจเพราะถูกหวยสามตัว ขอบใจแพงยกใหญ่ที่ใบ้เลขเด็ดเป็นภาษาต่างดาววันก่อน แพงทำหน้างง ทวิตตี้หยิกแก้มแพงเบาๆ บอกงวดหน้าขอแบบรางวัลที่หนึ่ง แพงหลับตาพยายามข่มอารมณ์เต็มที่

เพื่อนเดินหลบๆใกล้จะถึงรถ เจอทีมงานทักกลับแล้วหรือ พรุ่งนี้คิวตามเดิม เพื่อนรับคำรีบวิ่งมาปลดล็อกประตูรถจะขึ้นด้านคนขับ ต้องสะดุ้งเมื่อเจอแพงนั่งอยู่

“แพง! ขึ้นรถมาได้ยังไงน่ะ หรือเมื่อเช้าเพื่อนลืมล็อกรถเนี่ย”

“ก็นี่มันรถของแพง ถ้าแพงจะมีกุญแจสำรองก็คงไม่แปลกใช่ไหม...รีบขึ้นรถสิ”

เพื่อนเดินวนมาอีกฝั่ง รู้สึกได้ว่าแพงไม่พอใจ ระหว่างนั่งรถมา เพื่อนสร้างบรรยากาศด้วยการเปิดเพลงที่ชอบเหมือนกัน แต่แพงเอื้อมมือมาปิด เพื่อนหน้าเสีย...

แล้วแพงก็ขับรถมาส่งเพื่อนที่โรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่ง บอกคืนนี้ให้นอนที่นี่ ไม่ค่อยมีคนเพราะเปิดใหม่ เพื่อนแปลกใจทำไมต้องย้ายโรงแรม ตนชินกับการเดินทางที่โรงแรมเดิม แพงอ้างว่าเดี๋ยววรัชช์จับได้

“แพง...แพงเป็นอะไร นอยด์อยู่ได้”

แพงระเบิดอารมณ์ “แล้วเพื่อนล่ะ ทำอะไรเกินจากที่แพงบอกให้ทำไปบ้าง ทั้งเรื่องแม่ ทั้งเรื่องสนิทสนม กับคนในกองถ่ายไปทั่ว”

เพื่อนเริ่มฉุนขอลงตรงนี้ พรุ่งนี้ให้เอากระเป๋าเสื้อผ้ามาให้ด้วย แพงส่งเงินให้สามพัน บอกเอาไว้จัดการตัวเอง เพื่อนผิดหวังไม่รับไม่เข้าใจอารมณ์ของแพง ปิดประตูใส่โครมแล้วเดินเข้าร้านมินิมาร์ทข้างๆโรงแรมแทน แพงมองเคืองๆ ก่อนจะออกรถไปอย่างแรง

ooooooo

ค่ำนั้นกันลองถูกชลลดาเหน็บแนมเรื่องงานที่ไปทำ ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ แถมเรื่องพรีเซ็นเตอร์ดูท่าทางแพงจะไม่ยอมเป็นให้ กันลองเครียดบอกแม่ว่า เรื่องงานสำเร็จแน่ ส่วนเรื่องพรีเซ็นเตอร์ถ้าไม่ได้แพงก็ยังมีนางแบบคนอื่น ชลลดาเคืองที่ตนเป็นอยู่มันไม่ดีตรงไหน

กันลองปีนข้ามรั้วมาหาแพงซึ่งนั่งเล่นอยู่ริมสระ เอาตุ๊กตาวูดูมายื่นให้ตรงหน้า เธอสะดุ้งเสียงแข็งใส่เข้ามาทำไมและตุ๊กตานี่ตนก็ไม่ชอบ กันลองงงจึงจับแพงหันมาเผชิญหน้า

“พะแพงคะ เรื่องพรีเซ็นเตอร์นั่น พะลองขอโทษจริงๆถ้าแพงไม่อยากให้พูดเรื่องงานพี่ก็จะไม่พูด โอเคไหม”

แพงปัดไม่อยากพูดเรื่องนี้ตอนนี้ กันลองซีเรียสบอกไหนแพงโทร.ให้ตนกลับมารอที่บ้าน แพงสวนถ้าไม่บอกแบบนั้นจะได้ถ่ายละครไหม ชายหนุ่มชักหงุดหงิดที่หญิงสาวไม่คุยด้วยดีๆ พอเธอลุกหนีเข้าบ้าน เขาถอนใจมองตุ๊กตาวูดูที่มีแหวนลงยาคล้องอยู่ด้วยความผิดหวัง

เพื่อนกลับมานอนที่โรงแรมวรัชช์ เครียดกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของแพง ตนทำทุกอย่างเพราะหวังดี ทำไมต้องโกรธ ทั้งที่เราเป็นทีมเวิร์กกัน แล้วยังทำเหมือนตนเป็นคนนอกอีก ตนจะบอกเรื่องรายการของมิ้งค์อย่างไรดี ไม่ทันไรมิ้งค์ส่งสคริปต์รายการมาให้ เพื่อนยิ่งเครียด

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 5 วันที่ 12 ธ.ค.60

ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทประพันธ์โดย จันทร์ รีจรูญ แอนเดอร์สัน
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทโทรทัศน์โดย ระกาช่อนรูป
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว กำกับการแสดงโดย มนัสนันท์ เลิศวงศ์สกุล
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ผลิตโดย บริษัท ดอร์เธอร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ