อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 7 วันที่ 16 ธ.ค.60
ญาดาได้เห็นและได้ฟังเรื่องราวในอดีตของสามี เห็นใจเขาไม่น้อยที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคหลายอย่างกว่าจะมีวันนี้ และเพื่อช่วยเขาแก้ปัญหา เธอจึงตัดสินใจชวนเขาไปหาดิลกที่บ้านตอนแรกชาคริตไม่อยากเข้าบ้านเมธาสิทธิ์ แต่เห็นท่าดิลกกับไตรทศที่ไล่เขาทันทีที่เจอหน้าก็เปลี่ยนใจ เขมิกาได้ยินเสียงเอะอะรีบมาดู ญาดาเลยขอร้องทุกคนให้ฟังเหตุผลของเธอ
“พี่มีเรื่องสำคัญคุยกับคุณพ่อ...คุณคริตด้วย คุณพาฉันไปฮ่องกงก็เพื่อต้องการให้เราเข้าใจคุณไม่ใช่เหรอ”
“คุณเข้าใจคนเดียวก็พอแล้ว ผมไม่มีวันลดตัวไปคุยกับคนเลวทรามต่ำช้า”
จบคำชาคริต ดิลกก็ถลาไปต่อยแต่เพราะความดันเล่นงานเลยหน้ามืด ไตรทศรีบประคองพ่อและพาตัวออกไป ทิ้งเขมิกาให้ปรี๊ดใส่พี่สาวคนโตอย่างเหลืออด
“พี่ดาต้องการให้บ้านเราลุกเป็นไฟแบบนี้ใช่ไหม”
“พี่ต้องการให้บ้านเราสงบสุขสักทีต่างหาก”
“ผู้ชายคนนี้มีแต่ทำให้พวกเราทุกข์ใจสาหัส เขมไม่รู้ว่าพี่ดาเห็นความดีอะไรในตัวเขา แต่เขมเห็นแต่ความเลว!”
เขมิกาปึงปังเข้าบ้านไปแล้ว ญาดาหงุดหงิดมากที่ไม่มีใครยอมฟังเหตุผลของเธอ รีบตามไปเคลียร์ทุกอย่างอีกครั้ง แต่ดิลกที่อาการดีขึ้นไม่ฟัง เอ็ดลั่น
“แกพาผัวมาด่าฉันถึงในบ้าน แกมันลูกเนรคุณ”
“ดามีเหตุผลที่พาเขามา คุณคริตเป็นแค่เครื่องมือศัตรูของเรา คุณพ่อเคยมีปัญหากับมิสเตอร์หว่องหรือเปล่า”
“ฉันไม่เคยไปเหยียบตีนใคร! ผัวแกมันบ้าไปเอง”
“คุณพ่อไม่เคยมีปัญหากับใครจริงหรือคะ งั้นก็อาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด ไม่มีธุรกิจไหนไม่มีคู่แข่ง คุณพ่อคิดดูดีๆ”
“แกจะยัดเยียดความผิดให้ฉันให้ได้ใช่ไหมนังดา!”
ดิลกร้อนตัวกลัวญาดารู้ความจริงเรื่องเก่งกาจ โมโหกลบเกลื่อนและตบสั่งสอนลูกสาวคนโต ชาคริตถลามายึดมือไว้ก่อนภรรยาจะโดนตบซ้ำ แถมกำแน่นจนแทบจะหักข้อมือดิลก ญาดาตะลึงมาก ร้องให้เขาปล่อย ชาคริตยอมทำตามและหันมาพูดกับเธอเสียงเครียด
“คุณอย่าพยายามเลย คนอย่างพ่อคุณต้องรอให้เห็นนรกตรงหน้าก่อนถึงจะสำนึก...อีกไม่นานหรอก”
ญาดาเห็นท่าไม่ดี รีบลากตัวชาคริตออกไป ดิลกเจ็บใจที่ทำอะไรลูกเขยไม่ได้ ได้แต่กำชับไตรทศกับเขมิกา
“ต่อไปนี้อย่าให้นังดากับผัวมันมาเหยียบที่นี่อีก!”
เขมิกากับไตรทศมองหน้ากันอึ้งๆ ก่อนที่ฝ่ายแรกจะเตือนพ่อไม่ให้จิกเรียกญาดาแบบนั้น
“ฉันจะเรียกมันอย่างนี้แหละ นังลูกไม่รักดี มันไปเข้าข้างศัตรู!”
“แต่พี่ดากำลังสืบว่าใครอยู่เบื้องหลังไอ้ชาคริต”
ไตรทศพยายามท้วงเพื่อช่วยญาดาแต่ดิลกไม่เชื่อ ตัดบทเสียงห้วน
“ไม่มีเบื้องหลังเบื้องหน้าอะไรทั้งนั้น พ่อเคยมีศัตรูอยู่คนเดียว ป่านนี้มันคงตายอยู่ในคุกแล้ว...
ไอ้ชาคริตนี่แหละศัตรูตัวจริงของฉัน ฉันขอสั่งห้ามไม่ให้แกสองคนไปยุ่งกับผัวเมียคู่นั้นอีก!”
“เขมไม่คิดจะยุ่งอยู่แล้ว เราต่างคนต่างอยู่ พี่ดา กับพวกเราก็ถือว่าขาดกันไปแล้ว”
“ไม่ใช่แค่ไอ้ชาคริต ทั้งเพื่อนหรือคนในบริษัท ไม่ต้องไปเกี่ยวข้อง พ่อจะฉีกสัญญากับทีมาร์ทให้ขาดกันไปเลย!”
ดิลกโกรธจนขาดสติ พาลพาโลทุกคนเพราะแอบกลัว ความลับเรื่องเก่งกาจจะแตก เขมิกากับไตรทศไม่รู้เรื่องด้วย หน้าเสียเพราะรู้ดีว่าคงทำตามไม่ง่าย...ทั้งทัศนะกับชญานีคือเพื่อนสนิทและน้องสาวบุญธรรมของชาคริต
ooooooo
กสิณกำลังจะเป็นบ้า นอกจากเรื่องบีสตาร์ยกเลิกสัญญาใช้ห้องทดลองที่สวิตเซอร์แลนด์กะทันหันแล้ว เขายังถูกคุกคามโดยปาริฉัตรกับกมลพรรณที่ตามทวงเรื่องงานแต่งงาน
ญาดาเหมือนเป็นที่พึ่งสุดท้าย กสิณแอบมาหาอดีตแฟนสาวถึงล็อบบี้โรงแรมของชาคริต เลยถูกจับออกไปข้างนอก โดยมีปาริฉัตรกับกมลพรรณที่ชาคริตส่งคนไปบอกข่าวมาตามประกบ
กสิณถูกขู่จะแฉคลิปฉาวกับปาริฉัตรหากยังโยกโย้เรื่องงานแต่ง นิกกี้ถูกตามตัวมาจัดการทุกอย่าง ก่อนจะถึงกับพูดไม่ออกเมื่อกสิณบอกว่ามีงบจัดงานแค่สามหมื่น!
ปาริฉัตรกับกมลพรรณวีนจนกสิณยอมเพิ่มงบจัดงานเป็นห้าหมื่น สองแม่ลูกหัวเสียมาก แต่จำต้องยอมรับ แบบเสียไม่ได้...ถือซะว่ากำขี้ดีกว่ากำตด!
ญาดาไม่ได้สนใจเรื่องกสิณ ตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์บันทึกส่วนตัวที่สวิตฯตามคำสั่งชาคริตที่อยากให้เธอแก้ตัวอีกรอบ
“คุณต้องการรู้อะไรเกี่ยวกับฉันที่สวิตฯนักหนา”
“ผมหึงไง...ผมอยากรู้ว่าตอนนั้นกสิณเข้ามายุ่งย่ามในชีวิตคุณมากแค่ไหน...ผมไม่ชอบ!”
“จำไว้ด้วยว่าตอนนั้นฉันเป็นแฟนกับเขา”
“จำไว้ด้วยว่าตอนนี้คุณเป็นเมียผม”
ชาคริตสวนหน้าตาย ค่อยๆถอดหน้ากากความเป็นชาคริตผู้เต็มไปด้วยความลับและความแค้น ญาดาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้น เธอกวาดตามองบรรยากาศรอบตัวในห้องพักหรูด้วยความเบื่อหน่าย...ทุกอย่างที่นี่ถูกเตรียมไว้อย่างดี แม้แต่อาหารและของว่างก็มีพนักงานจัดเตรียมไว้ทุกมื้อ
“เราสองคนจะต้องใช้ชีวิตอย่างนี้หรือคะ ใช้ชีวิตเหมือนนักท่องเที่ยว ไม่เหมือนคนปกติทั่วไป”
คำว่าเราจากปากเธอทำให้ชาคริตยิ้มกว้าง “ผมชอบคำว่าเราสองคน...รออีกสักพักเราจะได้ใช้ชีวิตเหมือนครอบครัวอื่น คำว่าครอบครัวมันห่างไกลจากชีวิตผมมาก แต่ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
พูดพลางประคองแก้มเธอที่เพิ่งถูกดิลกตบ เอ่ยเสียงเข้ม
“ผมจะไม่ให้ใครทำให้คุณต้องเจ็บอีก!”
“ช่างเถอะค่ะ คุณพ่อกำลังโกรธ คุณไม่มีแผนการอะไรแล้วใช่ไหม”
“ไม่มี...เพราะผมได้ทุกอย่างที่ผมต้องการแล้ว...คุณไงล่ะ คือทุกอย่างของผม”
“คราวนี้ฉันจะเชื่อคุณ ฉันขอไปเคลียร์งานที่บริษัทแป๊บนึงนะ”
“พิมพ์รายงานให้เสร็จก่อน”
“สัญญาว่าคุณจะได้อ่านเมื่อฉันถึงบริษัท”
“งั้นก็ไปสิ...ให้นายปิงไปส่ง ผมให้เวลาชั่วโมงเดียว!”
ooooooo
ญาดาหาทางนัดทัศนะทันทีที่ออกจากห้องพักหรูของชาคริต ไม่สนใจเลยว่าสามีต้องรับมือชญานีที่มาตามง้อ ชาคริตหายโกรธน้องสาวบุญธรรมแล้วแต่อยากให้เธออยู่ได้ด้วยตัวเองจึงทำมึนตึงใส่
ชญานีเข้าใจเองว่าพี่ชายตกหลุมรักญาดา ตัดพ้องอนๆ “แล้วนีล่ะ...นีเป็นแค่น้องสาวหลอกๆต่อไปเป็นพี่น้องกันแต่ไม่เคยอยู่ด้วยกัน ไม่เคยจำวันเกิดได้ นีผิดเหรอที่อยากได้มากกว่านั้น”
“เธอทำร้ายเจ้าสาวของพี่”
“นีแค่ขู่เท่านั้น นียังรักพี่คริตเหมือนเดิม...เหมือนพี่ชาย แต่พี่คริตไม่เคยรักนีเลยใช่ไหม นีเป็นแค่เด็กข้างถนนที่พี่เก็บมาเลี้ยง นีไม่ต่างกับหมาแมวจรจัดใช่ไหม”
ชาคริตสะเทือนใจแต่ต้องทำเป็นใจร้าย “ใช่! พี่เลี้ยงเธอมาก็เพราะสงสาร เราจะไม่มีวันเหมือนครอบครัวคนอื่น เธอจะไม่มีวันได้อะไรจากพี่นอกจากความเวทนา ไปได้แล้ว...ชญานี”
ชญานีช้ำใจมากเพราะถูกทำร้ายจิตใจ แต่ไม่มีใครให้โทร.หานอกจากไตรทศ...อดีตคู่ปรับที่กลายเป็นเพื่อนยามยาก สภาพของเธอทำให้ไตรทศถึงกับถอนใจยาว หงุดหงิดที่เธอเรียกหาเพราะเรื่องชาคริตแต่ก็สงสารจับใจ
“คุณต้องออกจากโลกแคบๆของคุณบ้าง...หัดคบเพื่อน หัดมีสัมพันธ์กับคนอื่นมากกว่านี้ ไม่งั้นทำงานเสร็จ คุณก็ไปนั่งเหงาคนเดียวอยู่ในบ้าน...ไม่เบื่อชีวิตตัวเองบ้างหรือไง”
“ฉันมีคุณเป็นเพื่อนแล้วไง”
“ถามผมหรือเปล่าว่าอยากเป็นเพื่อนกับคุณไหม”
“แล้วที่ตามฉันมาตลอดนี่...หมายความว่าไง”
“ผมอยากเป็นมากกว่าเพื่อน”
คำขอตรงๆของเขาทำให้ชญานีอึ้งไปอึดใจ แม้พอเดาได้แต่คิดว่ายังไม่พร้อม
ไตรทศเห็นเธอลังเลเลยเร่งรัด “ไม่ต้องคิดหรอก ชาตินี้ไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าถึงตัวคุณได้แน่ ผมจะพาคุณไปเจอโลกใหม่ๆ มีเงื่อนไขข้อเดียว...ไม่ต้องไปเจอพี่ชายจอมปลอมของคุณอีก”
“ฉันทำไม่ได้! พี่คริตเป็นครอบครัวของฉัน...ฉันไม่มีวันทิ้งเขา”
“แต่คุณกำลังทิ้งเพื่อนคนเดียวที่คุณมี...”
ระหว่างที่ชญานีคิดหนักเรื่องไตรทศ ญาดาวุ่นวายกับการเขียนบันทึกชีวิตตัวเองที่สวิตฯตามคำสั่งสามี ชาคริต กดเข้าไปอ่านเรื่องราวของภรรยาแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ ก่อนจะโทร.หาเมื่อเห็นคำศัพท์แปลกๆที่เขาไม่รู้ความหมาย
ญาดารับสายเซ็งๆ ชาคริตเป็นผู้ชายเรื่องมากและเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ แม้เธอจะหาโอกาสมาทำงานและนัดเจอทัศนะที่ออฟฟิศได้ แต่เขาก็โทร.เช็กตลอด
ชาคริตชอบอ่านบันทึกของภรรยามาก แต่คาใจเรื่องคำศัพท์แปลกๆของเธอ
“เอสโอแซดหมายถึงอะไร ผมรู้จักแต่เอ็กซ์โอเอ็กซ์โอ...แปลว่ากอดแล้วจูบ”
ญาดาถอนใจหน่ายๆ ก่อนอธิบายว่าเอสโอแซดย่อมาจากคำว่าขอโทษหรือเสียใจ
“คุณคงไม่เคยพูดคำนี้กับใครสินะ ขอโทษ...เสียใจ... คุณเคยพูดคำนี้กับใครไหม”
“ขอโทษที่ต้องบอกว่าเสียใจด้วย เวลาที่คุณขอผมกำลังจะหมด กลับมาหาผมที่โรงแรมได้แล้ว”
ชาคริตสั่งแบบเผด็จการเหมือนเคย ญาดายังไม่ได้เจอทัศนะ ตัดสินใจลองอ้อนเป็นครั้งแรก
“ขอเคลียร์งานอีกครึ่งชั่วโมงนะคะ...นะคะ”
“ก็ได้...เดี๋ยว...คุณอยู่กับใคร”
น้ำเสียงกระเง้ากระงอดของสามีทำให้ญาดาต้องนิ่วหน้า แปลกใจนิดหน่อยแต่ไม่ได้รำคาญเหมือนเมื่อก่อน ทัศนะแวะมาหาตามนัดพอดี เธอเลยขอวางสายดื้อๆแล้วหันมาบ่นกับเพื่อนรักของเขา
“เพื่อนคุณนี่เอาแต่ใจจริงๆ”
“เอาแต่ใจกับคุณคนเดียวแหละครับ”
ทัศนะเย้าขำๆแต่ญาดาไม่ได้สนใจ เพราะมีเรื่องชาคริตที่ฮ่องกงมาปรึกษา โดยเฉพาะเรื่องสามีถูกมิสเตอร์หว่องพ่อบุญธรรมบีบบังคับให้ทำร้ายครอบครัวของเธอ
“ฉันเชื่อว่าถ้าคุณคริตหลุดพ้นจากอิทธิพลมืดมาได้ เขาก็จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้”
“ผมชักงงแล้ว คุณทำเพื่อนายคริตหรือทำเพื่อครอบครัวคุณ”
“ทั้งสองฝ่ายค่ะ ถ้าคุณคริตไม่ต้องทำตามคำสั่งคุณป๋า เขาก็จะไม่ทำร้ายครอบครัวฉันอีก...วินวินทั้งสองฝ่าย”
“คุณป๋า...คุณไปเอาความคิดนี้มาจากไหน คุณคิดว่ามิสเตอร์หว่องเป็นต้นเหตุให้คุณบ้านแตกหรือครับ”
“คุณคริตไม่ได้ปฏิเสธ แล้วใครจะสั่งเขาได้นอกจากพ่อบุญธรรมมหาเศรษฐีของเขา ฉันจะหาแหล่งฟอกเงินของมิสเตอร์หว่อง งานนี้ถ้ากาสิโนที่ฮ่องกงล้มอาจกระทบถึงทีมาร์ทของคุณด้วย”
ญาดาหมายมั่นปั้นมือจะล้างมลทินให้ครอบครัวและช่วยชาคริต ทัศนะไม่เห็นด้วยเพราะเธอคิดอะไรเกินตัว แต่ญาดาไม่กลัว กดดันให้เขาช่วยและเตรียมตัวรับผลกระทบจากภารกิจนี้ได้เลย!
ooooooo
รับมือญาดาว่าปวดหัวแล้ว ทัศนะกลับบ้านมาพบความวุ่นวายของเขมิกากับเพ็ญขวัญอีก สองสาวกระตือรือร้นมากเรื่องเปิดบริษัทใหม่ ลงมือทำเครื่อง ประดับ เสื้อผ้าและของใช้หลายอย่างเพื่อทดลองขาย
ทัศนะเป็นต้นคิดเรื่องเปิดบริษัทนี้เอง โดยมีเขมิกากับเพ็ญขวัญเป็นหุ้นส่วน แม้จะดีใจที่สองสาวมีความตั้งใจดี แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ทั้งคู่คิดไม่ถึงเกี่ยวกับการทำธุรกิจ
เขมิกากับเพ็ญขวัญหน้าเสียเมื่อถูกทัศนะดุเรื่องลงทุนทำตัวอย่างสินค้าโดยไม่คิดถึงต้นทุน แต่คนที่โดนหนักสุดคงหนีไม่พ้นคุณหนูคนสวยเพราะเป็นคนออกทุนและบงการให้พนักงานในบีสตาร์ช่วยออกแบบโลโก้
ทัศนะเห็นเขมิกาหน้าจ๋อยก็ใจอ่อน แต่ยังทำเสียงแข็งเพราะอยากให้เธอได้บทเรียน เพ็ญขวัญเห็นท่าไม่ดี พยายามช่วยไกล่เกลี่ย ทัศนะเลยยอมลงให้และเปลี่ยนเรื่องชวนเขมิกาไปฉลองวันเกิดให้เพ็ญขวัญ
เขมิกาตื่นเต้นมาก จัดแจงหาเค้กวันเกิดและจัดงานฉลองง่ายๆให้บนดาดฟ้า ทัศนะชอบใจที่คุณหนูคนสวยเข้ากับน้องสาวได้ดี และยิ่งปลื้มเมื่อเธอเปิดใจกับเขาตรงๆ
“เขมไม่อยากกลับบ้านเลย บ้านไม่เป็นบ้านอีกต่อไปแล้ว”
“ช่วงที่มีความสุขก็สุขให้เต็มที่ อย่าคิดเรื่องอื่น เราไม่รู้ว่าความทุกข์จะมาหาเราเมื่อไหร่”
“ขอแค่คุณดีกับเขม ไม่มีเรื่องให้ต้องผิดหวัง มีอะไรบอกกันตรงๆนะคะ...อย่าปิดบังกัน”
เขมิกาไม่สนใจคำสั่งพ่อให้เลิกยุ่งกับคนใกล้ชิดของชาคริต เดินหน้าพัฒนาความสัมพันธ์กับทัศนะ
เช่นเดียวกับปาริฉัตร ไม่ละความพยายามจะจับกสิณแต่งงาน กมลพรรณบากหน้าไปขอยืมเงินจากดิลกแต่ถูกเขาบอกปัดแบบไม่ไยดี ปาริฉัตรเลยเอาคืนด้วยการขโมยมือถือเขามาโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองกว่าครึ่งล้าน!
กว่าญาดาจะเคลียร์งานที่ออฟฟิศเสร็จก็กว่าสามชั่วโมง ชาคริตหงุดหงิดมากที่เธอกลับช้าและพาลจับผิดเมื่อรู้ว่าเธอไม่ยอมให้ปิงบอดี้การ์ดคนสนิทเฝ้าหน้าห้อง
ญาดากลัวความลับเรื่องนัดเจอทัศนะจะแตก บ่ายเบี่ยงและปั้นเรื่องโกหกจนเขาเลิกสงสัย แต่หญิงสาวก็ก่อเรื่องอีกครั้งด้วยการแอบล้วงข้อมูลบริษัทฟอกเงินจากคอมพิวเตอร์ของเขา
โชคดีที่ทำไม่สำเร็จและชาคริตไม่ทันเห็น ญาดาเลยรอดตัวหวุดหวิด แต่กระนั้นก็ถูกเขาลากตัวเข้าห้องไปนวดกดจุด...บรรยากาศดีๆทำให้สองสามีภรรยาตัดสินใจสงบศึกชั่วคราว
“คุณคริต...นี่เราแต่งงานเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆใช่ไหม”
“ใช่...ทำไมจะไม่ล่ะ”
“คุณเคยบอกว่าคุณแค่ต้องการตัวฉัน”
“ผมต้องการทั้งตัวและหัวใจของคุณ”
ชาคริตโน้มตัวจะจูบ ญาดาทำท่าเหมือนยอมแต่จู่ๆก็ถอยหนี
“คุณพร้อมแล้ว...แต่ฉันยังไม่พร้อมค่ะ!”
พูดจบก็ผละไปด้วยหัวใจเต้นแรง ทิ้งชาคริตให้มองตามยิ้มๆ...ขำตัวเองที่ถูกภรรยาหลอกให้เคลิ้ม
ooooooo
ช่วงเวลาดีๆเมื่อคืนทำให้ญาดาใจกล้าพอจะเผยตัวตนกับชาคริต อยากให้เขาสัมผัสถึงความเป็นบ้าน และอยากเปลี่ยนอะไรอีกหลายอย่างในห้องพัก ชาคริตไม่ขัดแต่ไม่วายดักคอกวนๆ
“แต่อย่าได้คิดมาเปลี่ยนผม”
“คุณไม่เปลี่ยน ฉันก็ไม่เปลี่ยน แล้วเราจะเป็นครอบครัวเดียวกันได้ยังไง”
“เมื่อคืนแทบแย่เลยไม่ใช่เหรอ”
“แทบแย่อะไร”
“ฝืนใจแทบแย่ไง...ไม่รู้จะฝืนไปทำไม”
ชาคริตวกเข้าเรื่องเมื่อคืนจนได้ ญาดาทำหน้าไม่ถูก แต่ไม่ทันได้โต้ แจงเลขาของเธอก็โทร.มาแจ้งเรื่องดิลกเรียกประชุมยกเลิกสัญญากับทีมาร์ท!
ญาดาตกใจมาก แต่ชาคริตกลับมีท่าทีสบายๆ เหมือนไม่ยี่หระการกระทำของดิลกแม้แต่น้อย ทัศนะเสียอีกพยายามไกล่เกลี่ย แต่ดิลกไม่สนใจฟังอะไรทั้งนั้น ประกาศกร้าวจะฉีกสัญญากับทีมาร์ทในทุกกรณี!
การยกเลิกสัญญากับทีมาร์ททำให้บีสตาร์สูญเสียรายได้ส่วนใหญ่ ญาดาคัดค้านเพื่อรักษาผลประโยชน์ของครอบครัวและเพื่อสินค้าตัวใหม่ที่เธอลงทุนลงแรงควบคุมการทดลองด้วยตัวเองที่สวิตฯ แต่ดิลกไม่แคร์และไล่เธอออก
ไตรทศได้ยินไม่เห็นด้วย “คุณพ่อ! ไม่มีใครเก่งเท่าพี่ดาอีกแล้วนะครับ”
“ฉันไม่ต้องการคนเก่ง ฉันต้องการคนซื่อสัตย์ภักดีต่อบริษัท อย่าได้ไปเหยียบบริษัทฉันอีก!”
ชาคริตนิ่งฟังเหตุการณ์พ่อลูกตีกันด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่ในใจสงสัยว่าดิลกอาจมีแผนเพราะที่ผ่านมาอีกฝ่ายไม่เคยยอมปล่อยมือจากบีสตาร์...แม้ต้องแลกด้วยชีวิตล้มเหลวของลูกสาวทั้งสองก็ตาม
ญาดาร่ำไห้ด้วยความช้ำใจสุดขีด ไม่คิดมาก่อนว่าพ่อจะตัดพ่อตัดลูกและไล่เธอออกจากบริษัทได้ ชาคริตสงสารและเห็นใจ ดึงตัวมากอดปลอบ
“ไม่ต้องร้องไห้ คุณยังมีผมอยู่”
“ฉันไม่ได้ร้อง!”
“เดี๋ยวก็ร้อง...คุณรักครอบครัวยิ่งกว่าอะไร”
ชาคริตจงใจแหย่ให้ภรรยาผ่อนคลาย ชญานีได้แต่มองตามอึ้งๆเพราะไม่เคยเห็นพี่ชายกอดผู้หญิงด้วยความรู้สึกแบบนี้ แต่ไตรทศที่ผ่านมาเห็นอีกต่อกลับเข้าใจผิด คิดเองว่าชญานียังตัดใจจากชาคริตไม่ได้
เขมิกาไม่มีเวลาสังเกตรักสามเส้าของน้องชาย มัวยุ่งหาบริษัทคู่ค้าใหม่แทนทีมาร์ท ทัศนะยืนมองคุณหนูคนสวยหัวหมุนกับงานด้วยความเอ็นดู และอดไม่ได้จะบอกว่าเธอเหมือนญาดามากขึ้นทุกวัน
ชื่อของพี่สาวทำให้เขมิกาหุบยิ้ม สวนเสียงเรียบ “เขมเรียนรู้งานจากคุณ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่ดาเลย เขมอยากเก่งเพื่อช่วยงานคุณพ่อ ไม่ใช่เพราะอยากเป็นเหมือนใคร...เข้าใจนะคะ”
“เข้าใจครับ...แต่ผมไม่เชื่อว่านักธุรกิจระดับคุณดิลกจะไม่มีแผนสองเผื่อเกิดเรื่องฉุกเฉิน เศรษฐกิจผันผวนอย่างนี้ บริษัทไหนก็ต้องหาหลักประกันไว้ทั้งนั้น”
“ไม่มีหรอกค่ะ คุณพ่อตัดสินใจทุกอย่างด้วยอารมณ์ พี่ดา...เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด!”
เขมิกาเชื่อแบบนั้นจริงๆ ทัศนะอึดอัดใจมาก แต่อธิบายความจริงไม่ได้ว่าญาดายอมแต่งงานเพราะอะไร...
ooooooo
อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 7 วันที่ 16 ธ.ค.60
ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทประพันธ์โดย โสภี พรรณรายละครเรื่อง ระเริงไฟ บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา
ละครเรื่อง ระเริงไฟ กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ชิติเช่น เคน จำกัด
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง ระเริงไฟ เริ่มออกอากาศตอนแรกวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560
ที่มา ไทยรัฐ