อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 9 วันที่ 20 ธ.ค.60
ไตรทศกับชญานีอยู่เป็นเพื่อนและช่วยเพ็ญขวัญทำเครื่องประดับขาย แต่งานฝีมือคงไม่เหมาะกับสองหนุ่มสาว ผลงานเลยบูดๆเบี้ยวๆและขายไม่ได้ เพ็ญขวัญไม่ถือสา ได้แต่มองไตรทศกับชญานีต่อปาก ต่อคำกันเงียบๆ แอบลุ้นว่าทั้งคู่จะพ้นช่วงเวลาดูๆกันและรักกันจริงเหมือนคู่อื่นๆเพ็ญขวัญไม่ได้คิดเองคนเดียว ไตรทศกับชญานีก็รู้สึกไม่ต่างกัน แต่พลันบรรยากาศที่ทำท่าจะดีต้องหายวับเมื่อทั้งคู่คิดถึงคนในครอบครัว
“แค่คิด...ฉันก็รู้แล้ว เรื่องเราต้องมีปัญหา พี่คริตต้องไม่ยอมแน่ๆ”
“พ่อผมก็คงไม่เห็นด้วย แต่ผมไม่แคร์”
“แต่ฉันแคร์”
ชญานีเอ่ยเสียงเย็นแต่หนักแน่น ชาคริตคือครอบครัวคนเดียวของเธอ ไตรทศรู้ดีแต่ยังทำใจยอมรับไม่ได้ ชาคริตคือศัตรูตัวร้ายที่ทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก จนวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรกลับมาเหมือนเดิม ชญานีเข้าใจความรู้สึกเขาแต่ไม่อาจลืมอดีตและบุญคุณของชาคริต
“ฉันเป็นอย่างนี้แหละ อารมณ์ขึ้นๆลงๆ เอาแน่อะไรไม่ได้ ฉันไม่ต้องไล่ อีกหน่อยคุณก็รับไม่ไหวเอง”
“ผมกลับก็ได้ เราจะทำชีวิตให้ง่ายได้นะคุณนี แคร์คนอยู่กับคุณตรงนี้ อย่าไปแคร์คนที่ไม่เคยอยู่ข้างๆคุณเลย”
ไตรทศจากไปแล้วพร้อมหัวใจบอบช้ำ ทิ้งชญานีให้มองตามเครียดๆ สับสนจนไม่รู้จะเลือกทางไหน...ไม่ต่าง จากทัศนะเวลาเดียวกันนี้ที่ต้องเลือกจะค้างคืนกับเขมิกาที่บ้านชาวบ้านตามลำพังหรือจะตีรถกลับ
แต่เขมิกาก็ทำให้เรื่องยุ่งมากขึ้นด้วยการบอกเจ้าของบ้านพักว่าเธอเป็นแฟนเขา แถมหยอกล้อเขาแบบสนิทสนม ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงและเริ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้จนต้องเปิดอกคุยตรงๆ
“ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไว้ใจได้”
“แต่เขมไว้ใจคุณนะ เขมถึงได้กล้าแหย่ กล้าแกล้งคุณทั้งที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่ไม่ใช่เพราะเขมเห็นคุณเป็นผู้ชายแหยๆ แต่เขมเห็นคุณเป็นสุภาพบุรุษต่างหาก”
“ผมไม่รู้ว่าผมจะเป็นสุภาพบุรุษไปได้นานแค่ไหน คุณก็รู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ”
เขมิการู้สึกกับเขาไม่ต่างกัน แต่ยังทำทะเล้น แหย่จนถูกเขาดุ “คุณเขม!”
“เขมรู้น่าว่าขอบเขตของเราอยู่ตรงไหน เขมดีใจที่คืนนี้คนอยู่เป็นเพื่อนเขมคือคุณนะ...”
สถานการณ์ระหว่างทัศนะกับเขมิกาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นได้ค้างคืนกันตามลำพัง ต่างจากบรรยากาศของชาคริตกับญาดาที่เต็มไปด้วยความประหม่า โดยเฉพาะญาดา กลัวถูกปล้ำจนขึ้นสมอง ชาคริตรู้ทันดักคอขำๆ
“ผมไม่มอมเหล้าหรือมอมยาคุณหรอก ผมไม่ชอบใช้วิธีของคนขี้ขลาด”
“ก็ถ้าฉันขอข้อมูลการฟอกเงินจากคุณตรงๆ คุณจะให้ฉันไหมล่ะ”
“คุณยอมแต่งงานกับผมเพราะอะไร”
ญาดามัวอึ้ง ชาคริตเลยตอบแทนราวกับรู้ใจ
“เพราะคุณต้องปกป้องพ่อคุณไม่ให้ติดคุก ผมก็ต้องปกป้องคุณป๋าของผมเหมือนกัน”
“แต่ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายไปได้ตลอดหรอกนะคะ ไม่ว่าคุณป๋าคุณจะมีอิทธิพลแค่ไหนก็ตาม”
“ผมรู้ว่าผมทำอะไรอยู่...เงินสกปรก ไม่ว่าร้อยล้านหรือหมื่นล้านก็เงินสกปรกเหมือนกัน ชั่วร้ายไม่ได้ต่างกัน”
“ฉันไม่ได้คิดเปรียบเทียบว่าใครชั่วร้ายกว่ากัน ตอนนี้ฉันห่วงแต่คุณ...คุณเคยอยากหยุดไหม”
ญาดาถามจริงๆ แต่ชาคริตไม่ได้ตอบ มัวยิ้มปลื้มเพราะสัมผัสได้ถึงความห่วงใยจากเธอ...
ooooooo
หัวใจของชาคริตพองโตได้รับความห่วงใยจากญาดา ต่างจากทัศนะใจเต้นไม่เป็นส่ำต้องเข้าไปนอนกับเขมิกาในห้อง แม้ตั้งใจจะไม่ล่วงเกินเธอตามประสาสุภาพบุรุษที่ดี แต่อดกลัวใจตัวเองไม่ได้
เขมิกาเสียอีกมีท่าทีสบายๆ ไม่เดือดเนื้อร้อนใจต้องแชร์เตียงร่วมกับทัศนะ คุณหนูคนสวยไว้ใจเขามากจนไม่ได้ระมัดระวังตัวอย่างที่รับปากก่อนหน้า ทัศนะเลยต้องให้บทเรียนเมื่อเธอขยับมาใกล้เขาเกินไป
ท่าทางที่เปลี่ยนไปของทัศนะ เอนตัวมาใกล้ ทำให้เขมิกาเริ่มใจสั่นแต่ยังทำเป็นไม่กลัว
“เขมไว้ใจคุณ คุณนะเป็นคนดี”
“ผมไม่ใช่คนดีสมบูรณ์แบบ ผมมีด้านดีด้านมืดเหมือนมนุษย์ทั่วไป”
จบคำก็โน้มตัวจูบเธอแผ่วเบา เขมิกาถึงกับเคลิ้มก่อนจะสะดุ้งเมื่อเขาผละตัวออก สั่งเสียงเข้ม
“นอนตรงนี้ ห้ามขยับไปไหนอีก ผมไม่รับรองว่าผมจะหยุดได้อีก!”
ทัศนะต้องข่มใจมากนอนหันหลังให้เธอ เขมิกาได้แต่มองตามงงๆ ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อคิดว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษแค่ไหนที่ไม่ฉวยโอกาสกับเธอ...คืนนี้หัวใจสองดวงจึงได้เข้าใกล้กันอีกนิด...
ขณะที่ญาดากับเขมิกามีค่ำคืนดีๆ ไตรทศน้องชายคนสุดท้องต้องช้ำใจแทบกระอักเมื่อพบว่าธุรกิจของพ่ออาจเป็นธุรกิจผิดกฎหมาย เขาพยายามทักท้วงแต่ดิลกไม่ฟัง แถมสั่งสอนลูกชายเสียงเข้ม
“แกมันเถรตรง ซื่อจนเซ่ออย่างนี้ ฉันถึงไม่อยากให้แกมายุ่งไง ธุรกิจมันต้องใช้สมองและเทคนิค”
“เทคนิคหรือเล่ห์เหลี่ยมกันแน่”
ดิลกโกรธที่ถูกย้อน แต่ไตรทศไม่สนใจ ตอกหน้าพ่ออย่างเหลืออด
“เงินมาก่อนทุกอย่างใช่ไหมครับ”
“เออสิวะ...ที่แกขี่มอเตอร์ไซค์ราคาเป็นล้านได้ไม่ใช่เพราะเงินฉันเหรอ แกไม่ต้องยุ่ง ถ้าว่างมากก็ไปเรียนต่อ”
“ผมไม่ไปไหน...ผมจะไม่ยอมให้คุณพ่อทำเรื่องผิดๆอีก”
ไตรทศยืนกรานจะไม่ไปไหนจนกว่าจะรู้ความจริงเรื่องธุรกิจใหม่ เลยถูกดิลกตบสั่งสอน กมลพรรณกับปาริฉัตรที่แอบสังเกตท่าทีของดิลกจากอีกมุม ได้แต่มองหน้ากันอึ้งๆ ก่อนจะหัวเราะเยาะที่สองพ่อลูกต้องแตกคอ
ความผิดหวังเรื่องพ่อทำให้ไตรทศย้อนไปบ้านทัศนะอีกครั้ง ชญานีถึงกับพูดไม่ออก แต่เมื่อเห็นท่าทางเศร้าๆก็อดสงสารไม่ได้ ยอมให้เขาค้างเป็นเพื่อนเพ็ญขวัญด้วย
ชญานีทั้งปลอบทั้งขู่ให้พัก แต่ไตรทศดื้อจนเธอต้องแกล้งเอาผ้าห่มมาพันตัว ไตรทศเริ่มผ่อนคลายเล่นไปด้วย แต่กระนั้นก็น้อยใจที่เธอทำเหมือนไม่ไว้ใจให้เขานอนด้วย
“พี่คริตบอกว่าเป็นผู้หญิง...ห้ามวางใจผู้ชาย...ไม่ว่าหน้าไหนก็ตาม”
“คุณยังให้ผมนอนค้างด้วยตั้งหลายครั้ง”
“นั่นมันเหตุสุดวิสัย...และอีกอย่าง...ฉันกลัวใจอ่อน”
คำสารภาพเร็วๆของเธอทำให้ไตรทศอึ้งไปอึดใจ ก่อนจะยิ้มกว้างและแอบหอมหน้าผากเธอเบาๆ ชญานีไม่ว่าอะไร นอนหลับตาและเอาหลังพิงเขาไว้เหมือนเป็นกำลังใจให้กันและกัน...
ooooooo
ญาดาไม่ละความพยายามจะขอให้สามีหยุดธุรกิจมืดของพ่อบุญธรรม ชาคริตโยกโย้ไม่รับปากจนเธออ่อนใจ
“คุณนี่สุดยอดของการเฉไฉเปลี่ยนเรื่องเลย”
“คุณเป็นห่วงผม ผมขอเวลาปลื้มใจสักชั่วโมงนึง”
“ฉันถามว่าคุณอยากหยุดไหม”
“ผมก็หยุดอยู่ที่คุณแล้ว ผมไม่มีวันไปมองผู้หญิงอื่นแน่”
“ฉันพยายามช่วยคุณอยู่นะ แต่คุณต้องเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะวางมือจากวงการเมื่อไหร่”
ชาคริตตอบเลี่ยงๆว่าคงมีสักวัน แต่ญาดาไม่ยอมคาดคั้นให้เขาบอกวันที่แน่นอน
“ก็เมื่อผมเสร็จภารกิจที่นี่...แต่คุณจะต้องอยู่กับผมในวันนั้นด้วย”
“ฉันจะอยู่กับคุณ...ไม่ทิ้งคุณไปไหนแน่ ถ้าคุณสัญญาจะเลิกทำธุรกิจผิดกฎหมายทั้งหมด แต่เดี๋ยวนะ...คุณมีภารกิจอะไร คุณป๋าคุณต้องการอะไรอีก...ยังไม่เลิกคิดล้มบริษัทคุณอีกเหรอ”
“เรื่องบีสตาร์จบแล้ว...ไม่ต้องห่วง”
ชาคริตไม่บอกความจริงทั้งหมดว่ายังมีเรื่องดิลกต้องชำระแค้นและสะสาง เฉไฉเปลี่ยนเรื่องให้เธอเล่าเรื่องตัวเองที่สวิตฯ ญาดาได้แต่ลอบถอนใจ ก่อนจะพูดถึงวันเวลาเหงาๆที่ซูริกว่าเต็มไปด้วยตารางงานซ้ำซาก
อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 9 วันที่ 20 ธ.ค.60
ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทประพันธ์โดย โสภี พรรณรายละครเรื่อง ระเริงไฟ บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา
ละครเรื่อง ระเริงไฟ กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ชิติเช่น เคน จำกัด
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ