อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 8 วันที่ 19 ธ.ค.60

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 8 วันที่ 19 ธ.ค.60

จิตจีรังโดนถ่ายซ่อม เพื่อนขอบคุณวรัชช์ที่ช่วย เขาจึงถามมีอะไรอยากถามให้ถามตรงๆได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ จิตจีรังเดินมาสมทบ บ่นว่าเพื่อนยกใหญ่แล้วพูดคำว่าหยำเปจนเพื่อนพูดตามได้ เพื่อนดีใจจะชมว่าเธอใจดี ซึ่งภาษาอังกฤษคือ You’re sweet และเมื่อวานได้ยินแม่พูดว่าหง่อม...คิดว่าแปลว่าหวาน จึงชมจิตจีรังออกไปว่าเธอหง่อม หญิงสาวร้องกรี๊ดลั่นที่หาว่าเธอแก่

กันลองนั่งเครียดมองคอนเซปต์ที่เอเจนซีของแม่นำเสนอมาอย่างเซ็งๆ โรยบุญหอบลังของเล่นเก่าๆของกันลองจะเอาไปรวมบริจาค กันลองเห็นเครื่องบินเล็กของตนก็หยิบมาดู ถอนใจที่ไม่อาจทำตามความฝันของตัวเองได้ โรยบุญฟังเพี้ยนตอบว่า



“แล้วเครื่องบินกับไก่ฟ้ามันต่างกันตรงไหนล่ะเจ้าคะ เครื่องบินก็มีปีก ไก่ฟ้ามันก็มีปีก”

กันลองฉุกคิดได้ว่า เขาสามารถเอาความฝันมารวมกันได้ รีบขอบคุณโรยบุญแล้วถือเครื่องบินเล็กติดมือออกไป...กันลองมารับแพงที่กองถ่าย ทวิตตี้ยิ้มกรุ้มกริ่มไม่ขัดข้องใดๆ

กันลองพาแพงมาทุ่งกว้างที่เห็นเครื่องบินขึ้นบินจากสนามบินได้ เขาถามแพงว่าจำเครื่องบินนี้ได้ไหม เพื่อนนิ่งเพราะไม่รู้อะไรเลย

“การเป็นนักออกแบบเครื่องบิน คือความใฝ่ฝันของพะลองมาตั้งแต่เด็กๆ ได้แต่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่แม่จะอนุญาตให้ได้ทำตามความฝันซะที จนลืมไปว่าจริงๆแล้ว พี่สามารถเอาฝันของแม่กับฝันของพี่มารวมเข้าด้วยกันได้” กันลองชูเครื่องบินร่อน “นี่คือเครื่องบินเจ็ต คุณสมบัติคือความปราดเปรียว สำหรับพี่แล้ว เจ็ตเป็นเครื่องบินที่เซ็กซี่ที่สุด...ผู้หญิงยุคใหม่เป็นผู้หญิงที่กระฉับกระเฉง ปราดเปรียวเหมือนเครื่องบินเจ็ต และที่สำคัญใส่ใจสุขภาพจนหุ่นเพรียวลม”

กันลองเปิดมือถือให้เพื่อนดูภาพสเกตช์ขวดยาที่ดูเพรียว ใช้ชื่อว่า Jet Chick บอกส่วนผสมที่เพิ่มเข้าไปให้ผิวพรรณผู้หญิงผ่องใสมีสุขภาพดี ลดความหวานและมึนเมาลง เพื่อนฟังอย่างสนใจและทึ่งในความครีเอตของเขา

ด้านชลลดาเห็นว่าใกล้ถึงเวลาที่กำหนด ประกาศในที่ประชุมว่า กันลองไม่สามารถทำงานได้ทันเวลา ตนจะเลือกพรีเซ็นเตอร์ใหม่เอง ทันใดกันลองเดินเข้ามาพร้อมเพื่อน ประกาศว่าแพงอาภรณ์คือพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของไก่ฟ้าสูตรใหม่ แล้วโชว์แพ็กเกจที่เขาออกแบบ

ooooooo

ตกค่ำ เพื่อนตัดสินใจโทร.หาทวิตตี้ซึ่งกำลังนั่งดื่มอยู่ในบาร์ด้วยกลัดกลุ้มที่แพงถอนตัวจากงานหลายชิ้น พอได้ยินเสียงแพงโทร.มาบอกว่าให้ช่วยหาคอร์สเรียนการแสดงให้ แล้วบอกอีกว่าตนตกลงเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ไก่ฟ้า และจะกลับไปทำรายการอาหารของมิ้งค์ด้วย ทวิตตี้ดีใจหายเมาเป็นปลิดทิ้ง

จากนั้นเพื่อนก็อยากจะบอกความจริงทั้งหมดกับรื่นจิต แต่ไม่มีความกล้าพอ ได้แต่สไกป์หาซาร่า แล้วพูดเหมือนสารภาพทุกอย่างกับรื่นจิต ซาร่างงว่าพี่สาวเป็นอะไร เพื่อนอ้างว่าเป็นบทบาทที่นักเรียนไทยที่นี่ต้องทำ ซาร่าขอไปเรียนฝรั่งเศสด้วยคน เพื่อนรีบปัดว่าขี้เกียจเป็นล่าม ให้ไปเรียนภาษาฝรั่งเศสให้ได้เสียก่อน

รุ่งเช้า เพื่อนมาเรียนการแสดง ครูอิ๋วผู้สอนถึงกับออกปากว่า แม้แพงจะแสดงอารมณ์ผ่านสายตาไม่ดีเท่าเดิม แต่ดูเหมือนจะปลดล็อกตัวเองได้เยอะ ไม่นานจะเก่งกว่าเดิม ทวิตตี้ดีใจจะได้รับเล่นบทแรงๆบ้าง...เพื่อนเดินแยกไปเข้าห้องน้ำ พลันต้องตกตะลึงเมื่อเจอเฟยหลันยืนดักรออยู่

เพื่อนไม่กล้าที่จะสบตาเฟยหลัน ได้แต่นั่งกระอัก กระอ่วน จนเฟยหลันโพล่งขึ้นว่า

“ฉันขอโทษที่ทำให้คุณแพงต้องเสียเวลา คุณได้เจอโฮป แฟนคลับคุณที่เป็นเพื่อนฉันอีกบ้างไหมคะ ฉันติดต่อเขาไม่ได้เลย หลายวันก่อนโฮปโทร.มาแต่ไม่พูดอะไร แถมตัดสายฉันทิ้งอีก ฉันเป็นห่วงโฮปค่ะ เลยมาหาคุณเพราะคิดว่าโฮปน่าจะมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆคุณ...คุณก็รู้ใช่ไหมคะเรื่องที่โฮปสงสัยว่าคุณกับเขาเป็นแฝดกัน”

เพื่อนคลายความกังวลลงที่เฟยหลันจำตนไม่ได้ คิดหาทางออกด้วยการบอกไปว่า วันนั้นตนเป็นคนใช้มือถือโฮปโทร.หาเธอ เฟยหลันทำหน้างง...เพื่อนพาเฟยหลันมาพบแพง ให้เข้าใจว่าโฮปได้รับอุบัติเหตุ ตนถึงพยายามติดต่อญาติโฮป เฟยหลันโผกอดร่างแพงร่ำไห้สงสารเพื่อน

เมื่อกันลองเสนอแบบสตอรี่บอร์ดในที่ประชุมเรียบร้อย ก็พยายามติดต่อแพง แต่เธอไม่รับสาย จึงโทร.หาทวิตตี้จนรู้ว่ามีงานอีเวนต์ที่ห้างและอาสาไปรับแทน

ด้านเพื่อนเห็นเฟยหลันร้องไห้หนักก็ส่งทิชชูให้ เฟยหลันจะบอกมัมของโฮป เพื่อนห้ามเสียงหลง อ้างว่ากลัวจะช็อก ขอให้ช่วยปิดไว้ก่อนจนกว่าโฮปจะอาการดีขึ้น เฟยหลันเห็นด้วย...หลังจากนั้นเพื่อนนั่งแท็กซี่มาส่งเฟยหลันที่โรงแรมของวรัชช์ เฟยหลันขอคุยด้วยสักครู่ เพื่อนระแวงกลัววรัชช์เห็นและกลัวเฟยหลันจะจับได้ว่าตนคือโฮป แต่จำต้องยอม

เฟยหลันถามถึงเรื่องตรวจดีเอ็นเอ เพื่อนอ้างว่าไม่ทันได้ตรวจเกิดอุบัติเหตุขึ้นก่อน

“แล้วคุณไม่อยากรู้ความจริงเหรอคะ” เฟยหลันข้องใจ

“ตอนแรกแพงก็อยากรู้นะ แต่หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกับโฮป ถึงรู้ว่าผลดีเอ็นเอมันไม่ได้สำคัญเลยสักนิด เราผูกพันกันมากกว่านั้น และถึงเราจะไม่ใช่แฝดกันแพงก็จะดูแลโฮปอยู่ดี”

“คุณใจดีจริงๆ แบบนี้ค่อยสมกับวรัชช์ของฉันหน่อย”

เพื่อนหลุดถลึงตาใส่ วรัชช์เข้ามาพอดี เพื่อนรีบหันหลังให้ เฟยหลันออกอาการตื่นเต้น วรัชช์ทักทายยิ่งทำให้เธอดีใจที่เขาจำได้ พระเอกหนุ่มถามถึงโฮปทันทีบอกเธอทิ้งกระเป๋าไว้และยังไม่ได้เช็กเอาต์ เพื่อนหน้าเสียกลัวความแตกรีบไล่ให้เฟยหลันขึ้นห้องไปล้างหน้าล้างตาจะได้สะสวย เฟยหลันขอให้วรัชช์รอตนด้วย ตนมีรูปมาให้เขาเซ็นเพิ่ม

พอเฟยหลันไปแล้ว เพื่อนบอกวรัชช์ว่าอย่าพูดถึงโฮปกับเฟยหลันอีก เพราะทั้งสองทะเลาะกันจนเฟยหลันหนีมาเมืองไทย ถ้าพูดถึงจะทำให้เธอร้องไห้อีก วรัชช์งงเรื่องแค่นั้นถึงกับหนีข้ามประเทศ หรือทั้งสองมีอะไรมากกว่าเพื่อนกัน เพื่อนหน่ายใจที่เขาคิดเองเออเอง

วรัชช์เย้าแล้วตนจะได้อะไรตอบแทน เพื่อนสวนว่าหัวใจของงานโรงแรมคือการบริการลูกค้าไม่ใช่หรือ พระเอกหนุ่มชอบใจ ชวนเธอมาเป็นเลขาส่วนตัว เพื่อนตัดบทเดินหนี วรัชช์จะตามแต่เฟยหลันกลับมาเสียก่อน ส่งรูปให้เขาช่วยเซ็น

เพื่อนยืนรอแท็กซี่หน้าโรงแรม หยิบมือถือมากดดู เห็นมิสคอลจากกันลองหลายครั้งก็ตกใจรีบโทร.กลับไปหา กันลองกำลังมองหาแพงที่งานอีเวนต์ในห้าง พอเพื่อนโทร.มาบอกว่าตนมีงานอีเวนต์ที่ร้านข้างโรงแรมวรัชช์ กันลองไม่ค่อยพอใจแต่บอกให้เธอรอจะไปรับเดี๋ยวนี้... วรัชช์ปลีกตัวจากเฟยหลันมาได้รีบตามเพื่อนออกมา เห็นกันลองขับรถมารับเธอก็หัวเสีย

ระหว่างนั่งมาในรถ กันลองแย็บถามทำไมมาอยู่หน้าโรงแรมนั้น เพื่อนแก้ตัวว่าง่วงเลยแวะทานกาแฟ ที่นี่เขาชงอร่อย แล้วถามเขาโกรธหรือที่ตนไม่ได้รับโทรศัพท์ ชายหนุ่มบอกเป็นห่วงกลัวจะเกิดอุบัติเหตุอะไรอีก แล้วย้ำว่าคราวหลังอย่าเงียบหายไป เพื่อนใจอ่อนยวบ

คืนนั้น เพื่อนเซลฟี่ตัวเองกับไอแพดและบ่นว่า วันนี้เกือบเคลิ้มไปกับกันลอง น่าอิจฉาแพงที่มีคนเป็นห่วงขนาดนั้น ไม่เหมือนตน ทันใดเฟยหลันส่งข้อความเข้ามาขอบคุณ และเน้นว่าแพงเหมาะสมกับวรัชช์มาก... เพื่อนยิ่งเศร้าหนักพึมพำขอโทษที่ต้องโกหก แต่มันจำเป็นจริงๆ

วรัชช์ลากกระเป๋าโฮปมาให้เฟยหลันที่ห้องพัก เธอหลงดีใจคิดว่าเขามาหา พอเห็นกระเป๋าเพื่อนก็สะเทือนใจโผกอดเขาร้องไห้ วรัชช์นึกได้ว่าแพงไม่ให้พูดถึงโฮป จึงเลี่ยงกลับไป

ooooooo

วันต่อมา เพื่อนมาเรียนการแสดงกับครูอิ๋ว

ทวิตตี้เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นก็รีบโทร.รายงานราณีกับญาณี ว่าแพงกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว และดูท่าจะเก่งขึ้นกว่าเดิม ทางผู้ใหญ่จึงมอบบทนำในละครฟอร์มยักษ์ให้ ทวิตตี้ดีใจมาก

พอแพงเรียนเสร็จ ทวิตตี้ก็รีบบอกข่าวดีกับแพงว่า เธอจะได้เล่นเป็นนางเอกเรื่องเดือนประดับดาว เพื่อนรับคำนิ่งๆ ทวิตตี้แปลกใจรวบไหล่เพื่อนให้หันมา

“นี่อุบัติเหตุมันรุนแรงจนถึงขั้นทำให้จำนิยายพ่อตัวเองเรื่องที่อยากเล่นที่สุดไม่ได้เหรอ”

เพื่อนรีบกลบเกลื่อน “จำได้สิคะ แพงแค่ดีใจจนเบลอๆน่ะค่ะ เจ๊ต้องช่วยดันแพงอีกนะ”

“ดันอยู่แล้ว ขอแค่ลูกสาวตั้งใจเล่นรักนี้มีตบให้เลิศแล้วกัน อย่าหลุดระนาวเหมือนเมื่ออาทิตย์ก่อนก็พอ”

เพื่อนเดินออกมากับทวิตตี้ วรัชช์กำลังให้สัมภาษณ์นักข่าวถึงกระแสคู่จิ้นที่จะได้เล่นเรื่องเดือนประดับดาวคู่กันอีก พอเห็นแพงก็ดึงเธอมาร่วมสัมภาษณ์ เขาฉวยโอกาสโอบเอวเธอให้นักข่าวถ่ายรูป แฟนคลับส่งเสียงชื่นชม เพื่อนมองไปเห็นกันลองยืนมองอยู่มุมหนึ่ง แต่เขาพยักหน้าให้เธอทำงานต่อไป เพื่อนจึงส่งยิ้มให้ วรัชช์เห็นไม่สบอารมณ์แกล้งโอบเธอแน่นขึ้น

เพื่อนนั่งรถกลับกับกันลอง เขาถามเธอว่ายังหาแหวนไม่เจอหรือ เพื่อนบอกว่าเจอแล้วแต่แหวนบิ่น ตั้งใจจะเอาไปให้ร้านซ่อม กันลองจึงบอกให้เก็บไว้เฉยๆ มันบิ่นไปแล้วก็เป็นลางไม่ดี แล้วถามวันนี้เธออยากทานอะไร เพื่อนขอกินชาบูแบบบุฟเฟ่ต์เพราะหิวมาก ชายหนุ่มแปลกใจ แต่ไหนแต่ไรมาแพงจะกลัวอ้วน พยายามออกกำลังลดความอ้วน มีอะไรที่กินแล้วอ้วนก็จะโบ้ยให้เขากินแทน... กันลองคิดเพลินจนลืมออกรถ เพื่อนเตือนว่าไฟเขียวแล้ว คิดอะไรอยู่

“นึกอะไรเพลินๆหน่อยน่ะ พะแพง เราเปลี่ยนไปกินพิซซ่าแทนได้ไหมคะ”

เพื่อนรับคำทันทีแถมบอกว่าขอสองถาด กันลองยิ่งคลางแคลงใจจนพูดไม่ออก...

ด้านวรัชช์เชิญเฟยหลันมาทานอาหารร่วมกับจิตจีรังและนนท์ จิตจีรังไม่พอใจว่าเป็นใครมาจากไหน วรัชช์บอกเป็นแขกวีไอพีที่มาพักโรงแรม เฟยหลันยิ้มกวนๆ บอกตนดูละครเธอทุกเรื่อง จิตจีรังยิ้มยืดทำนองที่แท้ก็แฟนคลับ

“คุณจีแสดงได้ดีมากเลยนะคะ ดีจนน่าตบเลยค่ะ...รู้ไหมว่าติ่งทีป๊อปที่ออส ส่วนใหญ่นะประกาศเลยว่า ถ้าคุณจีไปเหยียบแผ่นดินออสเมื่อไหร่ จะโยนให้จิงโจ้เหยียบจมดินเลย คุณจีดังระเบิดเลยนะคะ”

จิตจีรังหุบยิ้มโกรธปากสั่น วรัชช์หัวเราะเย้าว่า เธอโกอินเตอร์ไม่ได้เสียแล้ว...ในขณะที่เพื่อนกลับถึงบ้าน อ่านไดอารี่ของแพง ช่วงที่แพงเขียนถึงพ่อ ว่าพ่อเคยบอกว่าพ่อเขียนเรื่องเดือนประดับดาว โดยกลั่นจากความรู้สึกในใจ แพงอยากเล่นเรื่องของพ่อ ขอให้พ่อเอาใจช่วยให้แพงได้แสดงเป็นเดือนละไมและดาวละออ...เพื่อนหน้าเศร้าลงพึมพำว่า

“สำหรับพ่อแล้ว หนูคงมีชีวิตอยู่แค่ในนิยายเท่านั้นสินะ...แพง แพงต้องฟื้นขึ้นมาเล่นบทนางเอกเรื่องนี้ให้ได้นะ ระหว่างนี้ไอจะทำทุกทางไม่ให้ใครมาแย่งบทของแพงไป ไอเองก็ขอสัญญาเหมือนกันว่าแพงจะต้องได้เป็นทั้งดาวละไมและเดือนละออ”

เพื่อนนอนไม่หลับลุกขึ้นซ้อมท่าตบลูกบอลและออกเสียงย้ากๆ รื่นจิตโผล่มาดูคิดว่าแพงเป็นอะไร เพื่อนจึงบอกเรื่องนิยายของพ่อได้ทำเป็นละคร รื่นจิตพยักหน้าเศร้าๆ เพื่อนถามไม่ดีใจหรือ เธอยิ้มนิดๆบอกว่าดีใจเพราะนิยายเรื่องนี้แก้วขวัญรักมากที่สุด เพื่อนดึงแม่ให้นั่งคุย

“ดีใจแล้วทำไมทำหน้าอย่างนี้ล่ะคะ หรือว่าพ่อเขาชอบสาวหน้าบึ้ง” รื่นจิตค้อนขวับ เพื่อนไหลตัวลงนอนหนุนตักอ้อน “แม่คะ เล่าให้ฟังบ้างสิว่าสมัยหนุ่มๆ พ่อเป็นยังไงบ้าง”

“พ่อเขาก็เป็นคนเซ่อซ่า แต่ก็หัวแข็งน่าดู ดื้อเงียบ ตาคนนี้นะถ้าจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ ไม่สนใคร แต่ถึงแบบนั้นก็เป็นคนอ่อนโยน ใจดี ชอบมีอะไรให้เซอร์ไพรส์อยู่เรื่อย”

“โรแมนติกจัง แม่นี่โชคดีจังนะคะ”

รื่นจิตบอกตนโชคดีแต่พ่อคงไม่โชคดี เพราะตนไม่ใช่คนอ่อนโยนและใจดีอย่างพ่อ แล้วพูดทำนองน้อยใจว่าพ่อดูแลแพงมากกว่าตน เพื่อนแทรกพูดเอาใจว่าแม่ก็ใจดีแค่ไม่ค่อยพูด ตนรู้ดีแล้วแย็บถามทำไมแม่ถึงมีลูกคนเดียว รื่นจิตอึกอักๆบอกพ่อกับแม่จะได้รักและทุ่มเทให้แพงคนเดียว ไม่ดีหรือ เพื่อนหน้าเศร้ารู้สึกว่าแม่มีอะไรปิดบัง

ooooooo

เช้าวันใหม่ เฟยหลันหอบของชอบของโฮปพวกตุ๊กตาวูดูตัวโปรด ชุดเก่งและของกินที่ชอบมาวางข้างเตียงคนไข้ พอดีพยาบาลเข้ามาจะเช็ดตัวคนไข้ เฟยหลันจึงนั่งรอที่โซฟา พยาบาลปิดม่าน สักพักมีเสียงร้องด้วยความตกใจ เฟยหลันรีบชะโงกหน้าไปดู พยาบาลชี้ที่ตุ๊กตา

“อ๋อ ของรักของหวงคนไข้ เอาไว้ใกล้ๆเผื่อจะรู้สึกตัวเร็วขึ้น” เฟยหลันอึ้งกับบางอย่าง

เวลาผ่านไป เพื่อนมาเยี่ยมแพงหลังเลิกงาน เห็นของที่เฟยหลันเอามาวางและมีการ์ดเขียนว่า...ฉันจะไม่แต่งงานจนกว่าแกจะฟื้นขึ้นมาเป็นเพื่อนเจ้าสาว...เพื่อนยิ่งรู้สึกผิดที่ปิดบัง ส่งข้อความนัดเฟยหลันคุย มีสัญลักษณ์ว่าอ่านขึ้นมา แต่ไม่มีคำตอบก็แปลกใจ

วันต่อมา เพื่อนนั่งในรถตู้ของกองรายการ...ฉันไปแคมปิ้งกับซุปตาร์...เพื่อนมองมือถือรอคำตอบจากเฟยหลัน เสียงทีมงานเรียกแพงให้ลงไปต้อนรับแฟนคลับที่ได้ไปร่วมแคมป์ เพื่อนเงยหน้ามาต้องตกใจที่เป็นโรงแรมของวรัชช์...วรัชช์เข้ามาดึงแขนเพื่อนยิ้มให้กล้อง

“เดี๋ยวเราจะไปรับแฟนคลับคู่จิ้นวัชราภรณ์คนพิเศษนะครับ ได้ข่าวว่าเป็นสาวอินเตอร์”

เพื่อนชักหวั่นใจ และแล้วแฟนคลับที่ร่วมรายการก็เป็นเฟยหลันจริงๆ แต่เธอปั้นปึ่งไม่พูดคุยกับแพงเหมือนเคย...รถตู้พาทุกคนขึ้นเขาใหญ่ ทีมงานอธิบายรายละเอียด

“น้องๆพร้อมนะคะ เดี๋ยวเราจะเริ่มเล่นไบค์แรลลี่ พี่จะให้ปั่นจักรยานไปตามฐานแล้วทำกิจกรรมด้วยกัน ถ้าทำสำเร็จน้องเฟยหลันก็จะได้รางวัลเป็นของเด็ดๆของแพงกับวรัชช์...”

เฟยหลันได้จักรยานคันสูง เพื่อนมาขอแลกกลัวจะขี่ไม่ถนัดเพราะเธอตัวเตี้ย เฟยหลันเหน็บว่าช่างมีความรู้เรื่องจักรยานดีเหมือนโฮปเพื่อนตน เพื่อนอ้างว่ารู้จากละครเรื่องหนึ่ง วรัชช์มาเปลี่ยนจักรยานกับเฟยหลันแทน เธอพูดคุยเสียงหวานกับเขา แต่เวลาพูดกับแพงจะเสียงขุ่น

เผอิญรื่นจิตเห็นแพงลืมกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ก็ยืนชะเง้อหน้าบ้าน มือก็โทร.หาทวิตตี้ กันลองออกมาเห็นจึงอาสาเอาไปให้แพงที่เขาใหญ่เอง รื่นจิตกลัวแพงไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนจึงยอม

ระหว่างพักถ่ายรายการ วรัชช์เอาน้ำแดงมาให้ เพื่อนนิ่งไม่รับ เฟยหลันส่งน้ำเขียวให้ เพื่อนรับมาดูด เฟยหลันพูดขึ้นลอยๆว่าโฮปชอบกินน้ำเขียว เพื่อนแทบสำลัก วรัชช์บ่นคิดถึงโฮป แล้วนึกได้รีบขอโทษที่พูดถึงให้เฟยหลันเสียใจ เฟยหลันเหลือบมองเพื่อนแล้วบอกว่า

“น้องเฟยก็ไม่อยากงอนเขาหรอกค่ะ แต่ยัยจิงโจ้น่ะขี้โกหก น้องเฟยคิดว่าคนแบบนี้ใช้ไม่ได้เลยค่ะ พี่วรัชช์รู้ไหมคะ คนจีนโบราณเขาว่า โกหกเพียงครั้งเดียวถูกสงสัยตลอดกาล”

เพื่อนหน้าเสีย ทีมงานเอากุญแจห้องพักมาให้และบอกว่าแพงนอนกับเฟยหลัน เพื่อนขอนอนคนเดียวแต่ทีมงานบอกว่าห้องเต็มหมด เฟยหลันชักสีหน้าใส่ วรัชช์เห็นหน้าแพงซีดถือวิสาสะเอามืออังหน้าผากแล้วต้องสะดุ้งที่เธอมีไข้ จึงให้เธอไปพัก ไม่ทันเดินไปถึงเพื่อนก็เซ วรัชช์จะเข้าประคองแต่กันลองพุ่งมาอุ้มเพื่อนไว้ก่อน เฟยหลันเป็นห่วงเพื่อน วรัชช์ไม่พอใจบอกให้กันลองถือกระเป๋าแพง ตนจะอุ้มเธอเอง กันลองไม่สนใจอุ้มแพงเดินตามเฟยหลันไป

เฟยหลันดูแลเช็ดตัวให้เพื่อน กันลองกับวรัชช์เดินกระวนกระวายอยู่หน้าห้อง วรัชช์บอกให้กันลองกลับไปได้ แต่เขากลับบอกในสิ่งที่ทำให้วรัชช์เงิบ เพราะไม่รู้เรื่องแพงอย่างเขาเลย

“ผมว่าจะค้างที่นี่ ถ้าแพงตื่นผมจะพาแพงไปหาที่พักใกล้ๆ แล้วตอนเช้าค่อยกลับเข้ามาส่ง กลางวันแพงเขาแพ้แดด ตอนกลางคืนก็แพ้ยุง เดี๋ยวจะป่วยหนักกว่านี้”

เพื่อนได้สติลืมตัวถามเฟยหลันว่า...ไอเป็นอะไร เธอตอบว่าเป็นลมแล้วยื่นน้ำให้ดื่ม

“ไอ...เอ่อ ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ คุณไปพักเถอะ”

เฟยหลันน้ำตาปริ่ม กระชากเสื้อเพื่อนขึ้นเหนือเอวให้เห็นรอยสัก “แกตั้งใจจะปิดฉันไปถึงเมื่อไหร่กัน ในสายตาแกฉันเป็นแค่นังหมวยหน้าโง่ แบบที่แกชอบล้อฉันมาตลอดใช่ไหม จำไว้นะ ถึงฉันจะโง่เง่าขี้โวยวาย ทำอะไรสู้แกไม่ได้ แต่เรื่องที่ฉันไม่มีวันทำ คือโกหกแก!”

เพื่อนหน้าเสียลุกขึ้นจับมือเฟยหลันขอโทษ สารภาพว่ากลัวเธอชวนให้กลับออสเตรเลีย

ooooooo

เพื่อนอธิบายกับเฟยหลันว่า ไม่อยากให้ทุกอย่างที่แพงสร้างมาต้องพังลง เฟยหลันย้อนถามไม่เป็นห่วงครอบครัวตัวเองบ้างหรือ แม้แต่ตนพอรู้ว่าเพื่อนนอนป่วยแบบนั้นยังแทบแย่ เพื่อนขอโทษแต่เพราะแพงเป็นสายเลือดเดียวบนโลกที่ตนมี เฟยหลันหน่ายใจ

“แกนี่มันดื้อจริงๆ เอาเหอะ เลือกมาทางนี้แล้วก็เตรียมรับผลด้วยแล้วกัน โน่น สองหนุ่มนั่นด้วย ทั้งพี่วรัชช์ พี่กันลอง...ข้างนอกอย่างกับศึกชิงนาง”

เพื่อนตกใจที่กันลองมา เฟยหลันบอกเขาเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาให้แล้วตำหนิว่าขี้ลืมไม่หาย เพื่อนรีบออกมาหากันลอง วรัชช์ถามอย่างห่วงใยว่าดีขึ้นแล้วหรือ เธอพยักหน้ารับ กันลองจูงมือเพื่อนเดินไป วรัชช์มองอย่างขุ่นเคือง เฟยหลันมาสะกิดชวนไปกินข้าว

กันลองถามแพงว่าจะให้ตนค้างเป็นเพื่อนไหม เพื่อนบอกไม่เป็นไร ไม่อยากทำตัวแปลกแยกกับคนอื่น เขาเข้าใจจึงย้ำเตือนว่า ก่อนนอนให้ทานยาแก้ไข้ และทายากันยุงด้วย เพื่อนซึ้งใจ

“ขอบคุณนะคะที่คอยดูแลแพงตลอดเลย”

“พะแพงของพะลองมีคนเดียวในโลกนี่คะ จะไม่ให้ห่วงได้ไง ว่าแต่พี่ขับรถมาตั้งไกล บอกว่าคิดถึงกันบ้างก็ไม่มีนะคนเรา”

เพื่อนกอดแขนเขาเอาใจบอกว่าคิดถึง วรัชช์ชะเง้อมองไม่สบอารมณ์ แกล้งร้องบอกได้เวลาถ่ายต่อ ทั้งกองรออยู่ เพื่อนหันมาค้อนขวับ กันลองลากลับและย้ำว่าถ้าป่วยให้รีบโทร.บอก เพื่อนเย้า...ค่ะ คุณพ่อ...

กันลองหยิกแก้มเธออย่างเอ็นดู วรัชช์ยิ่งหงุดหงิดใจ

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 8 วันที่ 19 ธ.ค.60

ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทประพันธ์โดย จันทร์ รีจรูญ แอนเดอร์สัน
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทโทรทัศน์โดย ระกาช่อนรูป
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว กำกับการแสดงโดย มนัสนันท์ เลิศวงศ์สกุล
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ผลิตโดย บริษัท ดอร์เธอร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ