อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 6 วันที่ 16 ธ.ค.60

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 6 วันที่ 16 ธ.ค.60

แพงตกตะลึง หันมองหน้าเพื่อนถามว่าพูดอะไร เพื่อนโวยที่แพงโกหกเรื่องเราไม่ใช่ฝาแฝด สะอื้นต่อว่าว่าไม่ต้องการตนขนาดนี้เลยหรือ ที่โกหกเพราะกลัวว่าตนทำทุกอย่างได้ไม่แพ้แพง แถมยังเข้ากับแม่ได้ดีกว่า...แพงจะแก้ตัว แต่เพื่อนไม่เปิดโอกาสยังระเบิดความอัดอั้น

“แม่รักไอมากกว่าแพง แพงเลยอิจฉาไอใช่ไหม”

แพงโกรธตวาดกลับ “ทำไมฉันต้องอิจฉาเธอ ในเมื่อตั้งแต่เกิดมา ฉันคือคนที่ถูกเลือก เธอคือคนที่ถูกทิ้ง...จะบอกอะไรให้นะ แม่รื่นจิตกับพ่อแก้วขวัญเป็นพ่อแม่แท้ๆของเรา วันเกิด ใบเกิดทุกอย่าง คือสิ่งที่เรามีอยู่จริง แต่เธอไม่มี!”



“ไอไม่เชื่อ แพงโกหกไอ! แพงต้องเป็นลูกเลี้ยงเหมือนไอสิ ไอจะโทร.หาแม่แพง ให้รู้กันไปเลยว่าใครโกหกใครกันแน่” เพื่อนละมือจากพวงมาลัยคว้ามือถือมากด

แพงไม่ยอมยื้อไว้ ทั้งสองยื้อแย่งกัน เสียงแตรรถที่สวนมาดังลั่นพร้อมไฟส่องหน้า เพื่อนตกใจหักหลบ ได้อย่างหวุดหวิด แต่แล้วต้องอ้าปากค้าง เมื่อเห็นตอม่อขนาดใหญ่ตรงหน้า เสียงชนโครมดังสนั่นหวั่นไหว ทั้งเพื่อนและแพงกระแทกคอนโซลรถอย่างแรง ท่ามกลางควันโขมง

ooooooo

เพื่อนและแพงมีเลือดท่วมตัว นอนบนเตียงที่ถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน เสียงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลช่วยกันติดต่อญาติของแพงอาภรณ์ หมอและพยาบาลพูดกันว่า ความดันเลือดทั้งสองตกลงมาก ศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรง ช่วยกันยื้อชีวิตทั้งคู่ไว้

รื่นจิตหน้าตาตื่นมาโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่แจ้งว่าคนไข้ทั้งสองอาการยังน่าห่วง คนหนึ่งเข้าห้องผ่าตัด อีกคนยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน รื่นจิตรีบไปรอที่หน้าห้องผ่าตัด กันลองมาถึงพอดีสีหน้าร้อนใจไม่แพ้กัน เขาพยายามตั้งสติปลอบใจรื่นจิต

พยาบาลเข้ามาให้รื่นจิตกรอกประวัติแพงและบอกว่าของมีค่าของคนไข้อยู่กับตำรวจ ได้รับคืนเมื่อไหร่จะนำมามอบให้ แล้วถามว่ารู้จักคนที่ประสบอุบัติเหตุกับแพงไหม จากพาสปอร์ตชื่อ โฮป วิลเลี่ยม สัญชาติออสเตรเลีย

“ดิฉันจะรับเป็นเจ้าของไข้ให้อีกคนไปก่อนค่ะ ตอนนี้อาการของแพงเป็นยังไงบ้างคะ”

“เดี๋ยวอีกสักครู่คุณหมอจะออกมารายงานให้ทราบค่ะ”

รื่นจิตใจเสีย พยายามสงบสติอารมณ์ ตัดสินใจโทร.ไปที่ทำงาน ขอลาหยุดหลายวัน ถ้ามีเรื่องด่วนให้ โทร.เข้ามาได้เลย...กันลองโทร.รายงานชลลดาเช่นกัน ขออยู่ดูอาการแพงจนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัย ชลลดาห่วงงานถามลูกชายเรื่องประชุมงบประชาสัมพันธ์ในวันพรุ่งนี้

“ผมแจ้งให้ปิติเลื่อนการประชุมไปแล้วครับ ผมแค่อยากจะโทร.มาบอกแม่ด้วยตัวเอง”

ชลลดาวางสายแล้วนิ่งคิดสักพัก กดโทร.สั่งภูดิศอีกครั้ง “พรุ่งนี้ไม่ให้เลื่อนประชุมนะ บอกทุกคนด้วยว่า ถ้าพรุ่งนี้ลากเจ้านายมาเข้าประชุมไม่ได้ ก็ไม่ต้องกลับมาที่บริษัทอีก!”

หน้าห้องผ่าตัด ทวิตตี้วิ่งหน้าตาตื่นมาเจอกันลอง ละล่ำละลักถามอาการแพงแบบสติแตก ลำดับความไม่ถูก ว่าตัวเองควรทำอะไรก่อน กันลองต้องบอกให้ใจเย็น ทุกอย่างต้องเรียบร้อยกำลังรอฟังอาการจากคุณหมออยู่ ทวิตตี้พยายามเย็นลงแต่พอเห็นทีมนักข่าวก็เครียดขึ้นมาอีก รีบเลี่ยงไปโทร.หาเส้นสายในวงการให้ช่วยปิดข่าวของแพงอย่าให้ออกไปว่ารุนแรง

พลันราณี ผู้ใหญ่ทางช่องโทร.มาถามเรื่องราวและอาการของแพง ทวิตตี้ปกป้องแพงเต็มที่ว่าไม่เป็นอะไรมาก ไม่มีผลกระทบกับทางช่องแน่ อย่าเพิ่งปลดแพงออกจากละคร...พอวางสาย ตำรวจเข้ามาสอบปากคำ ทวิตตี้พาไปพบรื่นจิต โดยกันไม่ให้นักข่าวเข้ามาทำข่าว

ตำรวจถามว่าใครเป็นเจ้าของรถ และก่อนเกิดเหตุ แพงไปที่ไหน รื่นจิตตอบว่ารถเป็นชื่อแพง ตอนเย็นเธอทานข้าวอยู่ที่บ้านด้วยกัน แล้วก็รีบร้อนออกไปโดยไม่บอกว่าไปไหน

“จากลำดับเวลาการเกิดเหตุ ทีมเราสันนิษฐานว่า หลังขับรถออกจากบ้าน คุณแพงได้ขับรถไปหาคุณโฮป จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุด้วยกัน ไม่ทราบว่าคุณโฮปมีความสัมพันธ์ยังไงกับคุณแพงครับ” รื่นจิตไม่ทราบ “คุณแม่ไม่เคยได้ยินคุณแพงพูดถึงคุณโฮปเลยใช่ไหมครับ”

“ไม่ค่ะ...ไม่เคย” รื่นจิตเน้นย้ำ

“ตามหลักแล้วการที่คุณแพงขับรถออกไปจากบ้านตอนกลางคืน เพื่อไปหาคุณโฮป สันนิษฐานได้ว่าเธอน่าจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคุณแพงนะครับ”

รื่นจิตรู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่ที่แย่ ไม่รู้เรื่องเพื่อนของลูกเลย เธอสบตากันลองอย่างเสียใจ ตำรวจไม่ติดใจสงสัยอะไร ลากลับไป...หมอออกมาจากห้องผ่าตัด ทั้งรื่นจิต กันลองและทวิตตี้รี่เข้ามาฟังอาการแพง นักข่าวก็ชะเง้อมอง

“คนไข้ทั้งสองคนได้รับการเย็บแผลและผ่าตัดเล็กในเบื้องต้นแล้ว แต่ทั้งคู่อยู่ในอาการช็อกเพราะได้รับการกระแทกค่อนข้างรุนแรง อาการยังไม่น่าไว้ใจครับ เป็นไปได้ว่าอาจเกิดอาการเลือดคั่งภายใน หลังจากทำซีทีสแกนเพิ่มจึงจะสรุปอะไรได้ชัดเจนกว่านี้ครับ”

จู่ๆความดันคนไข้ลดต่ำลงผิดปกติ รื่นจิตใจแทบขาดไม่รู้ว่าใช่แพงหรือไม่ซวนเซจะเป็นลม กันลองเข้าประคองดูแล รื่นจิตร่ำไห้รำพันถึงแพงในวัยเด็ก ว่าเป็นเด็กขี้แย แต่แล้ววันหนึ่งก็มาบอกว่าจะช่วยหาเงินให้แม่ด้วยการเป็นดารา ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่สนใจซื้อของให้ตัวเอง ไม่เที่ยวเตร่อย่างวัยรุ่นคนอื่นๆ กันลองพยักหน้าเพราะรู้แก่ใจดี

“คุณรู้ใช่ไหม เผินๆแล้วแพงอาจดูเป็นคนไม่ชอบสุงสิงกับใคร มีโลกส่วนตัวสูง แต่มันไม่ใช่เลย จริงๆแล้วเขาก็แค่กลัวจะทำให้คนอื่นมีปัญหา รู้ว่าตัวเองกินอยู่ยาก ก็แบกของหนักๆไปกองทุกวัน ผู้หญิงตัวเล็กๆหอบอะไรมากมายได้ขนาดนั้น เขาก็แค่ไม่อยากเรียกร้องให้ใครลำบาก” รื่นจิตน้ำตาไหลพราก รำพันจนกันลองน้ำตาซึมไปด้วย

“แพงเขาเป็นคนชอบเขียนบันทึก จดเล็กจดน้อยทุกอย่าง แล้วก็ไปเล่าต่อหน้ารูปพ่อว่า หนูจะทำความฝันพ่อให้เป็นจริงเองค่ะ น้าภูมิใจในตัวเขามาก น้าพยายามทำทุกอย่างเพื่อเขา มีหน้าที่การงานที่ทำเงินได้เยอะแยะ แต่ดูวันนี้สิ น้ากลับทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง น้ายังไม่ได้ดูแลเขา ไม่ได้บอกรักเขาอย่างที่น้าควรจะทำมันทุกวันด้วยซ้ำ น้ารักลูก รักมากที่สุด ขอให้เขาปลอดภัย ได้โปรด...ได้โปรด
เถอะ...”

กันลองทนไม่ไหวกุมมือรื่นจิตย้ำหนักแน่นว่า แพงจะต้องไม่เป็นอะไร รื่นจิตปล่อยโฮ

ooooooo

วรัชช์กำลังถ่ายรายการทอล์กโชว์ ได้ยินข่าวแพงประสบอุบัติเหตุก็ตกใจ แต่ต้องฝืนถ่ายรายการต่อไป พิธีกรทิ้งท้ายด้วยกระแส วัชราภรณ์ ซึ่งคือวรัชช์บวกแพงอาภรณ์...วรัชช์แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ พอพิธีกรให้พูดถึงแพง เขาจึงบอกว่าอยากเปิดกล้องละครใหม่กับแพงโดยเร็ว

เช้าวันใหม่ กันลองกลับมาเจอชลลดาด้วยอาการหัวเสีย ยิ่งชลลดาถามถึงอาการแพง ไม่ใช่ห่วงใยแต่เป็นห่วงงานของตัวเอง เน้นว่า แพงต้องฟื้นขึ้นมาภายในสองวันนี้ เพราะถ้าไม่ฟื้นก็จะถอดแพงออกจากแผนการเป็นพรีเซ็นเตอร์ไก่ฟ้าทั้งหมดของแคมเปญใหม่ทันที สัญญาที่เซ็นไปก็ระบุเอาไว้ว่า จะต้องเริ่มทำแคมเปญภายในเดือนนี้ ถ้าไม่ฟื้นถือเป็นโมฆะ

กันลองไม่พอใจ ชลลดาพูดทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่เรียกเก็บค่าปรับ เพราะทำตามสัญญาไม่ได้”

กันลองทุบโต๊ะปัง ไม่พอใจที่แม่ไม่เห็นว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ชลลดาบอกเพียงว่าจะไม่ยอมให้ตระกูลสิ้นสภาพ เรื่องแบบนี้ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดแล้วบริษัทจะเสียหายกับเวลาโฆษณาที่จองไปแล้วไม่ได้ เพียงเพื่อคนคนเดียว แล้วกำชับให้กันลองเตรียมตัวไปเข้าประชุม

ด้านทวิตตี้พยายามเคลียร์คิวของแพงจนหัวหมุน มิ้งค์แจ้งมาว่าคงต้องเปลี่ยนพิธีกรเพราะรายการไม่ได้ถ่ายสต๊อกไว้ ออกอากาศไปแล้วต้องรันต่อ ทวิตตี้ไม่พอใจที่ทางรายการไม่รอ...กันลองต้องทำงานแต่ก็หมั่นโทร.ถามอาการแพงกับทวิตตี้ เพราะเธอมาอยู่เป็นเพื่อนรื่นจิต

ชลลดาเห็นลูกชายไม่มีกะจิตกะใจทำงานเท่าไหร่ จึงตัดสินใจสั่งภูดิศ ให้เรียกเอเจนซีสามแห่งเข้ามารับบรีฟงานกับตน ย้ำให้เลือกบริษัทที่ดีที่สุด...ส่วนกันลองรีบมาที่โรงพยาบาลโดยไม่รู้ว่าแม่ทำอะไร เขายังโทร. สั่งงานปิติให้แจ้งเอเจนซีเรื่องสล็อตโฆษณาที่ซื้อไว้ ขอเลื่อนออกไปก่อนเพราะมีปัญหาพรีเซ็นเตอร์นิดหน่อย

พอเดินมาเจอทวิตตี้สีหน้ายุ่งยากใจ เพราะทางช่องจะปลดแพงออกจากละครเรื่องใหม่ กันลองให้ขอเลื่อนสักนิด ทวิตตี้บอกว่ามันเป็นซีรีส์ต่อกัน ต้องถ่ายเสร็จทันออนแอร์แล้วยังว่า

“ถ้าคุณจะยกเลิกงานพรีเซ็นเตอร์ของแพงอีกก็เข้าใจนะคะ ธุรกิจยังไงก็เป็นธุรกิจ และที่ฉันทำอยู่มันก็เพราะเงินนี่นะ ฉันไม่ได้ห่วงอะไรแพงนักหนาหรอก ฉันมันก็หวังแค่เงิน เงินแล้วก็เงิน...แพง แกต้องฟื้นขึ้นมาสิ ฟื้นขึ้นมา...ฟื้นขึ้นมา...” ทวิตตี้ประชดแล้วปล่อยโฮออกมา

“ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณทวิต ผมจะลองพยายามช่วยดูอีกทาง แต่ผมคงต้องขอให้เจ๊ช่วยอะไรหน่อยครับ... ช่วยนัดผู้ใหญ่ของทางช่องให้ที เร็วที่สุด พรุ่งนี้ได้ยิ่งดีครับ”

ทวิตตี้แปลกใจมองกันลองที่ท่าทางมุ่งมั่น...ค่ำนั้น วรัชช์เสร็จงานตามมาเยี่ยมแพง เห็นกันลองอยู่หน้าห้องผ่าตัดกับเจ๊ทวิตตี้ก็รู้สึกขัดตา จะเข้าไปเยี่ยมแพง ทวิตตี้บอกว่าหมอยังไม่ให้เยี่ยม พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ แต่วรัชช์มีคิวถ่ายจึงขอเข้าไปเยี่ยมตอนนี้ เจ๊เอ็ดว่าไม่ได้แล้วไล่ให้กลับ

ด้านรื่นจิตกลับบ้านมาพักแต่ไม่อาจข่มตานอนได้ เห็นแฟ้มงานวางเต็มโต๊ะก็ไม่มีแก่ใจจะทำงาน นั่งมองภาพถ่ายแพงกับแก้วขวัญน้ำตาคลอเบ้าจนนาฬิกาบอกเวลาตีห้า

ooooooo

เช้าวันใหม่ กันลองเข้ามาพบราณีกับญาณี ผู้ใหญ่สถานีโทรทัศน์ที่ทวิตตี้นัดหมายให้ เขามาเจรจาเรื่องแคมเปญโฆษณาตัวใหม่ของไก่ฟ้าพญาลอ ที่ให้แพงเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เขาเชื่อมั่นว่าแพงจะกลับมาทำงานได้ภายในเดือนนี้ กันลองยื่นข้อเสนอ

“ทางไก่ฟ้าจะเจรจากับมีเดียเอเจนซีขอซื้อสล็อตโฆษณาตัวใหม่ของแพงอาภรณ์กับทางช่อง ช่วงที่ละครรักนี้มีตบออกอากาศ”

“พี่ทราบว่าคุณหมายถึงอะไร แต่มันไม่มีผลหรอก...” ราณีเตือน แต่กันลองแทรกขึ้นว่า

“สามนาทีต่อหนึ่งชั่วโมง...ผมขอซื้อสล็อตที่มากที่สุด”

ราณีกับญาณีอึ้งเพราะราคาสูงมากขนาดเอเจนซี ยังไม่สู้ กันลองอ้างว่าต้องการร่วมงานกับช่องที่มีคุณภาพอย่างที่นี่ ขอให้ชะลอการที่จะเปลี่ยนตัวแพง เพราะแฟนคลับเธอเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของสินค้าไก่ฟ้า กันลองเน้นว่า ขอเวลาแค่สองอาทิตย์ค่อยพิจารณาใหม่

ในขณะเดียวกัน ชลลดากำลังประชุมกับทีมเอเจนซี ราณีกับญาณีโทร.มาคุย ทั้งสองเป็นเพื่อนกับชลลดา ชื่นชมว่ากันลองเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ ฉลาดน่าจับตามอง ชลลดาหาว่าพูดเอาใจ แต่ก็ยิ้มอย่างภูมิใจตอบกลับว่าจะเลี้ยงขันโตกชุดใหญ่

พอวางสาย ชลลดาหันมาคุยงานต่อ ครีเอทีฟเสนอให้เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ไก่ฟ้าตามเดิม แต่ปรับลุคใหม่ ให้เปรี้ยวเข็ดฟันขึ้น ชลลดาฟังแล้วคิดตามว่าภาพตนจะอยู่บนบิลบอร์ดทั่วเมือง

สายวันนั้น หมอบอกรื่นจิตว่าคนไข้คนหนึ่งอาการดีขึ้นอยู่ในระยะปลอดภัย ย้ายไปห้องพิเศษแล้ว รื่นจิตดีใจรีบตามหมอไป พอเห็นหน้าเข้าใจว่าเป็นแพงก็ดีใจน้ำตาริน หมอบอกอีกว่า

“คนไข้ยังไม่ฟื้นอาจเพราะเกิดอาการช็อก ทางฝั่งคนขับไม่ได้รับการกระแทกมาก จึงไม่มีอะไรรุนแรงครับ... ส่วนอีกคนอาการยังน่าเป็นห่วง หมอยังไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม ส่วนญาติทางเจ้าหน้าที่กำลังประสานงานอยู่ครับ”

รื่นจิตให้ช่วยรักษาเต็มที่ ตนรับผิดชอบค่ารักษาเอง...ไม่นานกันลองและทวิตตี้ตามมาสมทบด้วยความดีใจ รื่นจิตถามทวิตตี้ว่างานแพงมีปัญหาบ้างไหม เจ๊บอกมีปัญหานิดหน่อยแต่ได้กันลองช่วยเจรจากับผู้ใหญ่ทางช่องให้ รื่นจิตหันมายิ้มขอบคุณ พลันมือถือรื่นจิตดังขึ้น เธอหน้าเครียดเพราะที่ทำงานมีปัญหาต้องเข้าบริษัทด่วน กันลองอาสาไปส่ง

ระหว่างนั่งมาในรถ รื่นจิตถามกันลองว่ารู้จักกับแพงนานแค่ไหน เขาตอบอย่างไม่ต้องคิดว่า 15 ปี 3 เดือนพอดี รื่นจิตทึ่งที่จำได้ละเอียด แต่อดเหน็บถึงงานของเขาไม่ได้ว่ามีความสุข มีสาวๆรายล้อม เขาหัวเราะบอกที่บริษัทมีแต่พนักงานเก่าแก่คราวแม่ ที่บ้านก็มีแม่กับป้าโรยบุญ ตนจึงโตมากับผู้หญิง รื่นจิตโยงไปถึง โฆษณาไก่ฟ้าพญาลอของเขาว่าเชิดชูแต่พวกนางงาม

“นั่นมันเป็นไปตามแผนการตลาดครับคุณน้า ไม่มีอะไรแอบแฝง ผมยืนยันว่าธุรกิจของที่บ้านผมคือการรักษาสุขภาพให้ผู้หญิงครับ สูตรยานี้ทำให้ผู้หญิงมีสุขภาพแข็งแรงขึ้น ไม่ใช่แค่คนในครอบครัว แต่นี่เป็นความภูมิใจของคนที่บริษัทไก่ฟ้าทุกคนครับ...คุณน้าลองทานดูนะครับ” กันลองหยิบขวดยาในรถส่งให้รื่นจิต เธอรับไว้ด้วยรู้สึกชื่นชมความคิดของเขา

รื่นจิตเข้ามาทำงานอย่างเคร่งเครียด แล้วเข้าไปคุยกับ CEO ว่าเสร็จโปรเจกต์นี้ตนขอลาพักแต่ CEO เห็นว่าอาการแพงดีขึ้นแล้วและอยู่ในความดูแลของหมอ เธอน่าจะกลับมาทำงาน เธอจึงขอออกจากการเป็นพาร์ทเนอร์และกลับมากินเงินเดือนพนักงานธรรมดาตามเดิม

ค่ำนั้น วรัชช์มาเยี่ยมแพงเห็นว่ามีเพียงพยาบาลดูแลเพราะทวิตตี้ออกไปทำธุระ จึงอาสาเฝ้าไข้แทน เขานั่งข้างเตียงมองหน้าแพงที่ยังหลับใหลอย่างห่วงใย พูดกับเธอว่าจะพยายามยื้อเวลาไม่ให้ทางช่องเปลี่ยนตัวเธอ แล้วระบายความในใจว่า

“คุณคงไม่รู้ว่าผมดีใจที่ได้ใกล้ชิดคุณ ถึงมันจะแค่ในฉากละครก็เถอะ คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่เมินผมตลอดเวลาที่อยู่นอกฉาก แต่รู้รึเปล่า เพราะแบบนี้ผมถึงได้อยากรู้จักคุณมากขึ้น”

กันลองหอบแฟ้มงานเข้ามาต้องชะงักเมื่อเห็นวรัชช์นั่งกุมมือแพงอยู่ วรัชช์หันมามองถามอย่างไม่พอใจว่า เขาเป็นใครกันแน่ กันลองบอกได้ให้นามบัตรไปแล้ว วรัชช์จิ๊ปาก

“ผมหมายถึงคุณเป็นอะไรกับแพงอาภรณ์”

“ผมเป็นแฟนแพง เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ”

สองหนุ่มมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ทวิตตี้เปิดประตูเข้ามารีบแยกทั้งสองจากกัน สองหนุ่มยังนั่งไม่ยอมกลับ จนพยาบาลเข้ามาแจ้งว่าหมดเวลาเยี่ยม

ooooooo

คืนต่อมา รื่นจิตหอบงานมาวางในห้องคนไข้ เข้ามานั่งข้างเตียง กุมมือแพงรำพัน ว่าแม่เติบโตมาโดยไม่มีใครเลย ไม่มีพี่มีน้องหรือพ่อแม่อย่างคนอื่น พ่อแก้วขวัญคือครอบครัวคนแรกของแม่ และแพงคือของขวัญล้ำค่า...อย่าทิ้งแม่ไปอีกคน แม่เหลือลูกคนเดียวบนโลกใบนี้

รื่นจิตรู้สึกว่าแพงขยับนิ้วก็ดีใจรีบไปบอกพยาบาล หมอเข้ามาดูอาการแล้วบอกว่า คนไข้อาจแค่เกร็งแต่ยังไม่ฟื้น ให้รื่นจิตกลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่

เช้ามืดเพื่อนฝันถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแล้วสะดุ้งตื่น หมอพยาบาลเข้ามาดูอาการทุกอย่างปกติดี หมอจึงขอสอบถามเพราะมีเรื่องน่าสงสัย

“คนไข้อีกคนเป็นอะไรกับคุณแพงครับ หมอหมายถึงทางสายเลือด คือตอนนี้อาการเขาค่อนข้างสาหัส หมอจำเป็นต้องรู้เพื่อประโยชน์ทางการรักษาของคนไข้ครับ”

“พาฉันไปหาเขาหน่อยได้ไหมคะ”

พยาบาลเข็นรถมาที่ห้องปลอดเชื้อ เพื่อนเห็นแพง ผ่านกระจกในสภาพสายระโยงระยางก็ร้องไห้ออกมาอย่างสะเทือนใจ หมอบอกว่าคนไข้มีเลือดคั่งในอวัยวะหลายส่วน มีเลือดออกที่เยื่อหุ้มสมอง จะทำการผ่าตัดก็มีปัญหาเรื่องเลือดคนไข้หายาก เพื่อนไม่รอช้าขัดขึ้นว่า

“เราเป็นฝาแฝดกันค่ะหมอ เลือดกรุ๊ปเดียวกัน แต่หมอคะ หมออย่าบอกเรื่องนี้กับใครได้ไหมคะ เพราะครอบครัวแพงยังไม่ยอมรับเรื่องนี้ แต่...ฉันกำลังพยายามอยู่ ถ้าถึงเวลาที่อะไรๆลงตัวกว่านี้ ฉันจะบอกความจริงทุกคนเองค่ะ หวังว่าหมอจะเข้าใจนะคะ”

หมอรับคำแต่ขอให้ทำใจไว้บ้าง เพราะอาการคนไข้น่าเป็นห่วง เพื่อนน้ำตาไหลรินขอเป็นเจ้าของไข้แทนรื่นจิต ให้โอนมาเป็นชื่อแพงโดยไม่ต้องบอกใคร

พอรื่นจิตรู้ข่าวแพงฟื้นก็รีบจะขับรถออกไป โรยบุญมาขวางหน้า ฝากพวงมะม่วงไปเยี่ยมไข้แพง และยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองแพง รื่นจิตรู้สึกดีกับโรยบุญขึ้นมาก...กันลองรู้จากโรยบุญว่าแพงฟื้นแล้วก็ดีใจมาก แต่พอรู้อีกเรื่องว่า ชลลดาออกไปเซ็นสัญญาใหม่กับเอเจนซีก็หน้าเครียดลง พยายามโทร.หาชลลดาแต่เธอไม่รับสาย

ทวิตตี้รีบมาส่งข่าวผู้ใหญ่ทางช่องว่าแพงฟื้นแล้ว ไม่นานจะออกมาทำงานได้ ไม่ทันไรเจอมิ้งค์วิ่งมาทักดีใจที่แพงฟื้น ทวิตตี้ปั้นปึ่งใส่เพราะยังเคืองที่ตอนแรกปลดแพงออก สุดท้ายตกลงกันได้ที่ราคาค่าตัวแพงเพิ่มขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์

รื่นจิตถลาเข้ามากอดเพื่อนซึ่งเข้าใจว่าเป็นแพง เพื่อนสวมรอยเป็นแพงทั้งที่ในใจรู้สึกผิด และคิดว่าจะต้องรับผิดชอบชีวิตของแพง แต่อีกใจก็ดีใจที่ได้ใกล้ชิดรื่นจิตซึ่งคิดว่าเป็นแม่แท้ๆ

ของเยี่ยมจากแฟนคลับหลั่งไหลเข้ามาวางในห้องคนไข้ เพื่อนเห็นการ์ดที่ห้อยเป็นชื่อ วัชราภรณ์ก็แปลกใจ แต่มีการ์ดใบหนึ่งมาจากวรัชช์ บอกว่าเขารอตนอยู่...รื่นจิตทำโจ๊กมาให้เพราะเห็นว่าพักหลังลูกชอบกิน จำได้ว่าแพงชอบต้นหอมและปอกมะม่วงที่โรยบุญฝากมา เพื่อนน้ำตาปริ่มกับความห่วงใยของทุกคน

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 6 วันที่ 16 ธ.ค.60

ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทประพันธ์โดย จันทร์ รีจรูญ แอนเดอร์สัน
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทโทรทัศน์โดย ระกาช่อนรูป
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว กำกับการแสดงโดย มนัสนันท์ เลิศวงศ์สกุล
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ผลิตโดย บริษัท ดอร์เธอร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ