อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 4 วันที่ 9 ธ.ค.60

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 4 วันที่ 9 ธ.ค.60

ในกองถ่าย จิตจีรังเห็นข่าวเดียวกันก็กรี๊ดออกมาจนทุกคนตกใจ พอนึกได้รีบกลบเกลื่อนว่าตกใจเห็นข่าวน้องหมาถูกรถชน ทุกคนส่ายหน้า แล้วเธอก็พิมพ์ข้อความพร้อมลงรูปคู่ตัวเองกับวรัชช์สมัยเรียนมัธยมลงไอจี ว่าข่าวนั้นเป็นการตัดต่อ ของจริงคือตน ไม่ทันไรเห็นตู้มต้ามนักข่าวเดินอยู่ก็รี่เข้าไปขอแก้ข่าว ตู้มต้ามดักคอว่าถ้าเป็นเรื่องรูปสมัยมัธยมของเธอกับวรัชช์ ใครๆเขารู้กันทั่วประเทศแล้วว่าเคยคบกัน

“เปล่าค่ะ เรื่องเก่าก็ส่วนเรื่องเก่า จีจะมาแก้ต่างให้วรัชช์ต่างหาก คืองี้ค่ะ วันนั้นวรัชช์เขาไม่ได้กลับไปที่โรงแรมค่ะ แต่อยู่กับ...”



“ป้า...วรัชช์เขาบอกพี่หมดแล้วล่ะว่า คืนนั้นเขาไปค้างบ้านป้า เขาต่อสายให้พี่คุยกับป้าเขาเองเลย”

จิตจีรังจะเอ่ยชื่อตัวเองแต่ไม่ทันเพราะตู้มต้ามแทรกเสียก่อน

นางร้ายหน้าม้านแต่ยังไม่ยอมแพ้ ตะครุบหลังตู้มต้ามให้ข่าวใหม่ว่า คืนนั้นแพงไปค้างคืนกับใครที่โรงแรม นักข่าวหันมาสนใจ เธอใบ้ว่าเป็นผู้หญิง ราวให้เข้าใจว่าแพงชอบทอม

ooooooo

น้อยหน่าปรับลุคเพื่อนจนกลับมาเป็นแพงอาภรณ์ รวมทั้งเครื่องแต่งกาย เธอแปลกใจที่อกแพงเล็กลง ไม่ตู้มอย่างของตนที่ทำมา เพื่อนหน้าเหวอเพิ่งรู้ว่าน้อยหน่าเป็นสาวข้ามเพศ เพื่อนกลับมาหาแพงที่โรงแรม แพงตะลึงราวกับส่องกระจก บอกแม่ต้องไม่สงสัยแน่ แต่เพื่อนทำหน้าหวั่นใจอีกเรื่อง แล้วยกชายเสื้อขึ้นให้ดูรอยสักที่สะโพกด้านหลังขวาเป็นรูปนกนางนวล แพงทึ่งถามตอนสักไม่เจ็บหรือ

“เจ็บสิ ไม่กี่วันก็หายแลกกับแทตทูที่จะอยู่กับเราตลอดไป”

แพงทำหน้าเจ็บแทน พลันมีข่าวในทีวีเรื่องวรัชช์ออกมาปกป้องแพงอาภรณ์ ว่าไม่เคยมีอะไรเกินเลย พิธีกร ยังพูดอีกว่า คนที่แพงจี๋จ๋าด้วยเป็นมนุษย์เพศหญิง แล้วมีภาพคู่แพงกับจิตจีรัง ทั้งแพงและเพื่อนตกตะลึงกับข่าวนั้น

วรัชช์ต่อว่าจิตจีรังที่ให้ข่าวทำร้ายแพง สุดท้ายก็เข้าตัว นนท์หน้าเสีย ตกลงจิตจีรังเป็นเพศไหนกันแน่ หญิงสาวร้องกรี๊ดๆด้วยความเจ็บใจ

ทางรื่นจิต เห็นข่าวที่มธุรสเอามาให้ดูแล้วเครียด มธุรสปลอบขำๆว่าไม่ต้องคิดมาก คิดแค่ว่าลูกสาวเราขายดีทั่วทุกเพศทุกวัย รื่นจิตไม่ขำด้วย เพื่อนทอมจึงชวนไปปฏิบัติธรรมให้สบายใจ สร้างบุญให้ลูกพ้นจากพวกสัมภเวสี รื่นจิตเห็นว่าดี เพราะยังไม่อยากเจอแพงช่วงนี้

“ยอมง่ายจัง ทะเลาะกับหนูแพงมาอีกล่ะสิ...เอาแต่หนี พอกันแม่ลูกคู่นี้” มธุรสรู้ทัน

เย็นวันนั้น แพงพาเพื่อนเข้ามาในบ้านเพราะเห็นว่าวันศุกร์แม่มักจะกลับบ้านดึก แพงเอาอัลบั้มออกมาให้เพื่อนดูเพื่อทำความรู้จักคนรอบตัวของแพง และชี้ให้ดูชั้นวางไดอารี่ที่เขียนทุกวัน ให้เพื่อนอ่านเพื่อจะได้รู้ว่าแพงทำอะไรบ้าง ทันใดเสียงแตรรถดัง แพงสะดุ้งที่แม่กลับไว รีบให้เพื่อนอยู่แต่ในห้องไม่ต้องออกมาจนกว่าตนจะมาเคาะสามครั้ง ค่อยเปิด

แพงลงมารับหน้ารื่นจิต เธอบอกว่าจะไปปฏิบัติธรรมสี่ห้าวัน แพงเผลอยิ้มโล่งอก รื่นจิตเห็นดักคอ แม่ไม่อยู่ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้ ถึงแม่จะเชื่อใจแพง แต่แม่ไม่เชื่อใจคนอื่น แพงรู้ว่าแม่ได้ยินที่ตนพูดเมื่อคืน แม่ยังเน้นอีกว่าไม่เชื่อใจกันลองและเป็นห่วงลูก

แพงกลับขึ้นมาบนห้อง บอกเพื่อนว่าไม่อยากไปเที่ยวแล้ว ไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ แต่เพื่อนคะยั้นคะยอและบอกว่ายิ่งแม่ไม่ไว้ใจ เราควรทำให้แม่เห็นว่าไว้ใจเราได้ ระหว่างถกเถียงกัน รื่นจิตเคาะประตูเรียก เพื่อนรีบวิ่งไปซ่อนตัวในห้องน้ำ แพงเปิดประตูรับแม่ รื่นจิตถามว่าคุยกับใคร แพงโกหกว่าเปิดสปีกเกอร์โฟนคุยกับน้อยหน่า รื่นจิตพยักหน้าแล้วบอกว่าซื้ออาหารกล่องใส่ตู้เย็นไว้ให้ แต่ถ้าอยากทานอย่างอื่นก็ให้ใจไปซื้อ แพงรับคำแล้วขอให้แม่ขับรถดีๆ

รื่นจิตบอกไม่ได้ขับเองมีเพื่อนมารับ แพงรีบถามว่าเพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย แม่ทำท่าคิดก่อนจะตอบว่าไม่แน่ใจ แพงเหวอ รื่นจิตขำแล้วบอกว่าคือมธุรส สองแม่ลูกเคอะเขินทำท่าเหมือนจะกอดกันแต่ก็ยั้งไว้ แพงจึงยกมือไหว้แม่แทน

ก่อนที่แพงจะไป แพงย้ำเตือนกับเพื่อนว่าต้องทำอะไรบ้างในบ้าน และกำชับให้ชาร์จมือถือไว้ตลอดต้องติดต่อได้ทุกเมื่อ เพื่อนรับคำแล้วเร่งให้รีบไปเดี๋ยวกันลองจะรอนาน จากนั้นเพื่อนเดินสำรวจห้องแพง เห็นตุ๊กตาและของขวัญจากแฟนคลับเต็มไปหมด เห็นลายเซ็นแพงบนรูปก็พยายามจดจำเผื่อต้องเซ็น แล้วหยิบไดอารี่มานอนอ่าน...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายคนหนึ่งสัญญาว่าถ้าเขาโตขึ้น จะพาเด็กหญิงขี้แยที่อยู่ข้างบ้านไปขึ้นนกตัวใหญ่ พาไปเที่ยวที่ไกลแสนไกล ดูพระอาทิตย์ขึ้นบนเขาสูงชัน และเก็บดอกไม้ที่สวยที่สุดบนนั้นให้เธอ...

เพื่อนเอาไอแพดมาเปิดดูคลิปที่ตัวเองอัดไว้ เป็นภาพเซลฟี่ตัวเองมีแพงนอนหลับอยู่ข้างหลัง มือปัดป่ายละเมอหัวเราะ ตัวเพื่อนพูดว่า “นี่คือนางเอกชื่อดังของเมืองไทยค่ะ นอกจากชีจะนอนละเมอแล้ว ชียังนอนดิ้นด้วย ไม่เหมือนไอเลยสักนิด...บางทีไอก็แอบคิดนะว่าเราจะใช่แฝดกันจริงๆรึเปล่า แต่ถ้าใช่ ไอก็มีเรื่องจะชวนคุยมากมาย จะเล่าความลับที่ไม่เคยบอกใคร แล้วไอก็จะกอดแพงให้แน่นๆเลย”...

รุ่งเช้าเจ๊ทวิตตี้โทร.มาขอให้แพงไปถ่ายซ่อมบอกว่าเป็นฉากง่ายๆไม่ต้องพูด เป็นซีนที่หุ่นไอดรอยด์ระบบรวน ตนส่งรถไปรับแล้ว แพงตกใจรีบโทร.บอกเพื่อนให้เตรียมตัวและให้กำลังใจว่าเพื่อนทำได้ เพื่อนคิดหนักสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อย่างไรเสียก็ต้องสู้

แพงกับกันลองมาถึงแม่ริม บรรยากาศและวิวสวยงามมาก กันลองกำลังคุยโทรศัพท์เรื่องงานกับปิติหน้าเครียด แพงนั่งรอ มีแฟนคลับมาขอถ่ายรูป แล้วมีเสียงบางคนนินทาว่าเธอชอบทอมหรือวรัชช์กันแน่

ในขณะที่เพื่อนอยู่ในชุดรูทเก้า คอสตูมติงว่าวันนี้ทำไมอกฟีบ เจ๊ทวิตตี้อ้างว่าคงเพราะป่วยแต่จัดการได้ ว่าแล้วก็ส่งม้วนทิชชูให้ยัดอก จ๋อมเข้ามาอธิบายบทว่าผู้กำกับขอเปลี่ยนให้เธอพูดไม่หยุด พูดอะไรก็ได้เพราะระบบรวน เพื่อนหน้าเสียหาทางออก เสนอว่าขอพูดเป็นภาษาอังกฤษ...ระหว่างถ่ายทำ วรัชช์ได้ทีที่มีการเปลี่ยนบท แกล้งกอดหุ่นไอดรอยด์แน่น เพื่อนสบตาผู้กำกับเห็นนิ่งๆ จึงกระชากผมวรัชช์หน้าหงาย ทิ้งศอกใส่อีกพลั่ก ผู้กำกับชอบใจให้ผ่าน

หลังเสร็จงาน เจ๊ทวิตตี้มีงานต่อจึงขอให้วรัชช์ช่วยส่งแพงที่บ้าน เขาพาเธอมาแวะร้านคาราโอเกะ เพื่อนกลัวจะเป็นข่าวอีก วรัชช์มีทางออกไว้แล้วด้วยการ ใส่หน้ากากแอ๊ดคาราบาวเดินเข้าร้าน แล้วเลือกห้องพิเศษที่ไม่มีคนอื่นปะปน เพื่อนแอบขำกับความตลกของเขา

เพื่อนเริ่มสนุกกับการร้องเพลงและเต้นหลุดโลกกับวรัชช์ ดื่มเบียร์กันจนกรึ่มๆ วรัชช์แปลกใจที่วันนี้แพงน่ารักเป็นกันเอง พอขับรถมาส่งเธอที่หน้าบ้าน วรัชช์ เผลอตัวจุ๊บแก้มแพง เพื่อนสะดุ้งหันมาโวยว่าเขาฉวยโอกาส เขารีบขอโทษบอกบรรยากาศพาไป แล้ววรัชช์หันไปเห็นคนยืนอยู่หน้าบ้าน เพื่อนมองตาม ต้องช็อกสุดขีด เมื่อเห็นรื่นจิตกำลังเดินเข้ามา

ooooooo

เพื่อนช็อกไม่หายเมื่อโดนวรัชช์ฉวยโอกาสหอมแก้ม และยังเห็นรื่นจิตเดินเข้ามา พอวรัชช์รู้ว่านั่นคือแม่ของแพง ก็ทำใจดีสู้เสือบอกให้แพงใจเย็นเขามีวิธี ว่าแล้วเขาก็ทำทีพยุงเพื่อนที่หน้าแดงก่ำเดินจากรถเข้าไปหารื่นจิต เธอตกใจว่าลูกสาวเป็นอะไร

“ทำไมยัยแพงถึงเป็นแบบนี้ล่ะ แล้วนี่คุณ...”

“ผมวรัชช์ เป็นพระเอกที่เล่นละครคู่กับแพงครับ คือพอดีแพงเขาเป็นลมในกองน่ะครับ วันนี้เจ๊ทวิตตี้พาเด็กไปเสริมนมน่ะครับ ผมเลยอาสามาส่งแพงเอง เพราะเป็นทางกลับบ้านพอดี”

“ลูกคนนี้นี่จริงๆเลย ไม่สบายแล้วยังฝืนไปถ่ายละครอีก” รื่นจิตเปลี่ยนมาเป็นห่วง

“แพงเขาอย่างนี้แหละครับ สปิริตแรง”

รื่นจิตเข้าประคองเพื่อนแล้วชะงักที่ได้กลิ่นเหล้า วรัชช์รีบแก้ตัวให้ว่าเป็นยาแก้ไอน้ำดำมีส่วนผสมของยาดองจีน ที่ทีมงานเอาให้แพงกินเพราะเห็นบ่นว่าเจ็บคอ มันหกรดตัวเธอ รื่นจิตทำหน้านิ่งจนวรัชช์ขยาดถอยออก ให้รื่นจิตพาแพงเข้าบ้าน เพื่อนแอบยกนิ้วโป้งชื่นชมให้เขา

รื่นจิตพาเพื่อนเข้ามานอนในห้องและบ่นไม่อยากเชื่อว่าเป็นกลิ่นยาแก้ไอ ก่อนจะกลับออกไปหาน้ำมาเช็ดตัว พอเพื่อนเห็นเธอเดินออกไปก็รีบกดโทรศัพท์หาแพง

ด้านแพงกำลังหน้าเครียดที่ทางรีสอร์ตมีห้องพักเหลือแค่ห้องเดียว กันลองขอโทษที่ให้ลูกน้องจองไม่รู้ว่าระบบจองออนไลน์มันรวน กันลองแสดงความเป็นสุภาพบุรุษจะไปพักที่อื่น แต่แพงเห็นว่าดึกมากแล้วจึงยอมให้เขาพักห้องเดียวกัน เขาดีใจชวนสั่งอาหารมาทานที่ห้อง เพราะเห็นว่าแพงเหนื่อย พรุ่งนี้จะต้องออกเดินทางแต่เช้ากันอีก

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 4 วันที่ 9 ธ.ค.60

ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทประพันธ์โดย จันทร์ รีจรูญ แอนเดอร์สัน
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทโทรทัศน์โดย ระกาช่อนรูป
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว กำกับการแสดงโดย มนัสนันท์ เลิศวงศ์สกุล
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ผลิตโดย บริษัท ดอร์เธอร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ