อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 10 วันที่ 31 ธ.ค.60
บทละครเรื่องเดือนประดับดาว คือชีวิตจริงของเพื่อนกับแพง ทำให้เพื่อนเล่นอินมากๆจนบางทีก็พูดนอกบทกับวรัชช์ ผู้กำกับชอบใจชื่นชมว่าแพงจะต้องได้รางวัลในบทบาทนี้แน่ๆอาการแพงดีขึ้นเรื่อยๆเหลือเพียงไม่พูด รื่นจิตกับมธุรสจึงพยายามฝึกหัดให้แพงพูด รื่นจิตแปลกใจว่าแหวนที่นิ้วแพงหายไปไหน จึงช่วยกันค้นหากับมธุรส จนเพื่อนกลับมา เพื่อนชะงักเมื่อเห็นมธุรส กลัวจะโดนจับผิดอีก มธุรสแกล้งเปรยว่ามีคนมาช่วยทำกายภาพบำบัดแล้ว ดีเลยที่คนในครอบครัวเดียวกันช่วยกัน ตนจะได้กลับ เพื่อนยกมือไหว้และบอก
“ขับรถดีๆนะคะคุณป้า”
“เฮียมะ...หนูแพงเรียกเฮียว่าอย่างนั้นตั้งแต่พ่อหนูเสีย ไม่เห็นเคยเรียกว่าป้าเป็นสิบปีแล้ว วันนี้อะไรดลใจจ๊ะ เอ๊ะ หรือว่าผมเฮียหงอกขึ้น” มธุรสจับตามองพิรุธของเพื่อน
เพื่อนพยายามทำตัวให้เป็นแพง ทักทายรื่นจิตแล้วไปเอาไดอารี่มานั่งเขียนให้เห็น รื่นจิตแปลกใจปกติจะเขียนอยู่แต่บนห้อง เพื่อนอ้างว่าอยากนั่งเขียนริมสระ...
ด้วยความที่กลุ้มใจเรื่องลูกชาย ชลลดาจึงเชื่อความคิดของโรยบุญ ที่ว่ากันลองอาจถูกทำเสน่ห์ ให้ไปถือศีลทำบุญที่วัด กันลองกลับมาเห็นแม่นุ่งขาวห่มขาวกำลังจะออกจากบ้าน ชลลดาบอกจะพาโรยบุญ หม่อนกับไหมไปด้วย ให้เขาเข้าประชุมไตรมาสสามแทน
กันลองเซ็งๆเดินมาเห็นแพงนั่งอยู่ริมสระ จึงข้ามรั้วมานั่งด้วย เพื่อนทำทีเป็นแพงกลับมาเขียนไดอารี่เหมือนเดิม แต่กันลองสะดุดตาที่ลายมือเธอเปลี่ยนไป เพื่อนหน้าเสียอ้างว่าหันไปพิมพ์คอมพ์เสียนาน เลยเขียนไม่เหมือนเดิม กันลองถามถึงอาการโฮป เพื่อนบอกว่ายังทรงๆ เพื่อนหาทางเลี่ยงขอตัวเข้าบ้านทานข้าว กันลองพยักหน้ายิ้มๆต่างฝ่ายต่างออกอาการไม่ไว้ใจกัน
ด้านมธุรสกลับมาบ้านเจอหลานชายนั่งเซ็งจึงเอาไวน์ออกมาดื่มแก้เซ็ง วรัชช์เอาน้ำแข็งใส่แก้วไวน์ให้ มธุรสยิ้มที่หลานจำได้ เขาบอกจะมีใครที่ดื่มแบบนี้ เสียรสชาติหมด ป้าชวนให้ลอง เขาส่ายหน้าว่าอย่าเรียกร้องเยอะ มธุรสเหน็บช่างประชดประชันเหมือนพ่อ วรัชช์โกรธ
“อย่าเอาผมไปเปรียบเทียบกับคนเจ้าชู้พรรค์นั้น”
“เชื้อมันไม่ทิ้งแถวหรอกน่า”
“ตอนนี้ผมเลิกเป็นแบบนั้นแล้ว...แพง เอ่อ...เพื่อนเป็นไงบ้างครับ” วรัชช์เปลี่ยนเรื่อง
“ก็ตั้งแต่กลับมารักษาตัวอยู่บ้านได้เดือนกว่าแพงก็อาการดีขึ้นนะ ดีขึ้นทุกวัน เริ่มโต้ตอบได้แล้ว อีกไม่นานคงกลับมาเป็นคนเดิม” มธุรสแอบยิ้มที่วรัชช์ไม่แย้งเรื่องชื่อแพงที่ตนเรียก
ค่ำคืนนั้น กันลองเห็นแพงซึ่งเข้าใจว่าเป็นเพื่อนกำลังหัดเดินโดยใช้วอล์คเกิ้ล และมีรื่นจิตคอยช่วยเขาพลอยยิ้มยินดีไปกับเธอ
รุ่งเช้า รื่นจิตกำลังตัดเล็บให้แพง กันลองมารับเพื่อน เขามองแพงอย่างรู้สึกบางอย่าง เพื่อนเดินมาขึ้นรถ กันลองเปิดเพลงร็อกอย่างเคย เพื่อนโยกหัวสนุกไปตาม จังหวะ เขามองเงียบๆนึกถึงอดีตที่เขาว่าแพงแปลกชอบฟังเพลงร็อกหนักๆ แต่เปิดฟังเบาๆขัดกับแพงในตอนนี้
ทั้งสองมาร้านเวดดิ้ง...แพลนเนอร์เอาขนมเค้กมาให้ชิม เพื่อนติงว่าไม่อร่อยเท่าที่ควร ขอเปลี่ยน แต่กันลองเห็นว่าอร่อยดี เพื่อนมองด้วยสายตาไม่พอใจและว่าถ้าหาดีกว่านี้ไม่ได้ตนจะทำเอง กันลองเตือนจะทำให้เหนื่อยทำไม อาหารอื่นๆอร่อยก็น่าจะพอใจ แพลนเนอร์เห็นด้วย เพื่อนโกรธต้องการสิ่งที่ดีที่สุดทุกเรื่อง กันลองจึงปล่อยให้แล้วแต่เธอ เพื่อนไม่พอใจอีก
กันลองกลับมาประชุมงานที่บริษัท มีการจัดทำเข็มกลัดรูปลูกเจี๊ยบ เพื่อกระตุ้นการขาย ผู้ชายสามารถซื้อไปให้คนรักได้
บ่ายวันนั้น แพงตื่นขึ้นมาเห็นรื่นจิตฟุบหลับอยู่กับกองแฟ้มงาน จึงพยายามลุกเดินเอาผ้าคลุมไหล่คลุมให้ กว่าจะทำสำเร็จก็หมดแรง ทรุดลงเอาหัวซบตักรื่นจิตอย่างรู้สึกอบอุ่นใจ...ผ่านไปสักพัก รื่นจิตตื่นขึ้นมาแปลกใจที่แพงนอนซบตัก จึงลูบหัวอย่างเอ็นดู แพงรู้สึกตัวก็ประคองกลับมานอนที่เตียง แพงมองรีโมตทีวี รื่นจิตจึงหยิบมากดเปิด เป็นช่วงข่าวบันเทิงพอดี
“เมื่อก่อนตอนแพงเข้าวงการแรกๆ แม่ก็แอบดูรายการนี้ที่ทำงานนั่นแหละ คอยเช็กข่าวแพงเขาตลอด ป้ามธุรสเขาบอกว่ารายการนี้ข่าวไม่มั่วน่ะ แม่เลยพอดูได้ ฟังข่าวกอสซิปเรื่องแพงทีไรอดเป็นห่วงไม่ได้ทุกที”
ข่าววันนี้เป็นเรื่องการแต่งงานของแพงกับกันลอง รื่นจิตเปรยว่า ตนน่าจะดีใจแต่กลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ปกติแพงเป็นคนตัดสินใจอะไรรอบคอบ แต่ครั้งนี้ตนว่าเร็วไป กันลองรักแพงจริง แต่ตนอยากให้ทั้งสองดูกันไปให้นานกว่านี้...แพงมองแม่น้ำตารื้นพยายามพูดว่า หนู รักแม่
รื่นจิตมัวแต่ดูข่าวไม่ได้ยินที่แพงพูด...ค่ำนั้น แพงพยายามหัดเดินอยู่คนเดียว กำลังจะล้มเพื่อนกลับมาเข้าประคองไว้ทัน พาไปนั่งบนเตียง เพื่อนถามแพงว่าเข้าใจที่ตนพูดแล้วใช่ไหม แพงพยักหน้าเบาๆ เพื่อนโอบกอดแพงแล้วพยายามอธิบายโดยไม่มองหน้า
เพื่อนขอบคุณที่แพงช่วยชีวิตตนไว้ ไม่อย่างนั้นคงเป็นตนที่อยู่ในสภาพนี้ ฉะนั้นตนถึงทำทุกอย่างเพื่อแพง ไม่ว่าจะเล่นละคร ถ่ายแบบ ออกรายการ ทำความฝันของแพงทุกอย่างให้เป็นจริง ตนสามารถคว้ารางวัลนักแสดงดาวรุ่งมาให้แพง และได้รับบทในเดือนประดับดาวที่แพงอยากเล่น ตนทำให้ทุกคนที่แพงรักมีความสุข
เพื่อนลูบแหวนหมั้นที่นิ้วก่อนจะยื่นให้ดู
“แพง ไอกำลังจะแต่งงานกับพะลอง...แพงเข้าใจไอใช่ไหม ไม่โกรธไอใช่ไหม ทำไมโลกนี้มันไม่แฟร์กับไอบ้างเลย ทั้งที่เราสองคนก็หน้าตาเหมือนกัน แต่ทำไมถึงมีแต่แพงที่โชคดีได้พบเจอแต่คนดีๆ ได้มีความรักดีๆ...สิ่งเดียวที่ไออยากจะขอก็แค่ ขอให้แพงแบ่งความสุขของแพงมาให้ไอบ้าง ขอแค่ครั้งนึงให้ไอได้มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบแพง ไอคงไม่ขอมากเกินไปใช่ไหม”
เพื่อนดันแพงลงนอนแล้วปิดไฟเดินออกไป แพงนอนน้ำตาไหลริน พยายามยกมือมาลูบนิ้วที่แหวนหายไป...
ในขณะที่เพื่อนเดินออกจากห้องแพง เห็นรื่นจิตร้องไห้ออกมาจากห้องหนังสือก็แปลกใจ แอบเข้าไปดูว่ามีอะไร เห็นพวงมาลัยวางที่หน้ารูปแก้วขวัญ และเห็นกล่องใบหนึ่งมีคราบน้ำตาชื้นติดอยู่ จึงพยายามเปิด เห็นต้นฉบับเดือนประดับดาวที่เป็นลายมือแก้วขวัญ เพื่อนพลิกดูไปเรื่อยจนถึงท้ายเล่ม แล้วต้องตกใจหน้าซีดมือสั่น ทรุดลงกองกับพื้น...
ooooooo
เช้าวันใหม่ เพื่อนกับกันลองมาฟังแพลนเนอร์เวดดิ้งสรุปรูปแบบงาน กันลองไม่เห็นด้วยที่แพงให้เชิญสื่อมวลชนทุกฉบับ เพื่อนไม่พอใจประชดให้ทางร้านโทร.ยกเลิกสื่อ พอถึงตอนดูแบบการ์ด ทั้งกันลองและเพื่อนอารมณ์กรุ่น ไม่มีใครสนใจจะดู
หลังจากนั้นเพื่อนมากองถ่ายต่อ วรัชช์วางแผนทำให้เพื่อนต้องกลับบ้านกับเขา ด้วยการเจาะลมยางรถทวิตตี้ ทำให้ทวิตตี้ไปส่งเพื่อนไม่ได้ ต้องขอให้วรัชช์ไปส่งให้...แทนที่วรัชช์จะส่งก็พาเพื่อนมาท้องฟ้า จำลอง เขาขอร้องว่านี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะขอ เพื่อนยอมนั่งฟัง
“ผมจะหักหลังผู้หญิงที่ผมอยากให้เป็นแม่ของลูกได้ยังไง คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม คลิปที่ถูกส่งออกไปมันเป็นอุบัติเหตุ ผมพยายามแก้ไขแล้ว แต่โดนนักข่าวตลบหลังอีกที”
วรัชช์ไม่เอ่ยถึงจิตจีรัง เพื่อนไม่เชื่อหาว่าเป็นข้ออ้าง
“ก็ใช่ ผมนี่แหละ ผมอ้างทุกอย่างบนโลกนี้ทั้งนั้นแหละ ยอมทุกอย่างแค่เพื่อให้คุณเลิกบ้าแล้วถอยกลับมาเสียที คุณก็รู้ทางที่คุณเดินอยู่มันใกล้ถึงทางตันเข้าไปทุกทีแล้ว มีแต่ผมนี่แหละที่ยังยืนรอคุณอยู่ที่เดิม”
เพื่อนไม่ฟังจะกลับ ผู้คนแถวนั้นเริ่มมอง วรัชช์ทำทีว่าซ้อมบทละคร พูดเสียงดังตามบทเดือนประดับดาว ให้ตัวละครเดือนละออยอมรับความจริงว่ารักเขา หยุดหลอกตัวเองเสียที เพื่อนไม่พอใจสวนว่าตนไม่มีวันรักเขาวรัชช์ดึงเพื่อนเข้ามากอดกระซิบข้างหู
“คุณจะเล่นบทแพงอาภรณ์ไปอีกนานเท่าไหร่มันก็เรื่องของคุณ แต่ผมมั่นใจว่า โฮปรักผม...ความรู้สึกของเราสองคนที่เกิดขึ้น คืนนั้นคือเรื่องจริง”
เพื่อนผลักเขาออกแล้วจะเดินหนี วรัชช์ขอร้องขอไปส่ง เพื่อนเห็นแววตาเขาก็ใจอ่อน
อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 10 วันที่ 31 ธ.ค.60
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทประพันธ์โดย จันทร์ รีจรูญ แอนเดอร์สันละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทโทรทัศน์โดย ระกาช่อนรูป
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว กำกับการแสดงโดย มนัสนันท์ เลิศวงศ์สกุล
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ผลิตโดย บริษัท ดอร์เธอร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ