อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 7 วันที่ 13 ธ.ค.60

อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 7 วันที่ 13 ธ.ค.60

ยิ่งฟัง ชาคริตก็ยิ่งรู้สึกผิดเพราะไม่เคยเคลียร์เรื่องนี้กับชญานี แม้จะพอเดาความรู้สึกอีกฝ่ายได้แต่ไม่อยากสนใจหรือยอมรับ และญาดาก็กดดันจนเขาต้องรับปากแบบไม่เต็มใจนัก

“แล้วผมจะจัดการเรื่องนี้เอง...พอใจยัง”

ญาดาไม่ได้ตอบรับ ชาคริตเลยขยับไปใกล้เพื่อสบตา

“แล้วคุณเข้าใจความรู้สึกของตัวเองหรือเปล่า”

“ได้สิ...ฉันรู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับคุณ ฉันเคยบอกคุณแล้วนี่...ฉันเกลียดคุณ!”



“แล้วผมก็บอกคุณแล้วว่าผมจะทำให้คุณรักในสิ่งที่เกลียด แล้วสักวัน...คุณจะวิ่งเข้ามาในอ้อมกอดผมเอง”

พูดจบก็ดึงตัวมากอด ญาดาดิ้นขลุกขลัก ก่อนหยุด และเหน็บเมื่อไม่เห็นประโยชน์

“นี่ฉันไม่ได้วิ่งเข้าหาคุณนะ!”

“ขอซ้อมดูก่อนว่าได้กอดคุณนานๆแล้วเป็นยังไง”

ชาคริตเย้าหน้าตาย ญาดาได้แต่กลอกตาด้วยความหมั่นไส้แต่ก็ยอมให้เขากอดแต่โดยดี

ooooooo

ระหว่างที่ชาคริต ญาดา เขมิกาและทัศนะเริ่มเปิดใจให้กัน ไตรทศตามไปปลอบชญานีถึงบ้านด้วยความเป็นห่วง เห็นท่าหมดอาลัยตายอยากของเธอ แล้วใจไม่ดี กลัวจะคิดสั้นและทำร้ายตัวเอง

ชญานีไม่ยี่หระว่าใครจะมาเฝ้าที่บ้าน เปิดตู้ค้นโน่นนี่รอบบ้านด้วยความหิว ไตรทศเห็นเธอคว้าบะหมี่ถ้วยแล้วนึกขำปนเอ็นดู ไล่ให้ไปอาบน้ำ แล้วเขาจะทำอาหารให้เอง

“ฉันจะกินตอนนี้”

“งั้นผมก็จะกลับบ้าน ปล่อยให้คุณอยู่คนเดียวคิดมากจนบ้าตายไปเลย...เอาไหม”

คำขู่ของเขาทำให้ชญานีหน้าเสีย เลิกทำตัวเอาแต่ใจและไปอาบน้ำเพราะไม่อยากอยู่คนเดียว

กลิ่นหอมของอาหารและมิตรภาพยามยากแท้ๆ ทำให้ชญานีไว้ใจไตรทศมากพอจะเล่าเรื่องอดีต สมัยเธอ เป็นกำพร้าเพราะถูกพ่อแม่ทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล ชีวิตวัยเด็กของเธอไม่น่าจดจำนัก เพราะถูกจับไปใช้แรงงานตั้งแต่เด็ก ก่อนจะถูกส่งไปขายซ่องในฮ่องกงเมื่ออายุพอใช้งานได้

ไตรทศถึงกับพูดไม่ออก แม้จะพอเดาได้ว่าเธออาจมีชีวิตวัยเด็กไม่สบายนัก แต่ไม่คิดว่าเธอจะถูกบังคับให้ขายตัว ชญานีน้ำตาไหลเมื่อคิดถึงอดีต เธอจำได้ดีว่าพบชาคริตโดยบังเอิญตอนหนีจากผู้คุมซ่อง

“ฉันกำลังถูกจับไปเป็นโสเภณี พี่คริตช่วยฉันไว้ ที่ฉันเป็นชญานีได้ทุกวันนี้ก็เพราะพี่คริต”

“คุณคิดให้ดีๆ คุณรักเขามากเพราะอะไร...คุณสู้คนเดียวมาตลอดชีวิต พอผู้ชายคนนี้เข้ามา คุณก็อยู่คนเดียวไม่ได้อีก...ทั้งที่คุณอยู่ได้”

“ฉันอยู่ได้...ฉันต้องอยู่ให้ได้!”

ชญานีมีไตรทศปลอบใจ แต่ญาดาไม่ต้องการใครกล่อมและส่งเข้านอน แต่ชาคริตก็ตามไปป่วนถึงห้องส่วนตัวของเธอจนได้ พยายามยั่วและวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวจนเธอเกร็งไปหมด

“ฉันง่วงแล้ว คุณกลับไปห้องคุณไป”

“คุณทนนอนห้องนี้ไม่นานหรอก แล้วคุณจะต้องวิ่งข้ามไปนอนเตียงเดียวกับผม ดา...”

ชาคริตเรียกชื่อเล่นของเธออีกแล้ว หลังจากเรียกไปหลายครั้งตั้งแต่หลังแต่งงาน

“ทำไมชอบเรียกชื่อฉันซะจริง”

“เวลาผมเรียกคุณแบบนี้...ผมรู้สึกใกล้ชิดคุณยิ่งขึ้น คุณเรียกชื่อผมบ้างก็ได้นะดา...เรียกคุณๆมันห่างเหินเกินไป”

“เรียกไม่ได้...โทษทีนะคุณ”

“ไหนๆคุณก็ลงมานอนเตียงเดียวกับผมแล้ว”

พูดพลางดึงตัวเธอมากอดอีกรอบ ญาดาขืนตัวไว้ เขาต้องกล่อมเสียงอ่อน

“ผมแค่ขอกอดคุณเท่านั้น...ผมสัญญา”

“ก็กอดไปแล้วเป็นชั่วโมง”

เสียงบ่นอุบอิบของเธอทำให้ชาคริตอดไม่ได้ หัวเราะเบาๆ “จำไว้นะดา...ถ้าผู้ชายกับผู้หญิงนอนเตียงเดียว แล้วผู้ชายบอกว่าขอแค่กอด ผู้ชายคนนั้นโกหก ไม่เคยมีใครหยุดไว้แค่กอด!”

ญาดาฟังแล้วอึ้ง ไม่ทันระวังโดนเขาจุ๊บเร็วๆที่ริมฝีปาก ก่อนจะคลายอ้อมแขน แต่ไม่วายทิ้งท้าย

“แล้วคำสัญญาบนเตียงไม่เคยมีความหมาย!”

บรรยากาศหลังแต่งงานของชาคริตกับญาดาไม่เลวร้ายนัก ต่างจากสถานการณ์อึมครึมในบ้านเมธาสิทธิ์ที่ทุกคนแทบไม่มองหน้า โดยเฉพาะดิลก หงุดหงิดและหัวเสียมากที่ญาดาแต่งงานกับชาคริต

กมลพรรณกับปาริฉัตรสะใจมาก ไม่รั้งรอจะกระแนะ กระแหนถึงญาดาตามประสาพวกปากอยู่ไม่สุข ไตรทศกับเขมิกาได้แต่มองท่าทางของพ่อด้วยความอ่อนใจ โดยเฉพาะรายหลัง เป็นห่วงพ่อมาก และพาลเคืองถึงพี่สาวที่โง่ยอมให้ชาคริตหลอกเหมือนที่เธอเคยโดนมาแล้วสองครั้ง!

ดิลกเครียดจัดเรื่องญาดาจนความดันขึ้น กมลพรรณช่วยดูแลเหมือนเคยและถือโอกาสขออนุญาตออกจากบ้านไปอยู่กับปาริฉัตรหลังแต่งงานกับกสิณ ดิลกไม่ทันตอบรับ หรือปฏิเสธ มือถือของปาริฉัตรก็ดังขึ้น กสิณนั่นเองโทร.มาขอความช่วยเหลือให้ไปช่วยเขาจากโบสถ์ที่จัดงานแต่ง ของชาคริตกับญาดาเมื่อวาน

กสิณถูกลูกน้องชาคริตจับมัดกับต้นไม้ใหญ่หน้าโบสถ์ ปาริฉัตรกับกมลพรรณจะช่วยแต่เปลี่ยนใจ บีบให้เขาเซ็นสัญญายอมจัดงานแต่งเสียก่อน กสิณจะไม่ยอมแต่ถูกขู่จะทิ้งให้แห้งตายเลยยอมแบบเสียไม่ได้

ปาริฉัตรสะใจมาก แต่ไม่วายขู่ว่าที่เจ้าบ่าว

“แล้วก็ตัดใจจากคุณดาซะ ไม่งั้นคราวหน้าคุณตายแน่!”

ooooooo

แม้จะเปิดใจในฐานะคู่แต่งงาน แต่ญาดาไม่ละความพยายามจะสืบความลับดำมืดของชาคริต เธอยังมีความหวังจะหาจุดอ่อนของเขาเพื่อช่วยครอบครัว

และเช้าวันแรกหลังงานแต่งก็เป็นโอกาสเหมาะ ชาคริตยังไม่ออกจากห้องน้ำ ญาดาเลยแอบเข้าห้องนอน ส่วนตัวของเขาเพื่อรื้อลิ้นชักโต๊ะทำงาน แต่ที่เธอคาดไม่ถึงคือชาคริตจัดการตัวเองเรียบร้อยและรออย่างใจเย็น ปรากฏตัวให้เธอเห็นพร้อมพวงกุญแจลิ้นชัก!

สภาพสามีมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบตัวทำให้ญาดาหายใจไม่ทั่วท้อง ชาคริตแกล้งขยับหน้าไปใกล้ ดึงกิ๊บจากมวยผมเธอและพูดจากวนประสาท ญาดาเจ็บใจที่โดนรู้ทัน อ้าปากจะแหวแต่ถูกเขาไล่ไปนอกห้อง

ชาคริตไม่กลัวถูกล้วงความลับ ชอบใจด้วยซ้ำที่ญาดาเอาตัวมาป้วนเปี้ยนให้เขายั่ว และภาพเธอในเช้าวันแรกที่ห้องครัวหรูหราของเขาก็ทำให้กระชุ่มกระชวย หัวใจอย่างบอกไม่ถูก

“ครัวคุณไม่มีอะไรเลยนอกจากเครื่องต้มกาแฟ!”

ญาดาเห็นหน้าเขาก็โวย แต่ชาคริตกลับยักไหล่ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่

“ที่นี่มีรูมเซอร์วิสตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว”

กาแฟร้อนหอมกรุ่นถูกยกวางตรงหน้า ชาคริตยิ้มกว้าง แกล้งเย้าภรรยา

“คุณอุตส่าห์ชงกาแฟให้นี่...รู้สึกผิดหรือว่าทำหน้าที่ภรรยาที่ดี”

“ฉันผิดตรงไหน ฉันต้องทำหน้าที่แม่บ้านให้คุณ ฉันก็ต้องรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน...ใช่ไหมล่ะ”

“สรุปว่าไม่อยากรู้เรื่องผมแล้วหรือ”

“อยากสิ! แต่คุณต้องเล่าแต่เรื่องจริงเท่านั้น”

“ผมจะไม่แค่เล่าให้คุณฟัง ผมจะให้คุณสัมผัสชีวิตจริงของผมเลย ชีวิตผม...ก่อนจะได้เป็นลูกบุญธรรมเจ้าของกาสิโนใหญ่ในฮ่องกง...วันนี้คุณจะได้รู้ทุกเรื่อง!”

ระหว่างที่ชาคริตวางแผนพาญาดาไปรู้จักอดีตของเขา โดยละเรื่องเก่งกาจไว้เพื่อแผนสำคัญภายหลัง ชญานีเดินพล่านที่ออฟฟิศทีมาร์ท อยากเจอพี่ชายบุญธรรมเพื่อเคลียร์เรื่องในงานแต่ง

ทัศนะโผล่หน้ามาแทนชาคริต ปลอบเสียงเรียบว่าเพื่อนรักคงไม่มาทำงานหลังแต่งงานหนึ่งวัน ชญานีหน้าเสีย ยังฝังใจว่าพี่ชายแต่งงานเพราะมีแผน ไม่ใช่เพราะความรัก ทัศนะถอนใจหนักหน่วง ก่อนพูดอย่างจริงจัง

“ไม่ว่านายคริตจะแต่งงานกับใคร เพราะเหตุผลอะไร เขาก็ไม่มีวันมองนีเป็นอื่นนอกจากน้องสาว”

“นีรู้แล้ว...นีอยากให้พี่คริตกลับมาเหมือนเดิม”

“เหมือนเดิมแบบไหน”

“นีอยากให้พี่คริตรักนีเหมือนเดิม นีบ้าไปเองที่อยากเป็นเจ้าของพี่คริต ก็นีกลัว...กลัวว่าจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว”

“ไม่มีใครทิ้งนีหรอก เชื่อพี่...นายคริตแค่ทำโทษน้องสาวเพื่อไม่ให้คิดอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก”

พูดจบก็ดึงตัวมากอดปลอบ “อยู่ห่างกันสักพัก แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”

“พี่นะคงกอดขวัญอย่างนี้ทุกวันเนอะ”

“พี่กอดนีอีกคนก็ได้”

ooooooo

อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 7 วันที่ 13 ธ.ค.60

ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทประพันธ์โดย โสภี พรรณราย
ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา
ละครเรื่อง ระเริงไฟ กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ชิติเช่น เคน จำกัด
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง ระเริงไฟ เริ่มออกอากาศตอนแรกวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560
ที่มา ไทยรัฐ