อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 4 วันที่ 11 ธ.ค.60

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 4 วันที่ 11 ธ.ค.60

ในห้องอาหารโรงแรมของวรัชช์ นนท์ จิตจีรังและวรัชช์นั่งทานอาหารอยู่ด้วยกัน วรัชช์อัดอั้นตันใจโพล่งออกมาว่า “จำที่ผมเคยบอกว่า ผมชอบแพงได้ไหม ผมพูดจริงๆนะ ยิ่งสองสามวันมานี้ ผมแม่งโคตรอยากได้เขามาเป็นแฟนว่ะ”

จิตจีรังปล่อยมีดในมือหล่นกระแทกจานดังเคร้ง เถียงแทนแพงว่า เธอไม่ใช่สิ่งของที่ใครอยากจะได้ก็ได้ นนท์นิ่วหน้าหวั่นใจว่าสาวที่ตนรักเบี่ยงเบน วรัชช์ถามเพื่อนสาวจะเถียงแทนแพงทำไม ทำอย่างกับหวง เธอปฏิเสธพัลวัน และย้ำว่าตัวเองเป็นหญิงแท้ นนท์โล่งอก



พอดีมีสาวโทร.เข้ามาหาวรัชช์ เขารับปากจะรีบไปหาทันที นนท์เหน็บ นี่หรือคนที่อยากได้เจ้าหญิงอย่างแพงเป็นแฟน วรัชช์ยักคิ้วบอกจริงๆตนมีหัวใจดวงเดียวแต่มีอะไหล่หลายดวง ว่าแล้วก็รีบออกไป จิตจีรังไม่สบอารมณ์แย็บถามนนท์ว่า

“จีมีเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนห่างๆเลยนะ ทีแรกเพื่อนจีเนี่ยไม่ชอบหน้าคนคนหนึ่งเลย แต่ไปๆมาๆพอได้รู้จัก สนิทสนมและเป็นเพื่อนกัน มันก็...หวิวๆอ่ะ แบบนี้มันเรียกว่าความรักรึเปล่า”

“คงใช่แหละ ความรักมันเกิดจากการบ่มเพาะความสัมพันธ์ทีละเล็กละน้อย” นนท์เข้าใจว่าเป็นตัวเอง แต่พอจิตจีรังขยายความว่า ความรักของเพื่อนเธอคงเป็นไปไม่ได้ เพราะทั้งสองมีอะไรเหมือนกันเกินไป นนท์ก็ย้ำ “มีอะไรเหมือนๆกันสิดี จะได้เข้ากันได้ง่ายๆไง”

“เป็นเพศเดียวกันก็เข้ากันได้เหรอ” จิตจีจังตาโต

“ได้สิ ฮะ! นี่เจี๊ยกเป็นเลสเบี้ยนจริงๆเหรอ”

ลูกค้าโต๊ะอื่นมองเป็นตาเดียว จิตจีรังทั้งโกรธ ทั้งอาย ปฏิเสธลั่นว่าไม่ใช่ตน แต่เป็นเพื่อนห่างๆ แล้วปาผ้าเช็ดมือใส่นนท์ก่อนจะลุกหนีไป นนท์เครียดที่ตัวเองมีคู่แข่งเป็นหญิงเพิ่มอีกคน

เมื่อโอกาสมาถึง เพื่อนเปลี่ยนซิมที่ซื้อ โทร.หามิ้งค์ให้ช่วยส่งสคริปต์รายการมาให้ซ้อมก่อนวันถ่ายจริง แล้วพอเปลี่ยนซิมกลับ เห็นมิสคอลจากแพงหลายครั้งก็ตกใจรีบโทร.กลับ แต่ติดต่อไม่ได้ ชักกังวลใจว่าแพงมีเรื่องอะไร
ทันใดได้ยินเสียงตึงๆจากห้องข้างๆจึงเดิน

ออกไปแง้มประตูห้องรื่นจิตดู เห็นกำลังเต้น Burn 24 ก็หัวเราะจนเธอหันมาทำตาดุใส่ เพื่อนเข้าไปขอเต้นด้วยอย่างสนุกสนาน เสร็จจากการเต้น ทั้งสองพักเหนื่อย เพื่อนถามถึงข้อเท้าแม่ไม่เจ็บแล้วหรือ รื่นจิตตอบว่าโทร.ถามหมอแล้ว หมอบอกว่าเล่นได้ เพื่อนดีใจที่แม่ของแพงเริ่มเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ

ในขณะที่มัมกับซาร่าที่เพิร์ธ ติดต่อเพื่อนไม่ได้เลย เริ่มกังวลใจและเป็นห่วง...ตกเย็นรื่นจิตเอาถุงแกงแช่แข็งออกมาจะอุ่น เพื่อนชวนกินหมูกระทะโดยสั่งเข้ามากินที่บ้าน รื่นจิตแปลกใจไม่กลัวอ้วนหรืออย่างไร เพื่อนบอกจะกลัวทำไมในเมื่อเรามี Burn 24 รื่นจิตจึงยิ้มรับ

มื้อเย็นวันนั้นเป็นมื้อที่ทำให้รื่นจิตมีความสุข และเพื่อนก็รู้สึกอบอุ่นผูกพันกับเธอมากขึ้น รื่นจิตเอ่ยถามทำไมหมู่นี้ทำตัวเหมือนเด็ก เพื่อนย้อนถามตนไม่ใช่เด็กในสายตาแม่หรือ ผู้เป็นแม่อมยิ้มคีบหมูจิ้มน้ำจิ้มติดพริกป้อน เพื่อนกินแล้วร้องจ๊ากด้วยความเผ็ดคว้าน้ำอัดลมมาดื่มดับความเผ็ดร้อน รื่นจิตแปลกใจที่ปกติแพงกินเผ็ดได้ และจะไม่กินน้ำอัดลม

เพื่อนเปลี่ยนเรื่องถามรื่นจิต ทำไมเราถึงไม่ใช้เวลาร่วมกันให้มากกว่านี้ รื่นจิตติงให้พูดดีๆตนไม่ใช่เพื่อนเล่น เพื่อนแย้งว่า ตนอยากให้แม่เป็นทั้งแม่ ทั้งเพื่อนและพี่สาว รื่นจิตอึ้งรู้สึกอยากเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน เพื่อนชวนดูหนังต่อ รื่นจิตอ้างว่ามีประชุมเช้าไม่อยากออกไปไหน

“ใครบอกว่าจะไปดูข้างนอกล่ะคะ แพงรู้จักที่นึง เจ๋งกว่าโรงหนังเยอะเลย” เพื่อนดึงรื่นจิตมานั่งโซฟาหน้าทีวี “เขาเรียกว่า มูฟวี่ไนท์ไงคะแม่ ดูที่บ้านก็ได้”

เพื่อนเลือกเปิดหนังผี รื่นจิตตัวเกร็ง เพื่อนคิดว่าแม่หนาว วิ่งไปเอาผ้าห่มมาห่มด้วยกัน แต่ความจริงแล้วเธอกลัวผี อ้างว่าเรื่องนี้ไร้สาระ เพื่อนรู้ทันยืนยันดูเรื่องนี้และหาขนมมานั่งกิน พร้อมป้อนเข้าปากแม่อย่างมีความสุข รื่นจิตสะดุ้งเป็นครั้งคราวเมื่อผีปรากฏ เพื่อนล้อว่าแม่กลัวผี รื่นจิตปัดว่าเพ้อเจ้อ แต่ขยับมาเบียดเพื่อนมากขึ้น

สุดท้ายรื่นจิตหลับไปก่อนหนังจบ ศีรษะอิงไหล่เพื่อน เพื่อนรู้สึกมีความสุข เอามือถือออกมาถ่ายเซลฟี่เก็บไว้หลายภาพ ก่อนจะปลุกรื่นจิตให้ขึ้นไปนอน ทั้งสองเดินควงแขนขึ้นห้อง

ooooooo

กันลองเครียดที่แพงโกรธ จึงออกมาเดินเล่นเรื่อยเปื่อย จนมาถึงตลาดนัดพื้นเมือง เห็นด้านหลังผู้หญิงคนหนึ่งคล้ายแพง ก็รี่เข้าไปทัก เธอหันมางงๆ

เพราะไม่ใช่แพง กันลองว้าวุ่นใจหาวิธีง้อแพง พลันเห็นร้านเครื่องประดับ มีแหวนลงยาน่ารักถูกใจจึงซื้อไว้

เพื่อนอาบน้ำเสร็จกำลังจะเข้านอน เห็นมือถือสั่นก็ถลามากดรับ ดีใจมากที่แพงโทร.มา แพงบอกว่าบนรีสอร์ตไม่ค่อยมีสัญญาณ แล้วถามถึงแม่สงสัยอะไรบ้างไหม เพื่อนรีบเล่าว่าเพิ่งดูหนังผีกับแม่จบไป ตลกมากที่แม่กลัวผี แพงเหวอไม่เคยรู้มาก่อน แล้วแพงก็บอกว่าพรุ่งนี้จะกลับ เพื่อนตกใจเกิดอะไรขึ้น ทะเลาะกับกันลองแน่เลย

“ที่แพงเคยบ่นให้เพื่อนฟังนั่นแหละ ว่าพะลองเอาแต่ทำงาน แต่วันนี้แพงทนไม่ได้ที่เขาขอให้แพงเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อีก มันชัดเลยว่าเขาไม่ได้อยากเที่ยวกับแพงเลยด้วยซ้ำ”

“ใจเย็นก่อนแพง ไอรู้นะแพงกำลังรู้สึกไม่ดี แต่แพงจะไม่ให้โอกาสพะลองหน่อยเหรอ นึกดูดีๆสิ มีครั้งไหนที่พะลองไม่คิดถึงใจแพงบ้าง เขาแคร์แพงจะตาย หรือไม่จริง...เชื่อไอนะ หนีกลับมาก่อนแบบนี้มันมีแต่แย่กับแย่ กลับไปคุยกันดีๆ ให้พะลองได้พูดบ้าง ถ้าไม่โอเค ค่อยโกรธทีหลังก็ยังได้นี่”

แพงคิดตาม แล้วขอบคุณ จะลองทำตามคำแนะนำ ไม่ลืมที่จะกำชับเพื่อนอย่าตื่นสาย เพราะตนเป็นคนตื่นเช้า เพื่อนรับคำขำๆ บอกรู้แล้วว่าแพงขี้บ่นเหมือนแม่เปี๊ยบ แพงหัวเราะ เพื่อนย้ำให้กลับไปจัดการกันลองให้อยู่หมัด แพงวางสายด้วยความรู้สึกดีขึ้น...เพื่อนเปิดรูปถ่ายเซลฟี่กับรื่นจิตดู พอสไลด์ภาพไปเจอภาพมัมกับซาร่าก็ให้คิดถึง จึงลุกเดินออกจากห้อง ไปขอนอนกับรื่นจิต เธอแปลกใจคิดว่าแพงป่วย จัดแจงหาหมอนเพิ่มให้ และหายาให้กิน

เพื่อนเห็นตุ๊กตากระต่ายเน่าๆวางอยู่ข้างหมอนก็หยิบขึ้นมาดู รื่นจิตบอกว่า ตอนเด็กๆแพงจะต้องกอดเจ้าโรเบิร์ตนี่ ไม่อย่างนั้นไม่ยอมนอน มีอยู่ครั้งที่แม่เอาไปซัก แพงร้องไห้จนพ่อแก้วขวัญต้องนอนกอดปลอบทั้งคืน...รื่นจิตส่งยาและน้ำให้ เพื่อนปฏิเสธ รื่นจิตบ่นว่ากินยายากเหมือนเดิม เพื่อนถามแทรกขึ้น

“แม่คะ ครั้งแรกที่แม่เห็นหน้าแพง แม่รู้สึกยังไงคะ”

“เราเป็นลูกแม่นะ คิดว่าแม่จะรู้สึกยังไงล่ะ...นอนพักได้แล้ว” รื่นจิตตัดบทปิดไฟหัวเตียง

เพื่อนขอให้ฝันดี นอนกอดรื่นจิตกอบโกยความอบอุ่น...ในขณะเดียวกัน กันลองกลับมาถึงรีสอร์ต เคาะห้องแพงเอาขนมให้ แล้วขอโทษเธอที่ทำให้เธอลำบากใจ แพงมองนิ่งๆ ชายหนุ่มดึงมือเธอมาแนบอก หยิบแหวนออกมากำไว้
“พะลองสัญญาค่ะว่าจะไม่ขอร้องให้แพงเป็นพรีเซ็นเตอร์ไก่ฟ้าอีก ถ้าแพงไม่สะดวกใจ”

“แพงทำให้พะลองเห็นเหรอคะว่าแพงไม่สะดวกใจ”

“งั้นแพงจะโกรธพี่ด้วยเรื่องอะไรล่ะคะ...แพงนี่มันอะไร พี่ไม่เข้าใจ” กันลองเริ่มอึดอัด

แพงข่มความรู้สึกคิดจะเดินหนี แต่เขาดึงมือไว้ ท่าทางเขาเริ่มหงุดหงิดคิดว่าแค่คุยเรื่องงานทำไมเธอต้องโกรธขนาดนี้ แพงสุดกลั้นที่เขาคิดไม่ได้ว่าตนไม่พอใจเรื่องอะไร

“พะลองรู้ไหมคะว่า การที่แพงมาที่นี่กับพะลอง แพงต้องทิ้งอะไรมาบ้าง แพงมีงานต้องทำ ต้องรับผิดชอบ แต่แพงก็ยอมทิ้งมาเพราะอยากใช้เวลาส่วนตัวกับพะลอง แต่พะลองกลับไม่คิดที่จะเสียอะไรสักอย่าง พะลองไม่ผิดหรอกค่ะ แพงผิดเอง คิดไปเอง”

“แต่แพงก็น่าจะเข้าใจพะลองบ้างนะคะ เราเองก็ไม่ใช่เด็กๆกันแล้ว เราคุยเรื่องงาน เรื่องอนาคตกันมันก็น่าจะโอเคไม่ใช่เหรอคะ”

“อนาคต...อนาคตของพะลองคนเดียวน่ะหรือคะ พะลองกล้าพูดเต็มปากไหมล่ะคะ ว่าการพาแพงมาเที่ยวครั้งนี้ พะลองไม่ได้วางแผนจะคุยเรื่องงานต่างๆนานามาก่อนเลยสักนิด...เผื่อพะลองไม่รู้ แพงก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งที่งี่เง่าเป็น เสียความรู้สึกเป็นเหมือนกัน”

กันลองได้ฟังความรู้สึกของแพงก็เริ่มเข้าใจ จะกอดขอโทษแต่เธอถอยหนี ปัดไม่ต้องขอโทษ ประชดว่าเขาเป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเต็มที่ก็ดีแล้ว ให้เขาอยู่ทำงานต่อไปจะไม่รบกวน

“แพง นี่มันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะคะ”

“แพงถามจริงๆเถอะ เวลานี้นอกจากเรื่องงานแล้ว แพงมีความหมายกับพะลองไหมคะ”

กันลองหาว่าแพงเริ่มพาล แพงโกรธเดินหนีกลับห้อง ขออยู่คนเดียว กันลองโดนปิดประตูใส่หน้า ชักโกรธหงุดหงิดกลับห้องบ้าง

ooooooo

เช้าวันใหม่ เพื่อนส่งรูปตนกับรื่นจิตไปให้แพงพร้อมข้อความว่า คืนดีกับพะลองเสีย ทางนี้ไม่ต้องห่วง แม่แฮปปี้ดี...ขณะเดียวกัน เพื่อนกำลังทำซุปฟักทองให้รื่นจิต พอเสร็จก็ยกมาวาง

รื่นจิตทำหน้าไม่อยากเชื่อว่าลูกทำอาหารเป็น แต่พอตักชิมก็เซอร์ไพรส์ ชมโรงเรียนที่สอนทำอาหารว่าเก่งจริง เพื่อนรู้ว่าแม่ฟอร์มจัด จึงท้าจะทำเมนูอื่นๆ ให้กินทุกวันถ้ามีเวลา เสียงเพื่อนแผ่วลงเพราะรู้แก่ใจว่าตัวเองไม่มีโอกาสได้อยู่ตลอดไป รื่นจิตเห็นลูกหน้าเศร้าลงก็ดักคอ

“เห็นอึกอักตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เรื่องกันลองรึเปล่า ถึงจะรู้จักกันมานาน แต่ยังไงแพงก็ต้องระวังตัว” เพื่อนแทรกว่ากันลองไว้ใจได้ “แพงจะแน่ใจได้ยังไง คนเราอยู่ด้วยกันได้ไม่ใช่เพราะเห็นแค่ข้อดีของอีกฝ่าย แต่ต้องรับข้อเสียของกันและกันให้ได้ด้วย ถ้ากันลองเขาเจ้าชู้จริง แพงจะรับข้อเสียเขาได้ไหมล่ะ แต่ในฐานะแม่ของแพง แม่รับไม่ได้”

“พะลองไม่ใช่นายวรัชช์นะคะ...คนนั้นน่ะตัวพ่อเลย”

“แม่ไม่ได้ชอบใครมากกว่าใครนะ แต่การที่แพงได้เห็นข้อเสียของเขาก่อนข้อดี อย่างน้อยมันก็ทำให้แพงระวังตัวได้มากขึ้น และมีสติที่จะคบหากับเขาได้มากขึ้น”

“เรื่องของรักอยู่ที่ใจไม่ใช่สมองนะคะ”

รื่นจิตสวน “แต่ถ้าลูกไม่ใช้สมองเลย ลูกจะกลายเป็นคนที่เสียใจ”

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 4 วันที่ 11 ธ.ค.60

ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทประพันธ์โดย จันทร์ รีจรูญ แอนเดอร์สัน
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทโทรทัศน์โดย ระกาช่อนรูป
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว กำกับการแสดงโดย มนัสนันท์ เลิศวงศ์สกุล
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ผลิตโดย บริษัท ดอร์เธอร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ