อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 12 วันที่ 30 ธ.ค.60
ชาคริตเป็นห่วงและคิดถึง ส่งปิงตามประกบภรรยา แต่บอดี้การ์ดคนสนิทประมาทญาดามากไปเลยถูกจับได้ ชาคริตต้องไปดักหน้าด้วยตัวเองเพราะอยากเคลียร์เรื่องที่ค้างคาใจ“ผมอยากอยู่กับคุณจนแก่จนเฒ่า”
“ฉันว่าคนอย่างคุณไม่น่าจะอายุยืน”
“ไม่เป็นไร ผมขอตายก่อนคุณ ผมทนไม่ได้หรอก ถ้าอยู่โดยไม่มีคุณ”
“คุณจะไม่มีวันมีฉันในชีวิตคุณ ถ้าคุณไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติม...ฉันกลับล่ะ”
ญาดาจะผละไปแต่ถูกเขารั้งไว้ “ผมมีของขวัญให้คุณ”
“ฉันไม่รับ!”
“งั้นผมจะตามมาเจอคุณทุกวันจนกว่าคุณจะรับ”
ชาคริตตื๊อจนญาดาอ่อนใจ เมื่อเปิดกล่องของขวัญแล้วต้องชะงักเพราะมันคือปืนพกสำหรับผู้หญิง
“ปืนที่เหมาะกับคุณ ยิงเป็นแล้วใช่ไหม...กระสุนอยู่นี่”
ญาดายืนมองกระสุนหลายนัดถูกบรรจุใส่ปืนอึ้งๆ และมึนกว่าเดิมเมื่อถูกเขารุกถาม
“ปืนอยู่ในมือคุณแล้ว คราวนี้มีกระสุนครบ ทีนี้คุณให้คำตอบผมได้หรือยัง”
คำถามของเขาทำให้ญาดารู้สึกผิดมาก และชาคริตก็รู้ดี แกล้งพูดลองใจ
“คุณยิงผมตรงนี้เลย ผมจะได้ไปจากชีวิตคุณตลอดกาล”
“ฉัน...ฉันยิงคุณแน่ ถ้าคุณทำร้ายครอบครัวฉันอีก”
“ผมทำอีกแน่!”
สุดท้ายญาดาก็ทำใจยิงเขาไม่ได้ ลดปืนช้าๆ ขอร้องเสียงอ่อน
“หยุดได้ไหม...หยุดเถอะคุณคริต”
“คุณไม่กล้าฆ่าผม ยังไงก็คุณทำไม่ได้”
“ฉันไม่ยิงคุณวันนี้ แต่วันหน้าไม่รู้ แล้วฉันก็ไม่ใช่ญาดาคนเดิมแล้ว...ฉันหมดใจกับคุณแล้ว!”
ooooooo
ไตรทศช้ำใจจากเรื่องทุกอย่างและช้ำในจากการโดนพวกชาคริตลากไปซ้อมครั้งล่าสุดจนมีอาการคลื่นไส้เพราะสมองบวมและมีเลือดคั่ง ชญานีรีบพาเขาส่งโรงพยาบาล โดยมีเขมิกากับญาดาตามไปสมทบเพื่อดูอาการน้องชาย
ชาคริตถูกตามตัวมาด้วยเช่นกันเพราะชญานีโทร.ตาม เขามีท่าทีตกใจเล็กน้อย แต่เพียงแวบเดียวก็เปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยและเย็นชาจนชญานีไม่ชอบใจ แหวลั่นเพราะรู้ดีว่าไตรทศต้องเจ็บขนาดนี้เพราะพี่ชายบุญธรรม
“ถ้าคิดว่าตัวเองเจ็บอยู่ล่ะก็...ยังไม่เท่าไหร่หรอก รอให้พี่คริตเสียสิ่งที่รักที่สุด แล้วพี่คริตจะรู้สึก!”
อาการตีโพยตีพายของน้องสาวบุญธรรมไม่ได้ทำให้ชาคริตสะทกสะท้าน ตั้งท่าจะไปดูอาการไตรทศ ชญานีไม่กล้าตามเพราะรู้สึกผิด แต่เขาไม่ยอม เอ่ยท้าทาย
“ไม่เข้าไปด้วยกัน...หรือกลัวข่าวร้าย”
จนแล้วจนรอด ชญานีก็ไม่ตามไปฟังผลและอาการของไตรทศ ชาคริตเลยเข้าไปตามลำพัง เจอญาดากำลังวิ่งวุ่นโทร.หากมลพรรณเพื่อถามหาพ่อ ชายหนุ่มเฝ้ามองเงียบๆแล้วถึงกับหน้าเสียเมื่อเห็นเธอทรุดฮวบต่อหน้าต่อตา!
ชาคริตคว้าตัวภรรยาไว้ทันและรีบพาเธอไปนอนพัก เมื่อญาดาฟื้นก็จะลุกหนี แต่ถูกเขารั้งตัวไว้เพื่อรอตรวจร่างกายอย่างละเอียดในวันรุ่งขึ้น ญาดาจะไม่ยอมแต่สู้แรงเขาไม่ได้
“อย่าเอาความเครียดไปสุมไว้กับตัว บางครั้งผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างคุณก็สู้ไม่ไหว แล้วสังเกตตัวเองบ้างว่ามีอะไรผิดปกติ ปวดหัว มีไข้หรืออะไรอย่างอื่น”
“ไม่ต้องมาทำเป็นห่วง บอกแล้วว่าคำพูดของคุณมันไร้ค่า!”
แม้จะเคืองชาคริตแค่ไหน แต่คำเตือนของเขาก็ทำให้ญาดาฉุกคิดว่าประจำเดือนขาด แต่กระนั้นหญิงสาวก็ไม่มีเวลาคิดมาก เมื่อถูกเขมิกาต่อว่าที่หายหน้าหายตาไปนาน
เขมิกาหงุดหงิดเพราะต้องจัดการเรื่องน้องชายตามลำพัง ญาดานิ่งฟังอย่างอดทน ก่อนย้อนเสียงเรียบ
“ที่วุ่นก็เพื่อน้องเราไม่ใช่เหรอ แล้วเป็นอะไร ทำไมเดี๋ยวนี้ขี้วีนจริง ไตรเกือบตาย เขมก็ยังคิดถึงแต่ตัวเอง เขม...ถ้าเธอทำความสุขในชีวิตหายไปก็ไปตามกลับมาซะ”
คำพูดตรงประเด็นของพี่สาวทำให้เขมิกาถึงกับผงะ แต่ยังทำไขสือ
“พี่ดาพูดอะไร เขมไม่รู้เรื่อง”
“ถ้าคิดถึงคุณนะก็กลับไปหาเขา คุณทัศนะเป็นคนดี”
“เขมกลับบ้านล่ะ ไตรอยู่ไอซียู ยังไงก็นอนเฝ้าไม่ได้”
พูดจบก็ผละไป ทิ้งญาดาให้มองตามเซ็งๆที่น้องสาวเอาแต่อารมณ์
ญาดาเฝ้าอาการของไตรทศตามลำพัง ชญานีอยากเยี่ยมเขาใจแทบขาดแต่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับญาดา แต่โชคไม่ดีเพราะเธอถูกคนที่พยายามหลบหน้าเจอเข้าเสียก่อน
ชญานีหน้าเสีย กลัวถูกญาดากีดกัน แต่ผิดคาด นอกจากไม่ห้ามแต่ขอร้องด้วยท่าทีนิ่งสงบ
“ฉันขอร้อง...อย่ามายุ่งกับน้องชายฉัน ฉันไม่รู้ว่าคราวหน้าไตรจะโชคดีถึงมือหมอทันไหม”
“ไม่มีคราวหน้า เราสองคนเข้าใจกันแล้ว”
“แต่พี่ชายคุณไม่เข้าใจด้วยหรอก ฉันจะไม่ยอมให้ไตรต้องเฉียดตายเพราะคุณอีก ความรักไม่ได้จบด้วยความสมหวังเสมอนะคะคุณนี อย่าเอาแต่ได้...เหมือนพี่ชายคุณ!”
ooooooo
เพ็ญขวัญใจหายที่ต้องย้ายจากเมืองไทย สีหน้าและท่าทางซังกะตายจนทัศนะสัมผัสได้ แต่เลือกไม่พูดอะไร นอกจากเร่งให้เก็บของไปบริจาค และตัดสินใจบอกความจริงเรื่องทีมาร์ทคือบริษัทฟอกเงินกาสิโนของมิสเตอร์หว่อง
“พี่ไม่ใช่คนดีอย่างที่ขวัญคิด”
“ขวัญเข้าใจ พี่นะจำเป็นต้องทำงานหาเงินเยอะๆเพื่อดูแลขวัญ”
“เราไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโลกที่ไม่มีใครรู้จักเราดีกว่า”
“แล้วพี่คริตกับพี่นีจะเป็นไงต่อไป”
“สองคนนั้นคงกลับไปทำงานให้คุณป๋าที่ฮ่องกง เปิดบริษัทฟอกเงินให้กาสิโนใหม่...เป็นวังวนอุบาทว์ไม่มีสิ้นสุด”
“พี่คริตไม่มีวันมีชีวิตเป็นของตัวเอง”
“มันเลือกเอง...ตั้งแต่วันที่มันตัดสินใจหนีไปฮ่องกง มันรู้ดีว่าชีวิตมันจะไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรก”
แม้จะเข้าใจเหตุผลและความรู้สึกพี่ชาย แต่เพ็ญขวัญยังคาใจเรื่องเขมิกาและยังไม่อยากย้ายออก พยายามหว่านล้อมให้เปลี่ยนใจ แต่ทัศนะไม่ยอมจนเธอต้องโพล่งอย่างเหลืออด
“พี่นะรู้ได้ไง นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับขวัญ พี่นะไม่ถามความเห็นของขวัญสักคำ”
“ไม่ว่าพี่จะตัดสินใจเรื่องอะไร พี่นึกถึงขวัญก่อนเสมอ เชื่อพี่...พี่คิดดีแล้ว นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเรา”
อาการวิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลียระหว่างวันและประจำเดือนขาดทำให้ญาดาสังหรณ์ใจ แอบเอาอุปกรณ์ตรวจครรภ์ไปทดสอบในห้องน้ำ แล้วก็ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อผลออกมาว่าเธอตั้งท้อง!
เขมิกาแปลกใจที่พี่สาวไม่ลงมากินข้าวเช้า
จึงไปเคาะประตูเรียกในห้องพักแขก ญาดาหน้าซีด รีบเอาชุดตรวจครรภ์ไปซ่อนในโถชักโครกและมารับหน้าน้องสาว แต่ท่าทางพิรุธก็ทำให้คุณหนูคนสวยสงสัย แอบไปสำรวจห้องน้ำจนพบความลับของพี่สาวว่าตั้งท้องกับชาคริต!
ความจริงเรื่องตั้งท้องทำให้ญาดาจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว เขมิกาลอบสังเกตอาการพี่สาวอย่างใจเย็น ไม่กระโตกกระตากให้อีกฝ่ายไหวตัวเพราะคิดแผนจะใช้เรื่องลูกเอาคืนชาคริต
ชาคริตไม่รู้เรื่องด้วย แต่ก็ผิดสังเกตญาดาที่มีท่าทางเหม่อลอยจนเกือบถูกเด็กชนล้ม
“ใจลอยไปไหน เจ็บตรงไหนเหรอ”
“ไม่เป็นไร นี่คุณจะตามฉันไปถึงไหน”
“ไม่ตามเมียแล้วจะให้ผมไปตามใคร ผมเห็นคุณเดินใจไม่อยู่กับตัวตั้งนานแล้ว น้องชายดีขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ใช่! ไตรจะหายเป็นปกติในไม่ช้า แล้วถ้าคุณทำน้องฉันเจ็บอีก...คุณจะเจ็บยิ่งกว่า”
อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 12 วันที่ 30 ธ.ค.60
ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทประพันธ์โดย โสภี พรรณรายละครเรื่อง ระเริงไฟ บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา
ละครเรื่อง ระเริงไฟ กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ชิติเช่น เคน จำกัด
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ