อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 7 วันที่ 14 ธ.ค.60

อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 7 วันที่ 14 ธ.ค.60

ปลอบใจชญานีจนดีขึ้น ทัศนะต้องรับมือกับผู้หญิงอีกคนที่ทำให้เขาใจสั่น เขมิกานั่นเองที่หอบข้าวกลางวันทำเองมาให้ถึงออฟฟิศทีมาร์ท พร้อมรอยยิ้มง้องอนจนเขาอ่อนใจ

“คุณรู้ใช่ไหมว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ”

เขมิกาพยักหน้าน้อยๆอย่างเข้าใจ ทัศนะถึงกับถอนใจยาวและตัดสินใจพูดตรงๆ

“เวลาอยู่กับคุณ ผมไม่อยากได้ยินชื่อนายคริตเลย ผู้ชายที่ทำให้คุณหลงรักได้ถึงสองครั้งสองครา คุณจะไม่ให้ผมรู้สึกหวั่นไหวได้ยังไง ผมขอโทษ...ผมยังไม่ได้ถามความรู้สึกคุณเลย ผมไม่มีสิทธิ์พูดแบบนั้นกับคุณ”



“คุณมีสิทธิ์ค่ะ คุณเป็นคนทำให้เขมมีชีวิตใหม่ แต่เราค่อยเป็นค่อยไปได้ไหมคะ”

“ได้...รอนานแค่ไหน ผมก็รอได้ แต่ผมต้องรู้ว่าตอนนี้เราเป็นอะไรกัน”

“เอาเป็นว่าเราอยู่ในช่วงคุยๆกันอยู่ แต่คุณนะต้องคุยกับเขมคนเดียว ห้ามไปคุยๆกับผู้หญิงอื่นเป็นอันขาด!”

ทัศนะหัวใจพองฟู ในที่สุดความหวังจะได้รักกับเขมิกาก็ใกล้ความจริง

เวลาเดียวกันที่ห้องทำงานชญานี...เจ้าของห้องสาวถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นไตรทศมาดักรอ แถมชวนเธอโดดงานเป็นครั้งแรกในชีวิต ชญานีอิดออดช่วงแรกเพราะไม่ชิน แต่เมื่อได้ลองทำก็เพลินและสนุกมากกว่าที่คิด

ไตรทศพาชญานีออกนอกกรอบเดิมๆได้สำเร็จ เช่นเดียวกับชาคริตที่พาญาดามาทำความรู้จักกับอดีตเมื่อยี่สิบปีก่อนของเขาด้วยการพาเธอมาบ้านเก่าที่เขาเคยอยู่กับเก่งกาจ

ญาดากวาดตามองรอบตัวอึ้งๆ สภาพทรุดโทรมของหมู่บ้านชวนให้นึกสงสารและเห็นใจเขา แต่ก็อดไม่ได้จะถามถึงเพื่อนบ้านเพื่อสืบเรื่องเก่าๆ ชาคริตรู้ทัน ตอบยิ้มๆ

“ถ้าคุณคิดจะสืบเรื่องผมก็เสียใจด้วย ไม่มีคนเก่าๆ เหลืออยู่แล้วล่ะ”

“ฉันก็แค่ถามดูเฉยๆ แล้วทำไมทุกคนย้ายออกไปหมดล่ะ”

“คนซอยนี้เกือบทั้งหมดถูกบริษัทแชร์ลูกโซ่หลอก แต่ละบ้านลงเงินไปหมดตัว พอบริษัทล้มก็ถูกยึดบ้าน”

“รวมทั้งบ้านคุณด้วย”

“เปล่า...พ่อผมนี่แหละเป็นเจ้าของบริษัทแชร์ลูกโซ่ที่หลอกต้มตุ๋นชาวบ้านตาดำๆ!”

สีหน้าตกตะลึงของเธอทำให้ชาคริตนึกสมเพชตัวเอง เขาเล่าเรื่องอดีตแต่ไม่พูดถึงพ่อมากนัก นอกจากบอกว่าเขาต้องหาเงินทุกทางเพื่อเอาชีวิตรอด จนถึงขั้นเคยถูกหลอกไปขายบริการ

ญาดาอ้าปากค้างเป็นรอบที่สอง แต่ชาคริตก็ตัดบทด้วยความจริงเสียก่อน

“ผมยังไม่อับจนถึงขนาดนั้น ผมโดนเพื่อนหลอกมาที่นี่ มันบอกว่าที่นี่หาเงินง่าย พอรู้ว่าเป็นงานอะไร ผมเผ่นแทบไม่ทัน แต่ผมไม่เคยตัดสินใคร ไม่ว่าใครจะเลือกทางเดินชีวิตแบบไหน...ผมก็เชื่อว่าทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง”

ชาคริตเล่าว่าไปทำงานที่ฮ่องกงตามคำชวนของมืดเพื่อนสนิทร่วมชะตากรรมหลังจากนั้น ญาดาเดาว่าเขาอาจถูกหลอกอีกรอบ แต่คราวนี้เขาไปถึงฮ่องกงจริงๆ แต่ถูกใช้แรงงานในโรงงานนรกราวกับทาส

อดีตของสามีทำให้ญาดาเห็นใจเขามากขึ้น รวมทั้งอยากรู้เรื่องราวอื่นๆที่ฮ่องกงของเขาด้วย ชาคริตยิ้มกว้าง ทุกอย่างเข้าตามแผน เขาแอบหยิบหนังสือเดินทางของเธอมาแล้ว คราวนี้...เธอจะได้เห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเอง!

ooooooo

ไตรทศพาชญานีทำกิจกรรมกลางแจ้งจนเหนื่อยหอบทั้งคู่ แต่ไม่ยอมหยุด ลากเธอไปแข่งวิ่งในสนามฟุตบอล ก่อนจะเสียฟอร์มล้มไม่เป็นท่าเพราะขาเป็นตะคริว

ชญานีวิ่งแซงไปแล้ว ย้อนมาดูด้วยความเป็นห่วงแต่ยังวางมาด

“กลัวแพ้ฉันจนต้องใช้มุกนี้เลยเหรอ”

“ถ้าเชื่ออย่างนั้นแล้วสบายใจก็เอาเลย”

ไตรทศหน้าคว่ำเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ชญานีได้แต่ขำ ก่อนเอ่ยนิ่งๆ

“ฉันนวดไม่เป็นนะ แต่ฉันจะนั่งเป็นเพื่อนคุณจนกว่าคุณจะลุกเดินไหว”

“แค่นั้นก็เกินพอแล้ว”

มิตรภาพระหว่างไตรทศกับชญานีอดีตคู่ปรับดีขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับบรรยากาศในบ้านทัศนะที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอรัก เพ็ญขวัญดีใจมากที่พี่ชายกับเขมิกาเริ่มดูใจกัน คงมีเพียงคู่ชาคริตกับญาดาที่จ้องจับผิดกันตลอดเวลา

ชาคริตพาญาดามาฮ่องกงเพื่อดูชีวิตในอดีตของเขาสมัยเคยเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร ใช้แรงงานทุกทางหาเงินเลี้ยงชีพ ญาดานึกทึ่งความทรหดของสามี ก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อเขาพาเข้ากาสิโนที่พ่อบุญธรรมเป็นเจ้าของ บอดี้การ์ดตั้งท่าจะขวางไม่ให้เธอเข้า แต่เมื่อเห็นชาคริต ทั้งหมดก็รีบค้อมหัวให้

“นี่คือชั้นวีไอพี ชั้นที่เฉพาะคนพิเศษที่ขึ้นมาได้”

“คนพิเศษนี่คงเป็นพวกเจ้าพ่อมาเฟียด้วยกัน”

“คนที่มาเล่นมีทุกอาชีพ ทุกตำแหน่ง ผมบอกคุณหรือยังว่าผมเป็นคนแจกไพ่ที่อายุน้อยที่สุดของที่นี่”

“คุณเคยทำงานที่นี่หรือ”

“ชีวิตผมเริ่มต้นใหม่ที่นี่...ชีวิตผมน่าสนใจไหม หรือก็เหมือนชีวิตเด็กเร่ร่อนทั่วไป เพียงแต่ผมโชคดีกว่าเท่านั้น”

“ชีวิตคุณไม่เหมือนคนทั่วไป...ฉันเข้าใจคุณแล้ว”

“ขอบคุณ...ผมขอแค่นี้แหละ”

แม้จะเข้าใจความลำบากของสามีแต่ญาดาไม่เห็นด้วยเลยที่เขายังเกี่ยวข้องกับการพนันและโลกของมาเฟีย เธออยากรู้เรื่องมิสเตอร์หว่องพ่อบุญธรรมของเขามากกว่านี้ แต่ชาคริตบ่ายเบี่ยงและพาเธอเข้าโรงแรมแทน

ญาดาเต้นผางเพราะไม่ได้เตรียมใจมาค้าง แต่ชาคริตไม่สนใจ แถมเปิดโรงแรมแค่ห้องเดียวอีกต่างหาก

“อย่ามาพูดให้ขำนะว่าโรงแรมเหลือห้องเดียว เราเลยต้องนอนค้างด้วยกัน”

“เปล่า...โรงแรมมีห้องพักอีกหลายสิบห้อง แต่นอนค้างแค่คืนเดียว เปิดห้องเดียวก็พอมั้ง”

“ฉันจะไปเปิดห้องใหม่”

“โรงแรมนี้เป็นของผม ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของผมหรอก”

“ฉันไปพักที่อื่นก็ได้”

“ผมเป็นคนรักษาคำพูด สาบานก็ได้ว่าถ้าคุณไม่ก็คือไม่”

“คำสาบานบนเตียงไม่มีความหมาย”

ญาดาย้อนคำพูดเขาเมื่อคืนก่อน ชาคริตตาวาว คิดเข้าข้างตัวเองทันที

“คุณจำคำพูดผมได้นี่ แสดงว่าคุณมีใจให้ผมเข้าแล้ว”

“คุณไม่มีวันเปลี่ยนใจฉันได้ ถึงคุณจะผ่านความทุกข์มามากมายแค่ไหน แต่สิ่งที่คุณเคยทำกับครอบครัวฉัน มันไม่เกี่ยวกัน ฉันไม่ได้ใจอ่อนลงแม้แต่นิดเดียว!”

ooooooo

ญาดาทำปากกล้าไปอย่างนั้นเอง แท้จริงกลัวถูกเขาปล้ำจะแย่ แต่ชาคริตไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย มัวคิดถึงอดีตแสนรันทดของตัวเอง กว่าจะมาเป็นชาคริตหรือคริสโตเฟอร์ หว่อง อย่างทุกวันนี้...ไม่ใช่เรื่องง่าย

ชาคริตไม่ยอมเล่าความจริงเกี่ยวกับเขาทั้งหมด ...ความจริงที่นอกจากเขาจะเป็นเด็กแจกไพ่ก่อนเป็นบอดี้การ์ดของมิสเตอร์โจวกับมิสเตอร์หว่อง เขาต้องแลกกับอะไรบ้าง...

หลายปีก่อน...มืดเพื่อนสนิทคนเดียวของชาคริตที่ฮ่องกงถูกจับตัวมาให้มิสเตอร์หว่องตัดสินโทษ ชาคริตที่เวลานั้นเป็นบอดี้การ์ดให้มิสเตอร์โจวเสนอตัวรับโทษแทน หลังจากวันนั้น...ชาคริตจึงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นลูกบุญธรรมของมิสเตอร์หว่อง ฝึกงานในธุรกิจมาเฟียแทบทุกอย่าง ฝึกการต่อสู้และการใช้อาวุธทุกประเภทจนเชี่ยวชาญ

เสียงปืนทั้งจากการฝึกและจากการต่อสู้ที่ผ่านมายังดังก้องในหัว ชาคริตถอนตัวเองจากอดีต มองเข้าไปในห้องนอนจากระเบียงห้องพัก จึงเห็นว่าญาดาผล็อยหลับไปแล้ว

ชาคริตขยับไปช่วยจัดท่าให้ภรรยานอนสบาย ก่อนจะกอดเธอแน่นเหมือนคนที่ขาดความรักและความอบอุ่น...เริ่มไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าจะปกปิดความลับจากเธอได้นานแค่ไหน

อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 7 วันที่ 14 ธ.ค.60

ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทประพันธ์โดย โสภี พรรณราย
ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา
ละครเรื่อง ระเริงไฟ กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ชิติเช่น เคน จำกัด
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง ระเริงไฟ เริ่มออกอากาศตอนแรกวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560
ที่มา ไทยรัฐ