อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 9 วันที่ 4 ก.ค. 56
“ฉันแน่ใจว่าในห้องนี้ คุณชายจ้าวซันคือคนที่รักและภักดีต่อองค์ศิขรนโรดมมากที่สุด และก็ไม่มีวันที่จะคิดไม่ดีต่อองค์ชายเด็ดขาด” มิถิลาสวนทันทีว่าเธอเป็นพวกเดียวกัน ภูสินทรสุดจะทนย่างสามขุมเข้าหามิถิลา ด่าว่าสามหาวเกินไปแล้วจ้าวซันยกมือห้ามภูสินทร เดินเข้าหามิถิลา“ ผมเข้าใจนะว่าคุณเป็นห่วง...” มิถิลาควักปืนสั้นออกมาทันทีสั่งเหี้ยม
“ถอยไป ทุกคนออกจากห้องไปให้หมด...นี่เป็นคำสั่ง!”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ”ศิขรนโรดมรู้สึกตัวหันถามมิถิลา
“ไม่มีอะไร ทรงวางพระทัยได้ พอดีน้องทหารคนนี้เขาเข้าใจผิดนิดหน่อย” จ้าวซันทำเนียนเดินเข้าหาศิขร–
นโรดมแล้วคว้าปืนจากมือมิถิลา แต่มิถิลาไวทายาดชักมือกลับ เกิดแย่งปืนกัน จนศิขรนโรดมบอกมิถิลาให้พอได้แล้ว
จ้าวซันใช้ฝีมือที่เหนือกว่าแย่งปืนจากมิถิลา บอกให้บราลีเก็บปืนไว้ มิถิลายังดิ้นสู้สุดฤทธิ์
“มิถิลา หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ศิขรนโรดมดุ จ้าวซันชะงักที่ชื่อเป็นผู้หญิง ศิขรนโรดมสั่งมิถิลา“รีบกราบขอพระ- ราชทานอภัยต่อองค์น่านปิงนรเทพเดี๋ยวนี้”
มิถิลาไม่พอใจเมินหน้าฮึดฮัด แต่ก็ยอมก้มกราบแทบเท้าจ้าวซันอย่างไม่เต็มใจ
“ลุกขึ้นเถอะ...เราไม่ถือเจ้าหรอก ดีเสียอีกที่ได้รู้ว่ามีคนที่จงรักภักดีต่อเจ้าน้องถึงเพียงนี้” จ้าวซันเอ่ยชื่นชม
“ มิถิลา...แท้จริงเป็นหญิง นางคือนางกำนัลของเจ้าแม่ และนางคือธิดาของจอมพลราชิด” ศิขรนโรดมแนะนำ
ทั้งจ้าวซันและภูสินทรต่างอึ้ง ศิขรนโรดมเล่าและชี้แจงถึงการมาของมิถิลาว่า มิถิลาเลือกที่จะอยู่ข้างตนและเธอก็เสี่ยงชีวิตเพื่อตนมาแล้วในประเทศไทย และที่สำคัญคือ...
“ ทั้งหมดนี้ คือพระกรุณาของเจ้าแม่ ทรงจัดการให้ทุกสิ่ง” แล้วศิขรนโรดมก็เอ่ยแก่จ้าวซันว่า “เรื่องสำคัญที่ยังคงเป็นปัญหาใหญ่อยู่ตอนนี้ ที่หม่อมฉันอยากทูลให้เจ้าพี่ช่วยคือการลักลอบซื้ออาวุธสงคราม มิถิลาคือคนที่บอกให้น้องทราบว่าท่านราชิดกับพวก...” ศิขรนโรดมหยุดมองหน้ามิถิลาเชิงถามว่าจะพูดดีหรือไม่ มิถิลาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนเด็ดเดี่ยวว่า
“หม่อมฉันไม่เคยเห็นด้วยกับเรื่องนี้ อย่าทรงทอด พระเนตรหม่อมฉันเช่นนั้น”
“เจ้าน้องรู้แล้วก็ดี พี่จะได้ทำงานสะดวกขึ้น” จ้าวซันเอ่ยอย่างโล่งใจ
“เจ้าพี่ทรงทราบหรือไม่ ว่ามันใช้เครื่องบินที่เช่ามา ให้เป็นเครื่องบินส่วนตัวของน้อง...เป็นพาหนะขนอาวุธ”
ทั้งจ้าวซัน ภูสินทร และบราลีต่างตกใจมาก
ooooooo
การหายไปของศิขรนโรดมสร้างความโกลาหลแก่ราชิดและโกศินมาก เมื่อฉินเจียงถามอย่างเอาเรื่องว่าจวนได้เวลาแล้วทำไมสองคนยังไม่รู้หรือว่าพระองค์จะเสด็จออกมาเมื่อไร
“ทำไมจะไม่ทราบ ก็บอกแล้วว่ายังแต่งพระองค์ไม่เสร็จ” ราชิดทำเสียงแข็ง ฉินเจียงย้ำว่า “ของ” ของเราไม่ควรตกค้างอยู่ในฮ่องกงนานเกินไป เพราะจ้าวซันเริ่มสงสัยอะไรนิดหน่อยแล้ว
ระหว่างฉินเจียงคุยกับโกศินและราชิดนั้น ผู้กองเหลียงปรารภกับซูหลิงว่าดูๆ ไท้เผ่งสนิทสนมกับพวกทหารต่างชาตินี้มาก ถามว่ารู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า ซูหลิงปฏิเสธทันทีว่าไม่ ไม่รู้จักกันเลย แต่ไท้เผ่งเป็นคนชอบรับแขกบ้านแขกเมือง เหม่ยอิงก็เข้ามาสอดแทรกเยาะเย้ยว่าพี่ชายตนเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีมาก ขอทายเลยว่าอีกไม่นานก็ต้องล่มหัวจมท้ายกับนายพลสองคนนั้นแน่
คุณนายหวังเข้ามาสะกิดถามเหม่ยอิงว่า จ้าวซันหายไปไหน คุณบราลีแสนเก๋คนนั้นก็หายไปด้วย เตือนว่าไม่ควรปล่อยให้คลาดสายตา เหม่ยอิงพูดอย่างปวดใจว่า พี่ชายใหญ่ของตนเป็นคนที่ใครๆก็คาดเดาไม่ได้เสมอ ผู้กองผสมโรงว่า
“จริงครับ ผมเห็นด้วย คุณชายจ้าวซันช่างเป็นคนที่ทำให้ผมเซอร์ไพรส์ได้เสมอเลยล่ะครับ”
จู่ๆเหม่ยอิงก็หัวเราะออกมา พอดีบริกรถือถาดเครื่องดื่มผ่านมา เหม่ยอิงคว้ามากระดกรวดเดียวหมดแก้ว ทำเอาทุกคนมองอย่างแปลกใจ
ooooooo
ขณะเหม่ยอิงกำลังหงุดหงิดงุ่นง่านที่จ้าวซันหายไปกับบราลีนั้น เห็นเทเรซ่าเดินมาจึงปรี่เข้าไปถามว่า พี่ชายใหญ่กับบราลีอยู่ไหน
เทเรซ่าไม่ตอบ แต่บอกว่าจ้าวซันฝากให้เธอช่วยดูแลงานนี้ให้ด้วย เพราะเขากำลังมีธุระด่วน แล้วรีบเลี่ยงไปหาฉินเจียงกับโกศินและราชิดที่อยู่ด้วยกัน บอกว่าองค์ชายศิขรนโรดมให้มาเชิญราชิดกับโกศินไปพบที่ห้องรับรองส่วนพระองค์ข้างหลังนี้ ทรงอยากจะปรึกษาท่านทั้งสองด่วน
พวกทหารจะตามไป เทเรซ่าบอกว่าองค์ชายทรงมีพระประสงค์จะคุยราชการลับกับท่านนายพลทั้งสองเท่านั้น ราชิดจึงบอกทหารให้รออยู่ที่นี่ถ้ามีอะไรจะเรียก ฉินเจียงทำท่าจะตามไป แต่ซูหลิงรั้งไว้ขอให้อยู่เป็นเพื่อนตน
ราชิดกับโกศินเข้าไปในห้องรับรองพิเศษ จ้าวซันรออยู่ที่นั่นแต่นั่งหันหลังให้ จนเมื่อทั้งสองเข้ามานั่งจึงถามทั้งที่ยังนั่งหันหลังให้อยู่ว่า “ฮ่องกงเป็นอย่างไรบ้างครับ” ราชิดตอบไม่เต็มเสียงว่าอากาศดีอาหารอร่อยมาก แล้วถามถึงองค์ชายว่าอยู่ไหน จ้าวซันไม่ตอบแต่กลับถามต่อว่า “เทียบกับคีรีรัฐล่ะครับ”
ราชิดตอบไปตามแกน เพราะใจมุ่งแต่จะถามว่าองค์ชายอยู่ไหน จ้าวซันก็ไม่ตอบสักที ถามอีกว่า “ถ้าเลือกได้อยากได้ที่ไหนมากกว่ากันครับ” คราวนี้ราชิดสะดุดใจถามว่าหมายความว่าอย่างไร
“ขอโทษครับ ภาษาอังกฤษผมไม่ดี อาจทำให้คุณเข้าใจผิด เดี๋ยวผมถามเป็นภาษาคีรีรัฐก็ได้” จ้าวซันหมุนเก้าอี้มาช้าๆ ถามว่า “ถ้าเลือกได้ อยากครอบครองที่ไหนมากกว่ากันหรือครับ เกาะฮ่องกงหรือนครคีรีรัฐ”
ราชิดและโกศินตกใจมองตะลึงตาค้าง แล้วมองหน้ากันไปมา จ้าวซันทักสบายๆว่าไม่ได้เจอกันนานเผลอแป๊บเดียวเป็นนายพลแล้วยิ่งใหญ่น่าดู ไม่นานทั้งสองก็จำได้ว่าผู้ที่นั่งอยู่เบื้องหน้าตนนั้นคือ “น่านปิงนรเทพ” คนที่ในอดีตพวกตนวางแผนฆ่าแต่ไม่สำเร็จ เพราะภูสินทรช่วยไว้
พอตั้งสติได้ ราชิดถามจ้าวซันว่าต้องการอะไร? ทำอะไรองค์รัชทายาท? เอาองค์รัชทายาทไปไว้ไหน? ร้องบอกโกศินให้ออกไปตามทหารข้างนอกเร็วๆ แต่พอโกศินวิ่งไปจะเปิดประตู ปรากฏว่าประตูถูกล็อกจากข้างนอก ภายในห้องจึงเหลือเพียงสามคนเผชิญหน้ากัน
“องค์ชายสบายดีไม่ต้องห่วง ตอนนี้ถ้าจะเป็นห่วง ห่วงชีวิตตัวเองก่อนน่าจะดีกว่า”
ราชิดกับโกศินมองหน้ากันหวาดๆในสถานการณ์ที่พวกตนเพลี่ยงพล้ำ
ooooooo
ทหารของพวกราชิดและโกศินที่อยู่ตามจุดต่างๆ จับกลุ่มคุยกันอย่างสงสัยว่า องค์รัชทายาทหายไปไหน ซ้ำราชิดกับโกศินก็หายไปด้วย บางคนเสนออย่างระแวงว่า พวกเราต้องเกาะกลุ่มกันไว้ให้ดีไม่อย่างนั้น เดี๋ยวจะถูกลักพาตัวไปกันหมด
ขณะนั้นเอง มีทหารคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกเพื่อนๆว่า โทรศัพท์มือถือของท่านราชิด กดเมสเสจสัญญาณด่วนเข้ามา อีกคนโพล่งทันทีว่า “ต้องมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นแน่ๆ”
ทันใดนั้น มีเสียงฮือฮาขึ้น แขกในงานพากันลุกจากเก้าอี้ชะเง้อมองไปทางเดียวกัน
ที่ทางเดิน...บราลีในชุดสวยงามเดินนำศิขรนโรดม และมิถิลาเข้ามา มีเทเรซ่าคอยคุมคิวอยู่ห่างๆ
“ไม่รู้ว่าองค์ชายน่านปิงนรเทพจะจัดการกับบิดาของหม่อมฉันยังไงบ้าง” มิถิลากระซิบกังวล
ศิขรนโรดมแอบเอานิ้วก้อยเกี่ยวก้อยมิถิลาใต้ชายเสื้อที่บังไว้ให้กำลังใจกันและกัน บอกมิถิลาว่าเราต้องทำตัวให้เป็นปกติที่สุด บอกว่าตนเชื่อมั่นในตัวเจ้าพี่
เทเรซ่าผายมือแนะนำองค์ชายแก่ท่านผู้ว่าการแห่งเกาะฮ่องกงที่เดินมารับว่า
“องค์ชายศิขรนโรดม รัชทายาทแห่งนครคีรีรัฐ...
นายโดนัล จาง ผู้ว่าราชการฮ่องกง”
เชิญประทับที่โต๊ะเสวยพะย่ะค่ะ” ผู้ว่าฯ คำนับนอบน้อมผายมือเชิญรัชทายาทกับบราลี และมิถิลาไปที่โต๊ะ
ส่วนทหารของราชิดกับโกศินกำลังว้าวุ่น เพราะเจ้านายหาย ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกคนของภูสินทรเข้าประกบไว้หมดแล้ว คนของภูสินทรคนหนึ่งเข้าพูดภาษาคีรีรัฐเชิญพวกทหารไปนั่งกินอาหารกัน ตอนนี้มีปัญหานิดหน่อย
“เอ๊ะ...พวกท่านพูดภาษาคีรีรัฐได้นี่ หรือว่าเป็นคนคีรีรัฐเหมือนกัน” คนหนึ่งถาม พอคนนั้นตอบว่าใช่ ทหารของราชิดอีกคนพูดอย่างโล่งใจว่า “ค่อยยังชั่ว อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อน”
ooooooo
ภายในห้องรับรองพิเศษ สถานการณ์ตึงเครียด เมื่อโกศินสั่งจ้าวซันให้เปิดประตูเดี๋ยวนี้!
“มีสุภาษิตจีนบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า...ลูกผู้ชายแก้แค้นสิบปียังไม่สาย แต่นี่มันก็ตั้งยี่สิบปีแล้ว ท่านว่ามันสายไปหรือยัง” จ้าวซันเดินไปพูดตรงหน้าราชิด ฝ่ายนั้นก้มหน้างุด จ้าวซันจึงพูดต่อว่า “องค์ชายศิขรตกอยู่ในกำมือของพวกเราแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแต่พวกเจ้าอย่าหวังเลยว่า จะออกไปจากที่นี่ได้ง่ายๆ”
จ้าวซันเดินอ้อมไปตบบ่าราชิดจากข้างหลัง ราชิดปัดมือออกลุกพรวดประหมัดคีรีรัฐกับจ้าวซันทันที โกศินเห็นดังนั้นวิ่งเข้าไปช่วยรุม กลายเป็นสองต่อหนึ่ง แต่จ้าวซันไม่พรั่นพรึง ใช้ข้าวของที่อยู่ใกล้ตัวเป็นอาวุธต่อสู้อย่างชำนาญ
จังหวะหนึ่งราชิดเพลี่ยงพล้ำ เขาชักปืนออกมาจ่อจ้าวซัน พูดอย่างอาฆาตแค้น...
“ยี่สิบปีก่อนเราพลาดเองที่ไม่ได้กำจัดเสี้ยนหนามให้หมดไป แต่วันนี้เราจะไม่พลาดอีกแล้ว!”
ขณะราชิดกำลังจะเหนี่ยวไกปืนนั่นเอง ภูสินทร
ก็โหนเชือกโยนตัวถีบกระจกหน้าต่างบานใหญ่เข้ามา ราชิดหันมองจ้าวซันฉวยโอกาสนั้นพลิกตัว พุ่งเข้าเตะปืนในมือราชิดกระเด็น ภูสินทรชักปืนออกมาเล็งไปที่ราชิดทันที! แต่โกศินก็ชักปืนออกมาทันทีเช่นกัน!!
“ทิ้งอาวุธเสีย ไม่งั้นไอ้แก่นี่ตาย” ภูสินทรสั่ง
“ก็ลองดู จะแลกกับชีวิตจ้าวซันก็เอา” โกศินท้า
พริบตานั้นประตูถูกถีบผางออก พวกภูสินทรถือปืนกรูกันเข้ามา ตามด้วยผู้กองเหลียงและหมวดจางอาวุธครบมือ ผู้กองเหลียงประกาศอย่าขยับ ให้ทิ้งอาวุธเสีย โกศินทิ้งปืน ทั้งสองถูกรายล้อมด้วยทหารของภูสินทร
ครู่หนึ่ง อเล็กซ์กับจ่าหมงลากคออสุนีที่ถูกใส่กุญแจ
มือเข้ามา ผลักคว่ำลงกับพื้น อเล็กซ์ถามทั้งสองว่า
“นี่พวกแกด้วยใช่ไหม”
อสุนีค่อยๆเงยหน้ามองราชิดและโกศิน ราชิดช็อก หน้าซีดเผือด อุทานเสียงแผ่วเหมือนจะขาดใจ...
“อสุนี!!”
ooooooo
อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 9 วันที่ 4 ก.ค. 56
โดย บทประพันธ์โดย วราภา จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 โดย ปราณศักดิ์สวัสดิ์กำกับการแสดงโดย : สยาม น่วมเศรษฐี
ควบคุมการผลิตโดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด
โดยผู้จัด : ธงชัย ประสงค์สันติ/มณีรัตน์ ประสงค์สันติ
ออกอากาศเริ่มตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 13 มิ.ย. 2556
ที่มา ไทยรัฐ