อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 16 วันที่ 20 ก.ค. 56
หมวดณัฐชาหลับตาลงปล่อยใจให้ว่าง แล้วดวงจิตของพรายพิฆาตก็แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายเธอผ่านไปครู่เดียว พรายพิฆาตก็แทรกซึมเข้ามาอยู่ในร่างณัฐชา ดวงตาของเธอแดงก่ำบ่งบอกว่าไม่ใช่คนปกติธรรมดา
“ณัฐชา...ตอนนี้พลังของฉันมีจำกัด ไม่สามารถครอบงำความคิดของเธอได้ทั้งหมด ดังนั้นในระหว่างต่อสู้เธอต้องทำตามความคิดของฉัน ถ้าขัดขืนจิตของฉันจะหลุดจากร่าง”
ณัฐชาซึ่งถูกพรายพิฆาตครอบงำรีบมุ่งหน้าไปช่วยนักสู้มหากาฬรบรากับกรณ์ที่ไม่ยอมแพ้แม้สมุนจะล้มตายเป็นจำนวนมาก ส่วนเอมี่ที่หมดสติไปครู่หนึ่ง พอฟื้นขึ้นมาก็ร่วมด้วยช่วยกรณ์อีกแรง โดยจับคู่ต่อสู้กับณัฐชา ขณะที่ฤทธิ์ห่ำหั่นกับกรณ์
เพียงแค่เห็นแววตาของณัฐชา ฤทธิ์ก็รู้ทันทีว่าพรายพิฆาตอยู่ในร่างเธอ เขาไม่พอใจแต่ไม่มีเวลาจะซักถามเพราะต่างคนต่างต้องรับมือกับศัตรู
เวลาเดียวกัน สารวัตรสิงหานำกำลังตำรวจมาถึงแล้วพร้อมอาวุธชีวภาพเต็มพิกัด พวกเขายิงระเบิดไวรัสเข้าไปในเขตอาคารนั้นหลายลูกจนสมุนผีดิบของกรณ์ล้มตายน้ำลายฟูมปาก
เสียงระเบิดดังด้านนอกทำให้เอมี่ตื่นตัวหันไปบอกกรณ์ว่ามีคนบุกเข้ามา
“เธอออกไปช่วยพวกเรา ทางนี้ฉันจัดการเอง” กรณ์สั่งการ เอมี่จึงล่าถอยจากไป...
หน่วยจู่โจมของตำรวจบุกเข้ามาหน้าอาคารโดยมีสารวัตรสิงหา จ่าไมตรี และหมู่ปรีดาตามติดมาดูผลงาน ส่วนเอมี่ซุ่มสังเกตเหตุการณ์อยู่บนที่สูงอย่างประหลาดใจ เพราะสมุนของกรณ์ตายในสภาพน่าเกลียดน่ากลัว แต่ละคนร่างชักเกร็ง ผิวหนังพุพอง น้ำลายฟูมปาก
“ไวรัสได้ผลกว่าที่คิดซะอีก” สิงหาเอ่ยอย่างสะใจ
“สารวัตรแน่ใจนะครับว่าไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์”
สิงหาครุ่นคิดนิดหนึ่งก่อนถอดหน้ากากกันสารพิษออกแล้วลองสูดหายใจเข้า
“ห้องแล็บเขาก็ยืนยันมาแล้วนี่”
ไมตรีกับปรีดามองหน้ากันแล้วถอดหน้ากากออกบ้างก่อนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เป็นไรจริงๆด้วย เอมี่ใช้ทีเผลอฉวยโอกาสนั้นกระโจนจากที่สูงลงมาด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ ก่อนจะใช้มีดปาดคอหน่วยจู่โจมอย่างรวดเร็ว
“ทุกคนระวัง” สิงหาตะโกนลั่น
เอมี่หันมากระชากหน้ากากกันสารพิษไปจากมือของไมตรีก่อนแทงมีดเข้าใส่ปรีดาที่ทำท่าจะเข้ามาช่วย แต่จังหวะนั้นสิงหาเหนี่ยวไกยิงใบมีดหักเสียก่อน เอมี่เลยพลาดเป้าและโดนหน่วยจู่โจมระดมยิงใส่จนต้องกระโจนหนีหายไปด้วยความเร็ว
“ต้องมีพวกมันเหลืออีกแน่เลยครับสารวัตร”
“จัดไวรัสชุดใหญ่ไปเลย เราจะฆ่าพวกมันให้หมด”
“เดี๋ยวครับสารวัตร”
“อะไรอีกล่ะหมู่”
“หมวดณัฐชาเคยบอกว่านักสู้มหากาฬก็เป็นมนุษย์กลายพันธุ์นี่ครับ”
สิงหาชะงักกึก...ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน ไมตรีเห็นจริงด้วยกับปรีดา บอกว่าถ้าเราถล่มที่นี่ด้วยไวรัสเมื่อไหร่ นักสู้มหากาฬมีหวังดับแน่เลย
คำพูดของจ่ากับหมู่ทำให้สารวัตรสิงหาลังเล...ส่วนด้านในกรณ์กับฤทธิ์ยังคงต่อสู้กันดุเดือดโดยมีณัฐชาหรือพรายพิฆาตร่วมด้วยช่วยกัน แต่แล้วไอริณซึ่งได้รับบาดเจ็บเดินโซเซเข้ามา กรณ์จึงเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งดาบเข้าใส่เธอแต่ฤทธิ์ตัดสินใจโดดบังไว้ ดาบของกรณ์จึงแทงทะลุหลังเขาอย่างจัง ไอริณกับณัฐชาตกใจมาก ฤทธิ์แข็งใจบอกทั้งคู่ว่าตนไม่เป็นไร
“ฮ่าๆๆ ชุดเกราะของแกมันไร้ประโยชน์สำหรับฉัน”
กรณ์หัวเราะร่าแล้วยื่นฝ่ามือออกไปใช้พลังจิตกระชากดาบคืนกลับมา ทำให้เลือดของฤทธิ์พุ่งจากปากแผล พรายพิฆาตในร่างณัฐชาเห็นท่าไม่ดีจึงซัดพลังใส่เพดานจนถล่มลงมาทับกรณ์ ฤทธิ์เห็นดังนั้นก็จะพุ่งเข้าไปซ้ำ แต่แล้วระเบิดไวรัสก็ถูกยิงเข้ามา
“ไวรัส! เราต้องไปจากที่นี่” ณัฐชาตะโกน
“ไม่...ผมต้องฆ่ามัน”
“คุณได้ฆ่ามันแน่ ถ้าคุณไม่ตายซะก่อน...มากับฉัน” พูดจบณัฐชาก็คว้ามือไอริณกับฤทธิ์คนละข้างก่อนใช้พลังจิตพาทั้งคู่หายตัวไปจากตรงนั้น แล้วไปปรากฏตัวที่รถบรรทุกของมาดามหลิว
“ฉันไปได้ไกลแค่นี้ พลังของฉันมีจำกัด...บนรถมีเครื่องมือรักษาพยาบาล เราต้องช่วยไอริณก่อน”
ฤทธิ์มองไอริณที่กำลังอ่อนล้า ขณะที่ณัฐชาหันไปใช้พลังจิตเปิดท้ายรถบรรทุกเผยให้เห็นร่างแท้จริงของพรายพิฆาตซึ่งก็คือลูกสาวพ่อค้ายาเสพติดนอนเลือดท่วม
“แล้วร่างเดิมของคุณจะทำยังไง”
พรายพิฆาตในร่างของณัฐชาไม่ตอบแต่มองร่างเดิมของตนอย่างใคร่ครวญ...ขณะเดียวกันด้านในอาคาร เอมี่กลับเข้ามาพร้อมหน้ากากกันสารพิษ เธอให้กรณ์สวมใส่โดยไม่ห่วงตัวเองเลย กรณ์ซึ้งใจมากและกระเสือก กระสนหนีออกมาได้พร้อมเอมี่ แต่ก็โดนหน่วยจู่โจมของสารวัตรสิงหายิงไวรัสเข้าใส่อีกจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ทั้งคู่หนีซมซานไปบริเวณริมแม่น้ำ เอมี่เจ็บหนักท่าทางจะไม่รอด แต่กรณ์ก็ให้กำลังใจในฐานะลูกน้องที่จงรักภักดีต่อเขามาตลอด
“ไม่ต้องกลัวนะเอมี่ เธอภักดีกับฉัน ฉันจะชุบชีวิตเธอขึ้นมาใหม่”
“หัวหน้า มันไม่ได้ผลหรอก ฉันรู้สึกได้”
“ไม่จริง มันต้องได้ผล”
“ไวรัสถูกพัฒนาให้รุนแรงกว่าเดิม คุณก็เห็นว่ามันฆ่าพวกเราได้ในพริบตา”
“ฉันไม่ยอมแพ้ เรามาถึงขั้นนี้แล้ว เราต้องมีทางออก”
“ทางออกคือหนีไป ไปจากที่นี่ ลืมเรื่องพรายพิฆาต ลืมเรื่องโลกใหม่ และใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา”
กรณ์นิ่งเงียบอย่างทำใจรับไม่ได้...
“หัวหน้า...เราอยู่ในสมรภูมิมาตลอดชีวิต มันควรพอได้แล้ว”
พูดขาดคำ เอมี่ก็จากไปอย่างสงบ เหลือแต่กรณ์ที่ใจยังร้อนระอุเต็มไปด้วยความแค้น
ooooooo
ในขณะที่ตำรวจกำลังเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุ พวก ณัฐชาไปถึงโรงพยาบาลแล้วด้วยรถบรรทุกของมาดามหลิว ไอริณบาดเจ็บมากกว่าใคร ณัฐชาซึ่งยังอยู่ในการครอบงำของพรายพิฆาต จึงใช้พลังที่เหลือรักษาเธอจนปลอดภัย ส่วนบาดแผลของฤทธิ์ก็สมานตัวได้เองแล้ว
“คุณจะอยู่ในร่างของณัฐชาอีกนานแค่ไหน” ฤทธิ์ถามขึ้น
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เหลือพลังที่จะแบกร่างของใครอีกแล้ว ตอนนี้คงต้องพักก่อน ที่ผ่านมาฉันคิดว่าตัวเองเป็นอมตะ คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไป และคิดว่าตัวเองคือพระเจ้าของโลกใหม่ แต่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ถ้าฉันตายไปแล้วจิตวิญญาณของฉันจะไปอยู่ที่ไหน ฉันอาจไม่ได้กลับมาอีก...ฤทธิ์ ราวี ฝากดูแลศพของฉันด้วย บอกเจ้าหน้าที่ว่าให้แช่แข็งเอาไว้ แต่ห้ามฉีดยาอะไรทั้งนั้น”
ฤทธิ์พยักหน้าพร้อมกับบอกว่า “ถ้างั้นเราหายกัน”
ณัฐชายิ้มบางๆก่อนหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ดวงจิตของพรายพิฆาตล่องลอยออกจากร่าง จะเป็นหรือตายก็ไม่อาจคาดเดา...
หลังจากนั้นไม่นาน สิงหาร้อนรนเข้ามาในโรงพยาบาล และเจอฤทธิ์นั่งอยู่มุมหนึ่ง
“คุณไอริณกับณัฐชาเป็นยังไงบ้าง”
“หมอบอกว่าปลอดภัยทั้งสองคน ไม่ต้องเป็นห่วง”
สิงหาหย่อนตัวลงนั่งอย่างโล่งใจ ฤทธิ์ยื่นมือให้เขาพร้อมพูดจากใจจริง
“ขอบคุณที่อุตส่าห์ไปช่วย ถ้าไม่ได้คุณ ผมคงเสร็จมันแน่”
“ผมไม่จับมือกับฆาตกรหรอก” สิงหาพูดโพล่งจนฤทธิ์ชะงัก
“จนป่านนี้คุณยังคิดแบบนั้นอีกเหรอ”
“ถ้าชาวบ้านทุกคนตั้งตัวเป็นศาลเตี้ยแบบคุณกันหมด คุณคิดว่ามันถูกแล้วหรือไง”
“แปลว่าเสร็จงานนี้เมื่อไหร่คุณจะจับผม”
“ทันทีที่จัดการกับไอ้กรณ์และพรายพิฆาตได้สำเร็จ”
ฤทธิ์พยักหน้าปลงๆ ปรีดาวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามารายงานสิงหาว่าคนของเราพบศพเอมี่ที่ริมแม่น้ำ
แต่ไม่เจอไอ้กรณ์ สิงหารับทราบแล้วหันขวับมาที่ฤทธิ์
“แล้วทีนี้คุณคิดว่าเราจะตามหาตัวมันได้ที่ไหน”
“มันจะมาหาเราเอง...เร็วๆนี้” ฤทธิ์ตอบด้วยความมั่นใจ
เวลานั้นเอง กรณ์ย้อนกลับไปยังอาคารเกิดเหตุซึ่งถูกเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยไม่เหลือศพของใครสักคน
“นักสู้มหากาฬ พรายพิฆาต พวกแกจะต้องชดใช้” กรณ์คำรามด้วยความแค้น แต่ฉับพลันร่างเขาอ่อนแรงทรุดลงกระอักเลือด สำรวจดูที่แขนพบว่าเริ่มมีอาการติดเชื้ออย่างเห็นได้ชัด
“ไวรัส นี่เราโดนไวรัสตั้งแต่เมื่อไหร่”
ผิวหนังของกรณ์เริ่มอักเสบมากขึ้น ร่องรอยของการติดเชื้อแผ่ขยายอย่างรวดเร็ว
“ไม่!! เราต้องไม่ตายแบบนี้ เราต้องไม่ตาย”
กรณ์หายใจติดขัด แต่ยังแข็งใจลุกขึ้นนั่งกางฝ่ามือออกเพื่อรวบรวมพลังรักษาตัวเองให้คงความเป็นอมตะ
ooooooo
ภายในห้องพักฟื้น ณัฐชาสะดุ้งตื่นเหมือนคนฝันร้าย เธอลุกขึ้นนั่งกวาดตามองรอบตัวอย่างงุนงง
“ห้องเดิมนี่หว่า เรากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่...โทมัส ไอริณ”
เธอนึกได้รีบดึงสายน้ำเกลือออกแล้วโผเผไปที่ประตู เจอฤทธิ์เปิดเข้ามาพอดี...สองคนสวมกอดกันด้วยความดีใจก่อนจะพากันไปหาไอริณอีกห้อง
สองสาวทักทายกันด้วยความดีใจก่อนจะขึ้นมานั่งคุยกันบนเตียง โดยมีฤทธิ์นั่งรออยู่ห่างๆ
“มันเหมือนฝันร้ายไม่มีผิด เธอว่ามั้ย ตอนที่พราย–พิฆาตสิงร่างฉัน ฉันแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำอะไรลงไปบ้าง”
“ก็ดีแล้วล่ะไอริณที่จำได้ เธอก็ควรลืมมันซะ เมื่อมันผ่านไปแล้ว เธอจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่”
“แล้วพรายพิฆาตจะกลับมาอีกรึเปล่าคะคุณโทมัส”
“ผมไม่รู้เหมือนกันครับว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่ผมภาวนาขออย่าให้เขากลับมาอีก”
สองสาวมองหน้ากันอย่างหวั่นใจ...ซึ่งขณะนั้นศพลูกสาวพ่อค้ายาเสพติดหรือร่างแท้จริงของพรายพิฆาตถูกนำมาเก็บในห้องดับจิตเรียบร้อยแล้ว
วันเดียวกันที่กองปราบ สมุนของกรณ์ที่รอดตายถูกตำรวจควบคุมตัวมา เมธาไม่ค่อยพอใจถามจ่าไมตรีว่าทำไมต้องพามาที่นี่
“ทางเรือนจำยังเคลียร์พื้นที่ไม่ได้ครับ ก็เลยให้เราดูแลไปก่อน”
“แต่พวกนี้มันไม่ใช่คนนะจ่า คุณก็รู้นี่”
“ครับท่าน ผมจะระวังอย่างเต็มที่”
เมธามองไปยังสมุนของกรณ์ที่โดนหน่วยจู่โจมต้อนไปห้องขังอย่างหวั่นใจ
ooooooo
ในที่สุดกรณ์ก็ทำสำเร็จ ร่างกายของเขากลับมาเป็นปกติบรรจุทุกอย่างรวมกัน ทั้งน้ำตามัจจุราช ไวรัส และพลังของพรายพิฆาต นั่นหมายความว่าเขาพร้อมแล้วที่จะแก้แค้นให้สมุนทุกคน!
ขณะเดียวกัน ฤทธิ์ก็เตรียมรับมือกรณ์อยู่เหมือนกัน เพราะเขาแน่ใจว่ามันต้องกลับมา...ฤทธิ์ปรึกษามาดามหลิวผ่านโปรแกรมเสมือนจริงบนรถบรรทุกที่จอดอยู่ในลานของโรงพยาบาล
“ผมจะใช้ไวรัสของพรายพิฆาตฆ่าเขา แต่ผมต้องแน่ใจซะก่อนว่าเขาจะต้องตายก่อนผม”
“คุณคิดจะตายพร้อมกับศัตรู?”
“ถ้าจำเป็น...”
“คุณปรึกษาคนอื่นหรือยัง”
“ผมไม่จำเป็นต้องปรึกษาใคร”
“อย่างน้อยคุณก็น่าจะบอกลาคนที่คุณรัก”
ฤทธิ์นิ่งงัน...นึกถึงณัฐชาขึ้นมาทันที เขาเข้าไปเยี่ยมเธอก่อนจะชวนขึ้นไปถ่ายรูปด้วยกันบนชั้นดาดฟ้าแล้วสารภาพรักกันและกัน พร้อมกับสัญญาไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ความรู้สึกนี้จะอยู่กับตนตลอดไป
หลังจากส่งเธอกลับห้องพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว ฤทธิ์กลับมาบนท้ายรถบรรทุกอีกครั้งเพื่อเตรียมอาวุธกับชุดเกราะ พลันได้ยินเสียงมาดามหลิวท้วงอีกว่า
“กรณ์มีพลังมากกว่าเธอ”
ฤทธิ์หันมองภาพจำลองของมาดามหลิวที่ปรากฏขึ้น “ต้องใช้ไวรัสมากแค่ไหนถึงจะฆ่ามันได้”
“ถ้าดัดแปลงเป็นอาวุธชีวภาพ ปริมาณของไวรัสจะยิ่งเจือจางดังนั้นเธอต้องฉีดไวรัสเข้าสู่ร่างกายของมันโดยตรง”
“ไม่มีทางที่ผมจะเข้าถึงตัวมันแน่”
“โซเฟียคงคิดอยู่เหมือนกัน เขาถึงได้เตรียมบางอย่างไว้ให้เธอ”
สิ่งนั้นคือคันธนูกับลูกศรโลหะ ฤทธิ์หยิบมันขึ้นมาพิจารณา
“หัวลูกศรถูกออกแบบให้เก็บไวรัสชนิดเข้มข้นเอาไว้ ทันทีที่ถูกกระแทก ไวรัสจะแพร่กระจายออกมา เธอใช้มันได้รึเปล่า”
“อย่าลืมสิมาดาม ผมเคยอยู่หน่วยล่าสังหาร” ฤทธิ์ทดลองง้างลูกศรอย่างทะมัดทะแมง
ooooooo
ภารกิจแรกของกรณ์ต้องช่วยสมุนที่โดนตำรวจควบคุมตัวออกมาให้ได้ แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องยาก เขาดักรถขนผู้ต้องหาที่กำลังมุ่งหน้าไปส่งเรือนจำ ฆ่าตำรวจตายหมดเกลี้ยงก่อนช่วยสมุนออกมาแล้วเอายาเสพติดที่ชื่อน้ำตาสวรรค์ให้พวกมันเสพ
“เสพน้ำตาสวรรค์นี่ให้หมด แล้วพวกแกจะทวีความเป็นอมตะ”
“แต่ถ้าเสพมากขนาดนี้ พวกเราต้องตายนะหัวหน้า”
“นั่นล่ะที่ฉันต้องการ จงพิสูจน์ความภักดีของพวกแกด้วยการยอมตายเพื่อฉัน”
กรณ์ไม่พูดอย่างเดียว แต่ยกปืนเล็งขู่จนสมุนทั้งหลายมองหน้ากันอย่างหมดทางเลือก...หลังจากนั้นไม่นาน กรณ์กับสมุนก็พากันบุกโรงพยาบาลฆ่าเจ้าหน้าที่อย่างโหดเหี้ยม แต่เป้าหมายแท้จริงคือนักสู้มหากาฬ
ณัฐชาคุยอยู่กับไอริณในห้องได้ยินเสียงอึกทึกข้างนอกก็สังหรณ์ใจว่าจะเกิดเหตุร้าย...แต่ฤทธิ์นั้นรู้แล้ว และเขากำลังเผชิญหน้ากับกรณ์ที่ลานจอดรถ
การปะทะกันระหว่างฤทธิ์กับกรณ์เป็นไปอย่างดุเดือด กรณ์ทรนงตัวว่ามีพลังเหนือกว่า แต่พอเห็นอาวุธชนิดใหม่ของฤทธิ์ก็ตะลึงไปเหมือนกัน
ด้านณัฐชากับไอริณกำลังรับมือกับสมุนผีดิบของกรณ์ เมื่อเห็นท่าไม่ดีก็วิ่งหนีลงลิฟต์จนกระทั่งมาเจอฤทธิ์ที่กำลังปะทะกับกรณ์
เมื่อเห็นสองสาว กรณ์ใช้วิธีหายตัวมากระชากไอริณที่อยู่ใกล้กว่าณัฐชาแล้วต่อรองกับฤทธิ์อย่างลำพอง
“มันยังไม่จบแค่นี้หรอกนักสู้มหากาฬ ไปเจอฉันที่รังพรายพิฆาต แล้วถ้าฉันเห็นคนอื่นนอกจากแกกับณัฐชาล่ะก็ นังนี่ตาย!”
พูดขาดคำ กรณ์ก็ใช้พลังจิตของพรายพิฆาตพาไอริณหายตัวไปต่อหน้าต่อตาฤทธิ์และณัฐชา
ooooooo
วันรุ่งขึ้น สารวัตรสิงหาร้อนใจเป็นอย่างมากเมื่อทราบว่าณัฐชากับไอริณหายตัวไป ที่สำคัญนักสู้มหากาฬก็หายไปด้วย...
ไอริณถูกกรณ์ควบคุมตัวเป็นเชลยเพื่อรอเวลาที่ฤทธิ์กับณัฐชาจะมา...
“โชคร้ายหน่อยนะคุณไอริณ ความจริงผมตั้งใจจะเอาณัฐชามาด้วย แต่รีบร้อนไปหน่อยก็เลยพามาแค่คุณคนเดียว คงไม่ว่ากันนะ”
“อย่าทำอวดเก่งไปหน่อยเลยไอ้กรณ์ แกกำลังจะจบเห่แล้ว”
“งั้นเหรอ มองโลกในแง่ดีไปหน่อยมั้งคุณไอริณ ผมไม่จบง่ายๆแค่นี้หรอก ที่เลวร้ายกว่านี้ผมก็เคยผ่านมาแล้ว”
“นั่นเพราะแกมีเพื่อน มีลูกน้องคอยปกป้อง แต่ว่าตอนนี้แกไม่เหลือใครแล้ว”
“ก็ไม่เชิงนะ” กรณ์หมายถึงผีดิบสองตนที่เหลืออยู่ ไอริณเห็นแล้วสยอง!
เวลาเดียวกันนั้น ฤทธิ์กับณัฐชาจอดรถบรรทุกของมาดามหลิวซุ่มสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ทั้งคู่วางแผนอย่างรัดกุมโดยฤทธิ์จะหลอกล่อกรณ์ไปที่อื่นแล้วให้ณัฐชาเข้าไปช่วยไอริณ
“แล้วคุณจะกลับมาที่รถได้ยังไง”
“ไม่ต้องรอผม คุณพาไอริณหนีไปได้เลย”
“อะไรนะ”
“เรามากันสุดทางแล้วณัฐชา ตอนนี้ผมจำเป็นต้องเสี่ยง”
“ไม่...ฉันไม่เอาด้วยเด็ดขาด” ณัฐชาหนีลงจากรถ
อย่างฉุนเฉียว
“ณัฐชา...คุณโกรธผมทำไม”
“ฉันไม่ได้โกรธคุณ แต่มีคนตายมามากพอแล้ว คุณกับฉันเราสูญเสียคนที่เรารักไปทีละคน และฉันไม่อยากเสียคุณไปอีก” ฤทธิ์อึ้งไป ขณะที่ณัฐชาเริ่มระบายความรู้สึกออกมาทั้งน้ำตา “ได้โปรด...มันต้องมีทางเลือกอื่น มันต้องมีวิธีอื่นที่จะสู้กับกรณ์ ทุกอย่างมันไม่ควรจบลงแบบนี้”
“ผมรู้นิสัยของกรณ์ ถ้าเราตามคนมาช่วย เขาจะฆ่าไอริณแล้วหนีไปกบดานที่อื่น กว่าเราจะเจอเขาอีกครั้ง ตอนนั้นเขาอาจฟื้นกองกำลังขึ้นมาใหม่ และกลายเป็นพรายพิฆาตคนที่สอง นี่เป็นโอกาสดีที่เราจะปิดฉากฝันร้ายที่เกิดขึ้น”
อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 16 วันที่ 20 ก.ค. 56
บทประพันธ์โดย : ณพุทธ สุศรีฯบทโทรทัศน์โดย : ณพุทธ สุศรีฯ
กำกับการแสดงโดย : ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ผลิตโดย : บริษัท มุมใหม่ จำกัด
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ