อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 17 วันที่ 24 ก.ค. 56

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 17 วันที่ 24 ก.ค. 56

ในเวลาต่อมา คุณพลับพลึงค่อยๆรู้สึกตัวลืมตาขึ้นพบว่าตัวเองถูกล่ามโซ่ติดไว้กับขาเตียงอยู่ในห้องใต้โดม โดยมีท่านหญิงสรรักษ์กับพิศยืนมองอย่างสะใจ เธอถามพี่สาวว่านี่มันเรื่องอะไรกัน

“ที่อยู่ที่ฉันเตรียมไว้ให้แกก็คือในนี้ไงอยู่ใกล้ๆ เจ้าคุณพี่แค่เอื้อม แต่ก็เอื้อมไม่ถึง เจ้าคุณพี่เองก็จะคร่ำครวญหวนไห้หาแกโดยไม่นึกเอะใจสักนิดว่าแกอยู่ในนี้ สาสมใจฉันนัก แกจะต้องอดข้าวอดน้ำ ไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน ตายอยู่ที่ยอดโดมทองนี่แหละ” ท่านผู้หญิงสรรักษ์ยิ้มเหี้ยม


จังหวะนั้น พันกับพรรคพวกยกระนาดเปื้อนเลือดเข้ามาวาง ตามมาด้วยเครื่องดนตรีอีกหลายชนิดที่มีสภาพไม่ต่างกัน ถูกโยนเข้ามากองรวมไว้ คุณพลับพลึงมองอย่างใจคอไม่ดี

“นี่ เพื่อนวงมโหรีของแกไง ฉันสงสารกลัวแกจะเหงา ก็เลยให้คนไปเอาวิญญาณของพวกนั้นมาอยู่เป็นเพื่อนจะได้มาตั้งวงผีกันบนนี้...อ้อ จดหมายของแกน่ะ ฉันจะส่งให้เจ้าคุณพี่อ่านตั้งแต่วันแรกที่กลับมาถึงโดมทองเลย ไม่ต้องเป็นห่วง” ท่านผู้หญิงสรรักษ์หัวเราะสะใจ ก่อนจะเดินนำทุกคนออกจากห้องแล้วล็อกกุญแจไว้อย่างแน่นหนา โดยมีเสียงคร่ำครวญของคุณพลับพลึงที่ขอร้องให้ปล่อยตนไปดังตามมาเป็นระยะๆ...

ทางด้านพันนึกถึงเสียงอ้อนวอนขอความเมตตาของคุณพลับพลึงแล้วถึงกับนอนไม่หลับถอนใจ หนักใจ

ooooooo

พันทนบาปในใจไม่ไหว เอาปิ่นโตใส่อาหารจะขึ้นไปให้คุณพลับพลึงกิน แต่เจอท่านผู้หญิงสรรักษ์กับพิศขวางไว้เสียก่อน ท่านผู้หญิงไม่พอใจมากที่เขาใจอ่อนคิดจะช่วยเหลือศัตรูหัวใจของตนเอง นี่ถ้าไม่เห็นแก่นังพิศที่เป็นน้องสาวของเขา เธอไม่ปล่อยเขาไว้แน่ แล้วไล่ตะเพิดพันไปพ้นหน้าห้ามมาเหยียบที่โดมทองอีก

จากนั้น ท่านผู้หญิงสรรักษ์กับพิศขึ้นไปที่หน้าห้องใต้โดมอีกครั้งหนึ่ง เอาไม้กระดานที่เตรียมไว้ตีปิดทับประตูห้องอีกชั้นหนึ่ง ทันทีที่ไม้ถูกตีปิดทับครบทุกแผ่นเสียงร้องของคุณพลับพลึงแทบจะเล็ดลอดออกมาไม่ได้

ท่านผู้หญิงยิ้มพอใจแล้วเดินนำพิศลงมา แต่อยู่ๆ ท่านเกิดหน้ามืดจะเป็นลม พิศตกใจรีบประคองพาไปนั่ง แล้วขยับจะไปหยิบยาดมมาให้ เธอตะโกนไล่หลัง ให้หยิบกระโถนติดมาด้วย ขาดคำท่านผู้หญิงโก่งคออาเจียนชุดใหญ่ พิศนิ่วหน้ามองด้วยความประหลาดใจ

ooooooo

ท่านเจ้าคุณสรรักษ์ทั้งดีใจและเสียใจปนกันเมื่อกลับมาถึงโดมทอง ดีใจที่ท่านผู้หญิงตั้งครรภ์ แต่ต้องเสียใจจะเป็นจะตายให้ได้ที่คุณพลับพลึงหนีไป ทิ้งไว้เพียงจดหมายฉบับเดียว ในนั้นมีข้อความว่า

“กราบเรียนเจ้าคุณพี่ เมื่อเจ้าคุณพี่ได้อ่านจดหมายฉบับนี้นั่นหมายความว่าดิฉันได้จากโดมทองไปแล้ว และจะไม่มีวันหวนกลับมาอีก เจ้าคุณพี่อย่าได้ตามหาดิฉันเลยนะคะ ดิฉันไม่สามารถทำร้ายจิตใจคุณพี่มณฑาได้ ยิ่งท่านดีกับดิฉันมากเท่าไหร่ ดิฉันก็ยิ่งละอายใจมากขึ้นเท่านั้น เรื่องนี้ดิฉันใคร่ครวญเองและตัดสินใจเองโดยไม่มีใครมาเกี่ยวข้องด้วย ขอให้เจ้าคุณพี่รักและทะนุถนอมคุณพี่มณฑาตลอดไป...พลับพลึง”

ประมุขโดมทองขยำจดหมายทิ้งด้วยหัวใจแหลกสลาย ไม่คิดเลยว่าคุณพลับพลึงจะทำกันได้ลงคอ...

ทั้งๆที่ท่านเจ้าคุณสรรักษ์พยายามตัดใจจากคุณพลับพลึงด้วยคิดว่าเธอหนีไปเพราะไม่ได้รักเขา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปดูในห้องพักของเธอ ทุกอย่างในห้องจัดไว้เป็นระเบียบ แต่มีฝุ่นจับไปทั่วเนื่องจากไม่มีใครเข้ามาทำความสะอาดนับแต่เจ้าของห้องจากไป ท่านเจ้าคุณสรรักษ์ล้มตัวลงนอนบนเตียงพึมพำอย่างอาลัยอาวรณ์

“พลับพลึง ทำไมทำกับฉันอย่างนี้”...

ขณะที่ท่านเจ้าคุณสรรักษ์เผลอหลับไป คุณพลับพลึงซึ่งใกล้ตายเต็มที พยายามรวบรวมเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายร้องขอความช่วยเหลือ แต่ห้องใต้โดมอยู่สูงเกินไป หนำซํ้าไม้ที่ตีปิดทับประตูห้องกักเสียงไว้ จึงไม่มีใครได้ยิน เธอหลับตาลงอย่างอ่อนแรง พลันมีเสียงระนาดและเครื่องดนตรีในวงมโหรีดังขึ้น คุณพลับพลึงปรือตามอง ก่อนจะยิ้มทั้งนํ้าตาเมื่อเห็นเพื่อนๆในวงปรากฏตัวเหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิต

“มารับฉันแล้วหรือ...” พูดได้แค่นั้น คุณพลับพลึงก็สิ้นใจ...

ระหว่างที่ท่านเจ้าคุณนอนขดตัวเหมือนจะเป็นไข้อยู่บนเตียงของคุณพลับพลึง ฝันเห็นเจ้าของห้องทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เพื่อมากราบลา เขาพยายามรั้งไว้ แต่ไม่เป็นผล จะลุกตามก็ขยับไม่ได้ ดิ้นรนจนตกใจตื่น ลุกพรวดขึ้นจากที่นอน เห็นท่านผู้หญิงสรรักษ์นั่งอยู่ใกล้ๆ ถามอย่างร้อนรนว่าคุณพลับพลึงหายไปไหน

“พลับพลึงที่ไหนคะ มันหนีไปตั้งหลายวันแล้ว”

“แต่ฉันเห็นจริงๆ พลับพลึงมาลา”

ท่านผู้หญิงสรรักษ์หาว่าท่านเจ้าคุณคงคิดถึงคุณพลับพลึงมากก็เลยเก็บเอามาฝัน บอกให้เขาไปอาบนํ้าอาบท่าได้แล้ว นอนคลุกฝุ่นมาทั้งคืนเดี๋ยวจะไม่สบาย ทันทีที่เขาคล้อยหลัง พิศรีบคลานเข้ามาหาเจ้านายสาวด้วยสีหน้าหวาดหวั่น ตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นผีนังพลับพลึงมาหาก็ได้ ท่านผู้หญิงสรรักษ์สั่งให้หยุดพูด

“เจ้าคุณพี่ฝันไป จิตใจหมกมุ่นครุ่นคิดถึงแต่มันจนเก็บเอาไปฝัน นังพลับพลึงมันถูกจองจำอยู่บนโดมนั้น แม้แต่วิญญาณของมันก็ออกมาไม่ได้ จำใส่หัวเอาไว้นังพิศ” ท่านผู้หญิงไม่พูดเปล่า เอานิ้วจิ้มหน้าพิศจนหงาย

ooooooo

ทั้งอดิศวร์ ลานนา ภูไทและพันธ์สูรย์สีหน้าสลดหดหู่เมื่อได้ฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากปากหลวงพ่อของพันธ์สูย์ โดยเฉพาะพันธ์สูรย์ถึงกับพึมพำน้ำตาคลอว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่าปู่พันของตนเองจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของคุณพลับพลึง

“หลวงพ่อเองก็รับรู้เรื่องราวเหล่านี้มาเหมือนกัน แต่ความกตัญญูที่ท่านผู้หญิงเคยให้ข้าวแดงแกงร้อนและความกลัวว่าอาพิศจะมีความผิด เลยต้องปิดปากเงียบ”

“ตอนนั้นหลวงพ่อยังเด็กนี่คะ”

“ที่เขาพูดว่าสวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจนั้นเป็นความจริงโยมพันพ่อของอาตมากลายเป็นคนอมทุกข์จนตลอดชีวิต ถึงแม้บั้นปลายท่านจะบวชอุทิศตนให้พระศาสนา แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ท่านสงบเลย อาตมาก็เหมือนกัน พอพันธ์สูรย์โตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ ก็ออกบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ท่านเจ้าคุณกับคุณพลับพลึงตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย” หลวงพ่อเริ่มไอเนื่องจากใช้เสียงมากและอาการอาพาธยังไม่ทุเลาดี

“หลวงพ่อพักผ่อนก่อนดีกว่าครับ” อดิศวร์แนะหลวงพ่อปลงได้แล้วว่าอีกไม่นานท่านก็จะได้พักผ่อนตลอดไป ห่วงก็แต่พันธ์สูรย์ซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วย ขอให้อดิศวร์อโหสิกรรมให้เขาด้วย อดิศวร์เองก็ขออโหสิกรรมแทนคุณย่าของตนเช่นกัน

ooooooo

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ท่านผู้หญิงสรรักษ์ฝันร้ายเห็นผีคุณพลับพลึงมาหาอีกเช่นเคย แม้เป็นเพียงการงีบหลับถึงกับสะดุ้งตื่นร้องหาหลานชายลั่นบ้าน อุษากับอุไรได้ยินเสียงเอะอะรีบวิ่งเข้ามาดู ท่านสั่งการ ให้ไปตามอดิศวร์มาพบ อุษาหันไปพยักพเยิดให้อุไรไปตามแล้วเข้าไปช่วยพยุงท่านให้นั่งพิงพนักเตียงนอน

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 17 วันที่ 24 ก.ค. 56

ละครเรื่อง โดมทอง บทประพันธ์โดย วราภา
ละครเรื่อง โดมทอง บทโทรทัศน์โดย : ภาวิต
ละครเรื่อง โดมทอง กำกับการแสดงโดย : นนทนันท์ ธัญญาสิริทรัพย์
ละครเรื่อง โดมทอง ควบคุมการผลิตโดย : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง โดมทอง แนวละคร : ชีวิต ลึกลับ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง โดมทอง ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ